ร่างสูงเดินเข้ามาภายในตัวอาคาร ตาคู่คมก็สอดส่องมองหาจุดที่น่าจะเป็นสถานที่ถ่ายทำ ก่อนที่สองเท้าจะเดินไปเรื่อย ๆ โดยที่กองทัพไม่รู้ตัวเลยว่า รูปร่างและหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาสะดุดตาแก่ผู้พบเห็นขนาดไหน ขนาดผู้ชายด้วยกันยังเหลียวหลังมองจนคอแทบเคล็ด เพราะส่วนประกอบบนใบหน้าของเขาไม่มีส่วนไหนเลยที่ไม่โดดเด่น
กองทัพเดินเข้ามาข้างในเรื่อย ๆ จนกระทั่งเจอกับบริเวณลานกว้าง ที่เต็มไปด้วยสตาฟกองถ่ายและกล้องตัวใหญ่ รวมถึงมีคนหลายคนที่อยู่ ณ บริเวณนั้น ลานกว้างถูกจัดตกแต่งใหม่มีพร็อพประกอบวางอยู่เรียงราย ส่วนคนที่เขาตามหาก็กำลังนั่งตัวตรงให้ช่างแต่งหน้าบรรจงปัดแก้ม พร้อมจัดแต่งทรงผมให้อย่างสวยงาม มุมปากหนาเผลอยกยิ้มโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นเจ้าขาที่แย้มยิ้มพูดคุยกับช่างแต่งหน้าด้วยความสดใสร่าเริง คุณหมอหนุ่มเดินไปนั่งลงที่มุมหนึ่ง เพื่อรอเวลาให้เจ้าขาทำงานเสร็จ แล้วเขาค่อยเดินเข้าไปขอเสื้อคืน เพราะถ้าเข้าไปตอนนี้คงเป็นการเสียมารยาทน่าดู
“น้องเจ้าขาสวยมาก ๆ เลยค่ะลูกสาว”
พี่แยมช่างแต่งหน้าประจำกองถ่ายชมเปาะไม่ขาดสาย เป็นช่างแต่งหน้าที่อยูในวงการนี้มานาน แต่เจ้าขาคือคนแรกที่ไม่ว่าจะแต่งหน้าโทนไหนก็สวยไม่มีที่ติ เบ้าหน้าที่สวยราวกับนางฟ้า มันทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่า ใครกันนะที่จะเป็นเจ้าของหัวใจของนางฟ้าตัวน้อย ๆ คนนี้
“พี่แยมก็ แต่งหน้าให้เจ้าขาทีไรก็ชมเจ้าขาทุกทีเลย น้องเขินจะแย่แล้ว”
เจ้าขายิ้มหวานให้ ก่อนที่ทั้งสองสาวจะพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน ทำให้คนที่แอบมองอยู่ในมุมหนึ่งได้แต่ยิ้มตามกับความน่ารักของเธอที่ไม่ว่าจะพูด จะยิ้ม หรือหยอกล้อกับใคร กิริยาทั้งหมดล้วนน่ามองและน่าเอ็นดูนักในสายตาของเขา จนกระทั่งมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้าไปทักทายเจ้าขา รอยยิ้มของกองทัพจึงค่อย ๆ หายไป กลายเป็นแอบเบะปากออกมาโดยไม่รู้ตัว
“สวัสดีครับน้องเจ้าขา ยินดีมาก ๆ เลย ที่ได้ถ่ายโฆษณาด้วยกันวันนี้ พอพี่รู้ว่าน้องเจ้าขารับงานนี้นะ พี่ก็รีบตอบตกลงรับงานทันทีเลย มันคงเขิน ๆ ที่จะพูดนะ แต่พี่น่ะอยากร่วมงานกับน้องเจ้าขามานานแล้ว ไม่เจอกันในละคร แต่มาเจอกันในโฆษณาก็ยังดีเนอะ”
ภีม ดาราหนุ่มชื่อดังแถวหน้าของวงการ เอ่ยทักทายเจ้าขาด้วยความยินดีที่ได้ร่วมงานกับเธอ ในขณะที่นางเอกสาวรีบยกมือไหว้นักแสดงรุ่นพี่ด้วยความนอบน้อม เพราะภีมอยู่ในวงการมานานกว่าเธอ และยังเป็นพระเอกชื่อดัง ที่ไม่เคยมีใครโค่นตำแหน่งพระเอกแถวหน้าลงได้เลย
“เจ้าขาก็ยินดีมาก ๆ ค่ะที่ได้ร่วมงานกับพี่ภีม เจ้าขาตามดูละครของพี่ภีมหลายเรื่องเลยค่ะ พี่ภีมแสดงเก่งมาก ตีบทแตกทุกเรื่อง เจ้าขานะนับถือความสามารถจริง ๆ ค่ะ”
เจ้าขายกนิ้วโป้งให้คนตรงหน้าอย่างชื่นชมในความสามารถของภีมในขณะที่คนถูกชมได้แต่ยิ้มรับคำชมอย่างเขิน ๆ ก่อนที่ผู้กำกับจะประกาศเรียกนักแสดงหนุ่มสาวทั้งสองคนให้มาเข้าฉากที่เซตไว้แล้ว ซึ่งภาพทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของกองทัพ ที่มองการถ่ายทำด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจ
“ทำไมต้องกอดกันแน่นขนาดนั้นด้วยวะ”
น้ำเสียงทุ้มพึมพำออกมาเสียงเบาด้วยความไม่ชอบใจ เพราะภาพตรงหน้าคือภาพที่เจ้าขากับภีมกำลังกอดกันอย่างแนบแน่น ถึงมันจะเป็นการถ่ายโฆษณาก็เถอะ แต่มันต้องแน่นขนาดนั้นไหม ได้แต่เก็บความรู้สึกไม่พอใจเอาไว้ พร้อมกับนั่งมองดูการถ่ายทำที่เพิ่งผ่านไปได้เพียงครึ่งทาง ก่อนผู้กำกับจะก็สั่งให้นักแสดงไปพัก เพื่อเตรียมเซตฉากต่อไป
กองทัพที่สบโอกาสจึงเดินเข้าไปยังบริเวณกองถ่าย เพื่อจะไปขอเสื้อคืนจากเจ้าขา หากแต่เขากลับถูกทีมงานเข้ามาขวางไว้ เพราะชายหนุ่มไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในกองถ่ายนี้ ดูจากเสื้อที่ไม่ได้สกรีนคำว่า “Staff” ทีมงานจึงต้องเข้ามากันคนนอกให้ออกไปจากบริเวณนี้
“ขอโทษด้วยนะครับ พอดีเรากำลังถ่ายโฆษณาอยู่ ถ้าคุณเป็นแฟนคลับคุณภีมหรือคุณเจ้าขา รบกวนนั่งรอด้านนอกเงียบ ๆ ก่อนนะครับ”
กองทัพขมวดคิ้วมุ่นด้วยความแปลกใจ พร้อมกับชี้มาที่ตัวเองด้วยความสงสัยว่า เขาไปเป็นแฟนคลับของเจ้าขาหรือไอ้ภีมอะไรนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่ ใครเขาอยากเป็นแฟนคลับกัน เขาไม่เคยคิดและไม่คิดจะเป็นด้วย
“พอดีผมไม่ใช่แฟนคลับครับ แต่มีธุระกับคุณเจ้าขานิดหน่อย”
คำตอบของกองทัพทำเอาทีมงานเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจแกมสงสัย ก่อนที่ร่างสูงจะถอดแว่นกันแดดออก แล้วส่งยิ้มให้ทีมงานที่อ้าปากค้างทันทีกับความหล่อออร่า ราวกับมีแสงเปล่งประกายออกมาจากตัวของเขา จนกระแทกตาทีมงานคนนั้นให้ต้องขยี้ตาอยู่หลายครั้งทีเดียว
“หรือถ้าไม่อย่างนั้น ผมรบกวนคุณไปแจ้งคุณเจ้าขาหน่อยได้ไหมครับว่า ผมไคมาขอพบ”
กองทัพรบกวนทีมงานที่ทำหน้าลังเลแค่เพียงชั่วครู่ ก่อนที่จะพยักหน้าตอบรับ เรียกรอยยิ้มกว้างด้วยความชอบใจ เมื่อเห็นทีมงานคนนั้นเดินเข้าไปหาเจ้าขา ที่กำลังนั่งพูดคุยอยู่กับภีมและช่างแต่งหน้าอย่างออกรส แต่พอทีมงานชี้มือมาทางคนตัวสูงที่ยืนอยู่ เจ้าขาก็รีบหุบยิ้มทันที แล้วรีบลุกขึ้นเอ่ยขอตัวกับทุกคน เพื่อออกมาหาคนที่ยืนรอเธออยู่
“ทำไมคุณไคยังไม่กลับล่ะคะ มีอะไรกับเจ้าขาอีกหรือเปล่า”
เจ้าขาถามอีกคนที่ยิ้มน้อย ๆ ในหน้าด้วยความกังวลแกมสงสัย ที่เขาไม่ยอมจากไป หากแต่ตามเธอมาถึงกองถ่ายโฆษณาราวกับสตอล์กเกอร์ที่คอยแอบตามเธออยู่ตลอดเวลา เจ้าขาคิดเองเออเองจนความกังวลฉายชัดอยู่บนใบหน้าสวย แต่แล้วความคิดที่อยู่ในหัวก็ต้องแตกละเอียดไม่มีชิ้นดี เมื่อกองทัพตอบคำถามที่ทำเอาใบหน้าสวยมีสีแดงระเรื่อขึ้นตามพวงแก้มด้วยความเขินอาย
“คุณเจ้าขาลืมคืนเสื้อผมหรือเปล่าครับ ผมให้ยืมเฉย ๆ นะครับไม่ได้ให้เลย”
คำตอบนั้นทำให้ใบหน้าเนียนร้อนผ่าวด้วยความเขินอาย เมื่อสิ่งที่เธอคิดไปเองช่างไม่ตรงกับคำตอบของคนตรงหน้าเลยสักนิด จะว่าไปแล้วหน้าตาที่หล่อราวกับเทพบุตรแบบเขาไม่จำเป็นต้องมาตามติดชีวิตเธอด้วยซ้ำ เพราะผู้ชายแบบเขาผู้หญิงน่าจะเป็นฝ่ายเข้าหาเสียมากกว่า
“อ๋อ แบบนี้นี่เอง แหะ ๆ ถ้าอย่างนั้นรอตรงนี้สักครู่นะคะ เดี๋ยวเจ้าขาไปเอาเสื้อมาคืนค่ะ”
กองทัพพยักหน้ารับเมื่อเธอบอกให้เขารอ ก่อนที่เจ้าขาจะรีบหันหลังแล้วเดินเร็วไปเอาเสื้อมาคืนเขาทันที พร้อมกับนึกตำหนิตัวเองในใจที่ไม่ยอมคืนเสื้อเขาไปตั้งแต่ที่ลงจากรถ กลับลืมตัวถือติดมือมาด้วยจนเขาต้องตามมาทวงคืน อีกทั้งเขายังนั่งรอให้เธอทำงานจนถึงเวลาพักโดยที่ไม่โวยวายเลยสักนิด
“นี่ค่ะ เจ้าขาขอโทษด้วยนะคะที่เผลอเอาติดมือมาด้วย คุณไคเลยต้องมานั่งรอเจ้าขาตั้งนานแน่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”
เจ้าขาก้มหัวให้อย่างรู้สึกผิด ในขณะที่คนตรงหน้าตกอกตกใจกับการกระทำนั้น มือใหญ่รีบดันไหล่เจ้าขาให้ตั้งตรงเหมือนเดิมด้วยความลืมตัว ทำเอาเจ้าขาชะงักไปเล็กน้อย ส่วนกองทัพก็รีบดึงมือกลับทันที ซึ่งการกระทำของสองหนุ่มสาว ตกอยู่ในสายตาของคนทั้งกองถ่ายที่มองมายังทั้งคู่ด้วยความสงสัย ไม่เว้นแม้แต่ผู้กำกับที่แอบปรายตามองทั้งคู่ด้วยความสงสัยเช่นกัน
“เรื่องระหว่างเราสองคน ผมขอสัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่า จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาดครับ แต่เรื่องที่คุณขอให้ผมทำเป็นไม่รู้จักคุณ ข้อนี้ผมคงทำให้ไม่ได้จริง ๆ ถึงเราจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ถ้ามีโอกาสได้เจอกันอีกครั้ง ผมเองก็อยากให้เราทักทายกันเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง”
เสียงทุ้มเอ่ยบอกด้วยความจริงใจ ปราศจากการเสแสร้งพร้อมกับส่งรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนมาให้เธอ ทำให้หัวใจของเจ้าขาเต้นแรงจนแทบกระเด็นออกมานอกอก แววตาและรอยยิ้มของเขา ทำให้เธอไม่สามารถละสายตาไปได้ เหมือนเหตุการณ์ในวันนั้นมันเกิดขึ้นอีกครั้ง ร่างสูงเห็นอีกคนเงียบไปก็ก้มหัวเล็กน้อยและหันหลังเตรียมเดินจากไป แต่แล้วขาที่กำลังจะก้าวเดินกลับต้องชะงักอยู่กับที่ด้วยความตกใจ
หมับ
เจ้าขาตัดสินใจคว้าข้อมือของคนตรงหน้าเพียงแค่เสี้ยววินาที ที่เขากำลังจะออกก้าวเดิน ใจเธอมันสั่งการออกมาแบบนั้น ร่างกายของเธอก็เลยตอบสนองไปตามความคิดในหัวทันทีอย่างไม่ลังเล ก่อนที่กองทัพจะหันกลับมาช้า ๆ พร้อมกับมองข้อมือของตัวเองที่ถูกเธอจับเอาไว้ด้วยความสงสัย
“รอเจ้าขาหน่อยได้ไหมคะ เจ้าขาถ่ายโฆษณาต่ออีกแค่แป๊บเดียว เย็นนี้เจ้าขาขออนุญาตเลี้ยงข้าวตอบแทนคุณไคได้ไหมคะ เจ้าขาอยากขอบคุณที่คุณไคช่วยเหลือเจ้าขาถึงสองครั้งแน่ะ”
คำพูดของเจ้าขาทำเอากองทัพถึงกับยิ้มออกมาน้อย ๆ ในหน้า ก่อนที่จะมองมือบางที่จับมือของเขาเอาไว้ ทำเอาเจ้าขารีบปล่อยมือเขาในทันที เมื่อเผลอจับมือนุ่ม ๆ ของเขาไม่ยอมปล่อยเป็นเวลาหลายนาทีทีเดียว
“ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจช่วยเหลือ คุณเจ้าขาเป็นถึงดาราชื่อดัง ถ้าเกิดมีใครเห็นเราไปกินข้าวด้วยกันแล้วเข้าใจผิด คุณเจ้าขาจะเสียหายเอาได้นะครับ”
คำพูดของกองทัพทำให้เจ้าขาฉุกคิดตาม แต่อีกใจก็เกิดข้อโต้แย้ง เมื่อคำสอนของมารดาผุดขึ้นมาในหัว ที่บอกว่าใครดีกับเรา เราก็ต้องไม่ลืมตอบแทนบุญคุณ เมื่อคิดได้ดังนั้นเจ้าขาก็เตรียมจะเอ่ยปากขอให้เขารอเธอในวันนี้ หากแต่กองทัพกลับขัดขึ้นมาเสียก่อน
“เรายังมีเวลาตอบแทนกันอีกเยอะนะผมว่า อีกอย่างผมเองก็ไม่รีบครับ บางทีโลกอาจจะกลมจนทำให้เราวนกลับมาเจอกันอีกครั้งก็ได้ ถึงตอนนั้นคุณค่อยเลี้ยงข้าวผมก็ไม่สาย หรืออาจจะได้เลี้ยงข้าวผมไปตลอดชีวิตก็ได้ใครจะรู้”
คำพูดทีเล่นทีจริงของกองทัพทำเอาเจ้าขาถึงกับแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อ เมื่อเขาหยอกเธอไปถึงเรื่องของอนาคต ที่ไม่เคยอยู่ในหัวของเธอด้วยซ้ำ ก่อนที่กองทัพจะเดินเข้ามาใกล้ ๆ เจ้าขาแล้วจับมือบางของเธอขึ้นมา พร้อมกับเขียนข้อความบางอย่างลงไป แล้วส่งท้ายด้วยรอยยิ้มอย่างน่ารักให้คนหน้าเหวอแล้วหันหลังเดินจากไปทันที
ส่วนเจ้าขาได้แต่ท่องจำสิ่งที่เขาเขียนบนมือของเธอจนขึ้นใจ พร้อมกับมองตามแผ่นหลังกว้าง ที่หายลับไปจากสายตาด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ
กองทัพเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีมาจนถึงรถมอเตอร์ไซค์คันโปรด สารภาพตามตรงว่าอยากตอบรับคนสวยใจแทบขาด แต่ที่เขาไม่รอเจ้าขาเพื่อให้เธอเลี้ยงข้าวเขาในวันนี้ ก็เป็นเพราะว่าเธอกับเขายังต้องเจอกันอีกแน่ ๆ อย่างไรล่ะ ดั่งคำที่เขาว่ากันว่า...
“ชอบใครก็ต้องเอาตัวเองไปอยู่ในจุดที่เขาจะมองเห็น”
ซึ่งคนอย่างกองทัพ กันต์กวี ไม่พลาดอยู่แล้ว เกิดมาจนอายุ 27 ปี ยังไม่เคยรู้จักกับความรักสักที นอกเสียจากความรู้สึกตกหลุมรักครั้งแรกกับสาวน้อยในวันวานคนนั้น
เจ้าขา เจ้าของรอยยิ้มที่ติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเขาทั้งยามหลับและยามตื่น