น้ำเสียงของอีธานอ่อนลง ลีลาวดีพยายามใจแข็ง เธอคิดว่าจะไม่ฟังคำโป้ปดมดเท็จของคนที่ได้ร่างกายและความรักไปจากเธอ แต่แววตาเว้าวอนและใบหน้าแสดงความสำนึกผิดของชายหนุ่มกลับละลายความเยือกแข็งในหัวใจของหญิงสาว
“คุณอยากจะโกหกอะไรฉันอีก”
ลีลาวดีหยุดดิ้น เธอเม้มปากเข้าหากันสนิท แววตาของเธอบอกให้รู้ว่าเกลียดชังเขามากแค่ไหน
“ผมไม่ได้โกหกคุณนะลิซ...ผมแค่อยากพูดในสิ่งที่ผมยังไม่ได้อธิบายให้คุณฟัง...รู้มั้ยว่าตอนที่คุณหายไปผมเป็นยังไงบ้าง”
เขาตั้งคำถามแต่หญิงสาวกลับเบือนหน้าไปทางอื่น เธอไม่อยากฟังคำแก้ตัวของเขา แต่คนตัวโตกลับยิ่งเบียดน้ำหนักลงบนร่างนุ่มจนเธอแทบเขยื้อนไม่ได้ อีธานโน้มใบหน้าลงไปชิด เสียงลมหายใจของเขาดังอยู่เกือบชิดใบหูของลีลาวดี กลิ่นกายของชายหนุ่มทำให้เธอนึกถึงครั้งแรกที่เขากอดและจูบเธอ
“ลิซ...ตอนที่คุณหายไปผมแทบเป็นบ้า และข่าวบนหน้าแท็บลอยด์นั่นก็ไม่เป็นความจริง ผมรู้จักกับลูกสาวของนักธุรกิจคนหนึ่ง ให้ตายเถอะ! ผมเพิ่งรู้จักกับเธอไม่ถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำ”
“คุณก็เลยขอเธอแต่งงานอย่างนั้นซีนะคะ! ...อ๊ะ! ...”
หญิงสาวแย้งในทันควัน แต่โดยไม่ตั้งใจ ปากของเธอเบียดชนกับริมฝีปากหยักหนาของอีกฝ่ายตอนเธอลืมตัวเผลอหันกลับมาต่อว่าเขาด้วยความโกรธ
และนั่นเป็นการเปิดโอกาสให้อีธานประกบปิดปากอิ่มของหญิงสาวไว้ เขาฉวยจังหวะนั้นแทรกลิ้นเข้าไปแล้วดูดดื่มความหวานจากอุ้งปากเล็กของหญิงสาวที่เขาโหยหาเธอมานานแสนนาน
“อีธาน...อื๊อ...”
ลีลาวดีแอ่นร่างเพื่อเบียดตัวของเขาออกไปจากตัวเธอ ทว่าก็ไม่เป็นผลสำเร็จ อีธานตัวใหญ่กว่าเธอมากและที่สำคัญจูบของเขากำลังทำให้เธอเริ่มอ่อนปวกเปียก
“ลิซ...” ชายหนุ่มครางเบา ๆ อยู่กับริมฝีปากอิ่มฉ่ำที่สั่นระริก ลีลาวดีบอกตัวเองไม่ได้ว่าเธอเป็นอะไรกันแน่ เกลียดเขาแต่ตอนนี้เธอกำลังจะต้านทานสัมผัสปลุกเร้าที่เธอเคยคุ้นจากเขาไม่ได้
“อีธาน...อย่าค่ะ”
หญิงสาวแอ่นหลัง แต่ยิ่งทำให้หน้าอกอิ่มของเธอเบียดกับหน้าอกแกร่งของเขาอย่างไม่ตั้งใจ และมันทำให้ประกายไฟในตัวชายหนุ่มที่ยังหลงเหลือเชื้อแห่งความปรารถนาเริ่มลุกไหม้อย่างช้า ๆ ด้วยเช่นกัน
“ลิซ...ได้โปรดเถอะ อย่าหนีผมไปไหนอีกเลยนะที่รัก”
เขาเว้าวอนอยู่กับกลีบปากของหญิงสาว อีธานจูบลีลาวดีด้วยความรู้สึกที่กำลังหลั่งล้นเหมือนสายน้ำ มันเป็นความอัดอั้นซึ่งถูกเก็บกลั้นไว้ตลอดระยะเวลาหนึ่งปี
“อีธาน...อย่าค่ะ...ฉันไม่ได้หนีคุณไปไหนนะคะ”
“แต่คุณก็จากมาโดยที่ไม่บอกผม”
“ฉันทนอยู่ที่นั่นไม่ได้หรอกค่ะ”
เธอแย้งด้วยน้ำเสียงหอบกระเส่า หญิงสาวร่ำร้องที่จะปฏิเสธเขา แต่ร่างกายของเธอเหมือนขี้ผึ้งที่กำลังหลอมเหลว จิตใต้สำนึกของเธอกำลังหวนกลับไปที่เก่า...ที่นั่น...อีกครั้ง
“จะให้ฉันทนอยู่เพื่อเห็นคุณแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ฉันทำไม่ได้หรอกนะคะ”
“บอกแล้วยังไงลิซ ว่ามีคนกุข่าวขึ้นมา”
เขาเลื่อนใบหน้าออกแต่ยังกดหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างเขาไว้ด้วยลำตัวหนักอึ้ง ร่างกายของเขากำลังเคร่งเครียด ไม่ใช่เพราะอารมณ์ที่ยังคุยกันไม่เข้าใจแต่เป็นเพราะมีบางอย่างกระตุ้นเร้าความรู้สึกเก่า ๆ ให้กลับมาอีกครั้ง
“ผมไม่บ้าพอที่จะทำตามข่าวนั่นหรอกนะ หลังจากที่มีข่าวการแต่งงานของผมแพร่สะบัดออกไป พวกสื่อก็รุมกันมาสัมภาษณ์ผม”
“แล้วไงคะ” ลีลาวดีเชิดคางเรียวขึ้นเล็กน้อย
“แล้วไงน่ะหรือ...ผมก็ตอกกลับพวกเขาไปว่าผมไม่มีแพลนจะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนทั้งสิ้น!”
คำตอบของอีธานทำให้ลีลาวดีถึงกับเงียบไปชั่วขณะ ความยินดีเล็ก ๆ เริ่มไหลปรี่ออกมาจากส่วนลึก แต่...เธอจะเชื่อเขาได้แค่ไหนกันในเมื่อเวลาผ่านมาตั้งขวบปีและหลังจากนั้น...
“ผมพยายามออกตามหาคุณ ลิซ...ตามหาคุณทุกที่ที่คิดว่าคุณจะไป”
ชายหนุ่มลดระดับเสียงลงจนเบาเหมือนกระซิบ เขาก้มหน้าลงไปหาหญิงสาวอีกครั้งจนจมูกโด่งเคลียบนแก้มเนียนไส น้ำตาของลีลาวดีเหือดแห้งไปแล้วและแก้มเริ่มเปล่งประกายเป็นสีระเรื่อ
“จริง ๆ แล้วคุณจะลืมฉันเสียก็ได้” เธอกล่าวเหมือนยังไม่ไว้วางใจ
“ผมจะลืมคุณได้ยังไง...ผมยังคิดถึงตอนที่...”
ชายหนุ่มเว้นคำพูดแล้วเคล้าเคลียริมฝีปากของเขากับพวงแก้มนุ่ม
“ผมคิดถึง...ปากของคุณ” ว่าแล้วก็แนบริมฝีปากหยักหนากับกลีบปากนุ่ม เลาะเล็มริมฝีปากอิ่มสวยที่เผยอออกโดยไม่รู้ตัวอย่างถนอม
“ผมคิดถึงเรือนร่างของคุณ” แล้วเขาก็ลูบไล้ฝ่ามือไปบนผิวนุ่มดุจกำมะหยี่ ทำให้ลีลาวดีขนลุกด้วยความรัญจวนใจที่แล่นปรี่ขึ้นมา
“แล้วก็...เสียงครางของคุณ”
“อา...” หญิงสาวเผลอคราง เธอตกใจที่ตัวเองคล้อยตามเขาไปได้ง่าย ๆ เนื้อตัวของเธอกำลังถูกเขารุกรานอย่างละมุนละม่อม พอดึงสติกลับมาได้เธอก็ร้องไห้อีกครั้ง
“อีธาน...หยุดนะคะ! ฉันอาจจะเคยมีเวลาแบบนั้นกับคุณ แต่นั่นเป็นราคีที่คุณฝากมันไว้กับตัวฉัน”
“ลิซ...”
ชายหนุ่มเลื่อนริมฝีปากออกจากผิวแก้มของหญิงสาว ดวงตาของเขาวาวโรจน์ก่อนจะเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยวว่า
“ลิซ...หรือว่าตลอดหนึ่งปีที่เราไม่ได้พบกันคุณมีคนอื่น”
“ฉันไม่ได้มีใครทั้งนั้นแต่ฉันเกลียดคุณ! ...อ๊ะ!”