โรงแรม A
แกรก แอด
เจ้าขาเปิดประตูเข้ามาในห้องพักด้วยท่าทางอิดโรย ก่อนที่จะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างหมดแรง เอมมี่ที่รอคอยการกลับมาของนักแสดงในสังกัดอยู่นาน เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้องเข้ามาก็รีบออกมาดูทันทีด้วยความโมโห แต่เมื่อผู้จัดการสาวได้เห็นสภาพของแม่นางเอกตัวดีก็ต้องยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจ
ใบหน้าที่ซีดเซียวไร้การแต่งแต้ม แถมตามลำคอยังเต็มไปด้วยร่องรอยแดงช้ำอีก ไหนจะท่าทางที่ราวกับโดนใครรังแกมานั่นอีก ทำให้เอมมี่รีบเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วงทันที เพราะเข้าใจว่าที่เจ้าขาหายไปทั้งคืนต้องเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีขึ้นกับเธอแน่ ๆ
“เจ้าขาทำไมสภาพเป็นแบบนี้เนี่ยลูก ใครมันทำกับเจ้าขาแบบนี้ บอกพี่เอมมี่มาเดี๋ยวนี้นะ พี่จะไปแจ้งความจับมันเข้าคุก”
มือที่ผอมบางราวกับมือของผู้หญิงจับไปตามเนื้อตัวของนักแสดงในสังกัดด้วยความเป็นห่วง แต่เจ้าขาจะส่ายหน้าน้อย ๆ พร้อมกับปิดตาลงด้วยความง่วง เพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบเช้าของวันใหม่แล้ว และด้วยนิสัยที่ชอบตื่นเช้าตามความเคยชิน ทำให้เธอไม่สามารถนอนต่อไปได้ ทั้ง ๆ ที่ร่างกายบอกว่าไม่ไหว
ก็นะ...จะให้นอนต่อในห้องของผู้ชายแปลกหน้ามันก็แปลก ๆ อยู่
“ก็แค่...หลงไปนอนค้างคืนที่ห้องของคนแปลกหน้ามาแค่นั้นเองค่ะ”
คำตอบของเจ้าขาทำเอาเอมมี่ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ โดยที่เจ้าขาไม่ต้องขยายความต่อ เธอก็เดาได้ในทันทีว่าเมื่อคืนหญิงสาวต้องไปฟัดกับใครบนเตียงมาอย่างแน่นอน เพราะรอยแดงตามลำคอถือเป็นหลักฐานชั้นดี แบบที่ไม่ต้องสอบสวนให้มากความ
แล้วไป...เธอก็คิดว่าเจ้าขาโดนฉุดไปทำมิดีมิร้ายมาเสียอีก ที่ไหนได้ลูกสาวเธอดันหลงทางกลับห้องไม่ถูกเสียนี่ แม่เจ้าโว้ย กะเทยอยากจะบ้าตายทำไมลูกสาวเธอดื้อแบบนี้นะ
“นี่อย่าบอกนะ ว่าเสียใจเรื่องละครที่ไปแคสมาจนต้องออกไปดื่มแล้วเลยเถิดกลับมาในสภาพแบบนี้ แล้วไหนจะ เอ่อ ไหนจะ แง...เจ้าขาทำไมหนูเหลวไหลแบบนี้ล่ะลูก แม่อุตส่าห์ดูแลทะนุถนอมหนูราวกับไข่ในหิน แล้วนี่อะไร ไปฟัดกับผู้ชายที่ไหนมาคะ บอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะ”
เอมมี่ถามเจ้าขาด้วยความโมโห แต่แม่นางเอกในสังกัดได้แต่ยิ้มหวานอย่างออดอ้อน พลางขยับเข้าไปกอดแขนผู้จัดการไว้ แต่กลับถูกสะบัดแขนออกด้วยความโกรธ เธอรู้ว่าเจ้าขาโตแล้ว เพราะเจ้าตัวก็เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว แต่เธอก็ไม่อยากให้เจ้าขาเรียนรู้เรื่องพวกนี้เร็วเกินไป อายุเท่านี้ยังต้องเจออะไรอีกเยอะ แต่ดูเจ้าขาสิ มันน่าไหมเล่า เล่นกลับมาสภาพนี้ ไม่ต้องพูดเยอะกะเทยก็รู้ มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าความซิงของลูกสาวเธอโดนโจรกรรมไปเสียแล้ว
แง...กะเทยเสียใจ
“พี่เอมมี่ขา เมื่อคืนเจ้าขาเมามากจนจำอะไรไม่ได้เลย รู้ตัวอีกทีก็ตื่นขึ้นมาในห้องของเขาแล้ว”
เอ่ยบอกคำตอบที่แถจนสีข้างถลอก พร้อมกับตีหน้าสำนึกผิดด้วยความใสซื่อ เพื่อยืนยันว่าเธอจำอะไรไม่ได้จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เจ้าขาจำได้ทุกอย่าง ตั้งแต่วินาทีที่เธอลุกเดินตามเขาออกไป จนกระทั่งจบลงด้วยความร้อนแรงบนเตียง ถึงจะเป็นประสบการณ์ครั้งแรก แต่ผู้ชายคนนี้กลับทำให้เธอมีความสุขมากจนลืมความเจ็บปวดยามที่เขาช่วงชิงความสาวของเธอไปเสียสนิท
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าที่ซีดเซียวก็เริ่มมีเลือดฝาดขึ้นมาจนกลายเป็นแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย เอมมี่ที่เห็นแบบนั้นรีบฟาดฝ่ามือลงบนตัวของเด็กสาวด้วยความโมโหปนหมั่นไส้
เพียะ
“โอ๊ย พี่เอมมี่เจ้าขาเจ็บนะคะ”
ร่างบางร้องขึ้นมาเสียงหลงด้วยความเจ็บ พร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบตรงรอยแดงที่ถูกฟาดป้อย ๆ แต่เอมมี่กลับแยกเขี้ยวใส่ ทว่าคนถูกตีกลับไม่ได้รู้สึกสลดเลยสักนิด ถึงจะรู้สึกเสียดายกับความสาวที่ไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้เพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่ในเมื่อมันพลาดไปแล้ว แถมพลาดด้วยความเต็มใจของตัวเอง เธอก็ต้องยอมรับผลของมันให้ได้สิถูกไหม
“ก็ตั้งใจตีให้เจ็บไงล่ะ มีที่ไหนไปฟัดกับผู้ชายแปลกหน้ามาแล้วยังมาทำหน้าฟินให้เห็นอีก แล้วตอนนั้น คิดอะไรอยู่ ทำไมคนที่หวงตัวไม่ยอมให้ผู้ชายได้เขาใกล้ง่าย ๆ นอกจากเวลาเล่นละคร ถึงยอมให้คนที่เพิ่งเจอกันแค่เพียงครั้งเดียวช่วงชิงความสาวไปได้ หืม แม่ขอถามหน่อย”
เอมมี่ถามเจ้าขาด้วยใบหน้าที่จริงจัง เธอเข้าใจอารมณ์หนุ่มสาวในช่วงวัยนี้ดี เพราะเพื่อนสาวหลายคนของเธอ ก็มักจะมีคนที่ชอบแบบถูกใจก็ไปต่อ แล้วจบลงแค่เพียงชั่วข้ามคืน แต่สำหรับเจ้าขาแล้วมันไม่ใช่ เด็กคนนี้หวงตัวมาก นอกจากละครที่ต้องเข้าฉากแล้ว เจ้าขาไม่ชอบที่จะอยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย แม้กระทั่งพระเอกชื่อดังที่แอบชอบเธออยู่ก็ตามที
“เสน่ห์ของเขามันทำให้เจ้าขาไม่สามารถละสายตาไปได้เลย ดวงตาของเขามีเสน่ห์มากนะพี่เอมมี่ โดนจ้องทีเหมือนถูกโดนสะกดเลย รู้ตัวอีกทีก็ลุกขึ้นเดินตามเขาออกจากผับไปแล้ว แหะ ๆ”
เจ้าขาบอกเหตุผลที่ทำเอาผู้จัดการคนสวยต้องยกมือขึ้นกุมขมับ แม่นางเอกของเธอเจอคนหล่อมานักต่อนัก บางคนนี่ระดับพระเอกชื่อดัง แต่ก็ไม่เคยหวั่นไหวอะไรกับเขาหรอก แล้วอยู่ ๆ มาโดนผู้ชายแปลกหน้าที่อิตาลีตกเนี่ยนะ เฮ้อ กะเทยจะเป็นลม เอมมี่ได้แต่คร่ำครวญอยู่ในใจ
แต่ในเมื่อเจ้าขาพลาดไปแล้ว เธอก็ได้แต่ทำใจแหละนะ หวังว่าคงไม่มีปาปารัชซี่ตามมาถ่ายภาพของเจ้าขากับผู้ชายคนนั้นเอาไว้หรอกนะ เพราะการเดินทางมาที่อิตาลีในครั้งนี้ เจ้าขาเดินทางมาแบบเงียบ ๆ เพื่อมาเยี่ยมมารดาโดยที่ไม่ได้ให้ข่าวหรือออกสื่อที่ไหนเลย
“ไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะ นี่คงไม่ได้นอนสินะ จัดเต็มมาซะขนาดนี้”
เอมมี่มิวายเหน็บนักแสดงสาวที่ยิ้มอย่างทะเล้น ก่อนที่ร่างบางจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องไป พร้อมกับทิ้งตัวลงบนที่นอนหนานุ่มด้วยความอ่อนเพลีย โดยที่เธอหลงลืมเรื่องสำคัญไปเสียสนิท
หลายวันต่อมา
หลังจากที่ทำเรื่องลาออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว กองทัพก็เตรียมตัวเดินทางกลับไปยังประเทศบ้านเกิด ที่ตนได้จากมานานหลายปีเหลือเกิน แต่ก่อนที่เขาจะเดินทางกลับ ก็ขอออกไปเที่ยวเล่นตามแหล่งท่องเที่ยวที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษ ไหน ๆ ก็จะกลับแล้วก็อยากเก็บภาพบรรยากาศเป็นความทรงจำครั้งสุดท้ายก่อนโบกมือลาอิตาลี
สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเวนิสเป็นอีกที่ที่กองทัพชอบมาก วันนี้เขามาล่องเรือเพื่อชื่นชมและเก็บภาพสถาปัตยกรรมงดงามที่เรียงรายอยู่สองริมฝั่งคลอง ในขณะที่เรือกำลังล่องไปเรื่อย ๆ คุณหมอก็ยกกล้องขึ้นมาเพื่อเตรียมถ่ายภาพพระราชวังที่อยู่ตรงหน้า แต่กลับมีเรือล่องผ่านมาพอดีในช่วงจังหวะที่กำลังกดชัตเตอร์
แชะ
ภาพที่ตั้งใจถ่ายกลับกลายเป็นภาพเสี้ยวหน้าด้านข้างของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่กำลังหันมาทางเขา มือหนาเหมือนถูกสะกดมันทำหน้าที่กดรัวชัตเตอร์อย่างห้ามไม่อยู่ จนกระทั่งใบหน้าที่สวยราวกับเทพธิดาหันมาทางเขาเต็มตา มือที่กำลังกดถ่ายรูปอยู่ก็หยุดชะงักไปเล็กน้อย เพราะผู้หญิงที่กำลังยิ้มอย่างสดใสอยู่ตรงหน้า คือคนเดียวกันกับคนที่เพิ่งเดินจากไป พร้อมกับร่องรอยของความสุขที่เหลือเพียงความทรงจำ
วินาทีที่เจ้าขายิ้มกว้างออกมาอีกครั้ง กองทัพก็ไม่รอช้าที่จะกดชัตเตอร์เก็บภาพถ่ายที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุขของเธอเอาไว้ ก่อนที่เรือของเขาจะล่องผ่านเรือของสาวเจ้าไป โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่ารอยยิ้มนั้นถูกใครบางคนบันทึกภาพเอาไว้ กองทัพมองเรือที่ล่องผ่านไปด้วยรอยยิ้มก่อนที่เขาจะหันกลับมามองด้านหน้าแล้วถ่ายภาพสองริมคลองอย่างมีความสุข
สนามบิน
“เดินทางปลอดภัยนะเพื่อน มีโอกาสก็กลับมาเยี่ยมฉันบ้าง ที่นี่ยินดีต้อนรับนายเสมอกองทัพ”
เควินอวยพรเพื่อนสนิทให้เดินทางปลอดภัย ด้วยใบหน้าที่ติดจะเศร้าเล็กน้อย เมื่อเพื่อนรักของเขาต้องเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดเมืองนอน กองทัพค่อย ๆ สวมกอดเพื่อนที่กอดตอบด้วยความเศร้าใจ
เราอยู่ด้วยกันมานานตั้งแต่เด็ก เควินเป็นเด็กกำพร้าที่กองทัพบังเอิญผ่านไปเจอและรู้สึกถูกชะตา จึงพากลับมาอยู่ด้วยที่คฤหาสน์ของปู่เรย์ ก่อเกิดเป็นความสนิทสนมของมิตรสหายวัยเยาว์จนถึงทุกวันนี้
ซึ่งปู่เรย์ก็ไม่ขัดข้อง ทั้งยังส่งเสียให้เควินเรียนหนังสือไปพร้อม ๆ กับเขา เพียงแต่เรียนคนละสายอาชีพเท่านั้น เพราะเควินชอบออกแบบ ส่วนกองทัพชอบทางด้านการแพทย์ ซึ่งทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนตอนนี้กลายเป็นหนุ่มวัย 27 ปี มันทำให้ทั้งคู่รักและผูกพันกันมาก
“อยู่ที่นี่ก็ดูแลตัวเองดี ๆ อย่าดื่มหนักจนลืมคิดถึงสุขภาพล่ะ ช่วงไหนที่ลาพักร้อนยาว สัญญาว่าจะบินกลับมาเยี่ยมนายทุกปีเพื่อนรัก”
กองทัพตบบ่าเควินเบา ๆ อย่างปลอบโยน พร้อมกับส่งยิ้มให้เพื่อนเป็นการตบท้าย ก่อนที่คุณหมอจะตัดใจหันหลังเดินจากไป โดยที่มีลูกน้องของบิดาเดินลากกระเป๋าใบใหญ่ตามหลังมา เควินยืนส่งเพื่อนจนร่างสูงนั้นหายลับไปจากสายตา เขาจึงเดินออกมาจากสนามบินด้วยความรู้สึกเศร้าใจ
หลังจากที่ขึ้นมาบนเครื่องเรียบร้อยแล้ว กองทัพก็เดินหาที่นั่งของตัวเองจนเจอจากการช่วยเหลือของแอร์โฮสเตสสาว ข้าง ๆ กันมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้ว เขาค่อย ๆ หย่อนตัวลงนั่งเบา ๆ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนข้าง ๆ ที่ดูเหมือนกำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทรา แต่เมื่อนั่งลงเรียบร้อยแล้ว ของที่อยู่ในมือของผู้หญิงคนนั้นดันตกลงมาบนพื้นตรงหน้า กองทัพจึงรีบก้มลงเก็บของสิ่งนั้น เพื่อวางคืนให้คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ทันที
แต่เมื่อคุณหมอเงยหน้าขึ้นมาเพื่อเตรียมคืนของให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขากลับต้องชะงักไป เมื่อพบว่าผู้หญิงคนนี้คือ เจ้าขา ส่วนหญิงสาวที่เพิ่งงัวเงียตื่นก็ตกใจไม่แพ้กัน ดวงตากลมโตเบิกกว้างราวกับเห็นผี เพราะผู้ชายที่เธอคิดว่าเขาเป็นคนอิตาลีและคงไม่มีวันได้พบกันอีก กลับกลายเป็นเพื่อนร่วมทางบนเครื่องบินลำนี้ ที่กำลังเดินทางมุ่งหน้าสู่ประเทศไทยเสียได้
คุณหมอหนุ่มยิ้มออกมาน้อย ๆ ราวกับถูกใจ เมื่อบังเอิญเจอคนที่เคยมีความสัมพันธ์กันทางกายอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เขาคงต้องขอเรียกมันว่า พรหมลิขิตแล้วแหละ ส่วนเจ้าขาเองก็กำลังทำหน้าราวกับจะร้องไห้
ให้ตายเถอะ ถ้ากลับไปที่เมืองไทยเขาต้องรู้แน่ ๆ ว่าเธอเป็นดาราชื่อดัง ไหนจะความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์นั่นอีก นี่มันถึงคราวซวยของเธอหรืออย่างไรกันนะยัยเจ้าขา