ครอบครัวที่เคยร่ำรวย มีกินมีใช้ในอดีต ก็เริ่มย่ำแย่เพราะอนุที่บิดาข้ารักนักรักหนาปอกลอกนำทรัพย์สินไปจ่ายเจ้าหนี้ เนื่องจากนางติดการพนัน แต่บิดาก็มักให้อภัยและเชื่อนาง จวบจนข้าต้องถูกขายให้กับจวนตระกูลหวง ด้วยเงินที่จะซื้อข้าวสารกรอกหม้อเพื่อท้องที่ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าบิดา มารดาเลี้ยงและบุตรที่อยู่ในท้องของนางได้อิ่มและเป็นเงินบางส่วนที่จะย้ายครอบครัวไปต่างเมือง ในวัยเพียง 14 ปี เมื่อข้ารู้ว่าการถูกขายมานั้นคือพันธการที่ตัดได้ยากยิ่ง ข้าจำต้องคุกเข่าขอร้องพ่อบ้านใหญ่เพื่อขอทำงานโรงซักผ้าให้ห่างไกลผู้คน เพราะข้ามิชอบสายตาที่เล้าโลมของชาย เมื่อจ้องมองข้า
และวันนี้แสงสว่างส่องเข้าที่ตาของข้าอีกครั้ง แต่แตกต่างกับเมื่อ 15 ปีก่อน เพราะครานี้ข้ามองเห็นสรรพสิ่งและโต้ตอบใครต่อใครได้ เพียงทว่าข้ามิอยากกล่าวสิ่งใด นอกจากสายตาของข้าทำเพียงมองทุกอย่างรอบตัวเท่านั้น จวบจนสายตาของข้าได้สบกับชายผู้หนึ่ง เขาดูสง่างาม กล้าหาญ เก่งกาจ แต่เมื่อข้าจ้องมองที่ดวงตาสีนิลคู่นั้น กลับพบกับความกริ้วโกรธ ภายใต้ใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม ข้ากลัวสายตาเช่นนี้เหลือเกิน แต่ก็ยอมใจแข็งเดินตามแรงลากจากผู้คุม
" มาแล้วขอรับท่านแม่ทัพ " เสียงผู้คุมคนหนึ่งกล่าวรายงานการมาของข้าให้กับชายตรงหน้า ทำให้ข้ารู้ถึงตำแหน่งของเขา ท่านแม่ทัพหรือ หึ! ชีวิตก่อนตายอีกรอบช่างน่าอิจฉายิ่ง ได้เจอบุรุษยศสูงส่ง หากเป็นไปได้ข้าอยากเจอท่านอ๋องหรือฮ่องเต้เสียเหลือเกิน ในขณะที่ข้ากำลังคิดถึงความโชคดีเล็กๆของตน ก็สังเกตว่าเขาโบกมือไล่สองผู้คุ้มกันให้ออกห่างจากตัวข้า และเขาก็ย่างเท้าก้าวเข้ามาใกล้ข้า พร้อมย่อตัวจับคางข้าให้เงยหน้ามองเขาอย่างถนัด ข้าเจ็บปวดแต่มิกล้าส่งเสียงแม้แต่น้อย
" เจ้าน่ะหรือหลางเฉี่ยวอวี้? สายตามิกลัวเกรงเลยนะ " ข้าหลุบตา เสมองไปที่อื่นแทน แต่ก็ต้องหันกลับมาสบสายตาคู่งามดังเดิมเมื่อได้ยินเสียงเขาพูดอีกครา
" ทำไม แค่นี้กลัวแล้วรึ ตอนทำยังไม่เห็นกลัว "
" คนมิได้ทำผิดไยต้องกลัว จะฆ่าก็รีบฆ่าเถอะ จะได้จบๆ ปัญหาเสียที " ข้าคร้านที่จะเสวนาเรื่องเดิมๆ อีกต่อไป
" เช่นนั้นรึ ไม่กลัวตาย? " เขาเอ่ยถาม เหมือนจะกังขาในคำพูดข้า
" กลัวตาย? เหตุใดต้องกลัว ในเมื่อพวกเจ้ายัดเยียดความตายให้กับคนที่มิได้ก่อเช่นข้า มันคงเป็นโชคชะตาที่ข้าต้องยอมรับใช่หรือไม่ผู้กล้า " คำพูดของข้าทำให้เขายิ้มเย็นยะเยือกขึ้นมา ในใจข้าสั่นสะท้านแต่มิอาจแสดงออกมา
" น้ำชาหน่อยไหม แม่นาง " เขาถามด้วยน้ำเสียงหยั่งเชิง
" ก็ดี " ข้าตอบท่วงที เขาเดินกลับพร้อมรินน้ำชาชามใหญ่ให้ข้า และยื่นส่งมาให้ ข้ารับและยกดื่มอย่างรวดเร็ว ข้ารู้ว่าเขามองข้าอยู่ ข้าซดมันและพยายามไม่ให้เหลือสักหยด
" ไม่กลัวว่าในนั้นจะเป็นยาพิษหรือ?"
" เพราะข้าคิดว่าในนั้นเป็นยาพิษไงเล่า ข้าถึงต้องรีบดื่ม จบแล้วใช่ไหมข้าจะได้เข้าไปกระเสือกกระสน ดิ้นทุรนทุรายในคุกเหมือนเดิม "
" มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกแม่นางหลางเฉี่ยวอวี้ เพราะเจ้าต้องไปชดใช้กรรมของเจ้าที่จวนของข้า "
" ชดใช้อะไร ในเมื่อพวกเจ้าอยากให้ข้าตาย ข้าก็ควรที่จะเลือกที่ตาย อิสระเพียงนิดพวกเจ้าก็ให้ข้ามิได้เลยรึ?"
" ข้ายังไม่ต้องการให้เจ้าตาย " สิ้นเสียงพูดของเขา เขาก็พยักหน้าให้คนของเขามาจูงข้าออกจากสถานที่ที่เรียกว่าคุก ข้าพยายามฝืนแต่มิอาจทนแรงดึงของชายชาติทหารได้ ข้าจำต้องเดินตามแรงลากนั้นออกไป