“อื้อ!…” เสียงครางหวานจากปากจิ้มลิ้มที่ตอนนี้กำลังถูกคนเอาแต่ใจจูบลูบคลำร่างงามอย่างเร่าร้อน มือหนาที่ตอนนี้กำลังลูบไล้ที่แผ่นหลังบางก็เคลื่อนมาหยุดที่หน้าอกคู่งามแล้วค่อย ๆ คลึงสองเต้าอวบที่ซ่อนรูปขนาดใหญ่พอดีมือของเธอ กลิ่นกายสาวหอมฟุ้งเขาดูดไปที่ซอกคอยาวระหงจนเกิดรอยแดงตอนนี้สมองของเธอว่างเปล่าร่างกายกลับตอบสนองเขา
“อื้ม....” เธอรู้สึกวาบหวามไปกับการกระทำที่เร่าร้อนของคนตัวโตที่ปนเปรอให้แก่เธอ เขาได้ดันตัวเองขึ้นมาคร่อมบนตัวเธอแล้ว มือหนาก็สอดเข้าไปใต้เสื้อยืดโอเว่อร์ไซด์บีบที่เต้าแล้วขย่ำอย่างเมามันสักครู่เสื้อของเธอก็ถูกเขาจัดการถอดออก ทำให้เห็นสองเต้าแฝดผิวขาวอมชมพูที่เต่งตึงขนาดพอดีมือที่ซ่อนเอาไว้ในชั้นในลูกไม้สีหวาน ริมฝีปากหยักได้รูปก็เลื่อนต่ำลงมาจูบและดูดทั้งสองเต้าคนร่างบางสะท้านกับแรงปรารถนาของคนที่เอาแต่ใจทั้งคู่ผลัดกันกอดและจูบ จนตอนนี้อารมณ์และท่อนเอ็นของเขามันขยายและพองตัวคับเป้าและปวดหนึบ
“ปุยให้วิชญ์ได้แค่นี้นะ” ปุยฝ้ายเธอเริ่มได้สติจึงเตือนเขาก่อนที่ทุกอย่างมันจะเกินเลยไปมากกว่านี้
“ครับ…วิชญ์เข้าใจ” เขาหยุดการกระทำและเอาผ้ามาห่มให้เธอและลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองที่ตอนนี้มันพลุ่งพล่าน เขาจัดการให้ท่อนเอ็นตัวใหญ่สงบด้วยมือของเขาเอง ทางด้านคนร่างบางที่ได้สติจึงใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยและคิดทบทวนถึงการกระทำของตัวเองในคืนนี้ ที่ไม่ปฏิเสธเขาไปเธอเริ่มหวั่นไหวกับคน ๆ นี้แล้วใช่ไหมเธอจะแบ่งใจให้คนอื่นได้อย่างไรกัน
คืนนี้เป็นคืนที่ปุยฝ้ายลำบากใจที่สุดใจหนึ่งเธอก็รักขุนพลมากและอีกใจหนึ่งเธอก็เริ่มเห็นใจและสงสารและรู้สึกดีวิชญ์มากขึ้นเพราะความใกล้ชิดและรู้สึกสบายใจ รวมถึงทุกสิ่งที่เขานั้นทำให้เธอตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
“วิชญ์ ขอโทษนะที่ห้ามใจตัวเองไม่ได้” ตาของเขาแดงก่ำนัยน์ตาคมสั่นวูบไหวเหมือนกำลังจะร้องไห้ เขาจูบที่หน้าปากของเธอเบาๆ เธอก็เงียบไม่รู้จะตอบหรือปลอบใจเขายังไง
“เราเจอกันช้าไป ผิดที่วิชญ์มาทีหลังเราจึงไม่ได้คู่กัน” สายตาของวิชญ์เศร้าและผิดหวังในโชคชะตาที่เล่นตลกกับเขา…
“วิชญ์จะทำตามสัญญานะ ขอบคุณปุยทุก ๆ อย่างที่เชื่อใจกัน”
เขาดึงเธอเข้ามากอดและให้เธอนอนหนุนที่แขนแกร่งจูบที่ผม วิชญ์พยายามทำใจและเขาเป็นลูกผู้ชาย เมื่อลั่นวาจาไปแล้วเขาจึงรักษามันจนทั้งคู่หลับไปพร้อมกัน ตอนนี้เป็นเวลาตีสี่เขาตื่นขึ้นมาและหอมแก้มเธอเพื่อเป็นการลาครั้งสุดท้ายน้ำตาลูกผู้ชายซึมไม่น่าเชื่อว่าเขาจะรู้สึกกับปุยฝ้ายมากขนาดนี้ เขาเก็บของใช้ส่วนตัวและแอบเดินย่องเบา ๆ ออกมาและกลับไปที่คอนโดหรูของตัวเอง ที่เขาไม่อยากลาเธอตอนเช้าเพราะเขากลัวว่าจะอดใจไม่ไหวที่จะทำอะไรต่ออะไรกับเธออีกกลัวว่าจะทำให้ยัยหน้าจืดของเขาต้องผิดหวังในตัวเขาและเขาอาจต้องเสียน้ำตาแบบตอนนี้…
ปุยฝ้ายที่ตื่นมาพบกับความว่างเปล่าที่นอนของเธอดูกว้างขึ้นมาทันตา ไม่มีร่องรอยหรือเงาของคนตัวโตที่เอาแต่ใจเหลือเพียงกลิ่นกายหอมของเขาที่ติดบนตัวเธอและหมอนเท่านั้น เธอรู้ได้ทันทีว่าวิชญ์กลับไปแล้ว
“ไปไม่ลาสักคำ…” เธอรู้สึกใจหายแปลก ๆ ที่ตื่นมาไม่เจอเขาแล้ว หลังจากที่วิชญ์จากไปเขาก็ไม่โทรแชทหรือมาหาและติดต่อกับปุยฝ้ายอีกจากวันเป็นสัปดาห์ จนบางทีปุยฝ้ายเองที่แอบไปส่องและคอยดูเขาจากโซลเชี่ยลก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ
“ปุย…มึงทะเลาะกับขุนพลหรอทำไมช่วงหลัง ๆ มึงดูไม่ค่อยร่าเริง” เต้ยที่เป็นห่วงสังเกตว่าปุยฝ้ายมีอาการเหมือนคนอกหัก
“เปล่าแค่คุยกันน้อยลง” เธอตอบเพื่อนเพราะจริง ๆ เธอก็ไม่รู้ว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้เธอต้องตรอมใจแบบนี้
“แล้วพ่อวิศวโยธาคนหล่อนั้นล่ะตามจีบมึงอยู่ป่ะ ช่วงนี้กูไม่เจอเขาเลยเห็นแต่เพื่อน ๆ ในแกงค์” กิ๊กถามเธอต่อเพราะช่วงนี้เพื่อนสาวดูไม่ร่าเริง
“เขาไม่ยุ่งก่ะกูแล้วล่ะ…” ปุยฝ้ายตอบพร้อมกับหน้าเศร้า ๆ เต้ยและกิ๊กเริ่มเห็นอาการปุยฝ้ายสีหน้าของเธอบอกได้ขัดเจนว่าเธอมีใจให้เขาแล้ว
“ปุยมึงอย่าบอกพวกกูนะว่า…ได้กันแล้วไอ้โยธานั่นฟันแล้วทิ้ง” กิ๊กเริ่มโมโหเป็นฟืนเป็นไฟคิดว่าวิชญ์ล่วงเกินเพื่อนสนิทไปแล้ว
“เปล่ามึง…กูก่ะวิชญ์เราแค่นอนกอดกันเฉย ๆ เขาไม่ได้ล่วงเกินกู”
ป๊าบบ! เต้ยเอามือมาตบที่หน้าขาตัวเองเพราะคาดว่าชายหนุ่มเจ้าเสนห์อย่างวิชญ์ภศุนั้นจะไม่ยอมปล่อยเพื่อนสาวของเธอไป
“ผิดคาดว่ะ…แกงค์ยากูซ่าน่ะมีแต่เสือสิงห์ทั้งนั้น มึงรอดมาได้ไง” ปุยฝ้ายส่ายหน้าและสายตาเธอดูเศร้ามาก
“มึงห้ามตกหลุมรักเขานะ” กิ๊กไม่อยากเห็นปุยฝ้ายต้องมานั่งเสียใจและมีปัญหา เพราะทั้งคู่ไม่ได้โสดแล้ว
เดือนต่อมา
เวลาก็ผ่านไปเป็นเดือนวิชญ์ที่เขาไม่ยอมปรากฎตัวให้ปุยฝ้ายเห็นเพราะเขากลัวใจตัวเอง และเขาจะชอบแอบมองเธอห่าง ๆ คอยให้เพื่อนในแกงค์สืบเรื่องราวของเธอให้ฟังจากปากของยูริที่เป็นแฟนกับกิ๊กเพื่อนสนิทของเธอ…
“มึงยังทำใจไม่ได้หรอว่ะไอ้วิชญ์ ถ้ามึงรักเขามึงก็ไปแย่งเขามาสิ” ต้นไผ่ทนเห็นสภาพเพื่อนในตอนนี้ไม่ได้ที่เขาปล่อยตัวไว้หนวดเคราไม่ดูแลตัวเอง ทุกวันเขาจะดื่มเพื่อให้เมาและหลับไปบางวันเขาก็หลับในชั่วโมงเรียนจนอาจารย์ต้องมาปลุก แต่ด้วยสมองที่เป็นอัจฉริยะเขาก็สอบผ่านทุก ๆ วิชาวิชญ์อาการหนักยิ่งกว่าตอนที่เขารู้ว่าน้ำผึ้งมีคนอื่น… เพื่อน ๆ ในแกงค์ต่างช่วยหาสาวๆที่สวยกว่าปุยฝ้ายมาให้เขาเลือกแต่กลับโดนวิชญ์ปฏิเสธไปทุกคน สุดสัปดาห์นี้เขาจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเพื่อไปเยี่ยมมารดาและไปทำใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเผื่ออะไร ๆ มันจะดีกว่ายิ่งเขาเจอยัยหน้าจืดเขายิ่งอยู่ไม่ได้…
ทางด้านน้ำผึ้งเธอก็พยายามโกหกและติดต่อวิชญ์เรื่อยมาแต่วิชญ์ก็พยายามเลี่ยงและคุยกับเธอน้อยลง ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างขุนพลและปุยฝ้าย เริ่มมีปัญหาเพราะเขาไม่มีเวลาให้เธอจากที่คุยกันในทุก ๆ วันก็หายไปเวลาที่เขาว่างจริง ๆ เท่านั้นถึงจะโทรหาเธอ เพราะหลังจากกลับมาจากจีนขุนพลก็ได้รับตำแหน่งในกิจการของครอบครัวแล้วเขาได้เจอกับไป่หลิง ลูกสาวของเพื่อนพ่อที่เป็นหุ้นส่วนกันและไป่หลิงเป็นคนเก่งมากที่สามารถบริหารธุรกิจให้ครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อยทั้งคู่สนิทสนมกันปรึกษา คอยกันเรื่องงานตลอดและไปไหนด้วยกันบ่อย ๆ ขุนพลประทับใจในตัวไป่หลิงมากเขาชอบผู้หญิงเก่งนอกจากปุยฝ้ายแล้วเขาก็มองแค่ไป่หลิงที่เป็นผู้หญิงที่น่าสนใจ ส่วนไป่หลิงนั้นเธอมีเชื้ออสายจีนเรื่องภาษาเธอเก่งมาก…และที่สำคัญเธอก็ยังโสดด้วยวัยและความใกล้ชิดเธอก็มีใจให้ขุนพลด้วย