@ บ้านลาไค
"อยู่นิ่งๆได้ไหมว่ะ เพราะเธอนั่นแหละทำให้เฮียโกรธฉันหน่ะ!" คาเรนพ่นวาจาด้วยอารมณ์ขุ่น ตอนเห็นหญิงสาวบนโซฟามีท่าทีดี๊ด๊า ในขณะที่เขากำลังจะโดนพี่ชายตัวเองด่า
"อย่ามามั่วนะ! นายนั่นแหละเอาฉันไปอ้าง แต่ตัวเองไปกับสาวที่ไหนก็ไม่รู้ อย่ามาโมเมเลย" มือบางผิวขาวละออจับหนังสือบนตักปิดกระแทกลง จ้องดวงตาเขม่งกลับไม่พอใจ
"ได้ไง? ฉันอุตส่าห์รับปากกับพ่อแม่เธอแล้วนะ ว่าลูกสาวแสนดีอยู่เรียนพิเศษ อันที่จริงก็แอบไปซ้อมเชียร์ลีดเดอร์"
"อย่ามาปากมากนะ! รู้งี้ไม่อยู่เป็นเพื่อนก็ดี" พิพิมยกขาเรียวนั่งไขว้ข้าง เบะปากอิ่มชมพูให้ชวนหมั่นไส้ โดยที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าของบ้านได้ยืนอยู่ตรงประตู เหลือบมองทั้งเธอและน้องชายอย่างคาดโทษ
"ให้กราบเลยไหมล่ะ?"
"จะสำนึกบุญคุณป่ะ?" คนตัวเล็กเอียงใบหน้าจิ้มลิ้มมอง อันที่จริงเธอจบมหาลัยแล้วแต่ยังเรียนต่อปริญญาโท เพื่อหาข้ออ้างไม่อยากรับช่วงธุรกิจของบิดาต่อ เลยทิ้งให้พิพัฒน์ดูแลแทน
"มันจะมากไปแล้วนะยัยพิพิม!" คนบอกพยามหยิบหมอนอิงมาตีคืนอีกฝ่าย สลับกันไปมาไม่ยอมแพ้
"โทษของตัวเองคืออะไรคาเรน!!!" น้ำเสียงดุดันเอ่ยดัง จนทำให้บุคคลภายในบ้านต่างหวาดหวั่น ภาพเหตุการณ์ความวุ่นวายกลับมาสงบนิ่ง
ร่างสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซ็นต์ก้าวมายืนตรงกลาง พอมีลูกน้องชายคนสนิทวิ่งมาใกล้ เขาถึงจะยื่นเสื้อสูทตัวแพงให้
"คืนเช็คให้หนึ่งเดือนไงเฮีย น้องคนนี้ไม่ลืมหรอก" คาเรนดีดตัวลุกพรวด เอามือไขว้หลังชี้ให้หญิงสาวหยุดปะทะอารมณ์
"สวัสดีค่ะพี่ไค" ร่างเล็กลุกยืนตาม พนมมือไหว้ให้ความเคารพ ในเมื่อชายหนุ่มตรงหน้ามีอายุมากกว่าหลายปี
"เธอมาที่นี่ทำไม?"
"คะ?คือว่าพิพิมมาเป็นเพื่อนคาเรนเฉยๆ ค่ะ มาช่วยยืนยันว่าเมื่อวานนายนี่ไปกับซื้อหนังสือกับพิพิมจริงๆ" เธอรู้ว่าลาไคไม่ให้คนอื่นเข้าบ้านตัวเองง่าย ยิ่งถ้าเป็นเพศสตรีแล้วด้วย
"เธอว่างมากหรือไง! ถึงคิดว่างานการของคนอื่นเป็นเรื่องสนุก!" เจ้าของคำพูดแสดงอารมณ์เดือดดาล ยกนิ้วชี้ใส่ไม่อาจเก็บท่าทาง
เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หญิงสาวชอบเอาแต่ใจ นึกว่าวุ่นวายกับครอบครัวเขา จนบางครั้งงานสำคัญมีปัญหาคลุมเครือ
"เอ่อคือเฮีย...ผมผิดเอง ที่ลำดับความสำคัญไม่ถูกเองต่างหาก" ด้านน้องชายรีบมายืนข้างคนโมโห จะคว้าแขนข้างที่ยกชี้ต่อว่าลงก็โดนสะบัดทิ้ง
"พิพิม..." ใบหน้าจิ้มก้มลงปกปิดน้ำตาคลอ มันเห่อแดงจนเห็นชัด ลูกน้องชายรอบบ้านต่างสงสาร
ครอบครัวเธอและลาไคต่างสนิทสนมกันหลายชั่วอายุคน หญิงสาวเลยเห็นว่าเขาคือพี่ชายแท้ๆคนนึง ทั้งที่อีกฝ่ายมักโมโหร้ายใส่ตลอดเวลา
"ถ้าเธอยังคิดไม่ได้ แล้วทำให้งานการฉันเสียหายอีก ฉันจะยื่นคำขาดกับพ่อแม่เธอแน่!" สายตาคมจ้องมองไม่กระพริบ แค่เศษน้ำตาไม่อาจเรียกความเห็นใจได้เลย
"ฉันขอโทษนะ แต่เดี๋ยวฉันไปส่งเองดีกว่า" พอเห็นเหตุการณ์เริ่มไม่ดี กลายเป็นว่าโชคร้ายดันตกกับหญิงสาวแทน คนต้นเรื่องรีบรู้สึกผิด คว้าลำแขนเรียวรั้งไว้ไม่ให้วิ่งไปขึ้นรถ
"ฉันจะกลับเอง แล้วพี่ไคก็ไม่ต้องกลัวว่าพิพิมจะมาที่นี่อีกแล้วนะคะ" เธออดกลั้นความกลัวและความเสียใจไว้ในอก จะไม่ให้ใครเห็นว่าอ่อนแอสักนิดเดียว
เธอเองก็เป็นลูกสาวมาเฟียเช่นกัน เรื่องอะไรต้องอ่อนไหวให้ชายบุรุษตรงหน้า
"จำคำพูดตัวเองไว้ให้ดี" น้ำเสียงเข้มเปรยบอก ปรายหางตามองราวไม่มีค่า
"เดี๋ยวก่อนสิ! พิพิม!..." คาเรนจะก้าวเดินตามไป แต่พอเหลียวเห็นสายตาพี่ชาย เป็นอันต้องหยุดชะงัก
"ไอไดร์ฟ! ไอดั๊มพ์!" ลาไคตะเบ่งเรียกดัง
"ครับนาย"/"ครับนาย" ฝาแฝดบอดี้การ์ดมาพร้อมเพรียง ต่างก้มหน้าลงเมื่อเห็นเจ้านายทั้งสองตกอยู่ในสภาวะตึงเครียด
"ไอดั๊มพ์! จำกัดเส้นทางทำงานเจ้านายมึง แค่ท่าเรือกับบ้านเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์!" ดั๊มพ์เป็นมือขวาของคาเรนรีบก้มหน้ารับคำสั่ง พลางเหลือบเจ้านายหนุ่มอย่างกล้าๆกลัวๆ
"ครับนาย"
"ส่วนมึง...เอาเอกสารของสินค้าที่ผิด มาส่งให้คุณคาเรนอ่านจบภายในคืนนี้เท่านั้น!"
"ครับนาย" ไดร์ฟมีนิสัยเช่นมาเฟียหนุ่ม มักจะจริงจังไม่เคยทำผิดพลาดจากคำสั่งสักนิดเดียว ยกเว้นน้องชายที่ชอบเลียนแบบเจ้านายคนรอง
"....หวังว่าพรุ่งนี้จะตอบคำถามทั้งหมดได้นะ"
................................
ดุไหมล่ะ ใครที่อ่านเรื่องเฮียเกอร์มา...ลบภาพจำนั้นนิสัยอิไคออกด่วน 555