Ep.1 พระเอกนิยาย

2232 Words
“ชิจ๋าาาา เดี๋ยวนี้ไม่มีใครเขาอ่านนิยายผีกันแล้ว กระแสในเว็บมันไม่ดี พี่จะตีพิมพ์ได้ยังไง” แมว บรรณาธิการของสำนักพิมพ์พูดขึ้นมา ทำเอาสาวน้อยตรงหน้าถึงกับล้มทั้งยืน เพราะทางสำนักพิมพ์ไม่แม้แต่จะอ่านนิยายของเธอด้วยซ้ำ จิตวิญญาณของนักเขียนแทบจะแตกดับ นี่ไม่ใช่เรื่องแรกที่ถูกส่งมาแล้วเขาไม่ตีพิมพ์ “แล้วตอนนี้เขานิยมแบบไหนคะ” สาวน้อยขยับแว่นตามองบรรณาธิการใจโฉด ที่ปฏิเสธงานเธออย่างเลือดเย็น “ชิ งานเธอพี่ตีพิมพ์ให้หลายครั้งแล้ว เธอก็เห็นว่ายอดขายนิยายสยองขวัญมันไม่ได้ดีจริง พี่ชอบแนวการเขียนของเธอนะ แต่ต้องไม่ใช่แนวผี รักอีโรติกสิ ตอนนี้ตลาดต้องการ มีบทร่วมรักแซ่บ ๆ รับรองขายดี แนวการเขียนมันก็เหมือนลายเซ็นอะชิ มันไม่มีใครเหมือนใคร แล้วพี่ชอบลายเซ็นของเธอ เขียนรักอีโรติกส่งมา พี่ขอทีละตอน จะลงในเว็บไซต์ดูก่อน ถ้ากระแสดีตีพิมพ์เลย ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ตังนะ ได้เงินเป็นรายตอน ดีกว่าการมารอตีพิมพ์ตั้งเยอะ” สาวน้อยเดินออกมาจากสำนักพิมพ์ด้วยใจที่หนักอึ้ง อีโรติกหรอ อื้มมมมมม ลองดูก็ได้วะ หญิงสาวเดินแบกร่างอันหนักอึ้งเดินท่ามกลางแสงแดดที่กำลังส่องสว่าง ปกติแดดแรงแบบนี้เธอจะไม่ออกจากห้องเช่าหรอก แล้วไอ้อีโรติกเนี่ยมันจะเริ่มจากตรงไหน หญิงสาวคิดถึงคำว่าอีโรติกมาตลอดทางจนถึงห้องพักของตัวเอง ที่ติดม่านสีดำทุกด้านจนห้องมืดสนิท มีทั้งของสยอง ๆ มากมายเต็มห้อง เพราะเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งนิยาย แล้วไอ้อีโรติก มันต้องใช้อะไรเป็นแรงบันดาลใจละ “ลองไปเที่ยวบาร์โฮสสักครั้งไหม” “ไม่อะ ไม่รวยขนาดนั้น เงินจะกินยังไม่มีเลย งื้อออออ ทำยังไงดีอะชิ ค่าห้องก็ต้องจ่าย น้ำไฟก็ต้องจ่าย การเป็นคนเดือนชนเดือนนี่มันแย่จริง ๆ เงินจากเขียนนิยายเรื่องเก่ามันกำลังจะหมดแล้ว โว้ยยยยย” หญิงสาวเปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมา เพื่อหาอะไรที่จะอำนวยการเขียนนิยายของเธอ พอจะดูหนังโป๊ ในหนังก็ไม่ทำอะไรเลย มาถึงขึ้นเตียง เขียนนิยายนะ ไม่ใช่เรื่องเสียว ไม่ได้ มีแบบมีเนื้อเรื่องไหม แต่พอดูไปสักพักก็ทนไม่ไหว เพราะฟังไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวอีคึ เดี๋ยวอีไต๋ “ไม่ได้สิ มันไร้จิตวิญญาณสิ้นดี ต้องไปเจอด้วยตัวเอง ไปทำงานโรงแรมม่านรูดดีกว่า จะได้ดูคนที่เขามีอะไรกันได้ ไม่!!..แบบนี้ก็จะมีแต่พวกทำงานอย่างว่า กับเมียน้อย มันจะมีความรักได้ไง เธอเปิดไปเจอเว็บของรีสอร์ตแห่งหนึ่ง มีรีคอมเมนท์มากมายเกี่ยวกับการมาที่นี่แล้วจะสมหวังเรื่องความรัก อื้มมมมม รับพนักงานรึเปล่า พนักงานทำความสะอาดดีไหม จะได้เข้าไปในห้องตอนที่เขาจู๋จี๋กันได้ อยู่ที่ไหนอะ หางดง จังหวัดเชียงใหม่ ไกลไป นั่งเครื่องไปหรอ!!! เปลืองเงินตายชัก รถไฟฟรีมีรึเปล่า โดนจิ้มสักครั้งก็ไม่เคย ไปแอบดูแขกจิ้มกัน ฮึ้ยยยยได้หรอ จะมีแบบเอ้าท์ดอร์ให้ดูรึเปล่า พชิรานอนมองเพดานพอคิดเรื่องที่ตัวเองต้องไปแอบดูคนอื่น แล้วก็นึกขำ ฮิฮิ เสียงหัวเราะชั่วร้ายดังขึ้นในลำคอ พระเอกของฉันจะเป็นแบบไหนดีนะ หลังจากนั้น ณ รีสอร์ตไร่พิชิต พชิรา say :: แบบนี้ ต้องแบบนี้เลย โอ้ยยยยยยยย ใจละลายยยยยยยย ตาดุ ๆ มาดนิ่ง ๆ ได้โปรดเกรี้ยวกราดอีกนิดนะคะ เขาเป็นใครนะ ชายหนุ่มที่กำลังเดินผ่านฉันไป เดินเข้าไปในห้องผู้จัดการ ทำให้ฉันรู้ว่าเขาทำงานอยู่ที่นี่ แล้วถ้าฉันได้ทำงานที่นี่ ฉันก็จะได้เจอเขาทุกวันใช่ไหมอะ “คุณปฐพีคะ มีคนมาขอสมัครงานค่ะ” พนักงานคนหนึ่งบอกถึงการมาของฉัน “ไล่กลับไป” เดี๋ยว ๆ เทพบุตรสุดหล่อ อย่าทำกับฉันแบบนี้ ฉันยอมนั่งรถไฟชั้นประหยัดมาหาคุณเลยนะ ฉันยอมคืนห้องเช่า ขายโน๊ตบุ๊ค เพราะจะมาตายเอาดาบหน้าที่นี่เลยนะคุณ!!!!!! ดูสวยงามไหม ความจริงนะหรอ ไม่มีตังค์จ่ายค่าห้อง แล้วที่นี่บอกมีที่พักพนักงานให้ฟรี พูดดังขนาดนี้ ไม่ต้องไล่แล้วมั้ง ฉันเดินไปคุกเข่ารอเขาอยู่ที่หน้าห้องผู้จัดการเลย ตื้อเท่านั้นที่จะครองโลก แล้วฉันก็....จะเป็นผู้ครองโลก การที่ฉันนั่งคุกเข่าอยู่ตรงนี้ทำให้มีคนมองมากมาย แม้พนักงานจะมาขอให้ฉันลุกขึ้นฉันก็ยังคงดื้อดึงนั่งอยู่ตรงนี้ จนพนักงานต้องโทรสายตรงเข้าไปไปในห้องผู้จัดการ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำไมฉันถึงรู้นะหรอ เสียงไงคะเสียง เสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่ด้านใน พระเอกเป็นผู้จัดการรีสอร์ทก็ไม่เลวอะ ประตูด้านหน้าของฉันเปิดออกช้า ๆ ผู้ชายในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนเดินออกมาหาเด็กดื้ออย่างฉัน ช่างเป็นผู้จัดการที่แต่งตัว เอ่อ..ตามสบายเหลือเกิน ไม่ต้องใส่ยูนิฟอร์มเหรอ “เข้ามา” เสียงตะคอกดุ ๆ ทำเอาฉันต้องยิ้มออกมา ตามที่คิดไว้เลย เอาไปลงในนิยายดีกว่า ฉันเข้ามาในห้องผู้จัดการโดยมีสายตาดุ ๆ มองหน้าของฉันไม่วางตา ใช้บทน่าสงสารดีกว่า ได้ผลทุกราย “ขอโทษที่ฉันต้องทำแบบนี้ แต่ฉันอยากทำงานที่นี่จริง ๆ ฉันไม่มีที่จะไปแล้วค่ะ พ่อแม่ก็ไม่มี ฉันหวังว่าที่นี่จะเป็นที่พึ่งสุดท้ายของฉัน” ฉันพยายามจะพูดให้เขาสงสาร แต่สีหน้าเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย “ทำแบบนี้รู้ไหมว่ารีสอร์ทเสียภาพลักษณ์ ผมจะรับคนที่ไม่เห็นค่าภาพลักษณ์ของรีสอร์ททำงานได้ยังไง” ตายห่าละ ลืมคิด “ก็คุณให้ไล่ฉันกลับ ไม่ดูโปรไฟล์ฉันสักนิด ในเว็บไซต์ก็บอกว่ารับแม่บ้านอยู่” “ก็ใช่ แต่คุณจบอักษรศาสตร์มา ผมต้องจ้างแม่บ้านเกียรตินิยมเท่าไหร่ ลองคิดซิ๊ มันเกินสิ่งที่ผมต้องการ แล้วทำไมคุณถึงมาสมัครเป็นแม่บ้านล่ะ” คำถามที่ยิงมามันทำเอาฉันมืดแปดด้าน ตอบความจริงโดนไล่กลับแน่ แถไปก่อนก็แล้วกัน “ฉันไม่มีประสบการณ์ทำงานที่ไหน ถึงจบเกียรตินิยมมา มันก็ไม่ได้ทำให้ฉันได้งานที่ดีหรอกมั้งคะ” ฉันหัวเราะแห้ง ๆ พร้อมหลบสายตา “โกหก แค่เริ่ม เราก็เริ่มจากการโกหกกันแล้ว กลับไปซะ” พอคุณผู้จัดการพูดจบ ก็ขอให้ผู้ชายที่อยู่ข้างนอก มาเชิญฉันออกไป เรียกว่าโยนออกไปดีกว่า อะไรอะ ทำไม ไม่เชื่อฉัน....!!!! แง๊!!!! แล้วฉันถูกเชิญให้ออกมาจากรีสอร์ต แบบนี้ไม่ได้สิ เงินได้บัญชี เหลือแค่ 5 พัน เอายังไงดี นั่งรถกลับดีไหม แต่มาถึงนี่แล้วนะชิ แถมคุณผู้จัดการก็หล่อจังเลย เหมาะกับการเป็นพระเอกของฉันอย่างแรง ทำยังไงดีชิ ทำยังไงดี ฉันเดินวนเวียนไปมาอยู่หน้ารีสอร์ท ก่อนจะตัดสินใจ เช็คอินเป็นแขกในรีสอร์ทแห่งนั้น เพื่อที่จะเจอกลับเจ้าชายของฉัน ค่าห้องพักแสนแพง วันละเป็นพัน แม้จะเป็นห้องที่ถูกที่สุดก็ตาม แบบนั้นฉันก็จะอยู่ได้อีกแค่ 5 วัน ใน 5 วันนี้ฉันต้องทำให้เขายอมรับให้ฉันทำงานที่นี่ให้ได้เลย สงสัยงานนี้ต้องกินมาม่าทุกวันแน่ ๆ น่าสมเพชในความจนของตัวเองจริง ๆ หลังจากได้รับคีย์การ์ดจากพนักงาน ฉันเลยลากสัมภาระไปเก็บที่ห้องพัก ห้องที่นี่สวยจังเลย บรรยากาศก็ดี เสียดายไม่มีระเบียงลมเหมือนห้องแพง ๆ ฉันนั่งอ่านนิยายอีโรติกของคนอื่น ๆ เพื่อเป็นแนวทาง แล้วดันเจอว่า ทำไมเปิดมาต้นเรื่อง พระนางต้องได้กันเลย ไม่ต้องรักเหรอ ไม่พลาด ก็โดนขืนใจ แล้วเรารักคนที่ขืนใจเราได้เหรอ นั่นไง ความรักก็ไม่เคยมี โดนก็ยังไม่เคยโดน จะเอาอะไรมาแต่งนิยายละทีนี้พชิรา “พี่คะ เอาฉันที ฉันอยากมีประสบการณ์ไปเขียนนิยาย” พูดแบบนี้ เขาคงขยาดฉันไปเลย แถมดูทุเรศด้วย แต่พระเอกในนิยายฉันชื่ออะไรดี ภูผาดีไหม เหมาะกับมาดหิน ๆ ของเขาดี แต่เขาชื่อปฐพีนี่หน่า แปลว่าแผ่นดินสินะ ว่าแต่เป็นคนเย็นชาจังเลย แบบนี้คงไม่มีผู้หญิงคนไหนชอบหรอกมั้ง พร็อตของเรื่อง คือ หญิงสาวไร้เดียงสาที่หนีการแต่งงาน จนเกิดประสบอุบัติเหตุ โดนรถของพระเอกชน จนทำให้ความจำเสื่อม ทำให้ทั้งคู่มาอยู่ด้วยกัน ในบ้านหลังใหญ่ โดยไม่รู้มาก่อน ว่าพระเอกเป็นพวกบ้ากาม ชอบไล่ปล้ำสาวใช้ไม่เลือก ไหน ๆ มันจะอีโรติกแล้ว เอาให้สุดไปเลยไหม ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ คิดแล้วก็ขำ เอาไม่เลือกทำได้จริงเหรอ เซ็กซ์ไม่ได้ทำกับคนที่รักเหรอ ไปนั่งมอง เจ้าผู้จัดการจอมเย็นชาดีกว่า จะได้แกะคาแรคเตอร์พระเอกได้ ฉันเดินออกจากที่พัก พร้อมกับ Ipad คู่ใจ แต่แปลกแฮะ เขาเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ชายอีกคน ที่ดูหล่อชวนฝันจังเลย ไม่ได้ต้องอย่าวอกแวก ไม่ชอบยิ้มเลยแฮะ ทำอะไรต้องมีมาดตลอดเลย ขี้เก๊กว่ะ แต่สูงดีจัง 180 กว่า ๆ ได้มั้งเนี่ย อกกว้างถ้าดูจากเสื้อเชิ้ตที่ใส่ แต่จะทำตาดุแบบนี้ตลอดเลยหรอ จะทำยังไงนะ คุณถึงจะยอมให้ฉันทำงานนะ ฉันพยายามมองทุกอิริยาบถของเขา เพื่อใช้ในการเขียนนิยาย ท่านั่ง ท่ายืน ท่าเดิน จดลงไปเลย เป็นพวกผู้ชายเจ้าสำอางแน่ ๆ ฉันมองแล้วก็จด จดแล้วก็มองอยู่แบบนั้น เอ้า!!!...แล้วนั่นเขาจะไปไหนอะ ฉันลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินตามผู้จัดการคนนั้นไปทันที แต่จู่ ๆ เขาก็หายไป “หายไปไหนวะ!!!” “เป็นสตอล์กเกอร์รึไง” เสียงทุ้มต่ำที่ดังมาจากด้านหลัง ทำเอาฉันต้องตกใจ แถมมือใหญ่ ๆ ของเขายังมาดึง Ipad ออกจากมือฉันอีก “คุณมองผมมาทั้งวัน แถมนี่ยังสะกดรอยตามอีก ผมจับคุณส่งตำรวจได้นะ ข้อหาทำผมรู้สึกไม่ปลอดภัย ต้องการอะไรกันแน่ เอารหัสปลดล็อคมา แอบถ่ายด้วยรึเปล่า หรือตั้งใจจะมาหาทางหนีทีไล่ในการขโมยของ อย่าคิดจะโกหกผมนะครับ จับได้ผมส่งตำรวจสถานเดียว” “เปล่านะคะ” อะไร ใส่ร้ายกันชัด ๆ ฉันไม่ใช่ทั้งสตอล์กเกอร์และไม่ใช่ทั้งขโมยหรอกย่ะ “ปลดล็อค” เสียงคำสั่งดุ ๆ ทำเอาฉันต้องคิดหนัก ถ้าปลดล็อคเขาต้องรู้แน่ ๆ ว่าฉันแอบดูเขาจริง ๆ รูปถ่ายก็มีจริง ๆ โดนส่งตำรวจข้อหาเป็นสตอล์กเกอร์แน่ ๆ “คุณทำกับแขกแบบนี้ได้ยังไงคะ ฉันพักที่นี่ในฐานะแขกนะ” “แขก?? งั้นเหรอ” “ใช่ นี่ไง” ฉันโชว์คีย์การ์ดห้องที่พักให้เขาดู ทำเอาเขาตกใจเล็กน้อย ก่อนจะคืน Ipad ให้ฉันแต่โดยดี แต่สายตาเขาที่มองฉันมันแย่กว่าเดิมอีก “แต่ฉันอยากทำงานที่นี่จริง ๆ นะคะ” “คุณรู้ไหม ผมต้องปฏิเสธผู้หญิงที่มาสมัครงาน เพราะอยากอยู่ใกล้ผมบ่อยแค่ไหน มันน่ารำคาญ ตัดใจแล้วกลับไปซะ อย่าให้ผมต้องหยาบคายเลย คุณไม่ใช่สเปคผมหรอก” อี๋!!!....หลงตัวเอง แหวะ “หลงตัวเองชิบเป๋ง ใครจะไปชอบคุณ ไม่ได้มีอยู่ในสมองเลย ถ้าไม่เชื่อดูนี่” ฉันจับมือใหญ่ ๆ มานาบหน้าอกข้างซ้าย ที่ตอนนี้มันเต้นปกติ ไม่ได้ผิดจังหวะแต่อย่างใด “กะ...ก็ดี” “เพราะฉะนั้นเลิกหลงตัวเองได้แล้ว หน้าตาดี แต่ใช่ว่าทุกคนจะชอบคุณ อี๋!!! หลงตัวเอง รับฉันเข้าทำงานซะ ตำแหน่งอะไรก็ได้ ฉันอยากทำงานที่นี่ ถ้าคุณไม่มีอำนาจในการรับคนเข้าทำงาน ก็ขอช่องทางการติดต่อเจ้านายคุณหน่อย ฉันคิดว่าเจ้านายคุณคงจะมีความเป็นธรรมมากกว่านี้” “ความเป็นธรรมเหรอ” “ใช่ ไม่ตัดสินคน ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ให้ลองงานเลย อีตาผู้จัดการขี้เก๊ก ชิ๊ ฉันไปล่ะ จำไว้เลย ฉันไม่ได้ชอบคุณ แต่คุณแค่มีประโยชน์กับฉันก็แค่นั้น” พอฉันพูดจบ ก็ทิ้งให้เขาทำหน้าตึงอยู่แบบนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD