ไม่ต้องมายุ่ง

1642 Words
"นั้นไงตาน้ำมาพอดี" สายตาอันแสนใจดีของศจีเหลือบไปเห็นลูกชายคนกลางเข้าพอดี เลยจำต้องหยุดบทสนทนาการแนะนำตัวเอาไว้ก่อน แล้วหันไปให้ความสนใจกับผู้มาใหม่เพราะเมื่อทั้งสองคนเห็นหน้าคาดตากันแล้วคงจะจำกันได้เอง "คุณ" ดวงตากลมสวยที่มีแผงขนตางอนยาวประดับอยู่ถึงกับเบิกโตด้วยความตกใจเมื่อหันไปมองตามที่อีกคนมอง ไม่คาดคิดเลยว่าโลกใบนี้มันจะแคบจนทำให้เธอกลับมาเจอกับเขาอีกครั้ง กำลังล้างอดีตในหัวให้ออกไปให้หมดอยู่แล้วเชียวเพื่อจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในรั้วมหาลัย แล้วทีนี้เธอจะทำอย่างไรต่อไป จะวิ่งหนีไปเลยดีไหม "เงียบ" ร่างหนาของมาเฟียหนุ่มในคราบนักธุรกิจใหญ่เดินตรงเข้ามาหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างแม่เลี้ยงของเขา มือหนากระชากไปที่แขนเล็กเต็มแรงเพื่อให้เธอนั้นปิดปากที่กำลังจะพูดลง ด้วยความเจ็บและความกลัว อิงเดือนปิดปากเงียบไม่พูดไม่จา ทั้งที่ภายในมีเป็นร้อยเรื่องที่อยากจะพูดออกไป และอยากจะวิ่งหนีไปจากตรงนี้ด้วย เพราะไม่รู้จะยืนอยู่ตรงนี้ทำไม "ลูกจะพาน้องมาทานข้าวด้วยน่าจะบอกแม่ก่อนนะ แม่จะได้ให้ไปรอที่ร้านเลยไม่ต้องมารับแม่" ศจีอดอมยิ้มอย่างปลาบปลื้มใจไม่ได้ เมื่อเห็นว่าลูกชายของเธอดูสนิทสนมกับผู้หญิง ถึงขั้นที่ว่ากระซิบกระซาบคุยกันกะหนุงกะหนิงเลยทีเดียว คราวนี้เห็นที่ว่าเธอคงจะได้ขายลูกชายคนนี้ออกอีกสักคนแน่ๆ ถึงแม้ว่าหญิงสาวตรงหน้าจะดูเด็กไปนิด แต่คนเป็นแม่อย่างเธอก็ไม่ติด ขอแค่เป็นคนที่ลูกของเธอรักก็พอ "เชิญคุณแม่ไปขึ้นรถครับ" ธาราเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงคนอื่น เขารีบเข้าไปประคองแม่เลี้ยงของเขาในทันที เพื่อจะพาไปขึ้นรถแล้วจะได้พากันออกไปทานข้าวตามนัดหมายเดิม "ให้แม่หนูนั่นมาช่วยประคองแม่สิ" ศจีที่ต้องมีคนประคองเวลาเดินแทบจะตลอดเวลากลับไม่อยากไปกับลูกชายเสียแล้ว ด้วยเธออยากทำความรู้จักกับเด็กสาวมากกว่า เพราะไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจะได้เจอกันอีก ลูกชายของเธอแต่ละคนลองชอบพอใครหรือว่ารัก แทบจะเก็บผู้หญิงคนนั้นไว้แต่บ้านกันทุกคน "ครับ" มือหนาที่เพิ่งละออกจากแขนเล็กของหญิงสาวหันไปคว้าแขนเล็กนั้นอีกครั้ง "ฉันไปไม่ได้ แม่ฉันอยู่" อิงเดือนพยายามดึงแขนของเธอคืนมาจากมือของเขา ดึงสู้กันต่อหน้าแม่ของเขาที่เธอเพิ่งจะรู้ว่าเป็นแม่ของเขาจากบทสนทนาของทั้งสองคนอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะเธอไปไหนกับใครไม่ได้ทั้งนั้น ด้วยเธอต้องอยู่รอแม่ของเธอที่หมอกับรักตรวจรักษาอยู่ "เงียบ ถ้าไม่อยากตาย" เขาออกแรงกระชากแขนของเธอเต็มแรงจนร่างบางของเธอเซเข้ามาหาเขา ปากร้ายของเขาพ่นคำขู่ที่เขาจะทำจริงถ้าเธอขัดคำสั่งเขาใส่หูเธอ แล้วเหวี่ยงร่างบางของเธอไปหาแม่ของเขาเพื่อทำตามที่ท่านต้องการ อิงเดือนอยู่ในสถานการณ์ไร้หนทางให้เลือกเดินอีกครั้ง เธอจำต้องทำตามที่เขาสั่ง ถ้าไม่ทำเขาเกิดควักปืนออกมายิงเธอจนตายจะทำอย่างไร แม่กับน้องจะอยู่กันยังไงถ้าไม่มีเธอ และเขาอาจไปเอาเงินสิบล้านคืน การต้องรักษาชีวิตให้อยู่รอดเข้าไว้เลยทำให้เธอต้องทำตามที่เขาสั่ง "หนูชื่ออะไรล่ะ" ศจีออกเดินต่อไปยังลานจอดรถโดยมีเด็กสาวที่เธอยังไม่รู้จักชื่อประคองมา ระหว่างทางเธอก็สัมภาษณ์เด็กสาวไปด้วยเพื่อจะได้รู้จักกันเอาไว้ "อิงเดือนค่ะ เรียกเดือนเฉยๆ ก็ได้ค่ะ" อิงเดือนตอบตามความจริงเพราะในหัวของเธอคิดอะไรไม่ออก เหตุการณ์มันบีบบังคับไปหมดจนหาทางจะโกหกอะไรไม่เจอเลย เอาตามนี้ไปก่อนเพราะคงไม่มีครั้งหน้าที่จะมาเจอกันอีกแล้ว โลกมันคงไม่แคบซ้ำสองหรอกนะ "เรียกแม่ว่าแม่แบบพี่น้ำเขานะ" ศจีเอ็นดูในความใสซื่อของเด็กสาวจนอนุญาตให้เรียกแม่ เพราะเด็กคนนี้ก็เป็นน้องสาวของลูกชายที่อุปการะเอาไว้ ส่วนอนาคตจะพัฒนาเป็นอะไรก็ค่อยว่ากันอีกที "คือ" อิงเดือนกระดากปากที่จะพูด ด้วยเธอก็ไม่ต่างจะหญิงสาวขายบริการ จะไปเรียกแม่ของแขกที่มาซื้อบริการว่าแม่มันก็กระไรอยู่ คงไม่มีใครบนโลกนี้เขาเคยทำกันแน่นอนเธอมั่นใจ "ตอบ" ใบหน้าหล่อคมแต่ไร้รอยยิ้มใดๆ โน้มลงหาใบหน้าหวานของเธอ แล้วกระซิบกระซาบอย่างดุดันเย็นชาราวกับจะสาปให้เธอกลายเป็นน้ำแข็ง "ค่ะแม่" อิงเดือนรีบตอบออกไปอย่างไม่มีทางเลือกอีกครั้ง ไม่รู้ว่าทางเลือกในวันนี้ของเธอใครมันมาคว้าไปหมดจนทุกอย่างมันตันๆ ไปหมดแบบนี้ "แม่ชักชอบหนูเดือนแล้วสิ เพราะน้ำดูสนิทสนมด้วยดี แม่ไม่เคยเห็นน้ำสนิทกับใครแบบนี้เลยนะ" ศจียังคงพูดไปเรื่อยตามนิสัยของเธอที่ชอบพูดคุยและก็เริ่มชอบเด็กสาวอย่างอิงเดือนจริงๆ ด้วยเลยลองสัมภาษณ์ เพราะในแววตาของเด็กสาวมันช่างดูใสซื่อ ไม่มีพิษภัยอะไร ถ้าเกิดวันหนึ่งเปลี่ยนสถานะจากเด็กที่ลูกอุปการะไว้เป็นอย่างอื่น เธอผู้เป็นแม่ถึงจะไม่ใช่แม่ทางสายเลือดจะได้รู้อะไรบ้าง ไม่ใช่เซอร์ไพรส์แบบลูกคนอื่นๆ ที่มีลูกกันแล้วเธอถึงได้รู้ อิงเดือนหันไปมองหน้าเขาที่ยืนอยู่ข้างๆ อย่างไม่รู้จะพูดอะไร แต่เขากลับมองตรงไปข้างหน้าทำราวกับว่าไม่ได้ยินที่แม่ของเขาพูด หรือว่าเขามันหูหนวกก็ไม่รู้ แม่ของเขาพูดเสียมากมายขนาดนี้ยังทำเป็นไม่รับรู้อะไรได้อีก น่าเสียดายความหล่อที่ต้องมาจบเห่เพราะหูไม่ดี "แล้วน้ำไปเจอน้องได้ยังไงล่ะลูก" ศจีหันไปถามลูกชายต่อเพราะยิ่งพูดคุยก็ยิ่งอยากรู้ความเป็นมาของทั้งสองคน "หนู หนูไปขอทุนคุณเขานะคะ" คนตัวโตนิ่งเงียบและเอาแต่มองไปข้างหน้าไม่สนใจคำถามของแม่ตัวเอง อิงเดือนอดรนทนไม่ได้ที่เห็นคนเป็นแม่ต้องมารอให้ลูกตอบคำถาม เธอก็เลยตอบออกไปแทนแบบตะกุกตะกักเพราะแทบจะคิดไม่ออกว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี มันน่าทุบหลังเขาสักที คนเป็นแม่พูดไปตั้งหลายคำแต่ไม่เคยตอบอะไรเลย ศจีอมยิ้มอย่างสุขใจอีกครั้งที่มีคนมาตอบคำถามแทนลูกชายปากหนักของเธอที่มักจะเงียบแทนการตอบทุกอย่าง "ปากดี" ธาราพูดต่อว่าเธอไม่ดังให้ได้ยินกันแค่สองคน เมื่อเธอทำตัวรู้มากไปตอบคำถามแทนเขาทั้งที่เขาไม่ได้อนุญาต "ฉันช่วยคุณให้ดูดีในสายตาแม่ของคุณอยู่นะ" อิงเดือนหันไปเถียงเขาเสียงดังอย่าลืมตัวไปเสียสนิท ก็คนมันทนฟังคำร้ายจากปากเขาไม่ได้ ทั้งที่เธอนั้นอุตส่าห์ช่วยเหลือ แทนที่จะขอบคุณกลับมาต่อว่าเธออย่างแรง แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน ศจีถึงกับตกใจหยุดชะงักฝีเท้าที่กำลังจะก้าวเดินกะทันหัน หันไปมองหน้าลูกชายของตัวเองสลับกับเด็กสาวด้วยอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น "ไม่ต้องยุ่ง" มาเฟียหนุ่มที่ไม่เคยยอมใครมาก่อนเถียงกลับเสียงดัง "งั้นก็บอกไหมว่าวันนั้นฉันไปทำอะไรที่นั่น" หญิงสาวยกสองมือขึ้นเท้าไปที่เอวของตัวเอง ตั้งท่าเถียงสู้เขาสุดเสียง เธอไม่มีวันยอมอีกต่อไปแล้ว แค่ที่ผ่านมายอมเพราะความกลัวมันก็มากเพียงพอแล้ว ทำดีก็ต้องได้คำขอบคุณกลับมาไม่ใช่การมาต่อว่ากลับแบบนี้ "ไอ้ลาซ ลากผู้หญิงคนนี้ออกไป" เส้นความอดทนของเขาขาดผึงในทันทีด้วยไม่เคยมีใครมาเถียงเขากลับแบบนี้มาก่อน ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะแสดงความเป็นมาเฟียให้ผู้เป็นแม่เลี้ยงได้เห็น แต่ครั้งนี้เขาไม่อาจเก็บตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ได้เพราะเธอมายั่วโทสะของเขา "อย่ามายุ่งกับฉัน" อิงเดือนขยับหนีชายร่างฝรั่งที่จะเข้ามาจับตัวเธอไปหลบอยู่ด้านหลังของแม่ของเขา เธอไม่ได้กลัวใครอีกแล้ว แต่คงไม่มีกำลังไปสู้คนพวกนั้นได้ ก็เลยต้องหาที่กำบังภัยตั้งหลักเสียก่อนที่จะคิดทำอะไรต่อไป "มันเกิดอะไรขึ้นตาน้ำ จะให้ลาซพาหนูเดือนไปไหน" ศจีออกอาการงงจนคิ้วสวยขมวดเข้าหากันจนเป็นปมใหญ่บนใบหน้า นี่มันกำลังเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆ ถึงต้องมีการจับตัวกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD