เล่ห์รัก 18

1444 Words
ร่างสาวงามบนเก้าอี้ มือถือผ้าที่ปัก แต่สายตากลับเหม่อลอยโดยมิได้ตั้งใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า การรอคอยใครสักคนช่างทรมานเหลือแสน นางยอมทุกอย่างเพียงหวังจะให้เขาหันมาสนใจ เพียงไม่นานบุคคลที่นางให้สาวใช้ไปตามก็เดินเข้ามายืนตรงหน้า สาวใช้รู้งานรีบออกไปเพื่อให้ผู้เป็นนายอยู่กันตามลำพัง " เหตุใดท่านไม่มาหาข้าบ้าง หรือยังเคืองข้าในเรื่องนั้น " " ลี่กวง เจ้าก็รู้ ..." " ท่านโตแล้วนะเสี่ยวหนาน ข้ายอมทำทุกอย่างเพื่อให้เราอยู่ด้วยกัน อุปสรรคเพียงแค่นี้ท่านกับถอยหรือ " " คดีท่านพ่อยังไม่ปิด ข้าไม่อยากให้ใครสงสัย " เขาเตรียมคำพูดมา เพราะรู้ว่าลี่กวงต้องถามเขา เพราะตั้งแต่วันนั้นร่วมเดือนที่เขาไม่ได้แวะมาที่เรือนของนางเลย " นางก็ถูกจับแล้ว ยังไม่สิ้นสุดอีกหรือ " " ข้าไม่รู้ หากเจ้าอยากรู้นักก็ไปถามเจ้ากรมอาญา " เขาไร้อารมณ์จะตอบ ได้แต่เดินไปที่เตียงแล้วเอนกายนอนลง ลี่กวงเห็นอากัปกิริยาความเหนื่อยอ่อนของเขา ก็วางผ้าที่ปักลงแล้วเดินตามไปที่เตียง สองมือบีบนวดให้เขาเพื่อสร้างความพอใจ " ข้าขอโทษที่ทำให้ท่านหนักใจ ข้าเป็นเพียงเด็กสาวที่ต้องการที่พึ่งทางกายและใจ หากข้าทำให้ท่านหนักใจ ท่านก็ลงโทษข้าเถอะ " มือที่บีบนวดเริ่มลูบไล้ตามแผงอกของชายที่นอน ชายผู้ถูกกระตุ้นจับนางพลิกตัวลงนอนแล้วตนก็ยันกายอยู่ด้านบน และประทับปากลงไปยังริมฝีปากอวบอิ่ม ทั้งคู่สู้รบทางริมฝีปากอย่างช่ำชองเป็นเวลานาน จนฝ่ายชายเป็นผู้ถอนริมฝีปากของตนออก หญิงสาวโอบคอแล้วเอ่ย " ให้ข้าปรนนิบัติท่านนะ เสี่ยวหนาน " ชายหนุ่มยังมิได้ตอบอะไร สาวเจ้าก็ดันร่างใหญ่ให้นอนลงและพลิกร่างให้ตนเป็นผู้กำหนดเกมนี้เอง นางค่อยๆปลดเปลื้องอาภรณ์ของขายหนุ่มออกทีละชิ้น โดยที่ไม่ลืมปรนเปรอความสุขของฝ่ายชาย จากการเล้าโลมโดยจุมพิตไปทั่วเรือนร่างแกร่ง เมื่อร่างชายไร้สิ่งใดปกปิดนางจึงได้จัดการต่อเรือนร่างของตนเอง และค่อยปลดปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ดึกสงัดไร้สุ่มเสียงของผู้คน มีเพียงเสียงสายลมกระทบวัตถุเพื่อเกิดเสียงและเสียงจิ้งหรีดเรไรร้องขับขานอย่างระงม สาวร่างบางนอนกระสับกระส่ายด้วยภาพเหตุการณ์เมื่อหัวค่ำที่นางเสียขวัญ หลางเฉี่ยวอวี้พยายามจะข่มตาให้หลับแต่ภายในใจยังคงไม่สงบ รับรู้ถึงอาการเต้นของหัวใจที่ไม่เป็นจังหวะ ถึงแม้ว่าภายในห้องเก็บของจะไม่มีอะไรเหมือนเช่นทุกคืน แต่ในหัวนางก็ยังคิดว่าใครจะเข้ามา แม้เสียงลมก็ทำให้นางถึงกับจิตตก ยามเช้าแสงอาทิตย์เข้าครอบครองทั่วทุกสรรพสิ่ง ร่างบางกลับจากโรงครัวหลังจากที่เตรียมมื้อเช้าเสร็จ วันนี้นางรู้สึกเหนื่อย อาจเป็นเพราะเมื่อวานนานนอนมิหลับ จึงทำให้นางรู้สึกเพลีย และไม่ค่อยปลอดโปร่งนัก นางทิ้งร่างลงพื้นที่สะอาดจากฝีมือตน และกำลังจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยอ่อน ทว่าเสียงประตูดังขึ้น " มื้อเช้าข้า มันควรจะวางอยู่ที่เรือนใหญ่ " นางดีดตัวขึ้น เพราะนึกขึ้นได้ตามคำของเทียนฟ่งอวิ๋น ใช่นางทำมื้อเช้าเสร็จแต่มิได้ทำเพิ่มในส่วนของเขา อีกทั้งมิยกไปให้เขาด้วย " ข้าขอโทษ มื้อเช้าท่านกินเหมือนคนอื่นๆ ได้หรือไม่ " " ทำไม " " คือ ข้าลืมทำในส่วนของท่าน " " ไม่ได้ " " แค่มื้อเดียว " นางส่งสายตาขอร้อง เพราะนางเหนื่อยอยากพักเหลือเกิน " ก็ได้ " อยู่ๆ เขาก็ตอบอนุญาต " เจ้าไปยกมา แล้วป้อนข้า " " ห๊า! ท่านว่าไงนะ " " ป้อนข้า ชดเชยความผิดเจ้า หากมิทำ ข้าจะให้เจ้าป้อนทหารของข้าทั้งกองทัพ " เขาบอกนางช้าๆ เน้นหนักทุกคำพูด เพื่อให้นางยินยอม " ข้าจะไปยกสำรับ " นางพูดตอบ หลังจากนิ่งอยู่นาน เขาหันหลังเดินกลับเรือนเพื่อรอสำรับมื้อเช้าที่นางยกมา ไม่นานอาหารก็มาวางตรงหน้าพร้อมคนที่คอยบริการป้อนให้เขา " เมื่อคืนมิได้นอนหรือไง ถึงได้ตักผิดตักถูก " " ท่านว่าอะไรนะ " นางหันมาถามเขา คล้ายได้ยินไม่ถนัด เขานึกว่านางแกล้งเพียงเพราะมารยาหญิงคงไม่ได้สัมผัสชายมานาน " ข้าอิ่มแล้ว " เขาเอ่ย จากนั้นก็ดึงมือนางตามเขามา นางเดินตามแรงดึงจนถึงตั่งเตียง " ท่านจะทำอะไร " สตินางเริ่มเข้าที่เมื่อเห็นว่าเขาพามาที่เตียงในเรือนใหญ่ " หน้าที่ของเจ้ายังไม่จบ " " ท่านเพิ่งบอกว่าท่านอิ่มแล้ว " " ใช่ แต่ข้ายังนอนไม่อิ่ม " " ท่าน! นี่มันมากเกินไปแล้วนะ " เขาแค่มองนาง และนั่งที่เตียงดึงมือนางมานั่งด้านข้างแต่นางฝืนตัว " เจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรเจ้าเช่นนั้นหรือ?" " ก็สิ่งที่ท่านทำมันบ่งบอกหรือไม่เล่า " " ใครพาเจ้ามาที่เตียง ต้องคิดกับเจ้าอย่างนั้นเสมอหรือ หรือว่าเจ้าอยาก ข้าจะได้ช่วยสงเคราะห์ให้ " เขากระชากนางให้มานั่งที่เตียง และผลักนางให้นอนลง มือแกร่งรีบรวบสองมือ และประกบริมฝีปากเข้าหาริมฝีปากที่อวบอิ่ม นางดิ้นเพื่อให้พ้นจากพันธนาการ ขาทั้งสองถีบไปมา เขาย้ายร่างทับที่ตัวนางทันที พร้อมบดขยี้อย่างหื่นกระหาย พร้อมสอดลิ้นเข้าไปเพื่อดูดด่ำความหวานล้ำของสตรีใต้ร่าง แต่นางหายอมไม่ ฟันกัดลงไปที่ปลายลิ้นแต่เขาดึงออกทัน ทำให้เสียงสำราญออกจากลำคอ นางรู้สึกเสียหน้าที่เขาอารมณ์ดี เขาถอนรอยจุมพิตออกจากนางและจ้องมองใบหน้านางที่แดงเพราะความโกรธ " ข้าไม่สนุกนะ " " แต่ข้าสนุก " พูดจบก็หอมแก้มนางเบาๆและเงยมามองหน้า นางถลึงตาใส่ เขาหอมที่แก้มอีกข้างและเงยหน้ามอง " หากยังทำตาเช่นนี้กับข้า มันจะทำให้ข้าอยากครอบครองเจ้า ทำหน้าพึงพอใจหน่อยสิ " " ไม่!" " เจ้าแน่ใจนะ?" " ท่านมันโรคจิต ชอบความรุนแรงหรือไง " เขาแค่ยกคิ้วเป็นการตอบ นางถลึงตาและพยายามบิดข้อมือ " กล้าขัดคำสั่งข้าหรือ? ดี! อย่างนี้สิข้าชอบ " เขาพูดและก้มลงจูบนาง แต่แตกต่างจากเดิม เพราะเขาจูบนางอย่างแผ่วเบา ค่อยๆ เล้าโลมไปตามใบหน้า ซักไซ้ตามซอกคอ มือนางจากเดิมที่บิดเพื่อให้พ้นจากการเหนี่ยวรั้ง บัดนี้ได้นิ่งสงบพร้อมกับร่างกายที่หยุดการดิ้น เขาปล่อยมือให้นางมิต้องทนเจ็บ มือหนึ่งลูบไล้ไหล่มน มือหนึ่งรั้งที่ศีรษะ นางเงยคอเพื่อให้เขาซุกไซ้ได้ถนัด เขาเลื่อนใบหน้ามาที่แก้มแล้วค่อยๆ มาที่ริมฝีปาก อย่างแผ่วเบา นางให้ความร่วมมือโดยไม่กัดเขาแล้ว จนเขาค่อยๆ ส่งปลายลิ้นไปที่ช่องโพรงอีกครั้ง นางเปิดรับอย่างกล้าๆ กลัวๆ เขาผู้ช่ำชองกับนางที่ไร้ประสบการณ์ ต่างฟาดฟันผ่านลิ้นที่ใช้เป็นอาวุธของคนทั้งสอง และแน่นอนว่าผู้ไร้ประสบการณ์ย่อมเป็นผู้พ่ายแพ้ นางดันอกแกร่งเพื่อให้เขาถอนลมหายใจออก นางรีบคว้าลมหายใจเข้าปอด เขามองใบหน้านางแล้วส่งยิ้มอย่างพอใจ " อย่ากลั้นลมหายใจสิสาวน้อย " เขาไม่ปล่อยให้นางหายใจนาน เขาเริ่มเกมนี้อีกครั้ง และอีกครั้ง จนนางอ่อนระทวยไปด้วยรสจูบที่เขาเป็นผู้ทำมัน และเขาเพียงคนแรกที่ทำกับนางเช่นนี้ เขาเห็นนางไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลือ แม้แต่จะตีแผงอกเขา เขาจึงหยุดการกระทำ แต่จูบไปที่หน้าผากมนและพลิกตัวนอนด้านข้าง ร่างกายพลุกพล่านด้วยเพลิงพิศวาสที่เขาอยากจะปลดปล่อย แต่ก็ต้องหักห้ามใจเพราะสตรีผู้นี้คือคนของเสนาบดีหวง สหายของบิดา ภายในใจสับสน นางจูบไม่เป็นเสียเลยแล้วนางจะเคยผ่านชายหรือนางเสแสร้งแกล้งทำ เขาหันตะแคงหน้าไปมองนางที่เวลานี้หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่มิรู้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD