โลกของคนรวย แตกต่างกับโลกของเธอลิบลับ
ไอรินมองโถงกว้างที่ตกแต่งเหมือนพระราชวังในต่างประเทศด้วยความตกตะลึง จำได้ว่าเธอเคยผ่านตึกนี้บ่อย ๆ เพราะอยู่ระหว่างคอนโดและที่ทำงานเก่า มองจากภายนอกก็พอจะรู้ว่าข้างในคงจะสวยมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะสวยขนาดนี้
ล็อบบี้ตกแต่งด้วยหินอ่อนทั้งหมด คุมโทนเป็นสีโรสโกลหรูหรา ประดับคริสตัลระยิบระยับและกระจกให้ดูกว้างขวาง แชนเดอเรียคริสตัลขนาดใหญ่ห้อยระย้าตรงกลาง เสริมให้ล็อบบี้หรูหราเหมือนพระราชวังจริง ๆ
“ทางนี้ครับคุณไอริน”
หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย รีบหุบปากที่อ้ากว้างจนน้ำลายแทบหก เธอยืดตัวตรง ก่อนจะเดินตามร่างสูงใหญ่ไปยังโถงลิฟต์
แม่เจ้า!
ปากอิ่มอ้าออกอีกครั้ง ถ้าล็อบบี้หรูหราแล้ว โถงลิฟต์นี่คงหรูกว่าเป็นพันเท่า เธอไม่รู้ว่าเจ้าของโครงการเสียเงินกับค่าตกแต่งไปเท่าไหร่ แต่มั่นใจว่าแค่ลิฟต์ตัวเดียวราคามันคงสูงกว่าเงินที่เธอจะหาได้ทั้งชีวิต
“เชิญครับ”
ไอรินเดินตัวลีบเข้าไปลิฟต์ตัวที่เปิดออก เธอพยายามทำตัวให้ผอมที่สุด กลัวว่าจะเผลอเอาร่างกายไปสัมผัสกับความหรูหราจนเป็นรอย เพราะเธอคงไม่มีเงินมาชดใช้.. ห้องโดยสารเคลื่อนตัวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหยุดลงที่ชั้นสามสิบเก้า
“เชิญครับ”
“ขอบคุณค่ะคุณไมค์”
ไอริมก้มหัวลงน้อย ๆ ไมค์ คือผู้ช่วยของบอส และเป็นผู้ช่วยของเธออีกที เขาจะคอยอำนวยความสะดวกให้เธอทุกอย่าง สอนงาน และคอยช่วยเหลือให้เธอทำงานได้สะดวกขึ้น
เรียกได้ว่าเป็นเลขาในเลขาอีกที ถึงจะงงแต่ไอรินก็ไม่กล้าปฏิเสธ เงินเจ็ดหลักถูกโอนเข้าบัญชีเป็นค่าตรวจร่างกายเมื่อวันก่อน มันทำให้เธอไม่กล้าหืออือกับบอสเท่าไหร่
กลัวโดนเรียกเงินคืน เธอยินดีให้มันนอนนิ่ง ๆ อยู่ในนั้นดีกว่าหายไป ยังไงมีเงินก็ต้องดีกว่าไม่มีอยู่แล้ว
“นี่เป็นห้องของคุณนะครับ”
ไมค์เปิดประตูไม้สักออกกว้าง ไอรินมัวแต่คิดถึงเรื่องเงินเจ็ดหลักจนลืมมองรอบข้างไปซะสนิท รู้ตัวอีกทีก็เดินเข้ามาถึงข้างในแล้ว ไม่ทันได้ชมความโอ่อ่าของเพนท์เฮ้าส์ที่กินเนื้อที่ทั้งชั้นเลย
“หะ ห้องนี้เหรอคะ”
“ครับ บอสต้องการให้คุณอยู่ใกล้ตลอดเวลา ห้องของบอสขึ้นบันไดไปก็จะเจอครับ” ไมค์ผายมือให้เธอดูบันไดวนไม่ไกลจากห้องนอนของเธอมากนัก “บอสจะนอนที่นั่นเป็นส่วนใหญ่”
“นั่นห้องนอนเหรอคะ” ไอรินอดถามไม่ได้ เพราะที่เธอเห็นมันไม่เหมือนห้องนอนเลย เหมือนห้องกระจกที่ไว้ชมวิวมากกว่า
“ครับ บอสไม่ชอบห้องที่มีกำแพง เลยเน้นเป็นกระจกส่วนใหญ่ แต่เรื่องห้องของบอสไม่ได้สำคัญอะไร เพราะบอสไม่ให้ใครขึ้นไปวุ่นวายอยู่แล้ว บอสจะลงมาหาคุณเองถ้าต้องการใช้งาน”
แก้มขาวแดงปลั่งขึ้นทันตา เมื่อเข้าใจคำว่า ‘ใช้งาน’ อย่างแจ่มแจ้ง ไม่มีบอสที่ไหนอยากใช้งานเลขาในห้องนอนหรอก นอกจากบอสอย่างเขา และเลขาอย่างเธอ
ไอรินกวาดตามองห้องนอนที่ถูกตกแต่งแบบเรียบ ๆ แต่แฝงไปด้วยความหรูหราที่ไม่น่าอึดอัด ห้องนอนนี้มีขนาดใหญ่กว่าคอนโดสี่สิบห้าตารางเมตรของเธอ เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างถูกบิลท์อินอย่างเป็นระเบียบ
“ที่นี่คือที่พักอาศัยของคุณนับจากนี้”
“ค่ะ”
ไอรินไม่ได้ตกใจมากนัก เพราะเธอตกใจไปก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากตกลงทุกอย่างเรียบร้อยเธอก็แทบเป็นลม เพราะบอสยื่นคำขาดว่าเธอต้องอยู่ใกล้ชิดเขายี่สิบสี่ชั่วโมง ที่ไหนมีพลช ที่นั่นก็ต้องมีไอริน
เรื่องที่หลับนอนสำคัญที่สุด เพราะไอรินไม่ได้มีหน้าที่เป็นแค่เลขาหน้าห้อง แต่เธอต้องทำหน้าที่บนเตียงด้วย เธอต้องพร้อมทุกเวลาที่พลชต้องการ ดังนั้นยิ่งใกล้มือเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
“ผลตรวจร่างกายของคุณถึงมือบอสแล้วนะครับ”
“งั้นเหรอคะ”
“ครับ ตอนนี้คุณสามารถพักผ่อนได้เต็มที่ วันนี้บอสจะกลับมาถึงไม่เกินหกโมงเย็น”
ไอรินขบเม้มกลีบปากตัวเองด้วยความประหม่า “ฉัน.. ต้องทำหน้าที่คืนนี้เลยใช่ไหมคะ”
“ผมตอบไม่ได้ครับ” ไมค์ก้มหัวน้อย ๆ แทนคำขอโทษ “เรื่องนี้ต้องแล้วแต่บอส ผมไม่ทราบจริง ๆ”
“อ่า.. ค่ะ”
ไอรินโคลงศีรษะเบา ๆ จะเริ่มคืนนี้หรือคืนไหนก็ไม่ต่างกัน ยังไงเธอก็เข้ามาที่นี่เพื่อสิ่งนี้อยู่แล้ว
“โชคดีนะครับ”
แล้วทำไมต้องอวยพรเหมือนเธอจะไปออกรบแบบนั้นด้วย
“ขอบคุณค่ะ”
ไอรินได้แต่ยิ้มเจื่อน หวังว่ามันจะไม่ใช่การออกรบจริง ๆ หรอกนะ
.
.
ไอรินเลือกนอนพักผ่อนในห้องนอนใหม่ เตียงนอนนุ่มสบายเหมือนดูดวิญญาณ จากที่ตั้งใจจะนอนแค่ชั่วโมงเดียว เธอกลับหลับยาวจนพระอาทิตย์ตกดิน
เฮือก!
ร่างบางลุกพรวดขึ้นจากที่นอน มองไปรอบข้างไม่เห็นแสงสว่างแล้ว ไอรินกระวีกระวาดออกจากห้องโดยลืมไปสนิทว่าตัวเองเพิ่งตื่น สภาพที่ดูไม่ได้ของเลขาสาวจึงกลายเป็นภาพแรกที่พลชได้เห็น
“ตื่นแล้วเหรอ”
“บอสกลับมาแล้ว... เอ่อ ขอโทษค่ะ” ไอรินกุมมือก้มหน้างุด ๆ สำนึกผิดที่เผลอนอนเพลินจนเลยเวลาบอสกลับมาถึงเพนท์เฮ้าส์
เธอสร้างเรื่องอีกแล้ว ตอนนี้ไอรินได้แต่ภาวนาไม่ให้บอสไล่เธอออกตั้งแต่ยังไม่ทันได้ทำหน้าที่
“ไม่เป็นไร” พลชพยักเพยิดให้ไอรินไปนั่งคุยกันดี ๆ “ก่อนไปทานข้าวเรามีเรื่องต้องตกลงกันเล็กน้อย”
“ค่ะบอส”
ไอรินเดินตัวลีบไปใกล้ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงเงียบ ๆ เก็บมือเก็บขาอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว
“ผลตรวจร่างกายของคุณปกติดี สะอาดไม่มีโรค ผมเองก็เหมือนกัน” ชายหนุ่มส่งเอกสารสุขภาพของตัวเองให้เลขาคนใหม่ตรวจสอบ “คุณควรอ่านพวกมัน เพื่อความสบายใจของเราทั้งสองคน ผมคิดว่าคุณเองก็คงอยากรู้ว่าสุขภาพของคู่นอนตัวเองเป็นยังไง”
“ค่ะบอส” ไอรินยิ้มนิด ๆ เธอดีใจที่บอสไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว ทั้งยังใส่ใจว่าเธอจะรู้สึกยังไง
พลชลอบมองเสี้ยวหน้าสวยที่ก้มอ่านเอกสารอย่างตั้งใจ เขาพึงพอใจที่ไอรินไม่ใช่คนสะเพร่า เอกสารที่จะอ่านผ่าน ๆ ก็ได้เธอกลับอ่านอย่างจริงจัง ไม่มองข้ามแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ นี่คือคุณสมบัติเลขาที่พลชต้องการ
สำหรับเขา งานทุกอย่างต้องไม่มีที่ติ ลูกน้องรอบกายต้องเป็นคนรอบคอบ ช่างสังเกต ไม่ได้หมายความว่าพลาดไม่ได้ แต่ต้องพลาดให้น้อยที่สุด
“บอสเลือดจางเหรอคะ”
และไอรินก็ทำให้เขาพึงพอใจไม่น้อย
“ต่ำกว่าค่ามาตรฐานนิดหน่อย ไม่ถึงขั้นต้องทานยา แต่หลังจากนี้คงต้องทานธาตุเหล็กเยอะ ๆ”
“ปกติบอสทานอาหารยังไงเหรอคะ”
“ปกติให้วิลล์จัดการให้ ส่วนมากสั่งจากโรงแรม”
“ถ้าบอสต้องควบคุมอาหาร ให้รินทำให้ดีไหมคะ รินพอจะทำอาหารได้”
“หืม” พลชเลิกคิ้วสูง ทั้งแปลกใจที่เลขาคนใหม่ทำอาหารเป็น และรู้สึกดีที่อีกฝ่ายแทนตัวเองด้วยชื่อ
ดูเหมือนว่าเธอจะลดความเกร็งลงบ้างแล้ว
ก็ดี พลชไม่อยากให้เขากับเลขาเหินห่างกันจนเกินไป เพราะในอนาคตอันใกล้นี้พวกเขาต้องใกล้ชิดกัน แนบสนิทแบบเนื้อแนบเนื้อ ยิ่งไอรินปรับตัวได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะเขาไม่ชอบให้คู่นอนเป็นเหมือนหุ่นยนต์
“หรือถ้าบอสไม่มั่นใจ ให้รินลองทำให้ทานสักครั้งแล้วค่อยตัดสินใจก็ได้ค่ะ”
“เอาแบบนั้นก็ได้ อันที่จริงผมไม่ใช่คนทานยากอะไร แค่แปลกใจที่คุณทำอาหารเป็น”
“รินซีเรียสเรื่องการกินมากค่ะ ร่างกายที่ดีเริ่มต้นจากสิ่งที่เราเอาเข้าไปในตัว”
“มิน่า”
ผลตรวจร่างกายไอรินถึงได้ออกมาสมบูรณ์ดี จนไอ้หมอเตือนเขาว่าอย่าเผลอพลาดไม่ป้องกันเชียว เพราะมันยังไม่พร้อมอุ้มหลานตอนนี้
ทำอย่างกับเขาอยากมีลูกตายล่ะ เด็กกับพลชคือของต้องห้าม เข้ากันไม่ได้ยิ่งกว่าน้ำกับไฟ
“อะไรเหรอคะ”
“เปล่า ถ้าคุณอยากทำก็ลองดู แต่อย่าฝืนตัวเองเกินไป ผมไม่ชอบให้พนักงานทำงานหนักเกินความจำเป็น”
“ค่ะบอส” ไอรินยิ้มกว้าง คิดถูกแล้วที่ทำงานกับบอสคนนี้ แค่พูดคุยไม่กี่ประโยคก็สัมผัสได้ถึงความใส่ใจที่บอสคนเก่าไม่เคยมี
“แต่ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณอีกเรื่อง”
“เรื่องอะไรเหรอคะ”
“คุณไม่ได้บอกผมตั้งแต่แรกว่าคุณยังไม่เคยมีเซ็กซ์มาก่อน”
“อะ..” ไอรินอ้าปากพะงาบ ๆ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ บอสรู้เรื่องนี้ได้ยังไง แล้วเธอจะโดนไล่ออกหรือเปล่า “มะ ไม่จริงนะคะ ริน.. รินเคยมีเซ็กซ์แล้วค่ะ!”
เพราะกลัวว่าจะถูกไล่ออก ไอรินจึงโกหกออกไปคำโต ก่อนที่ร่างกายจะเย็นวาบ เมื่อบอสพุ่งเข้ามาใกล้แบบที่ไม่ทันได้ตั้งตัว
“บอสคะ!”
หญิงสาวตกใจจนเผลอนอนลงบนโซฟานุ่ม พลชไม่ปล่อยให้เลขาสาวได้ตั้งตัว เขาขยับตามไปทาบทับ ใช้ดวงตาคมกริบกวาดมองใบหน้าตื่นตระหนกด้วยความสนุก
“คนที่เคยเขาไม่ตกใจกลัวจนตัวสั่นแบบนี้หรอกนะ ไอริน”
“บอส”
“ผมอยากฟังความจริง และผมไม่ชอบคนโกหก”
ไอรินไม่กล้าสบตาคู่นั้น เธอเม้มกลีบปากแน่นอย่างคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง
“บอส.. จะไล่รินออกไหมคะ”
“ไล่ออก? ทำไมผมต้องไล่คุณออกด้วย”
“บอสเข้าใจถูกแล้วค่ะ รินไม่เคยจริง ๆ แล้วบอสก็คงไม่อยากได้ผู้หญิงที่ทำเรื่องบนเตียงไม่เป็นมาเป็นคู่นอน”
“ก็ใช่ ผมต้องการผู้หญิงที่มีประสบการณ์”
หัวใจของเลขาสาวหล่นวูบ เธอแทบไม่อยากฟังว่าพลชจะพูดอะไรต่อ เพราะกลัวว่ามันจะเป็นคำสั่งปลดเธอออกจากตำแหน่ง
“แต่ผมถูกใจคุณ ดังนั้นไม่ต้องห่วง ผมไม่ไล่คุณออกหรอก”
ร่างกำยำขยับกลับไปนั่งอย่างสง่างามเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขายื่นเอกสารอีกชุดให้เลขาคนสวยที่นอนนิ่งด้วยความงุนงง
“ผมให้คุณ”
ไอรินได้สติรีบลุกขึ้นนั่ง รับเอกสารนั้นไปถือ แต่ไม่ได้เปิดมันออกดู
“อะไรเหรอคะ”
“คอนโดของคุณ ผมซื้อให้เรียบร้อยแล้ว”
“อะไรนะคะ!”
“ผมให้ ตอบแทนความบริสุทธิ์ของคุณ”
“ตะ แต่ แต่ว่ามัน...”
มันแพง ไอรินแทบจะเป็นลม คอนโดของเธออยู่กลางเมือง ติดรถไฟฟ้า ดังนั้นราคามันจึงค่อนข้างสูง และเธอเพิ่งผ่อนไปได้ไม่ถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์เลย
“มันอะไร”
“มันแพงเกินไปค่ะ เงินเดือนบอสก็ให้รินมากกว่าที่เรียกไปตั้งหลายเท่า รินรับไว้ไม่ได้”
“รับไปเถอะ แค่นี้ไม่ทำให้ผมล้มละลายหรอก” พลชลุกขึ้นยืน เขาโน้มตัวลงไปใกล้เลขาสาว ใช้ข้อนิ้วช้อนคางมนขึ้น “ถ้าคุณทำให้ผมพอใจ มากกว่านี้ผมก็ให้ได้ ผมไม่ใช่คนที่ชอบเอาเปรียบใคร คุณทำให้ผมมีความสุข ผมก็ตอบแทนคุณด้วยสิ่งที่ผมมี”
“แต่รินยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ”
“ไม่ต้องห่วงคุณเลขา คุณจะได้ทำเร็ว ๆ นี้แน่”