เล่ห์รัก 16

1139 Words
" เจ้าหมายความว่าอย่างไร?" " ท่านเป็นถึงแม่ทัพ กว่าจะมาถึงตำแหน่งนี้ย่อมต้องใช้สติปัญญาและเล่ห์เหลี่ยมในกลศึก กับข้าท่านย่อมมีแผนการ จะด้วยแผนใดข้าก็มิสนใจ " " ทำไม?" " ข้าคงต้องเล่นไปตามกงล้อของท่าน จากคุณหนูใหญ่ กลายเป็นสาวใช้ จากนั้นก็เป็นเชลย ข้าเพียงปรับตัวตามสถานการณ์เจ้าค่ะ อีกอย่างข้าก็อยากให้งิ้วเรื่องนี้จบลงเร็วๆ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร จิตใต้สำนึกของข้าก็ยังหวังว่าความเที่ยงตรงยังคงอยู่ ถึงแม้จะริบหรี่ก็ตาม " " เจ้ารู้อะไรมา บอกข้า! " เขาทุบโต๊ะดัง นางทำเพียงยิ้ม นึกถึงนายจ้างที่มักวางมาดเจ้านายเสียเหลือเกิน " ข้ารู้น้อยกว่าท่าน " นางกล่าวพร้อมส่ายหน้า เขามีโทสะใช้มือบีบที่คอนาง แต่มิลงมือ นางแค่หลับตา รออยู่นาน จึงเอ่ยถาม " เจ้ามิกลัวตายเลยรึ " นางลืมตา " กลัว? กลัวสิ ข้าเป็นคนย่อมมีความกลัว แต่...ข้าปลงกับชะตาชีวิตของเชลยเจ้าค่ะ " นางยิ้มน้อยๆ ทำให้เขาปล่อยมือจากลำคอนางและเอ่ยขึ้น " เช่นนั้นเจ้าก็จงทำตามหน้าที่เชลย ซึ่งข้าจะเป็นผู้กำหนด " พูดจบเขาก็ลุกไป ปล่อยให้นางมองตามร่างกำยำที่บัดนี้เห็นเพียงแผ่นหลังและลับตาไป งานภายในจวนนางมิได้ยุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด มีเพียงแต่งานในกองทัพ นางต้องมาปะ ชุนชุดของทหาร เมื่อเสร็จใช่ว่านางจะได้หยุดงาน มื้อเที่ยง หรือมื้อค่ำ นางก็ต้องจัดเตรียม ให้เสร็จ ว่างเมื่อใดชุดที่ทหารสวมใส่นางก็ต้องจัดการซัก และผู้ที่มักจะนำชุดทหารมาให้นางก็ยังคงเป็นชายหนวดรกรุงรังเช่นเดิม เขามักส่งสายตาแปลกๆให้กับนางเสมอแต่นางเลี่ยงที่จะไม่สบสายตา ทุกวันนางมิมีเวลาได้คิดเรื่องใด ตกค่ำนางก็ต้องไปนอนที่ห้องเก็บของเหมือนเช่นเดิม และตื่นแต่ยามอิ๋น กิจวัตรของนางต้องทำอย่างนี้ทุกๆวัน นานร่วมเดือน งานเหล่านี้ยังไม่สร้างความเหนื่อยใจมากไปกว่าการจัดการอาหาร ช่วยคัดลอกงาน ฝนน้ำหมึก หรือไม่ก็ต้องบีบนวดให้กับเทียนฟ่งอวิ๋นตามคำสั่ง และยิ่งนางอยู่ใกล้เขามากเท่าไหร่ เขากลับเรียกร้องให้นางทำทุกอย่างมากยิ่งเช่น ไม่ว่าจะเป็นป้อนอาหาร ช่วยเขาอาบน้ำ หรือแม้แต่จะโดนเขาถูกเนื้อถูกตัวบ้างในบางคราว แต่นางก็รู้สึกอึดอัด " ท่านแม่ทัพ บุรุษกับสตรีมิควรใกล้ชิดกัน ข้าขอเตือนท่านนะเจ้าคะ " " แล้วไง เจ้าเป็นเชลย ข้าเป็นผู้กำหนดโทษ ข้ามิได้มองเจ้าเฉกเช่นสตรีทั่วไป " " แล้วโทษของข้าต้องยอมให้ท่านโอบกอด ป้อนอาหาร บีบนวด หรือแทะโลมด้วยหรือเจ้าคะ " นางตาขวางใส่เมื่อได้ยินเขาตอบเช่นนั้น กอปรเขากำลังใช้มือโอบเอวนางในขณะที่นางคีบอาหารใส่ชามเขา ยามทานมื้อค่ำ " อะไรเจ้ายังมิชินกับโทษของเจ้าอีกหรือ " " ไม่ชิน " นางตอบอย่างเร็ว เพราะก่อนหน้า นางคิดว่าการเป็นเชลยโทษของนางจะต้องหนักหนา เช่นจับศีรษะกดลงน้ำ โบยเมื่อไม่ยอมพูดความจริง หรืออยู่ในคุกแล้วโดนเหล็กเผาไฟจี้ตามเนื้อตัว นางจึงได้กล้าลั่นวาจาให้พวกเขาตัดสินฆ่านางเสีย เพราะหากนางโดนเช่นนั้นสู้ฆ่านางให้ตายในคราเดียวเสียยังดีกว่ามาทรมานให้ตายอย่างช้าๆ " อย่างไรถึงจะชิน พาเจ้าขึ้นเตียง เหมือนกับท่านลุงหวงดีไหม " เขาเอ่ยมือก็ยังคงรวบเอวแน่นขึ้น ส่วนฝ่ามือก็เริ่มอยู่ไม่สุข นางคิดในใจว่านี่คงต้องแผนอะไรสักอย่างเป็นแน่ " เช่นนั้นก็ยิ่งไม่ชินใหญ่เจ้าค่ะ ข้าถนัดขึ้นกับเตียงชายสูงวัย มิใช่ชายรูปร่างกำยำ ยิ่งเป็นชายนักรบยิ่งแล้วใหญ่เจ้าค่ะ " " สิ่งนั้นจะกังวลไปไย จวนข้ามีทหารเป็นร้อย มาสิข้าจะทำให้เจ้าชิน " เขาลุกขึ้น ปล่อยมือจากการรวบเอวเป็นจูงมือนางแล้วลากถูนางออกจากเรือนใหญ่ ไปยังลานกว้างที่ทหารนั่งทานมื้อค่ำกันอยู่ นางฝืนจากการลากจากเขา เขาจึงอุ้มนางพาดบ่า นางดิ้นอย่างแรงโดยใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี แต่เขาหรือจะยอม กลับใช้ฝ่ามือตีไปที่ก้นของนางอย่างแรง จนนางร้องออกมาเพราะความเจ็บแสบ " ถ้ารู้ว่าการตีเจ้า ทำให้เจ้าหยุดพยศ ข้าควรทำตั้งแต่แรก " " ท่านมันเลว สวะ ปล่อยสิโว้ย " " พูดจาให้ไพเราะหน่อย ข้าแค่จะตอบแทนเจ้า ที่คอยดูแลทหารของข้าอย่างดี นานร่วมเดือน และข้าก็ได้ยินว่าเจ้ายังไม่ชิน ข้าคิดที่จะช่วยสงเคราะห์เจ้าเชียวนะ " " สงเคราะห์มารดาท่านสิ ปล่อยนะ ข้าไม่ไป " นางเห็นว่าเขาเดินเร็วเพียงใด ไม่นานก็ถึงลานฝึก เขาปล่อยนางลงโดยมิได้ประคอง ทำให้ล้มลงไปกองกับพื้น สายตาทหารมองจ้องมายังนาง บ้างใบหน้าเรียบเฉย บ้างยิ้มเปิดเผย บ้างมองนางไปทั้งตัวดั่งนางคือลูกแกะน้อยที่หลงเข้าป่าเจอเหล่าราชสีห์หลายร้อยตัวที่ชุมนุมล่าเหยื่ออยู่ ใบหน้าที่ตระหนก เริ่มซีดไร้สีเลือด ปากเริ่มสั่นพูดออกมา " ทะ..ท่าน..ทั้งหลาย ข้าเป็นสตรีเพศเดียวกับมารดาพวกท่าน ชายชาตินักรบที่ได้รับการยกย่องจากชาวแว่นแคว้นคงไม่คิดจะทำอันใดกับสตรีที่ไร้เรี่ยวแรงเช่นข้าจริงไหม " นางพูดไปดวงตาก็เริ่มชื้น นางพยายามกลืนน้ำลายแต่เหมือนมีอะไรสักอย่างมาจุกที่ลำคอ นางก็ได้พูดไปแล้ว แต่ไร้การตอบกลับ มีเพียงแต่ชายร่างใหญ่ หนวดเครารกรุงรังคนเดิม แต่วันนี้เขาถอดเสื้อทำให้นางเห็นลำตัวมีรอยฟันที่แผงอกอยู่ 2-3 รอย เดินเข้ามาใกล้ " ไม่ อย่า.. อย่า ข้าจะทำงานให้พวกท่านทุกอย่าง ได้โปรด " นางคุกเข่า เอาศีรษะโขกไปที่พื้นเพื่อขอร้อง จังหวะที่ศีรษะจะโขกลงพื้นครั้งที่สาม มือหนาลงไปรองทำให้ศีรษะแนบลงไปยังฝ่ามือ " แม่นาง " เสียงอันกังวาน แม้จะไม่ได้เอ่ยดัง แต่ในใจผู้ฟังกลับเหมือนเสียงมัจจุราช ทำให้นางเงยมองภาพตรงหน้า นัยน์ตาของนางโตแล้วส่งเสียงกรีดร้องดังลั่น มือสองข้างปิดตาคล้ายภาพเบื้องหน้าเป็นสิ่งที่มิควรมองอย่างยิ่ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD