บทที่7

1346 Words
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ "ต้นนี้หมดแล้วครับคุณนารี"เสียงเข้มของคนงานตัดทุเรียนดังขึ้นมาจากบนต้นทุเรียน นารีเงยหน้ามองพลางใช้หลังมือปาดเหงื่อตามกรอบหน้าสวยก่อนจะวางกระสอบสีน้ำตาลเข้มลงกับพื้น วันนี้เธอตื่นแต่เช้าตรู่และไม่รอช้ารีบต่อสายให้คนงานกรีดยางมาช่วยตัดทุเรียนโดยมีเธออาสาเป็นคนยืนรับลูกทุเรียนอยู่ใต้โคนต้น ทุเรียนจำนวนหลายร้อยลูกถูกวางเรียงรายรอให้พ่อค้ามารับ ขโมยแถวนี้ยิ่งชุมยามฤดูผลไม้คนไร้ที่พึ่งพาเสาะแสวงหาลักขโมยเล็กขโมยน้อยตามบ้านเรือนเพื่อนำเอาไปขาย ซึ่งช่วงนี้ทุเรียนราคาโลละเป็นร้อยย่อมเป็นที่หมายปองของพวกหัวขโมยธรรมดา นารีจึงใช้เวลาว่างโทรเรียกคนงานของตัวเองให้มาช่วยเพื่อจะได้เสร็จไว ๆ "ฉันฝากพวกนายจัดการทางนี้ต่อด้วยนะ" "ได้ครับคุณนารี"เหล่าคนงานต่างพากันแยกย้ายไปทำตามหน้าที่ ส่วนนารีก็พาร่างอันเหนื่อยหอบเดินกลับมาที่บ้าน หญิงสาวสวมชุดเสื้อและกางเกงขายาวแปลงร่างเป็นชาวสวนเดินกลับมาถึงบ้านไม้ ก็เห็นร่างสูงใหญ่ของอัคคีและเมฆากำลังยืนอยู่ตรงบันไดไร้เงาของต้นอ้อเพื่อนรัก "อรุณสวัสดิ์ครับคุณนารี" "อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณอัคคี ตื่นกันนานแล้วเหรอคะ" "พึ่งตื่นครับ แล้วนี่คุณนารีหายไปไหนมาล่ะครับ"หญิงสาวถอดรองเท้าบูตคู่เล็กวางลงข้างบันได เธอเงยหน้ามองพลางส่งยิ้มหวานให้กับทั้งสอง "นารีไปช่วยคนงานตัดทุเรียนในสวนมาค่ะ"สองหนุ่มตาลุกวาวเมื่อได้ยินคำตอบของหญิงสาว "คุณปีนขึ้นไปบนต้นเองเลยเหรอ"เมฆาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเบาหวิว เขารู้สึกทึ่งกับความสามารถเกินกว่าที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอจะทำได้ "เปล่าค่ะ นารีแค่รอรับลูกอยู่ใต้โคนต้น ว่าแต่คุณสองคนหิวกันแล้วหรือยังคะ" "ยังครับ ปกติแล้วพวกเราสองคนไม่ค่อยทานอาหารเช้า" "แต่อาหารเช้ามีประโยชน์ต่อร่างกายนะคะ ว่าแต่ยัยต้นอ้อไปไหนเสียล่ะคะหรือว่ายังไม่ตื่น" "ครับ ยังนอนหลับอยู่บนห้อง"นารีพยักหน้ารับรู้ก่อนที่เธอจะขอตัวขึ้นไปบนบ้าน "เป็นไงบ้าง เมื่อคืนได้คุยกันบ้างยัง"อัคคีมองแผ่นหลังเล็กของนารีเดินหายขึ้นไปบนบ้านก่อนจะหันมามองหน้าพี่ชายของตัวเองซึ่งยังคงมองตามแผ่นหลังเล็กของหญิงสาว "หึ" "ถ้าไม่จริงใจก็หยุด ไม่อยากให้ต้นอ้อต้องคิดมาก"อัคคีรีบห้ามปรามเพราะเขารู้นิสัยของพี่ชายดีที่สุด เลว เลวมาก เลวระยำ สามคำนี้เขาขอมอบให้กับเมฆาผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาเป็นที่ดึงดูดให้ผู้หญิงวิ่งเข้ามาหา "ก็ต้องดูกันไปก่อน ไม่แน่เธออาจจะเป็นตัวจริงก็ได้" "หึ สาธุ" "นารี พอจะมีที่เที่ยวแนะนำไหม"ต้นอ้อถามขึ้นหลังจากทั้งสี่รับประทานอาหารเช้าเสร็จ "มีสิ แต่ฉันไม่มีเวลาว่างไปเที่ยวด้วยหรอกนะ" "ทำไมล่ะ" "ฉันต้องคุมคนงาน อีกเดี๋ยวพ่อค้าก็จะมารับทุเรียนแล้ว แกพาคุณทั้งสองเขาไปเที่ยวเถอะ"คำตอบของนารีทำเอาต้นอ้อหน้างอเพราะเธออยากจะพาเพื่อนคนสวยออกไปเที่ยวด้วย "แกไปกับพวกเราด้วยไม่ได้เหรอ" "ต้นอ้อครับ ไม่เอาสิไม่งอแง คุณนารีเธอต้องทำงาน" "แต่ว่า"ริมฝีปากสีสวยที่กำลังจะอ้าจำเป็นต้องหุบลงเมื่อเห็นแววตาและสีหน้าลำบากใจของเพื่อน "ขอโทษนะที่เอาแต่ใจ" "ไม่เป็นไรเลย"นารีเข้าใจในความรู้สึกของต้นอ้อเป็นอย่างดีก่อนที่ทั้งสองจะเปลี่ยนเรื่องคุย นารีบอกสถานที่เที่ยวให้กับต้นอ้อซึ่งดูเหมือนว่าเพื่อนรักของเธอจะสนใจเป็นพิเศษ "น้ำใสน่าเล่นมาก อัคคีคะ เราไปเที่ยวที่นี่กันดีกว่านะคะ"ต้นอ้อเอ่ยชวนว่าที่สามีด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพลางยื่นรูปถ่ายบนหน้าจอโทรศัพท์ไปให้ชายคนรักได้ดู "นะคะที่รัก อ้ออยากไปเที่ยว" "ตามใจที่รักเลยครับ" "ที่รักของอ้อน่ารักที่สุดเลยค่ะ จุ๊บ"นารียิ้มให้กับความน่ารักของคู่รัก เธอปล่อยให้ทั้งสามได้พูดคุยกันส่วนเธอนั้นขอตัวเก็บจานอาหารกลับเข้ามาไว้ในครัว กึก สองเท้าของนารีที่กำลังก้าวออกมาจากครัวหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าใครกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ใกล้กับบันได หัวใจดวงน้อยเต้นสั่นไม่เป็นจังหวะท้องร้อนรู้สึกวูบวาบเมื่อเห็นว่าเมฆากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้และเขาสวมใส่แค่เพียงกางเกงขาสั้นแนบลำกายแค่เพียงตัวเดียว อึก นารีกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก เธอพยายามไม่จ้องมองไปยังจุดกลางลำกายนั้นแม้ว่ามันจะเด่นสะดุดตาของเธอก็ตาม "คุณเมฆาไม่ได้ไปกับต้นอ้อและคุณอัคคีเหรอคะ"เธอข่มใจเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม เมื่อครู่เธอได้ยินเสียงรถยนต์ขับออกไปคิดว่าเขาจะตามทั้งสองไปด้วยกันเสียอีก "เปล่าครับ พอดีผมขี้เกียจไปเป็นข้างขวางคอ"นารีพยักหน้า เมฆามองหน้าสวยด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ เขาหยัดกายลุกขึ้นยืนยิ่งทำให้กางเกงตัวบางแนบไปกับท่อนขาใหญ่ ลำกายยาวเด่นชัดจนทำให้นารีต้องรีบก้มหน้าเนื้อตัวสั่นเทาเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มก้าวขาเดินเข้ามาใกล้เธออย่างเชื่องช้า "ร้อนเหรอครับ เหงื่อออกเยอะเชียว"น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นใกล้กับใบหูขาวทำเอานารีสะดุ้ง ลมหายใจตกกระทบใบหน้าทำให้เธอเงยหน้ามองเขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ "นะ..นารีขอตัวเข้าไปในสวนก่อนนะคะ" "เดี๋ยวสิครับ"ร่างเล็กของนารีสั่นเข้าไปใหญ่เมื่อฝ่ามือใหญ่ของเขาคว้าข้อมือเล็กของเธอเอาไว้ ลมหายใจของเธอติดขัดเมื่อปลายนิ้วเรียวยาวของเธอนั้นดันไปสัมผัสเข้ากับซิกแพคบนหน้าท้องของเขา เมฆานึกสนุกเมื่อเห็นร่างของนารีสั่นเป็นเจ้าเข้า เขามองเธอด้วยแววตาเจ้าเล่ห์พลางบังคับให้ฝ่ามือของเธอนั้นสัมผัสบริเวณหน้าท้องซึ่งอัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม ซิกแพคเรียงตัวสวยงาม "คะ...คุณเมฆา" "ว่าไงครับ" "ปะ...ปล่อยมือของนารีก่อนจะได้ไหมคะ" "ทำไมล่ะครับ คุณไม่ชอบเหรอ"เขายังคงไม่หยุดบังคับมือเธอ เขาคงสนุกกับการที่ได้แกล้งเธอแบบนี้สินะ พรึ่บ "อะ...อ๊าส์"ฝ่ามือเล็กอาจหาญสัมผัสเข้ากับท่อนลำกายซึ่งเริ่มขยายใหญ่ตามอารมณ์ของเมฆา นารีหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้าเธอมองหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาที่ท้าทายพลางขยับฝ่ามือถูกไถไปกับลำกายใหญ่ของเขา "อย่าพึ่งรีบสิคะ มันยังไม่ถึงเวลาของเราสองคน"เธอขยับกายเบียดเข้าไปหาร่างใหญ่ ท่อนแขนแกร่งไปด้วยมัดกล้ามโอบร่างของเธอเอาไว้ให้แนบชิดไปกับร่างกายสูงใหญ่ของเขา "ซี๊ด และเมื่อไหร่ล่ะครับ" "ยังบอกไม่ได้ค่ะ แต่ถ้าอยากกินของอร่อยต้องอดใจรอสักหน่อยนะคะ" "อย่านานนักนะครับ ผมกลัวว่าจะอดใจไม่ไหว"แววตาของเขาดั่งเสือร้ายจ้องตะครุบเหยื่อตรงหน้าโดยที่เมฆาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า นารีนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับสิงห์ร้าย เพราะถ้าเธอไม่เด็ดจริงคงไม่สามารถมัดใจอดีตสามีอย่างเข้มได้อยู่หมัด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD