7 ระวังจะเสียท่า

935 Words
ช่วงค่ำ_ @ บ้านครอบครัวพิพิม "ว่าไงจ๊ะลูกสาวของแม่พลอย อยากบอกอะไรแม่ไหมจ๊ะ" ผู้เป็นแม่รีบมาทิ้งกายข้างลูกสาว ครั้นจะปลอบประโลมเหมือนทุกครั้งที่เคยทำ ก็เกรงว่าเพิ่มความโกรธให้สามีแทน "แม่พลอย...พิพิมไม่ได้ตั้งใจไปที่นั่นเลย ไม่รู้มาก่อนว่าดาริณจะพาไปจริงๆ" น้ำเสียงใสอ่อนลง เธอไม่ค่อยโดนบุพการีดุสักเท่าไหร่ แค่หันไปเห็นหน้าบิดาความรู้สึกผิดเริ่มพรั่งพรู "แล้วทำไมเราไม่กลับบ้านล่ะ พิพัฒน์ก็อยู่ที่นั่น ลูกเป็นผู้หญิงนะพิพิม โชคดีแค่ไหนแล้วที่ลาไคไปเจอ" เอเดนพูดเสียงแข็ง ท่านจะไม่ยอมปล่อยความผิดครั้งนี้เด็ดขาด เพื่อสั่งสอนไม่ให้ลูกสาวทำผิดซ้ำซาก "พิพิมผิดเอง หนูขอโทษ...." เธอก้มลงยกมือไหว้แก่บุพการีทั้งสองอย่างความรู้สึกผิดจับใจ ในขณะที่มารดาเริ่มใจอ่อน ท่านเลี้ยงลูกมาเองเลยรู้นิสัยดี "สิ่งที่พ่อเคยสอนเรามาตลอด ทำไมเราไม่เชื่อฟัง ในเมื่อลูกก็เห็นว่ามันผิดปกติไม่ใช่เหรอ" "......" ลูกสาวก้มหน้าลงอย่างยอมรับความผิด "ถ้าเรายังเป็นแบบนี้ สักวันจะเสียท่าไอพวกศัตรูที่เรามองไม่เห็น" "อย่าโกรธลูกเลยนะเฮีย" เพชรพลอยเอื้อมไปจับมือสามีร้องขอ แค่นี้ก็ถือว่าลูกสาวได้รับบทเรียนมากเกินพอ "แต่จะให้พ่อปล่อยผ่านไปเฉยๆมันไม่ได้หรอกนะ พ่อจะทำโทษเรา แล้วแม่ไม่ต้องมาขอร้องอีก" ผู้เป็นบิดาลุกยืนพรวด ไม่หันมองทางเมียรัก เกรงจะเห็นแววตาขอร้อง นับว่าใจแกร่งบีบหน่วงไม่แพ้กัน ที่รู้ว่าลูกสาวหลงกลภัยอันตราย โดยยังจับต้นทางสาเหตุไม่ได้ "เฮีย..." "พ่อเดน..." น้ำเสียงอ่อนหวานพูดเบาๆ "ต่อไปนี้ พ่อจะสั่งให้ลูกอยู่แต่ในบ้านกับมหาลัยเท่านั้น จนกว่าจะจับตัวคนร้ายได้ เข้าใจไหมพิพิม! ถ้าเป็นที่อื่นนอกเหนือจากคำสั่งพ่อ เราได้เห็นดีกันแน่" น้ำเสียงเข้มบอกอย่างหนักแน่น ทั้งบริวารทุกคนต่างได้ยินชัด "พิพิมขอโทษ..." สองแม่ลูกรีบโผกอดกัน บนใบหน้าใสตอนนี้นองน้ำตา เธอกำลังจะขาดอิสระ ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงกลับคืนสภาพเดิม "เสร็จแล้วรีบตามเฮียไปที่ห้อง" เอเดนหันบอกภรรยา ก่อนท่านจะเผลอใจอ่อนปล่อยลูกสาวไม่ได้รับโทษ ถึงเดินดุ่มขึ้นบ้านชั้นบนต่อ "แม่รู้ว่าลูกเสียใจนะพิพิม แต่คุณพ่อทำไปเพราะลูกนะ ไม่อยากคนร้ายยังลอยนวล เผื่อมันย้อนกลับมาทำร้ายลูกอีก" ใจนึงของท่านยังนึกแบบนี้สามี ถึงได้รับรู้ความคิดเช่นเขา "ค่ะ พิพิมยอมรับผิด" @ ท่าเรือ ในช่วงเวลากลางดึก ท่ามกลางชายบอดี้การ์ดมากมาย ช่วยกันทำงานยกลังสินค้าขะมักเขม้น ไม่ลืมพกอาวุธประจำกายกันทุกคน "เครื่องดื่มล็อตนี้มันเปลี่ยนรอยปั๊มใหม่ แต่รสชาติแมร่งดีเหมือนเดิมนะเฮีย" พาเรนพูดบอก ตอนยกขวดเครื่องดื่มน้ำสีอำพันกระดก ท่ามกลางผู้เป็นเจ้าของลังสินค้ายืนมองนิ่ง "นิสัยมึงก็ดีเหมือนเดิมนะ" ลาไคว่าเหน็บ แบมือรับอาวุธปลายแหลมจากลูกน้อง มีดกรีดเปิดลังสีน้ำตาลใหม่ เพื่อเช็คขวดเครื่องดื่มราคาสูงลิ่ว "ชม?" พิพัฒน์แกล้งเจาะจงประโยคสนทนา ขณะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางเกงยีนส์อ่านข้อความ แล้วพบว่ามารดารายงานเรื่องที่พี่สาวถูกกักบริเวณ "ไม่น่าเข้าใจยากดิว่ะ นานๆทีพี่กูจะชมคนอย่างมึงนะ" คาเรนพุ่งมากอดคอเพื่อนชาย แอบชโงกหน้าอ่านข้อความในโทรศัพท์ด้วยเช่นกัน "เอางั้นเลยหรอเฮีย ผมกระดกหมดขวดเลยแล้วกัน" "อยากให้ชมมึงด้วยไหมล่ะ?" คนถูกกระแหนะกระแหนรีบย้อนถาม เขายังลงโทษไม่กี่วันดี ดูท่าแล้วอีกฝ่ายไม่สำนึกเลย "มะไม่ดีกว่าเฮีย ช่วงนี้อารมณ์ขึ้นง่ายเนอะ" "จะช่วยพี่กูไงดีว่ะ?" แต่พิพัฒน์ดันเริ่มเปลี่ยนประโยคสนทนา "ยัยพิพิมโดนแบบกูเลยว่ะ ชีวิตแมร่งเหมือนนกในกรงทองชัดๆ" คาเรนพูดบอก ระหว่างที่อ่านข้อความของมารดาพิพัฒน์คุยโต้ตอบกัน "โดนไรมึง?" พาเรนล่ะขวดเครื่องดื่มหันตามเสียงต้นเหตุ "กักบริเวณไง กูยังโดนเฮียสั่งเลย" "สมควร" แต่ผู้เป็นพี่ชายปล่อยเสียงเข้มบอก ไม่ได้รู้สึกสนใจเรื่องราวของหญิงสาวแม้แต่น้อย แถมยังเข้าใจบทลงโทษนั้นอีก ฝ่ามือหนาหยิบเอาเครื่องดื่มขวดแก้วทึบขึ้น เปิดฝากระดกพรวดลิ้มรสชาติ กระตุ้นให้เลือดในกายร้อนพรั่งพรู "ป่านนี้นอนร้องไห้ขี้มูกโป่งแล้วมั้ง" พิพัฒน์เอ่ย ตอนยังก้มหน้าพิมพ์โทรศัพท์ "มึงก็รีบกลับบ้านไปดูดิ" คาเรนใช้ข้อศอกกระทุ้งสะกิด ยังแอบกังวลว่าคนในประโยคสนทนาจะเป็นเช่นไร ยิ่งมีจิตใจบอบบางมาตั้งแต่เด็ก "ไปตอนนี้กูก็ได้โดนพ่อฆ่านะสิ" "แต่งานมึงเสร็จแล้ว?" ลาไคบอกเลิกหัวคิ้วมองไปทางด้านลังสินค้า ลูกน้องคนสนิทจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อใช้จำหน่ายในสถานบันเทิงที่พิพัฒน์ดูแล "โถ่เฮีย...ขออยู่ดื่มอีกหน่อยเถอะ ถ้ากลับไปยัยพิพิมต้องมาร้องให้ช่วยแน่ๆ" เขาสมควรจะเกิดเป็นพี่ชายซะมากกว่า ถ้าพี่สาวจะอ้อนทำนิสัยอย่างลูกคนเล็ก "ได้...แต่หมดลังนะ" ............................................................. อย่าถามเรื่องนี้พระนางจะได้รักกันตอนไหน ไรท์ยังไม่รู้เลย 555
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD