วันเวลาไม่เคยหวนกลับ ต่อให้เราพยายามนั่งนับก็ไม่มีทางหวนกลับไปแก้ไขอดีตได้ ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่นัยน์ตาสีฟ้าใบหน้าคมคายมีไรหนวดขึ้นแซมประปราย แต่ซีอีโอหนุ่มวัยสี่สิบต้นๆ กลับดูมีเสน่ห์ จนกลายเป็นขวัญใจของสาวน้อยสาวใหญ่
โดยเฉพาะตำแหน่งประธานคณะกรรมการของเขา ยิ่งทำให้สาวๆ อยากทำหน้าที่คุณผู้หญิงของโรงแรมระดับห้าดาว แถมเขายังมีกิจการอสังหาริมทรัพย์อีกหลายแห่งเพิ่มมาอีกด้วย จนในเวลานี้แม้แต่เลขาสาวก็ยังแอบมีความหวังที่จะให้อีธานนั้นมองเธอบ้าง และเกวลินเองก็พยายามเข้าใกล้เขาทุกครั้งที่หล่อนนั้นมีโอกาส แต่ซีอีโอหนุ่มกลับดูเฉยชาไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเธอเลยสักนิด
“ได้เรื่องบ้างไหมลีโอ" ซีอีโอหนุ่มมาดขรึม นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน แต่สายตาของเขากลับโฟกัสไปที่ลีโอ เพื่อรอคำตอบ ซึ่งในเวลานี้เขาได้แต่หวังว่าคำบอกเล่าจากลูกน้องคนสนิท จะเปลี่ยนมาเป็นคำพูดที่ทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณเควินไม่ทราบว่าคุณฮันน่าอยู่ที่ไหน เพราะคุณเรยาไม่เคยปริปากพูดครับ" ลีโอก็รู้สึกผิดหวังมากเช่นกัน เพราะไม่ว่าเขาจะทำวิธีไหนก็ไม่สามารถตามหาฮันน่าได้ จนบางครั้งเขาก็รู้สึกสงสารอีธาน จนอยากให้เจ้านายหนุ่มสมหวังกับผู้หญิงสักคน ใครก็ได้ที่จะทำให้เจ้านายของเขาหายเศร้า เลิกจมปลักอยู่กับอดีตแบบนี้สักที แต่ก็มีมุกมายาที่มีทีท่าสนใจอีธานมาก หล่อนเป็นลูกสาวของหุ้นส่วนรายใหญ่ ที่เพิ่งเซ็นสัญญาทำบริษัทอสังหาริมทรัพย์ร่วมกัน
“ฉันคงทำเวรกรรมกับผู้หญิงไว้มาก และเวลานี้เวรกรรมมันคงตามฉันทันแล้ว ถึงต้องพลัดพรากจากคนที่ฉันรัก โดยที่ไม่สามารถตามหาเธอเจอ หรือว่าเธอได้จากโลกนี้ไปแล้ว" เสียงทุ้มเริ่มสั่นเครือ ใบหน้าและแววตาของเขาเริ่มแดงก่ำ อีธานเอามือกุมขมับทั้งสองข้างเอาไว้ เพราะเมื่อไหร่ที่เขามีเรื่องไม่สบายใจชายหนุ่มมักจะปวดหัวอย่างรุนแรง
“แต่วันนี้ผมมีบางอย่างจะบอกนาย คุณเรยาคงเผลอพูดออกมา เธอบอกว่าคุณฮันน่า ต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบ เพราะไม่อยากพบใครบางคน" สิ้นเสียงพูดของลีโอ ดวงตาคมนัยน์ตาสีฟ้าเริ่มเป็นประกายขึ้นมาอีกครั้งอย่างมีความหวัง อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าฮันน่ายังมีชีวิตอยู่ ต่อให้เธอหนีไปไกลสุดหล้าฟ้าเขียวเขาก็จะตามให้เจอ เพราะตอนนี้เขาไม่ใช่อีธานคนเดิมอีกแล้ว ชีวิตของเขาเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ที่เขาพยายามจะมีชีวิตจนรอดอยู่จนถึงทุกวันนี้ก็เพื่อฮันน่าเท่านั้น
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้น จากนั้นหญิงสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ ที่มาพร้อมกับการยั่วยวนเต็มที่ ได้เดินเข้ามาในห้องซีอีโอหนุ่มด้วยความมั่นใจ ขณะที่เลขาสาวพยายามจะอธิบาย เพราะเธอไม่ได้อยากให้มุกมายาเข้ามาพบอีธานเลยสักนิด
“รินพยายามบอกเธอแล้วนะคะว่าเข้าไม่ได้ แต่คุณคนนี้ก็ไม่เชื่อ" เลขาสาวเรียกแทนตัวเองว่ารินซึ่งเป็นชื่อเล่นของเธออย่างสนิทสนมมักคุ้นกับเจ้านายหนุ่ม ทั้งที่เขาเองก็ไม่เคยที่จะแสดงท่าทีอะไรออกไป ในทำนองที่ว่าสมภารจะกินไก่วัดเลยสักนิด
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เชิญคุณรินไปทำงานได้แล้ว ส่วนคุณมุกมายาเชิญนั่งครับ อย่าลืมเอาน้ำมาต้อนรับแขกด้วยล่ะ คุณเกวลิน" คำสั่งของเจ้านายหนุ่มทำให้เลขาสาวถึงกับทำหน้างอ เพราะเธอไม่ชอบใจเวลาที่มุกมายามาที่นี่ เมื่อหล่อนคิดว่านั่นกำลังมีคู่แข่งเพิ่มมาอีกคน
“ค่ะท่านประธาน" เลขาสาวก็รีบเดินออกไป จากนั้นไม่นานเธอก็นำเข้ามาเสิร์ฟ ด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตรกับมุกมายาเลยสักนิด
“เลขาที่นี่ เขาแต่งตัวกันแบบนี้เหรอคะ ถ้าไม่ บอกมุกคิดว่า คงกำลังทำงาน..." สิ่งที่มุกมายาพูดออกมา พร้อมกับเว้นวรรคประโยคเอาไว้ ยิ่งทำให้เกวลินไม่ชอบใจ แต่หล่อนก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อหญิงสาวเป็นแขกของเจ้านาย
“อีกหนึ่งชั่วโมงท่านประธานมีประชุมที่โรงแรมนะคะ คุณลีโออย่าลืมเผื่อเวลาด้วยล่ะ เดี๋ยวไปไม่ทันประชุม ขอตัวนะคะ" เกวลินชำเลืองมองไปที่มุกมายา พร้อมกับเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง แต่หญิงสาวก็ไม่ได้สนใจ เพราะยังไงมุกมายาก็มีดีกรีเป็นถึงลูกสาวของหุ้นส่วนรายใหญ่ เลขาหน้าห้องอย่างเธอหรือจะมาเทียบชั้นได้
“เดี๋ยวก่อนค่ะคุณเลขา พอดีว่ามุกอยากดื่มน้ำผลไม้ ช่วยเปลี่ยนจากน้ำเปล่า เป็นน้ำผลไม้ให้ด้วยค่ะ" น้ำเสียงและแววตาที่เย้ยหยันของมุกมายากำลังทำให้เกวลินพยายามข่มความโกรธเอาไว้และที่สำคัญในเวลานี้ ดูเหมือนว่ามุกมายากำลังกระตุ้นความโกรธของเธอ ด้วยการนั่งเบียดชิดท่านประธานหนุ่ม พร้อมกับคล้องแขนเขาเอาไว้ ถ้าเธอนั่งตักเขาได้คงจะนั่งไปนานแล้ว
“คุณมุกมายามาหาผมถึงบริษัท มีธุระสำคัญอะไรหรือเปล่าครับ" น้ำเสียงของอีธานพร้อมกับใบหน้าที่เรียบเฉย ไม่ได้ทำให้มุกมายาลดละความพยายามไปได้เลย เพราะถึงยังไงเธอก็จะเอาผู้ชายอย่างเขามาเป็นคู่นอนให้ได้ และจะให้ดี ถ้าได้เป็นคู่ชีวิตก็ถือว่าเป็นกำไร โดยไม่ได้สนใจว่าภายในห้องนี้ยังมีลีโอที่นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะข้างๆ
“พอดีว่าคืนนี้มีงานเปิดตัวเครื่องเพชรของบริษัทเรา คุณพ่อก็เลยให้เอาการ์ดมาเชิญ หวังว่าคุณอีธานคงไม่ปฏิเสธนะคะ" หล่อนหยิบการ์ดออกจากกระเป๋าด้วยท่าทางที่ยั่วยวนที่สุด เท่าที่อีธานเคยพบมา แต่เขากลับไม่รู้สึกยินดีปรีดากับภาพที่เห็นนั่นเลย เมื่อหัวใจของเขามีเพียงแค่ฮันน่า และชีวิตนี้ชายหนุ่มก็ไม่ปรารถนา ที่จะให้ผู้หญิงคนใดเข้ามาแทนที่เธอได้
“ขอบคุณนะครับ เอาไว้เสร็จธุระแล้วผมจะรีบแวะไป เพราะคืนนี้ที่โรงแรมของผมก็มีงาน" ท่านประธานหนุ่มพยายามพูดปฏิเสธอย่างสุภาพที่สุด แต่ดูเหมือนว่ามุกมายาจะรู้ทัน
“คุณพ่อกำชับมาว่า คืนนี้คุณต้องไปให้ได้นะคะ เพราะคุณพ่อมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยหวังว่าคุณอีธานคงจะให้เกียรติบริษัทเรา เพราะคืนนี้ เพชรมีแต่น้ำงามทั้งนั้นเลย คุณอีธานจะไม่สนใจเก็บเอาไว้ให้คนรู้ใจหน่อยเหรอคะ" มุกมายาพยายามโน้มน้าวจิตใจท่านประธานหนุ่มทุกวิถีทาง เพราะยังไงคืนนี้เธอก็ต้องควงเขาออกงานให้ได้
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงคนเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับเลขาสาว ถือถาดใส่น้ำผลไม้เข้ามาให้กับมุกมายา ด้วยใบหน้าและแววตาที่ไม่ชอบใจเหมือนอย่างเคย
“พอดีว่าน้ำผลไม้หมด มีแต่น้ำใบบัวบกคุณดื่มได้ใช่ไหมคะ" คำพูดและแววตาที่มีนัยนั้นไม่ได้ทำให้มุกมายารู้สึกโกรธเลขาสาวเลยสักนิด แต่ในเวลานี้เธอกลับรู้สึกชอบใจ ที่กำลังจะทำให้เกวลินคลั่ง เพราะหมากเกมนี้เธอเป็นต่ออยู่หลายแต้ม หรือบางทีมุกมายาก็กำลังคิดว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ที่เส้นชัยแล้วด้วยซ้ำ
“ขอบคุณนะคะสำหรับใบบัวบก ที่คุณอุตส่าห์แบ่งให้ฉัน ไม่คิดว่าคุณเลขาจะชอบดื่มเหมือนกันนะคะเนี่ย" คำพูดที่เหน็บแนมของมุกมายากลับสร้างความรู้สึกเจ็บใจให้กับเกวลิน เมื่อหล่อนไม่สามารถพูดหรือแสดงอาการอะไรออกไปมากกว่านี้ได้ นอกจากรีบเดินออกไปจากห้องด้วยหัวใจที่ร้อนเป็นไฟ และพร้อมที่จะปะทะถ้าหากเธอยังขืนอยู่ในห้องนี้อีกต่อไป
การปะทะคารมของสองสาวอยู่ภายใต้สายตาคมของอีธานตลอดเวลา และนั่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มนึกถึงใบหน้าของหญิงสาวอีกคน ที่แวบเข้ามาภายในหัวของเขา เธอช่างไม่เหมือนใคร ไม่เคยเอาอกเอาใจเขาแถมยังพูดจา และทำตัวเหมือนกับม้าที่พยศ แต่เขาก็เชื่อว่าจะสามารถกำราบเธอได้ไม่ยาก และนั่นก็คือเหตุผลที่ทำให้ชายหนุ่มกำลังนั่งอมยิ้มอยู่ในเวลานี้ ซึ่งมุกมายากำลังคิดว่าการแสดงออกบนใบหน้าของประธานหนุ่มรอยยิ้มพิมพ์ใจนั้น เขากำลังมีใจให้กับเธอ