"นั้นไงตาน้ำมาพอดี"
สายตาอันแสนใจดีของศจีเหลือบไปเห็นลูกชายคนกลางเข้าพอดี
เลยจำต้องหยุดบทสนทนาการแนะนำตัวเอาไว้ก่อน
แล้วหันไปให้ความสนใจกับผู้มาใหม่เพราะเมื่อทั้งสองคนเห็นหน้าคาดตากันแล้วคงจะจำกันได้เอง
"คุณ"
ดวงตากลมสวยที่มีแผงขนตางอนยาวประดับอยู่ถึงกับเบิกโตด้วยความตกใจเมื่อหันไปมองตามที่อีกคนมอง
ไม่คาดคิดเลยว่าโลกใบนี้มันจะแคบจนทำให้เธอกลับมาเจอกับเขาอีกครั้ง
กำลังล้างอดีตในหัวให้ออกไปให้หมดอยู่แล้วเชียวเพื่อจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในรั้วมหาลัย
แล้วทีนี้เธอจะทำอย่างไรต่อไป จะวิ่งหนีไปเลยดีไหม
"เงียบ"
ร่างหนาของมาเฟียหนุ่มในคราบนักธุรกิจใหญ่เดินตรงเข้ามาหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างแม่เลี้ยงของเขา
มือหนากระชากไปที่แขนเล็กเต็มแรงเพื่อให้เธอนั้นปิดปากที่กำลังจะพูดลง
ด้วยความเจ็บและความกลัว อิงเดือนปิดปากเงียบไม่พูดไม่จา
ทั้งที่ภายในมีเป็นร้อยเรื่องที่อยากจะพูดออกไป
และอยากจะวิ่งหนีไปจากตรงนี้ด้วย เพราะไม่รู้จะยืนอยู่ตรงนี้ทำไม
"ลูกจะพาน้องมาทานข้าวด้วยน่าจะบอกแม่ก่อนนะ แม่จะได้ให้ไปรอที่ร้านเลยไม่ต้องมารับแม่"
ศจีอดอมยิ้มอย่างปลาบปลื้มใจไม่ได้ เมื่อเห็นว่าลูกชายของเธอดูสนิทสนมกับผู้หญิง
ถึงขั้นที่ว่ากระซิบกระซาบคุยกันกะหนุงกะหนิงเลยทีเดียว
คราวนี้เห็นที่ว่าเธอคงจะได้ขายลูกชายคนนี้ออกอีกสักคนแน่ๆ
ถึงแม้ว่าหญิงสาวตรงหน้าจะดูเด็กไปนิด แต่คนเป็นแม่อย่างเธอก็ไม่ติด ขอแค่เป็นคนที่ลูกของเธอรักก็พอ
"เชิญคุณแม่ไปขึ้นรถครับ"
ธาราเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงคนอื่น เขารีบเข้าไปประคองแม่เลี้ยงของเขาในทันที
เพื่อจะพาไปขึ้นรถแล้วจะได้พากันออกไปทานข้าวตามนัดหมายเดิม
"ให้แม่หนูนั่นมาช่วยประคองแม่สิ"
ศจีที่ต้องมีคนประคองเวลาเดินแทบจะตลอดเวลากลับไม่อยากไปกับลูกชายเสียแล้ว
ด้วยเธออยากทำความรู้จักกับเด็กสาวมากกว่า เพราะไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจะได้เจอกันอีก
ลูกชายของเธอแต่ละคนลองชอบพอใครหรือว่ารัก แทบจะเก็บผู้หญิงคนนั้นไว้แต่บ้านกันทุกคน
"ครับ"
มือหนาที่เพิ่งละออกจากแขนเล็กของหญิงสาวหันไปคว้าแขนเล็กนั้นอีกครั้ง
"ฉันไปไม่ได้ แม่ฉันอยู่"
อิงเดือนพยายามดึงแขนของเธอคืนมาจากมือของเขา
ดึงสู้กันต่อหน้าแม่ของเขาที่เธอเพิ่งจะรู้ว่าเป็นแม่ของเขาจากบทสนทนาของทั้งสองคนอย่างเอาเป็นเอาตาย
เพราะเธอไปไหนกับใครไม่ได้ทั้งนั้น ด้วยเธอต้องอยู่รอแม่ของเธอที่หมอกับรักตรวจรักษาอยู่
"เงียบ ถ้าไม่อยากตาย"
เขาออกแรงกระชากแขนของเธอเต็มแรงจนร่างบางของเธอเซเข้ามาหาเขา
ปากร้ายของเขาพ่นคำขู่ที่เขาจะทำจริงถ้าเธอขัดคำสั่งเขาใส่หูเธอ
แล้วเหวี่ยงร่างบางของเธอไปหาแม่ของเขาเพื่อทำตามที่ท่านต้องการ
อิงเดือนอยู่ในสถานการณ์ไร้หนทางให้เลือกเดินอีกครั้ง
เธอจำต้องทำตามที่เขาสั่ง ถ้าไม่ทำเขาเกิดควักปืนออกมายิงเธอจนตายจะทำอย่างไร
แม่กับน้องจะอยู่กันยังไงถ้าไม่มีเธอ และเขาอาจไปเอาเงินสิบล้านคืน
การต้องรักษาชีวิตให้อยู่รอดเข้าไว้เลยทำให้เธอต้องทำตามที่เขาสั่ง
"หนูชื่ออะไรล่ะ"
ศจีออกเดินต่อไปยังลานจอดรถโดยมีเด็กสาวที่เธอยังไม่รู้จักชื่อประคองมา
ระหว่างทางเธอก็สัมภาษณ์เด็กสาวไปด้วยเพื่อจะได้รู้จักกันเอาไว้
"อิงเดือนค่ะ เรียกเดือนเฉยๆ ก็ได้ค่ะ"
อิงเดือนตอบตามความจริงเพราะในหัวของเธอคิดอะไรไม่ออก
เหตุการณ์มันบีบบังคับไปหมดจนหาทางจะโกหกอะไรไม่เจอเลย
เอาตามนี้ไปก่อนเพราะคงไม่มีครั้งหน้าที่จะมาเจอกันอีกแล้ว โลกมันคงไม่แคบซ้ำสองหรอกนะ
"เรียกแม่ว่าแม่แบบพี่น้ำเขานะ"
ศจีเอ็นดูในความใสซื่อของเด็กสาวจนอนุญาตให้เรียกแม่
เพราะเด็กคนนี้ก็เป็นน้องสาวของลูกชายที่อุปการะเอาไว้
ส่วนอนาคตจะพัฒนาเป็นอะไรก็ค่อยว่ากันอีกที
"คือ"
อิงเดือนกระดากปากที่จะพูด ด้วยเธอก็ไม่ต่างจะหญิงสาวขายบริการ
จะไปเรียกแม่ของแขกที่มาซื้อบริการว่าแม่มันก็กระไรอยู่
คงไม่มีใครบนโลกนี้เขาเคยทำกันแน่นอนเธอมั่นใจ
"ตอบ"
ใบหน้าหล่อคมแต่ไร้รอยยิ้มใดๆ โน้มลงหาใบหน้าหวานของเธอ
แล้วกระซิบกระซาบอย่างดุดันเย็นชาราวกับจะสาปให้เธอกลายเป็นน้ำแข็ง
"ค่ะแม่"
อิงเดือนรีบตอบออกไปอย่างไม่มีทางเลือกอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าทางเลือกในวันนี้ของเธอใครมันมาคว้าไปหมดจนทุกอย่างมันตันๆ ไปหมดแบบนี้
"แม่ชักชอบหนูเดือนแล้วสิ เพราะน้ำดูสนิทสนมด้วยดี แม่ไม่เคยเห็นน้ำสนิทกับใครแบบนี้เลยนะ"
ศจียังคงพูดไปเรื่อยตามนิสัยของเธอที่ชอบพูดคุยและก็เริ่มชอบเด็กสาวอย่างอิงเดือนจริงๆ ด้วยเลยลองสัมภาษณ์
เพราะในแววตาของเด็กสาวมันช่างดูใสซื่อ ไม่มีพิษภัยอะไร
ถ้าเกิดวันหนึ่งเปลี่ยนสถานะจากเด็กที่ลูกอุปการะไว้เป็นอย่างอื่น
เธอผู้เป็นแม่ถึงจะไม่ใช่แม่ทางสายเลือดจะได้รู้อะไรบ้าง
ไม่ใช่เซอร์ไพรส์แบบลูกคนอื่นๆ ที่มีลูกกันแล้วเธอถึงได้รู้
อิงเดือนหันไปมองหน้าเขาที่ยืนอยู่ข้างๆ อย่างไม่รู้จะพูดอะไร
แต่เขากลับมองตรงไปข้างหน้าทำราวกับว่าไม่ได้ยินที่แม่ของเขาพูด
หรือว่าเขามันหูหนวกก็ไม่รู้ แม่ของเขาพูดเสียมากมายขนาดนี้ยังทำเป็นไม่รับรู้อะไรได้อีก
น่าเสียดายความหล่อที่ต้องมาจบเห่เพราะหูไม่ดี
"แล้วน้ำไปเจอน้องได้ยังไงล่ะลูก"
ศจีหันไปถามลูกชายต่อเพราะยิ่งพูดคุยก็ยิ่งอยากรู้ความเป็นมาของทั้งสองคน
"หนู หนูไปขอทุนคุณเขานะคะ"
คนตัวโตนิ่งเงียบและเอาแต่มองไปข้างหน้าไม่สนใจคำถามของแม่ตัวเอง
อิงเดือนอดรนทนไม่ได้ที่เห็นคนเป็นแม่ต้องมารอให้ลูกตอบคำถาม
เธอก็เลยตอบออกไปแทนแบบตะกุกตะกักเพราะแทบจะคิดไม่ออกว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี
มันน่าทุบหลังเขาสักที คนเป็นแม่พูดไปตั้งหลายคำแต่ไม่เคยตอบอะไรเลย
ศจีอมยิ้มอย่างสุขใจอีกครั้งที่มีคนมาตอบคำถามแทนลูกชายปากหนักของเธอที่มักจะเงียบแทนการตอบทุกอย่าง
"ปากดี"
ธาราพูดต่อว่าเธอไม่ดังให้ได้ยินกันแค่สองคน
เมื่อเธอทำตัวรู้มากไปตอบคำถามแทนเขาทั้งที่เขาไม่ได้อนุญาต
"ฉันช่วยคุณให้ดูดีในสายตาแม่ของคุณอยู่นะ"
อิงเดือนหันไปเถียงเขาเสียงดังอย่าลืมตัวไปเสียสนิท
ก็คนมันทนฟังคำร้ายจากปากเขาไม่ได้ ทั้งที่เธอนั้นอุตส่าห์ช่วยเหลือ
แทนที่จะขอบคุณกลับมาต่อว่าเธออย่างแรง แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน
ศจีถึงกับตกใจหยุดชะงักฝีเท้าที่กำลังจะก้าวเดินกะทันหัน
หันไปมองหน้าลูกชายของตัวเองสลับกับเด็กสาวด้วยอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
"ไม่ต้องยุ่ง"
มาเฟียหนุ่มที่ไม่เคยยอมใครมาก่อนเถียงกลับเสียงดัง
"งั้นก็บอกไหมว่าวันนั้นฉันไปทำอะไรที่นั่น"
หญิงสาวยกสองมือขึ้นเท้าไปที่เอวของตัวเอง
ตั้งท่าเถียงสู้เขาสุดเสียง เธอไม่มีวันยอมอีกต่อไปแล้ว
แค่ที่ผ่านมายอมเพราะความกลัวมันก็มากเพียงพอแล้ว
ทำดีก็ต้องได้คำขอบคุณกลับมาไม่ใช่การมาต่อว่ากลับแบบนี้
"ไอ้ลาซ ลากผู้หญิงคนนี้ออกไป"
เส้นความอดทนของเขาขาดผึงในทันทีด้วยไม่เคยมีใครมาเถียงเขากลับแบบนี้มาก่อน
ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะแสดงความเป็นมาเฟียให้ผู้เป็นแม่เลี้ยงได้เห็น
แต่ครั้งนี้เขาไม่อาจเก็บตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ได้เพราะเธอมายั่วโทสะของเขา
"อย่ามายุ่งกับฉัน"
อิงเดือนขยับหนีชายร่างฝรั่งที่จะเข้ามาจับตัวเธอไปหลบอยู่ด้านหลังของแม่ของเขา
เธอไม่ได้กลัวใครอีกแล้ว แต่คงไม่มีกำลังไปสู้คนพวกนั้นได้
ก็เลยต้องหาที่กำบังภัยตั้งหลักเสียก่อนที่จะคิดทำอะไรต่อไป
"มันเกิดอะไรขึ้นตาน้ำ จะให้ลาซพาหนูเดือนไปไหน"
ศจีออกอาการงงจนคิ้วสวยขมวดเข้าหากันจนเป็นปมใหญ่บนใบหน้า
นี่มันกำลังเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆ ถึงต้องมีการจับตัวกัน