เหวลึกพลิกชะตา /1

1618 Words
ประเทศจีน ท่าอากาศยานนานาชาติหางโจวเซียวซาน กระเป๋าเดินทางใบเขื่องนับสิบใบถูกลำเลียงลงบนรถเข็นขนาดใหญ่ สัมภาระมากมายของสองสาวเพื่อนคู่ซี้เดินทางจากประเทศสิงคโปร์สู่จีนแผ่นดินใหญ่ อันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนอันแท้จริงของลูกหลานเชื้อสายจีน ถ้านับการมาเยือนประเทศที่ขึ้นชื่อได้ว่ากำลังก้าวขึ้นสู่การเป็นมหาอำนาจในทศวรรษนี้ ไม่มีใครปฏิเสธความยิ่งใหญ่ของจีนได้เลย นับตั้งแต่โบราณกาล จีนเจริญรุ่งเรืองมาอย่างยาวนานนับหลายศตวรรษ นับตั้งแต่สร้างแผ่นดินจากยุคโบราณผ่านการก่อตั้งราชวงศ์มาอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่ระบบการปกครองในรูปแบบคอมมิวนิสต์ แม้จะเป็นการปกครองแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจากรัฐบาลโดยตรง แต่ประเทศจีนก็มีความสามารถจนพัฒนาตนเองกำลังก้าวขึ้นสู่การเป็นมหาอำนาจ ซึ่งโลกทางตะวันตกเคยครอบครองดั่งเช่นสหรัฐอเมริกา ยังต้องพรั่นพรึงในศักยภาพและการเจริญเติบโตของประเทศนี้ สำหรับสองสาวคู่ซี้อู๋ชิงเหยียนและเฉินวาวา เป็นเพื่อนสนิทมาตั้งแต่เด็ก เติบโตมาด้วยกันเป็นเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงและมาจากครอบครัวที่พ่อแม่ต่างแยกทางกันเดิน สองสาวจึงเป็นมากกว่าเพื่อนและรักกันเหมือนพี่น้อง จะว่าไปแล้วการเดินทางมาจีนแผ่นดินใหญ่สำหรับอู๋ชิงเหยียน หรือชื่อเล่นเหยียนเหยียน ไม่ได้แปลกใหม่และทำให้ตื่นตาตื่นใจเท่าใดมากนัก ด้วยเพราะเธอเดินทางมาที่จีนแผ่นดินใหญ่มาแล้วหลายครั้งเพื่อมาเซ่นไหว้บรรพบุรุษพร้อมกับครอบครัว แต่สำหรับเฉินวาวา นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาจีนแผ่นดินใหญ่อันเป็นบ้านเกิดของเธอ แม้จะมิได้เกิดและเติบโตที่นี่แต่อย่างใดหากแต่ใจกลับเฝ้าถวิลหาอยากกลับคืนมาโดยตลอด และเฝ้ารอคอยว่าสักวันเธอจะต้องได้มาเยือนและวันที่เธอรอคอยมาตลอดก็มาถึงแล้วในวันนี้ “เร็วๆ เข้าวาวา! เครื่องบินดีเลย์แบบนี้คนจากกองถ่ายมารอรับพวกเราไปพักโรงแรมที่จองเอาไว้ ป่านนี้รอเหงกแล้ว” ชิงเหยียนบ่นกระปอดกระแปดเป็นการใหญ่ด้วยความหงุดหงิด “อย่าบ่นเป็นยายแก่นักเลย พวกเขาก็รู้ว่าเที่ยวบินนี้เครื่องดีเลย์ พวกเรามาก่อนวันแถลงข่าวล่วงหน้าสองวันไม่ต้องรีบร้อนเหมือนไฟลนก้นแบบนี้ก็ได้ชิงเหยียน” นางร้ายหน้าสวยบอกเพื่อนรัก “ถึงจะมาก่อนล่วงหน้าสองวันก็เถอะ! แต่คิวงานของเธอมันแน่นเพียบเลยนะยะขอบอก... จนฉันบอกปัดไปหลายงานแล้ว ไหนจะต้องไปดูบ้านเช่าที่จะต้องปักหลักอยู่ที่นี่จนกว่าจะถ่ายทำเสร็จ ไม่คิดเลยว่าคิวถ่ายซีรีส์เรื่องนี้ของเธอจะยาวถึงปีครึ่ง ตอนแรกที่ทางผู้กำกับบอกก็นึกว่าคงเกือบปี แต่นี่คิวถ่ายทำยาวไปปีกว่าเลย ดีนะที่ JCS เดินเรื่องวีซ่าให้พวกเราอยู่ที่นี่โดยไม่ต้องวิ่งไปสถานทูตบ่อยๆ” ชิงเหยียนพูดไปเข็นรถสัมภาระไปตลอดทาง “ถ้าจะให้ดีนะวาวา แกก็หาสามีซะที่นี่ก็ดีนะให้เป็นเรื่องเป็นราวเลย เพราะไหนๆ ก็เซ็นสัญญาเป็นดาราสังกัดของ JCS แล้ว ต่อไปงานละคร งานหนัง งานอิเวนต์วิ่งเข้าหาไม่หวาดไม่ไหว จะนั่งเครื่องบินไปมาแบบนี้นะเหรอเหนื่อยตายชัก อีกไม่กี่วันแกก็ครบยี่สิบแล้ว เป็นอายุที่เหมาะจะหาคู่ครองได้พอดี” แม่ผู้จัดการสาวไม่วายลุ้นหาคู่ให้เพื่อนรัก “ฉันมาทำงานนะแก ไม่ได้มาหาสามี! บอกให้หาสามีถามก่อนไหมว่าเอาเวลาที่ไหนไม่ทราบไปเสาะแสวงหาผู้ชาย อีกอย่างเรื่องมีครอบครัวไม่ได้อยู่ในความคิดเลย จะรีบไปทำไมอยู่เป็นโสดไปถึงอายุสามสิบห้าค่อยว่ากันอีกที ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนแกแบบนี้ไปเรื่อยๆ” แม่สาวน้อยตอบเพื่อนสาวกลับไป “จะมาอยู่เป็นเพื่อนเฝ้าคานกับฉันทำไม อีกอย่างแกจะอยู่ขึ้นคานถึงอายุสามสิบห้าไม่ต้องหาแล้วสามี ไม่มีผู้ชายที่ไหนเอาแล้วละ เพราะแก่เกินถ้ามีลูกก็ต้องตรวจร่างกายถี่ยิบเลยละแก เสียดายความสวย ความสาว ถ้าฉันสวยเหมือนแกนะป่านนี้มีแฟนเป็นสิบๆ คนแล้วละ” ชิงเหยียนตอบเพื่อนรักกลับไป “ใครบอกว่าแกไม่สวย ชิงเหยียนในสายตาของฉันน่ารักมากเลยนะต้องมีสักวันที่จะมีผู้ชายเห็นสิ่งดีๆ ที่อยู่ในตัวของแกแน่นอน แม้ว่าแกจะจู้จี้ ขี้บ่น ขี้งก เจ้าระเบียบแต่ทุกอย่างมาจากความจริงใจทั้งนั้น ฉันเป็นเพื่อนแกมานานทำไมจะไม่รู้ ไม่แน่นะบางทีแกอาจจะพบเจอเนื้อคู่ที่นี่ก็ได้ใครจะไปรู้” แม่สาวน้อยกระเซ้าเพื่อนพร้อมหัวเราะคิกคักเป็นการใหญ่ ในขณะที่อีกฝ่ายซาบซึ้งตรึงใจกับคำกล่าวของเพื่อนรัก ก่อนจะเหลือบไปเห็นป้ายขนาดใหญ่เขียนชื่อเพื่อนสาว “ทางนั้นวาวา!” ชิงเหยียนกล่าวพร้อมสะกิดเพื่อนรักให้หันกลับไปมองด้านหลัง พลางยกมือขึ้นสูงโบกไปมา “คุณวาวา! คุณชิงเหยียนทางนี้ครับ” เสียงเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทจาก JCS ตะโกนก้อง หญิงสาวหันกลับไปมองด้านหลังทันทีที่เพื่อนสาวสะกิด “เฮือกกก!” ร่างงามสะดุ้งโหยงจนสุดตัว ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีดครั้นเห็นบางอย่างตรงหน้า ร่างบุรุษสูงทะมึน สวมอาภรณ์สีนิลกาฬ เกศาสีเงินยวงปล่อยยาวสยาย ในมือถือดาบโบราณ ทั้งยาวและใหญ่คมกริบจนเห็นแสงวาววับ ราวกับว่ากำลังจะไปประหัตประหารผู้ใด บุรุษในความฝันเดินผ่านหน้าเธอตรงไปยังทางเดินเบื้องหน้าผ่านฝูงชนที่มารอรับญาติและมิตรสหาย พิศเพ่งมองใบหน้าด้านข้างได้เพียงเสี้ยวชั่วกะพริบตา “ขะ... เขา... เขา” วาวายืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่กับที่ ร่างบุรุษอาภรณ์สีนิลกาฬ เกศาสีเงินยวง ค่อยๆ เลือนหายไปโดยพลันทันทีที่เธอกะพริบตาขึ้นลง “วาวา!เป็นอะไรเร็วเข้า...รีบเดิน กลุ่มบอดี้การ์ดมาคอยคุ้มครองแล้ว เดินออกจากตรงนี้ไปก็เจอแฟนคลับของเธอทางประเทศจีนแล้วนะ FC เธอมารอรับจนแน่นขนัดทางด้านหน้าไปหมดเลย” ชิงเหยียนบอกเพื่อนรักพร้อมรีบฉุดมือเพื่อนสาวให้รีบเดินไปด้วยกัน แต่แล้วผู้จัดการสาวก็ต้องหยุดชะงักเมื่อร่างระหงแทนที่จะเดินตามเธอไปกลับยังยืนทื่อไม่ยอมขยับเขยื้อนกายแม้แต่น้อย ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างราวกับว่ากำลังตกใจสุดขีด “เป็นอะไรวาวา! ตกใจอะไร!” ชิงเหยียนกล่าวพร้อมยกมือขึ้นทันที สองมือตบลงใบหน้าสวยของเพื่อนรักเบาๆ “วาวา! วาวา!” เสียงร้องเรียกชื่อเพื่อให้อีกฝ่ายได้สติ ขนตางอนยาวเป็นแพสวยเริ่มกะพริบขึ้นลงติดต่อกัน สติที่กระเจิดกระเจิงเมื่อครู่ที่ผ่านมาหวนคืนกลับมาทันใดก่อนจะเหลือบสายตามองไปที่ใบหน้าเพื่อนสนิท “ชะ... ชิง... เหยียน... เธอเห็น... ผะ... ผู้... ชาย สูงเกือบสองเมตร สวมชุดโบราณสีดำ ผมสีเงินยาวถึงกลางเอว ในมือถือดาบโบราณเดินผ่านหน้าพวกเราไปเมื่อกี้ไหม” หญิงสาวเอ่ยถามเพื่อนกลับไปทันทีที่รู้สึกตัว คิ้วสวยของเพื่อนสาวขมวดเข้าหากันทันใดครั้นได้ยินเช่นนั้น “จะมีใครใส่ชุดโบราณถืออาวุธแบบนั้นมาเดินเพ่นพ่านภายในสนามบินแบบนี้ได้วาวา มีหวังโดนตำรวจลากไปขังที่สันติบาลแล้ว หรือถ้ามีก็คงจะเป็นกองถ่ายย้อนยุค... แต่... จะเป็นไปได้ยังไงที่จะเลือกสนามบินเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากแบบนั้น... นี่เธอเห็นอะไรเป็นตุเป็นตะเพราะอดนอนติดต่อกันมากไปหรือแกกำลังไม่สบาย” ชิงเหยียนพูดพร้อมยกมืออังหน้าผากมนกว้างของเพื่อนทันทีด้วยความเป็นห่วง ครั้นหญิงสาวได้ยินคำตอบเช่นนั้น ใบหน้าสวยสะบัดไปมาอย่างแรงเพื่อขับไล่ความมึนงง มือเรียวค่อยๆ ยกขึ้นจับมือของเพื่อนรัก เธอกำลังมีอาการที่ทำให้ชิงเหยียนเกิดอาการเป็นห่วง “ฉันไม่ได้เป็นอะไรเหยียนเหยียน คงจะอดนอนมาก จนทำให้ตาลายเห็นอะไรเป็นตุเป็นตะไปทั่ว” หญิงสาวตอบกลับไปเพื่อให้เพื่อนรักคลายความกังวล “แน่ใจนะวาวา แต่หน้าแกดูไม่ดีเลย... รีบเข้าที่พักกันเถอะจะได้นอนเอาแรง” เพื่อนสาวบอกพลางตรงเข้าเกี่ยวแขนเพื่อนรักเอาไว้ทันที พาร่างงามระหงฝ่าฝูงชนที่เป็นแฟนละครออกจากสนามบินนานาชาติดังกล่าวอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ก้าวเดินตรงไปเบื้องหน้าเฉินวาวาก็ยังมิวายที่จะหันกลับไปมองด้านหลังอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจว่าสิ่งที่เธอเห็นนั้นตาฝาดเพราะคิดไปเองหรือสิ่งที่เห็นคือเรื่องจริง ครั้นกวาดสายตาไปทั่วบริเวณก็มีแต่ผู้คนเดินพลุกพล่าน ปราศจากร่างสูงทะมึน สวมอาภรณ์สีนิลกาฬและเกศาสีเงินยวงปรากฏให้เห็นแต่อย่างใด “หรือว่าเราจะตาฝาดจินตนาการไปเอง” หญิงสาวรำพึงอยู่ภายในใจ ก่อนจะยักไหล่ไหวไปมาเมื่อคิดได้เช่นนั้น ร่างงามค่อยๆ ก้าวฝ่าฝูงชนที่เป็นแฟนละครของเธอที่มาคอยต้อนรับจนแน่นขนัด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD