ตอนที่4 การลงทัณฑ์สุดหวิว
แสงไฟในห้องหรี่ลงเปลี่ยนเป็นไฟหลากสีสันซึ่งนิยมเปิดในผับ ชายหนุ่มเปลือยกายทั้งหมดยืนเรียงแถวหน้ากระดาน ก่อนจะออกสเต็ปไปตามจังหวะดนตรีอย่างพร้อมเพรียง มีเสียงกรี๊ดจากบรรดาสาวๆ ในห้อง ปะปนกับเสียงผิวปากเป็นการแซวเล็กๆ จากบรรดาสมาชิกในคลับที่เป็นผู้ชาย บริกรชายหลายคนออกมาจากประตูด้านใน พวกเขาถือถาดเครื่องดื่มหลายชนิดออกมาเสริฟก่อนจะผลุบหายเข้าไปในประตูดังเดิม
ชายนักเต้นทั้งห้าคนออกลีลาเรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาสมาชิกสาวๆ ของคลับได้เป็นระยะ พวกเขาขยับร่างกายด้วยท่วงท่าอันพร้อมเพรียงสวยงาม แฝงด้วยลักษณะทางกายภาพที่แข็งแกร่ง บางท่าทางการเต้นออกแบบมาให้สร้างความหวามหวิวแก่ผู้ชม และกระตุ้นเร้าความปรารถนาในเพศรสให้เกิดขึ้น อันเป็นไปอย่างละเมียดละไม ราวกับการหลอกล่ออย่างมีชั้นเชิงทางศิลปะผ่านไปราวห้านาที…ดนตรีจบลง แสงไฟสว่างขึ้นดังเดิม
บรรดานักเต้นทยอยเดินออกจากห้องไปจนหมด มิสเตอร์ยืนขึ้นเขาขยับเสื้อสูท ริมฝีปากยกเป็นรอยยิ้มบาดใจ ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงดังกังวานชวนฟัง
“สวัสดีสมาชิกชาวคลับที่รักทุกท่าน”
เขาเว้นจังหวะด้วยการหลับตาลง สองมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง
“อย่างที่ทุกท่านพอจะทราบกันมาบ้างแล้ว ว่าวันนี้เรามารวมตัวกันเพื่อลงโทษคุณผู้หญิงคนนี้”
มิสเตอร์เดินเข้าไปหาหญิงสาวที่ถูกพันธนาการเอาไว้กลางเสา เขาฟาดมือลงบนก้นงอนของหล่อนเสียงดังเพี๊ยะ เรียกเสียงฮือฮากึกก้อง
“บ้านมีกฎบ้าน เมืองมีกฎเมือง และคลับของเราก็เช่นกัน”
ชายหนุ่มเดินไปยังเก้าอี้ เขาถอดเสื้อสูทตัวนอกออกแขวนมันไว้กับพนักเก้าอี้ คลายปมเนกไทออกหลวมๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกแล้วพับแขนเสื้อขึ้น เพื่อให้ทะมัดทะแมง ก่อนจะเดินตรงไปยังตู้เก็บเครื่องมือเล่นเซ็กส์ เขากวาดสายตามองหาของเล่นภายในตู้ แววตาซุกซนเหมือนเด็กเกเรนิสัยร้ายกาจ
“ผมต้องลงโทษคุณผู้หญิงท่านนี้เพื่อเป็นการรักษากฎ และไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไปกับสมาชิกที่ออกนอกลู่นอกทาง”
“ผู้หญิงคนนั้นทำอะไรผิดหรอลีน่า”
แอนนากระซิบถามเพื่อนสาว
“หล่อนเปิดปากบอกเรื่องของคลับเราต่อคนนอกน่ะสิ นี่ถือเป็นกฎเหล็กอีกข้อจำเอาไว้ให้ดีเลยนะแอนนา ห้ามนำเรื่องในคลับออกไปบอกใครเด็ดขาด”
ลีน่าบอกในสิ่งที่หล่อนรู้ให้กับเพื่อนสาวฟัง แม้ทั้งคู่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานภายในคลับแห่งนี้ ทว่าความไร้เดียงสาประสาซื่อของแอนนาทำให้ลีน่าคิดว่าหล่อนคงไม่มีพิษไม่มีภัยอะไร และยอมคบกับหล่อนเพียงคนเดียว
แอนนาเม้มปากพลางพยักหน้า ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับบทลงโทษในห้องกระจกแปดเหลี่ยม
มิสเตอร์เลือกแส้หนังสีดำเป็นของเล่น ชายหนุ่มถนัดกับการใช้แส้เขาชอบเสียงของมันเวลาแหวกว่ายไปในอากาศและเสียงของมันยิ่งไพเราะ ยามกระทบเข้ากับผิวเนื้อของเหยื่อ เขายิ้มให้กับสมาชิกคนอื่นด้านนอกห้อง ชายหนุ่มทิ้งมือข้างที่ถือแส้ลงปล่อยปลายแส้ลากไปกับพื้นห้อง ขณะเดินไปหาหญิงสาวผู้ทำผิดกฎของคลับ เขาหยุดห่างจากหล่อนหนึ่งช่วงตัว ทำท่าบิดคอขับไล่ความเมื่อยขบก่อนจะเงื้อมือที่ถือแส้ขึ้นสุดแขน แล้วหวดมันลงบนก้นงอนของหญิงสาวผู้โชคร้าย
เฟี้ยวววว
“โอ้ยยย”
เสียงแส้หนังยามกระทบเนื้อดังบาดลึกเข้ามาในหู หลายคนซี๊ดปากไปด้วยยามจินตนาการถึงความเจ็บปวดที่ผู้หญิงคนนั้นได้รับ ทว่ายังมีอีกหลายคนเป่าปากและหัวเราะชอบอกชอบใจกับบทลงทัณฑ์ แอนนาหลับตาขณะที่ได้ยินเสียงดังบาดใจเบื้องหน้า หล่อนสังเกตว่าสีหน้าของมิสเตอร์เรียบเฉย ไม่แสดงออกถึงอารมณ์โกรธเกรี้ยวหรืออื่นใด เสียงร้องดังออกจากร่างผู้ถูกกระทำเป็นระยะ หล่อนบิดเนื้อตัวไปมายามแส้กระทบกับผิวเนื้อ น้ำตาไหลพรั่งพรูนองหน้า
“ยกโทษให้ฉันเถอะนะคะมิสเตอร์ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำเรื่องผิดกฎอีก”
คนทรยศอ้อนวอนเสียงสั่นเครือ ผิวหนังบริเวณที่โดนแส้โบยปรากฏรอยแดงแตกปริ มีเลือดไหลซึมออกมาจากรอยปากแผล
12 ครั้งคือบทลงโทษ…
มิสเตอร์รวบปลายแส้หลังจากโบยคนทรยศครบตามจำนวน เขาเดินมายังเก้าอี้วางแส้ลง บริกรหญิงคนหนึ่งในชุดคอสเพลย์กระต่ายสีชมพูเดินถือถาดไวน์เข้าไปในห้องกระจก แม่กระต่ายสาวรินไวน์ใส่แก้วก่อนจะถอนฉากออกไป ชายหนุ่มยกแก้วไวน์ขึ้นหมุนแก้วไปมาแล้วชูขึ้น
“ดื่มไว้อาลัยให้กับคนทรยศของเรา อย่างน้อยคุณผู้หญิงท่านนี้ก็เคยเป็นสมาชิกที่น่ารักของคลับเรา ผมรู้สึกเสียใจอยู่บ้างที่ต้องกล่าวอำลาเธอ”