ตอนที่ : 7 ติดเกาะ 2

1108 Words
ความจริงบนเกาะโขดมีสัญญาณโทรศัพท์เข้าถึงแล้ว แต่เสาสัญญาณที่ติดตั้งไว้บนเกาะเป็นคนละเครือข่ายกับที่จารวีใช้งาน จึงทำให้หญิงสาวไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือได้ แต่สัญญาณจะขาดหายทุกเครือข่ายช่วงมีพายุฝนรุนแรง ฉะนั้นตอนนี้ก็ไม่สามารถมีใครติดต่อทั้งคู่ได้ ด้านของนางสมรนั้นเกิดความร้อนใจเป็นอย่างมาก ที่ไม่สามารถติดต่อลูกสาวคนเล็กได้ตลอดทั้งวัน หญิงสูงวัยตัดสินใจโทรศัพท์ไปหานางนวพรในช่วงเย็นของวัน “คุณพรคะ นี่สมรเองนะคะ” “ค่ะคุณสมรมีธุระอะไรกับฉันคะ” นางนวพรทำเสียงแข็งใส่ปลายสาย เพราะยังคงเคืองเรื่องของจันทร์ดาวอยู่ “เอ่อ คุณพรเห็นยัยวีบ้างไหมคะ วันนี้แกจะไปคืนสินสอดแทนสมร แต่นี่ก็ค่ำแล้วยังติดต่อแกไม่ได้เลยค่ะ” “ติดต่อไม่ได้เลยเหรอคะคุณสมร” นางนวพรนึกเอะใจขึ้นมาเพราะนี่ก็หกโมงเย็นเข้าไปแล้ว “ค่ะ โทรไปก็ไม่ติดไม่รู้ว่าคืนสินสอดเรียบร้อยดีไหม นี่ก็ฝนตกตลอดทั้งวันเลย ไม่รู้ไปติดอยู่ตรงไหนหรือเปล่าถึงไม่ได้กลับบ้าน” “ขอฉันเช็กดูก่อนนะคะคุณสมร” นางนวพรยังไม่รู้ที่มาที่ไปของเรื่อง จึงไม่กล้าบอกความจริงเรื่องจารวีนำสินสอดไปคืนลูกชายตนเองที่เกาะโขด “ได้ค่ะ ได้เรื่องยังไงรบกวนคุณพรโทรบอกสมรด้วยนะคะ” “ได้ค่ะคุณสมร” มารดาของทัพพ์คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น ก่อนจะโทรศัพท์ไปหาลูกชายของตน แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ‘พายุเข้า สงสัยหนูวีติดอยู่บนเกาะแน่ ๆ’ พอนึกถึงเรื่องนี้แล้วนวพรก็เอะใจขึ้นมา พายุเข้าแทบทุกวันลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนต้องรู้สิ เพราะเช็กสภาพดินฟ้าอากาศเป็นประจำ แล้วทำไมยังให้จารวีไปหาที่เกาะอีก ‘หาเรื่องให้แม่แล้วนะทัพพ์’ นางนวพรตัดสินใจปิดโทรศัพท์มือถือของตน เพื่อเลี่ยงที่จะติดต่อกับนางสมร เพราะถ้าเป็นอย่างที่ตนคิดจริง ไม่รู้จะตอบอีกฝ่ายอย่างไรเหมือนกัน บนเกาะโขดจารวีกำลังทำกับข้าวอย่างง่าย ๆ สำหรับมื้อค่ำ ฝนหยุดตกแล้วท้องฟ้ากลับมืดมิด ได้ยินเสียงแค่เสียงคลื่นลมทะเลด้านนอก ทัพพ์ใช้ไฟฉายอันหนึ่งออกไปสำรวจดูความเรียบร้อยด้านนอก สักพักใหญ่ ๆ เขาก็กลับขึ้นบ้านมาในสภาพเหงื่อท่วมตัว “กับข้าวเสร็จแล้วค่ะ” หญิงสาวบอกเขาหลังตั้งโต๊ะเสร็จแล้ว “ผมขออาบน้ำก่อนเหนียวตัวไปหมด” เขาบอกแล้วเดินเข้าห้องนอนไป นั่นทำให้จารวีรู้ว่าห้องอาบน้ำอยู่ในห้องนอนจริง ๆ หญิงสาวมองหาจุดที่เธอสามารถนอนในบ้านของเขาได้ ด้านนอกนี่แทบไม่มีตรงไหนให้เธอนอนได้ ขืนนอนยุงได้รุมหามเธอทั้งคืนแน่ หญิงสาวปรายตามองห้องนอนของเขาอย่างหนักใจ ใช้เวลาไม่นานนักทัพพ์ก็ออกมาในชุดนอนที่มีแค่กางเกงตัวเดียว ด้านบนเปลือยอกเหมือนเดิม จารวีลอบถอนหายใจเบา ๆ ขนาดมีเธออยู่ด้วยเขายังไม่ยอมใส่เสื้อ “นี่มันชีวิตปกติของผมนะคุณ ผมใส่ของผมแบบนี้ทุกวันอยู่แล้ว” เหมือนเขาจะล่วงรู้ว่าหญิงสาวคิดอะไรอยู่ “ก็วันนี้ฉันอยู่ด้วยนี่คะ ทำไมคุณไม่ใส่เสื้อให้เรียบร้อย” จารวีค้อนเขาเล็กน้อย “ร้อนจะตาย” “ไม่มีแอร์เหรอคะในห้องนอน” จารวีนึกสงสัยขึ้นมา “ไม่มีหรอกที่นี่บริการแบบธรรมชาติ ตอนนี้มีแค่พัดลมกับมุ้งกันยุงเท่านั้น เราต้องประหยัดไฟฟ้าไว้ใช้ในส่วนที่จำเป็นจริง ๆ ว่าแต่กับข้าวคุณทำกินได้ไหมเนี่ย” คนพูดเลื่อนเก้าอี้ลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาว กวาดตามองกับข้าวอย่างสองอย่างบนโต๊ะอย่างสนใจ “คุณมีแค่ไข่ไก่กับของแห้งนิดหน่อย ฉันเลยทำได้แค่นี้แหละค่ะ” จารวีเลือกไข่ไก่มาเจียวกับทอดปลาแห้งที่เขามีอยู่ในครัว “ก็โอเค” เขาเอ่ยขึ้นหลังตักข้าวใส่ปากคำแรก รู้สึกพอใจกับรสชาติกลาง ๆ ที่หญิงสาวทำ “ทำไมตู้เย็นของคุณถึงมีแค่น้ำกับไข่ละคะ” จารวีนึกสงสัยถึงได้ถามออกไป “ปกติผมสั่งอาหารจากครัวกินอยู่แล้ว” “อ้อ” จารวีเข้าใจในทันที “ผมสงสัยอยู่อย่างนะคุณ” “เรื่องอะไรคะ” “ทำไมพี่สาวคุณถึงเลือกไอ้ชยินแทนผม” ความรู้สึกค้างคาในใจทำให้ทัพพ์อยากถามตรง ๆ แต่คนได้ยินกลับทำหน้าเหวอส่งยิ้มเจื่อน ๆ ให้เขา “ฉันจะไปรู้ได้ยังไงละคะ คุณก็ไปถามพี่สาวฉันเองสิ” “อย่ามายอกย้อนผมนะ คุณเป็นน้องสาวคุณต้องรู้เห็นเป็นใจกันอยู่แล้ว มันต้องมีเหตุผลสิว่าทำไมถึงทิ้งผมไปเอาไอ้ชยินมัน” ยิ่งพูดถึงทัพพ์ก็ยิ่งรู้สึกคับแค้นใจ “เรื่องนั้นฉันไม่รู้หรอกค่ะ” จารวีก้มหน้าตักข้าวเข้าปาก เคี้ยวต่ออย่างเงียบ ๆ “หึ ปิดบังกันเข้าไป คงเป็นกันทั้งบ้าน” ทัพพ์พูดแบะปากใส่หญิงสาว “เป็นอะไรไม่ทราบ” จารวีเลิกขึ้นสูงมองเขาอย่างข้องใจ แต่คนตรงหน้ากลับยักไหล่ขึ้นเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ “หรือว่าไอ้ชยินมันรวยกว่าเลยกล้าหักหน้าผม” เขาพาลนึกไปถึงเรื่องนี้ หากเปรียบเทียบด้านทรัพย์สินกันแล้ว ต้องยอมรับว่าชยินมีมากกว่าเขาแน่นอน “เรื่องหัวใจมันบังคับกันไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าพี่ดาวจะชอบคุณชยินมากกว่าคุณ ฉันว่ามันก็ไม่ได้ผิดอะไรนะคะ” “แล้วมารับปากเรื่องแต่งงานกับผมทำไม อ้อ ไม่พ้นเรื่องเงิน” พูดแล้วก็จ้องคนตรงหน้าอย่างไม่ลดละ แต่จารวีกลับส่ายหน้าเหมือนไม่อยากคุยต่อ “ทำไมไม่เถียงละ เพราะว่ามันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม เรื่องเงินเรื่องทองทั้งนั้นแหละ ขนาดยังไม่ได้แต่งงานกับผมแม่คุณยังกล้าเอาเงินสินสอดไปใช้” “ฉันอิ่มแล้ว” จารวีโพล่งขึ้นอย่างเหลืออด หญิงสาวยกจานข้าวที่เพิ่งกินไปได้แค่ครึ่งเข้าไปล้างในครัว ขณะที่ทัพพ์กินต่อไปจนหมดจานถึงเอาเข้าไปล้างบ้าง เป็นอันยุติบทสนทนาอันแสนอึดอัดใจนี้ลง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD