5 ปีที่แล้ว อุบลราชธานี
“พี่ดัชซ์ จะกลับมาหานานะอีกเมื่อไหร่คะ?”
“อื้ม... ก็คงตอนที่มาสู่ขอแนนล่ะมั้ง” พี่ดัชซ์พูดติดตลกแต่ฉันหุบยิ้มทันที หัวใจที่เต้นระรัวรอคำตอบเมื่อกี้ก็กระตุกวูบจนเกือบล้มทั้งยืน ถ้าวันนั้นมาถึงจริง ๆ ฉันจะทำใจได้ไหม?
รู้ว่าผิดที่แอบรักแฟนพี่สาวตัวเอง แต่ฉันก็ไม่คิดจะแย่งของใคร หรือว่าหลังจากที่พวกเขากลับไปครั้งนี้ ฉันต้องตัดใจแล้วจริง ๆ มันถึงเวลาแล้วสินะ
พวกพี่เขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ต่อไปก็ต้องแต่งงานสร้างครอบครัวกัน
“ทำไมนานะ? อยากให้พี่มางานปัจฉิมเราเหรอ” เมื่อฉันยืนเงียบ พี่ดัชซ์ก็ปิดประตูรถแล้วเดินกลับมาถาม มือใหญ่วางบนหัวฉันอย่างเอ็นดู เขาก็เป็นแต่แบบนี้ฉันไม่ชอบเลย มันทำให้ฉันใจสั่น
เพราะพี่เขาหล่อเกินไป ทั้งขาวทั้งสูง จมูกก็ได้รูปปากก็สวยเป็นที่สุด
ลายสักกราฟฟิกเท่ ๆ ถึงคอขัดกับบุคลิกแสนอบอุ่นโดยสิ้นเชิง
“ค่ะ พี่ดัชซ์มาได้มั้ย” เขาทำหน้าครุ่นคิดแต่ยังไม่ให้คำตอบ เพราะพี่แนนดันเลื่อนกระจกรถเรียกซะก่อน
“ดัชซ์! กลับไปแนนต้องเข้าเวรนะ ทำเวลาหน่อยสิ กับนานะค่อยโทรคุยกันก็ได้”
ฉันยังมองหน้าพี่เขารอคำตอบ แต่พี่ดัชซ์กลับยกมือบ้ายบาย
“ไว้พี่โทรหานะ ตั้งใจเรียนล่ะ จบมอหกจะได้ไปเรียนกรุงเทพใกล้ ๆ กัน”
ใกล้ ๆ กันงั้นเหรอ? ฉันควรดีใจหรือเสียใจดี ถ้าไปอยู่ใกล้ก็ต้องเห็นพี่แนนกับพี่ดัชซ์รักกัน แต่ถ้าไปเรียนมหาวิทยาลัยจังหวัดอื่น ไม่แน่ฉันอาจตัดใจจาก
เขาได้
ฉันโบกมือลาร่างสูงที่หันหลังกลับไป แต่แอบใจหายยังไงก็ไม่รู้ หลังจากที่พี่ดัชซ์กลับ ฉันจึงรีบวิ่งบนคันนาเข้าไปในบ้านซอมซ่อเขียนไดอารี่เหมือนเคย ๆ
แทนตัวเขาด้วยตัว D แทนพี่แนนด้วยตัว N วันนี้เขาพูดถึงการสู่ขอ แสดงว่าเขาจริงจังกับพี่แนนมาก ๆ ถ้าพี่สาวฉันรักเขา ฉันควรดีใจสิ ไม่ใช่รู้สึกปวดใจขนาดนี้
ฉันหยิบปากกาสีแดงหมึกซึมวาดรูปหัวใจเป็นรอยร้าว กับตัวการ์ตูนผู้หญิงถักเปียน้ำตาคลอเบ้า
ใช่ ผู้หญิงคนนั้นมันคือตัวฉันเอง เด็กเวรที่รักคนที่ไม่ควรรัก เด็กเวรที่คิดไม่ซื่อกับว่าที่พี่เขย
‘ถ้าพี่ D กับพี่ N รักกัน เราควรดีใจกับเขา อย่ารู้สึกแบบนี้เลยนานะ แค่คิดก็ผิดแล้ว แกตัดใจเถอะ’
ฉันปิดไดอารี่ลงพร้อมกับน้ำตาที่หยดเผาะลงมา หลังจากวันนั้นพี่ดัชซ์ก็ไม่โทรหาฉันอีกเลย
จนผ่านมาร่วมเดือนวันที่ฉันเรียนจบเข้าพิธีปัจฉิมนิเทศ กลับมาถึงบ้านฉันก็ต้องพบกับข่าวร้าย ยายฉันกำลังนั่งร้องห่มร้องไห้อยู่ที่พื้น มือเหี่ยวย่นกอดรูปถ่ายรับปริญญาพี่แนนไว้แนบอก
“ฮือ ๆ นานะพี่แนนเสียแล้วนะลูก แนนถูกฆ่าตาย”
ฉันทิ้งดอกไม้และของปัจฉิมนิเทศลงทันที ก่อนที่จะรีบคลานเข่าเข้าไปกอดยาย ไม่จริง! พี่แนนเป็นเสาหลักของบ้าน ทั้งส่งฉันเรียนและให้เงินรักษาโรคมะเร็งของยาย พ่อแม่เราก็ตายหมดแล้ว ถึงฉันจะเป็นน้องคนละพ่อ แต่ฉันก็รักพี่แนนเหมือนพี่แท้ ๆ ใครมันใจร้ายทำกับพี่ฉันแบบนี้!
พี่ฉันไปทำอะไรให้ถึงต้องฆ่าต้องแกงกัน
“ฮึกฮือ ๆ ใครทำพี่แนนเหรอยาย ตำรวจจับมันได้รึยัง นานะจะโทรหาพี่ดัชซ์ตอนนี้ล่ะ!”
ยายคว้าแขนฉันไว้ทันที ก่อนที่จะส่ายหน้าทั้งน้ำตา
“อะ... อะไรยาย ฮึก ๆ ปล่อยเถอะนะ นานะจะโทรหาพี่ดัชซ์”
“โทรไปก็ไม่ติดหรอก ฮือ ๆ ดัชซ์มันเป็นคนฆ่าแนน ข่าวเพิ่งออกเมื่อเที่ยงนี้เอง ตอนนี้ตำรวจจับได้แล้ว”
ว่าไงนะ... ไม่จริงอ่ะ ไม่จริง!
ฉันทรุดนั่งเหม่อมองรอบ ๆ บ้าน ก่อนที่จะยกสองมือขยำผมตัวเองแรง ๆ ให้ตัวเองตื่นจากฝันร้าย แต่ฉันเจ็บ ฉันไม่ได้ฝันไป และที่เจ็บกว่าคืออะไรรู้ไหม?
คือหัวใจฉันนี่แหละ นาทีนั้นฉันเกือบจะหายใจต่อไม่ไหว ปวดร้าวเหมือนโลกทั้งใบล่มสลายในพริบตา ริมฝีปากสั่นระริกจะเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาก็ไม่ได้ อารมณ์เหมือนคนมีลมหายใจเฮือกสุดท้าย แต่ไม่รู้จะทำยังไงเพราะสุดท้ายก็
สูญสิ้นทุกอย่าง
“นานะ ฮือ ๆ ต่อไปนี้เราต้องอยู่กันสองคนแล้วนะ แกจบแค่มอหกพอนะลูก ฮือ ๆ ยายมีแค่เบี้ยคนชราเดือนละเจ็ดร้อย ยายไม่มีเงินส่งแกแล้ว”
“ฮือ ๆ ไม่! มันต้องไม่จริง ไม่จริง! กรี๊ด...”
‘เปรี้ยง’ เสียงฟ้าผ่าทำฉันสะดุ้งเปิดตาตื่น ก่อนที่จะผงกหัวขึ้นมองรอบ ๆ แล้วเห็นว่าตัวเองกำลังนอนคู้ ถูกรัดข้อมือที่เบาะหลังรถ
“ปล่อย! ปล่อย!”
“หยุดแหกปากสักที!” เสียงทุ้มใหญ่ตวาดมาจากหน้ารถ ขณะที่สองข้อมือเล็กของฉันพยายามดิ้นหลุดจากสายรัด ข้างนอกตอนนี้ฝนตกหนักมาก ๆ แต่ที่ฉันสนใจไม่ใช่เสียงฝน หรือเสียงฟ้าร้อง
สนใจเสียงผู้ชายคนนั้นต่างหาก ทำไมมันคุ้นนักล่ะ คุ้น... เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน มันเหมือน...
“พี่ดัชซ์”
ฉันเผลอเอ่ยชื่อนั้นเบา ๆ และเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอตอบกลับมาหัวใจก็พลันกระตุกวูบ หน้าที่แนบกับเบาะชาแทบไม่รู้สึก เรี่ยวแรงที่มีหายไปราวกับโดนกระชากวิญญาณออกจากร่าง
ใช่เขา... คนที่ฆ่าพี่สาวเพียงคนเดียวของฉัน เขาต้องติดคุกตลอดชีวิตไม่ใช่เหรอ? นี่แค่ห้าปีเองทำไมถึงออกมาได้ แล้วจะพาฉันไปไหน?
“หึ สงสัยล่ะสิ ว่าฉันออกมาได้ยังไง” เขาไม่แทนตัวเองว่าพี่ น้ำเสียงก็ไม่เหมือนเดิม ใช่สินะ ตั้งแต่วันที่เขาฆ่าพี่แนน เขาก็ไม่ใช่พี่ดัชซ์คนเดิมของฉันอีกต่อไปแล้ว เขาคือฆาตกร
“ฆ่าพี่แนนทำไม พี่แนนทำอะไรให้พี่!” เท่านั้นแหละ คันเร่งรถก็ถูกเร่งขึ้นในทันที จนฉันทนไม่ไหวตะคอกไปอีกแข่งกับเสียงรถ และเสียงฝน
“ไอ้พี่ดัชซ์ ไอ้ฆาตกร ไอ้ขี้คุก! ตอบมาสิวะ!”
“หุบปาก”
“ไม่! จะพาฉันไปไหน จะฆ่าฉันตายตามพี่แนนไปงั้นเหรอ ไอ้คนสารเลว! ฉันไม่น่าเคยหลงรักพี่เลย”
ฉันเม้มปากแน่นทันทีเมื่อหลุดคำนั้นออกไป อย่าพูดคำว่าเคยหลงรักเลยอีนานะ ตอนนี้แกเกลียดเขา เกลียดยิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือน เขาทำให้ยายแกต้องทรุดหนัก ทำให้พี่แนนตายทั้งที่กำลังประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มันคือสิ่งที่ผิดพลาดมหันต์ที่แกเคยให้ใจผู้ชายสารเลวคนนี้
ฉันกัดฟันแน่น มองไปข้างหน้าที่กระจกมองหลัง พอเห็นริมฝีปากหยักที่เคยคุ้นยิ้มเยาะ ความคับแค้นใจก็ก่อเกิดทวีคูณ
จะไม่รู้สึกผิดสักนิดเลยเหรอวะ?
นี่เหรอตัวตนของผู้ชายที่ฉันเคยหลงรัก เลวไม่มีอะไรเปรียบ!
“ฉันบอกเลยนะ ฉันไม่เหมือนพี่แนน! ถ้าพี่ทำอะไรฉัน หรือแตะต้องแม้แต่ปลายเล็บ อีนานะคนนี้นี่แหละจะฆ่าพี่เอง!”
‘เอี๊ยด’ รถมินิแวนจอดทันที ก่อนที่คนขับจะลงจากรถเดินผ่านสายฝนขึ้นมานั่งที่เบาะหลัง ทันทีที่เห็นหน้าเขาฉันถึงกับรีบขยับตัวหนี
แต่สุดท้ายก็โดนกระชากข้อมือกลับไปอีกสุดแรง
“ว้าย!”
“พูดใหม่”
“อะไร?”
“ฉันบอกให้ใช้ปากดี ๆ ของเธอพูดประโยคนั้นใหม่!”
เสียงตวาดดังทำฉันสะดุ้ง และไม่กล้าสบตานัยน์ตาดำขลับที่มองมา เขาบีบข้อมือฉันแรงขณะที่เม็ดน้ำฝนที่เกาะตามไรผมหยดลงมาที่แขนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มันทำให้ฉันทั้งอึดอัด เจ็บใจ เกลียด และกลัว ความรู้สึกมากมายผสมปนเปกันไปหมด แต่เมื่อมือใหญ่กระชับบีบแรงขึ้น แรงขึ้น ฉันจึงต้องกัดฟันพูดให้ตัวเองหลุดพ้นจากความรู้สึกนี้
“ถ้าพี่แตะต้องฉันแม้แต่ปลายเล็บ ฉันจะฆ่าพี่เหมือนที่พี่ทำกับพี่แนน”
คนฟังเหยียดยิ้มที่มุมปาก
“งั้นเหรอ? อย่าว่าแต่แตะต้อง ก่อนที่เธอจะฆ่าฉัน ไม่แน่เธออาจจะเป็นเมียฉันก่อนก็ได้”
พอฉันได้ยินประโยคนั้นก็เผลอหันขวับไปสบตาเขา ความมืดและเสียงฝน ไม่ได้ทำให้ฉันหลุดออกจากตาคม ฉันคล้ายถูกมนต์สะกด และที่สำคัญความกลัวที่มีทั้งหมดพลันหายไป
ไม่ ฉันไม่ได้ยอมอ่อนข้อให้ แต่ทว่าสิ่งที่ผ่านมาและสิ่งที่ฉันกำลังเผชิญ กำลังบีบให้ฉันต้องทำอะไรบางอย่าง
ฉันจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนนี้ข่มเหงเด็ดขาด เขาไม่มีสิทธิพูดจาแบบนี้ แม้แต่จับตัวฉันมาก็ไม่มี! คนอย่างเขาต้องไปนอนอยู่ในคุก จมอยู่กับความเลวของตัวเองเท่านั้น!
ทันใดนั้น ริมฝีปากฉันก็กระตุกยิ้ม ก่อนที่จะใช้มารยาทั้งหมดที่มีโน้มไปใกล้ ๆ มอบไอร้อนผะผ่าวกระซิบข้างใบหู ฉันทำงานNมาตั้งหลายปี ฉันรู้ดีว่าผู้ชายร้อยทั้งร้อยแพ้มารยาหญิง ถ้าเขาจะทำร้ายฉัน
ฉันนี่แหละจะใช้มารยาพวกนี้ทำร้ายเขากลับ ถ้าต้องแลกด้วยตัว เพื่อต้องลากคนชั่วเข้าตารางฉันก็ยอม
“ได้ฉันเป็นเมีย ระวังติดใจนะ”
พี่ดัชซ์เหยียดยิ้มที่มุมปากอย่างเย็นชา ก่อนจะยกมือบีบแก้มฉันให้เงยขึ้นสบตาเขา นี่เป็นครั้งแรกที่หน้าเราอยู่ห่างกันแค่คืบ และฉันไม่รู้สึกหวั่นไหวเลย
สักนิด จนเขาพูดขึ้นมา
“งั้นถ่างขาออก ฉันจะเอาเธอตรงนี้”
ฉันยังเก็บอาการและแสดงออกด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะเรียกความกล้าทั้งหมดที่มี... ค่อย ๆ กางขาออกกว้าง
“เอาสิ ฉันเองก็อยากให้พี่เอาอยู่เหมือนกัน”
“...” เขาชะงัก และจ้องมองฉันด้วยสายตาแข็งกร้าว
“กระแทกเข้ามาแรง ๆ เลยค่ะพี่ดัชซ์ นานะจะครางให้ลั่น”
แล้วฉันก็ยิ้มที่มุมปากโน้มไปกระซิบข้างหูเขาอีกครั้ง
“อ๊ะ อ๊า… พี่ดัชซ์ขา~ เสียวจังเลยค่ะ”