ตอนที่2โมนา มติมนต์ (2)

1580 Words
“เดี๋ยวสิเข็ม เราชอบเข็มจริง ๆ นะ” ใบหม่อนออกแรงวิ่งไล่ตามเข้าไปในลิฟต์ทันทีที่เห็นเข็มทิศเข้าไป “ออกไปเดี๋ยวนี้นะยัยบ้า เลิกตามฉันสักที” “ไม่ เราจะตามเธอไปทุกที่จนกว่าเธอจะยอมรับรักเรา” “เธอนี่ท่าจะบ้าเนอะ ออกไปเดี๋ยวนี้!” เขาตะคอกใส่ใบหน้าเธอจะผลักร่างอวบอ้วนนั้นเต็มแรงจนใบหม่อนล้มลงก้นกระแทกพื้น “เลิกยุ่งกับฉันสักที ยัยผี!” เข็มทิศชูนิ้วกลางใส่ไปหนึ่งกรุบแล้วรีบปิดประตูลิฟต์ลงไปยังชั้นจอดรถมอเตอร์ไซค์ของเขา รีบหยิบกุญแจออกมาอย่างหัวเสีย “บ้าที่สุด เสียเวลาฉิบหาย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น” เขาพึมพำด้วยสีหน้าบึ้งตึง รีบสตาร์ตรถแล้วขับลงไปจากตึก แต่ในจังหวะที่กำลังเร่งเครื่องเลี้ยวลง อยู่ ๆ ใบหม่อนก็โผล่พรวดเข้ามาขวางทางเอาไว้ “เข็มทิศ เราชอบเธอจริง ๆ นะ” “เชี่ย ยัยบ้า!” เข็มทิศอุทานลั่น รีบหักหัวรถสุดแรงจนมันพุ่งจากระเบียงกั้นตกลงไปจากลานจอดรถชั้นสี่กระแทกกับพื้นถนนข้างล่างเสียงดังสนั่น โครม! เสียงรถร่วงหล่นลงมาปะทะกับถนนคอนกรีตทางเข้าห้างทำให้มันพังยับไม่มีชิ้นดีเช่นเดียวกับร่างคนขับที่กระเด็นกระดอนไปหลายเมตรในสภาพที่เลือดไหลนองอาบกาย ความเจ็บปวดถาโถมเข้ามาทั่วร่าง ก่อนที่สติจะดับลง ดวงตาคมกริบปรือมองขึ้นไปยังตึกสูงข้างบน เห็นใบหม่อนยืนยิ้มอย่างพอใจก่อนจะวิ่งหายลับไป เขาก็ได้ยินเสียงผู้คนรอบข้างวิ่งมาดูสถานการณ์ด้วยความตกใจเหมือนมันดังแว่วมาจากที่ไกลแสนไกล แล้วหลังจากนั้นทุกอย่างก็มืดสนิทลง ไม่กี่อึดใจต่อมาร่างของเข็มทิศก็ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเป็นการด่วน จากการสันนิษฐานตำรวจลงความเห็นว่าเป็นอุบัติเหตุทำให้เข็มทิศไม่สามารถควบคุมรถได้ โชคไม่ดีเสียเท่าไหร่ที่ตอนเกิดเหตุกล้องวงจรปิดที่ห้างดันขัดข้องพอดี เห็นแค่ภาพตอนที่เขาขับรถพุ่งตกลงไปเท่านั้น เกสรและคิมหันต์รีบเดินทางมาดูอาการของเข็มทิศทันทีที่ทราบข่าว ผู้เป็นแม่ร้องไห้แทบจะขาดใจจนเกือบจะเป็นลมอยู่รอมร่อ “โมนารอพี่ก่อนนะ เดี๋ยวพี่มา” เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้คิมหันต์เหลือบมองไปตามต้นเสียงชั่วครู่ก่อนจะพบกับหมอเจ้าของไข้และร่างบางระหงของใครอีกคนกำลังทรุดกายนั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน เสียงเกสรยังร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดไม่หยุด หลังจากที่เข็มทิศถูกส่งเข้าไปรักษา ตลอดเวลาที่ประตูห้องยังถูกปิดลง บรรยากาศข้างนอกก็มีแต่ความตึงเครียด คิมหันต์เองก็แทบจะนั่งไม่ติด เขาเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องราวกับหนูติดจั่น ด้วยหัวใจที่เต้นโครมครามแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ “ฮือ...เข็ม อย่าเป็นอะไรไปนะลูก...” เสียงของเกสรเงียบหายไปหลังจากการร้องไห้มานานแสนนาน จนคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ สังเกตว่าเธอกำลังจะล้มตกจากเก้าอี้จึงรีบเข้ามาประคองไว้ “คุณป้าคะ!” “เห้ย!” คนที่กำลังจดจ่ออยู่หน้าห้องรีบเข้ามาคว้าตัวเกสรเอาไว้ทำให้เขาเผลอจับมืออีกคนไว้แบบไม่ได้ตั้งใจ “คุณแม่” “คุณป้าน่าจะเพลียน่ะค่ะ ฉันมียาดมนี่น่าจะพอช่วยได้” หญิงสาวควานหายาดมส่งให้คิมหันต์ เขาจึงรีบรับมาแล้วอังจมูกเกสรเอาไว้ “ค่อยยังชั่วไหมครับแม่” “ฮือ...น้องเป็นยังไงบ้างตาคิม แม่เป็นห่วงน้อง” ผู้เป็นแม่ละเมอออกมาแม้ว่าตาสองข้างจะยังปิดสนิท ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่เมธัสเปิดประตูออกมาพอดี คิมหันต์จึงรีบเข้าไปเอ่ยถามอาการของเข็มทิศทันที “หมอครับ น้องชายผมเป็นยังไงบ้าง ปลอดภัยแล้วใช่ไหมครับ” “หมอยังให้คำตอบไม่ได้หรอกครับ ยังต้องดูอาการอย่างใกล้ชิดเพราะสมองของคนไข้ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง ตอนนี้คนไข้ยังไม่ได้สติหมอเลยต้องส่งไปรักษาตัวต่อที่ห้องไอซียูอีกสักระยะ” เมธัสตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเสียใจไปมากกว่านี้ “แล้วน้องผมเขาจะกลับมาเป็นปกติไหมครับหมอ” “อันนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวคนไข้ด้วยว่าเขาจะสู้ไหวหรือเปล่า แต่ยังไงหมอจะพยายามรักษาอย่างเต็มที่นะครับ” “หมายความว่าตอนนี้น้องผมต้องนอนเป็นเจ้าชายนิทราแบบนี้ต่อไปเหรอครับหมอ” คิมหันต์ถามต่อด้วยหัวใจที่กำลังแตกสลาย “ครับ ตอนนี้หมอเองก็ยังตอบไม่ได้ว่าคนไข้จะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ แต่หมอจะพยายามอย่างสุดความสามารถนะครับ” พูดจบเมธัสก็เหลือบไปมองน้องสาวที่นั่งรออยู่หน้าห้องครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมาหามติมนต์อีกครั้ง “พี่หมอก...” “ไงเรา รอนานหรือเปล่า” ฝ่ามือใหญ่เขย่าศีรษะเล็กแผ่วเบาอย่างนึกเอ็นดูเพราะมีเคสด่วนในตอนที่เดินทางกลับจากสนามบินพอดี เขาจึงต้องแวะมาโรงพยาบาลก่อนจะกลับถึงบ้าน “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ โมนาเข้าใจ” “งั้นเรารีบกลับกันเถอะ นั่งเครื่องมาซะนานคงจะหิวแย่แล้วล่ะสิ” “ใช่ค่ะ โมนาหิวมาก มากจนจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว” ว่าแล้วมติมนต์จึงจูงมือพี่ชายออกจากโรงพยาบาลไปแต่ในใจก็ยังนึกถึงเกสรที่ร้องไห้อยู่หน้าห้องเมื่อครู่นี้ขึ้นมาอีกครั้ง “น่าสงสารเขาจังเลยนะคะ คุณป้าคนนั้นเขาเสียใจมากเลย เมื่อกี้เขาร้องไห้เกือบเป็นลมแน่ะ” “เกิดแก่เจ็บตายมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว” “โมนาแค่สงสาร อายุยังน้อยอยู่เลยใช่ไหมคะ โมนาเห็นพี่ชายเขาน่าจะโตกว่าโมนาสักปีสองปีเห็นจะได้” “อือ...น่าจะรุ่นเดียวกับโมนานั่นแหละ” บทสนทนาของสองพี่น้องดำเนินต่อไปจนกระทั่งเดินผ่านห้องบัตรซึ่งคิมหันต์ยังคงนั่งรออยู่ตรงนั้นทำให้เขาได้ยินชื่อโมนาอย่างชัดเจนจึงรีบมองตามไปยังต้นเสียงทันที “โมนา...” คิ้วหาได้รูปขมวดเข้าหากันเป็นปม เขายืนมองร่างของมติมนต์จนหายออกไปจากโรงพยาบาลก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาเรียกเขาไว้เพื่อส่งบัตรคืน เขาจึงรีบนำมันกลับขึ้นไปหาผู้เป็นแม่ที่ยังเฝ้าดูเข็มทิศอยู่หน้าห้องไอซียูอย่างมีความหวัง “แม่ครับ” “ฮือ...ตาคิม...หมอบอกว่าน้องจะหายใช่ไหมลูก” ทันทีที่เห็นหน้าเขา เกสรก็ปล่อยโฮออกมาอีกครั้งพร้อมกับวงแขนที่ตวัดกอดลูกชายคนโตไว้เสมือนเป็นตัวแทนของเข็มทิศ “ครับแม่ หมอบอกว่ายังไงน้องก็หายครับ” “ฮือ...แม่ใจจะขาดแล้วคิม...ฮือ...” ผู้เป็นแม่ร้องไห้อย่างหนักจนคิมหันต์ต้องประคองกลับไปที่รถ “เรากลับกันก่อนเถอะครับ ตอนนี้หมอไม่ให้เยี่ยมแล้ว พรุ่งนี้เราค่อยมากันใหม่” “ฮือ...ฮือ...” ไม่มีเสียงใด ๆ ตอบรับกลับมาเพราะเกสรยังเอาแต่ร้องไห้ เขาจึงต้องประคองร่างที่เหมือนจะไร้วิญญาณลงไปชั้นล่างก่อนจะอาสาขับรถกลับไปส่งผู้เป็นแม่จนถึงบ้านจัดการส่งผู้เป็นแม่เข้านอนด้วยตัวเอง ดวงตาคมกริบเหลือบมองร่างที่ยังสั่นสะอื้นของเกสรอีกครั้ง เข้าใจดีว่าผู้เป็นแม่เจ็บปวดขนาดไหนเพราะตอนนี้เขาเองก็รู้สึกไม่ต่างกันเลยสักนิด น้ำหยดใสเอ่อล้นออกมาจากหน่วยตา เป็นน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลออกมาอย่างลืมอาย มือหนาค่อย ๆ ปิดประตูห้องของเกสรเบา ๆ แล้วหันไปเปิดประตูห้องของเข็มทิศแทน “โมนา...” คิมหันต์เอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเขาเหลือบไปเห็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่เข็มทิศมักจะเอาไว้เล่นเกม รีบเปิดเครื่องแล้วจัดการเปิดเฟซบุ๊กที่ถูกล็อกอินค้างไว้เพื่อค้นหาความจริงด้วยตัวเองทันที “เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด” หลังจากพยายามกอบกู้ข้อมูลอยู่พักใหญ่ ในที่สุดเขาก็เจอโปรไฟล์ของมติมนต์อีกครั้งพร้อมกับบทสนทนาที่อีกฝ่ายนัดหมายให้เข็มทิศออกไปเจอกันที่ห้าง “เป็นเพราะเธอคนเดียวยัยโมนา...น้องชายฉันถึงมีสภาพแบบนี้” มือหนากำเข้าหากันแน่น ดวงตาวาวโรจน์จ้องมองรูปถ่ายที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์พร้อมกับความแค้นที่จุกล้นอยู่เต็มอก รีบจัดการล็อกอินด้วยไอดีของเขาแล้วส่งคำขอเป็นเพื่อนไปทันทีเพื่อจะล่อเหยื่อให้ติดกับ แต่รอมานานนับชั่วโมงก็ไม่มีท่าทีว่าอีกฝ่ายจะกดรับ พอลองย้อนกลับไปดูใหม่เขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าโปรไฟล์ดังกล่าวถูกปิดไปแล้ว “บ้าจริง” คิมหันต์สบถลั่น นึกเสียดายที่เขาไม่ได้มองหน้าผู้หญิงที่มากับหมอเมื่อตอนบ่าย ถ้าเป็นคนคนเดียวกันเขาจะได้ล็อกเป้าหมายเพื่อเอาคืนได้ถูกคน “อย่าให้เจอนะโมนา ฉันเอาเธอตายแน่!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD