ตอนที่ 15

1463 Words
"เพิ่งรู้นะคะ ว่าคุณพ่อเป็นนักแสดงแล้วเป็นคุณพ่อของน้องนน" "ตอนนี้ก็ได้รู้แล้วครับ" กัมปนาทตอบกวนใส่หน่อย "เอ้อ ไม่ทราบว่า น้องกนินทร์ จะมาที่ร้านบ่อยไหมคะ คุณพ่อ" "เอ เรื่องนี้ไม่ทราบเหมือนกัน ตอนนี้น้องเขาจะมีคิวแสดงละคร คงไม่ได้ว่างมา" "ว้าเสียดายจัง" นักข่าวคนหนึ่งพ้ออุทานออกมาด้วยความเสียดาย "เอ แล้วมีส่วนไหม ที่ตอนที่น้องนนเข้ามาในวงการ คุณพ่อเองมีส่วนช่วยผลักดัน" "ผมไม่รู้อะไรเลย และผมไม่ใช่คนดัง ส่วนเรื่องที่ลูกหรือน้องนนเข้าวงการ ก็เป็นเพราะเรื่องส่วนตัวของเขาล้วนๆเลย ผมไม่ได้แนะนำให้ลูกเข้ามาวงการ" พวกนักข่าวจึงเงียบกริบ เมื่อได้ยินคำตอบและน้ำเสียงอันดังของอดีตดาวร้ายเก่า ที่นักข่าวบางคน ยังนึกกลัวเหมือนกัน ถึงกับชักไมค์ที่สัมภาษณ์ออกหนี เพราะเห็นสีหน้าที่เหมือนไม่พอเล็กน้อย "งั้นขอบคุณคุณพ่อมากนะคะ ที่ให้พวกเราสัมภาษณ์ วันนี้ วันหน้าคงมีโอกาสพบเจอตัวน้องนน" พวกนักข่าวตัวแทนของทั้งหมด กล่าวแล้ว แยกย้ายกลับออกไปทันที คุณกัมปนาทถอนหายใจเดินมาที่หลังครัวเพื่อพบกับภรรยา "ไปกันแล้วหรือคะ พี่" "ไปแล้วล่ะ ดีหน่อยไม่หนวกหู ต่อไป เราคงต้องรับแขกทุกวันล่ะ ลูกตัวนำโชคแท้" คุณกัมปนาทยิ้มให้กับภรรยา "ค่ะ ร้านข้าวแกงของเรา ก็ขายหมดก่อนเวลาทุกวัน จนต้องทำเพิ่มเพื่อรองรับลูกค้า ทั้งร้านกาแฟดูสิคะ คุณ ลูกค้าบางคนต้องสั่งจองที่" "แต่นี่พี่ก็ขยับขยายพื้นที่ให้แล้ว สงสัยต้องนำเต๊นท์มากางและเอาโต๊ะกับเก้าอี้มาลงเพิ่ม" "ค่ะ" คุณอิสรีเห็นด้วยกับสามี "อยู่ไหนวะนน" เสียงสนุ๊กหรือ นาวายศเอ่ย "เข้าบ้านวะ" "อ้าวไหนนายบอกว่าจะไปที่ร้านคาร์แคร์ของนายไง ฉันกำลังจะไปเดี๋ยวนี้" เพื่อนรักที่สนิทสนมกันในวงการเดียวเอ่ย เพราะสนุ๊กที่อาศัยอยู่บ้านญาติ นั้นกำลังคิดจะออกมาอยู่ที่คอนโดคนเดียวตามลำพัง ในเมื่อมีงานแสดงและมีรายได้ ก็ทำให้มีเงินจำนวนหนึ่งพอที่จะเช่าคอนโดใกล้ๆกับตัวเมืองมากยิ่งขึ้น เพราะเขาต้องเดินทางไปที่ช่องละครทีวีบ่อยครั้ง มีทั้งงานแสดง ออกอีเวนต์และเกมโชว์ไม่แตกต่างไปจาก นน หรือกนินทร์ และเข้มเท่าไหร่ พวกเขาสามคนถือว่าเริ่มมีชื่อเสียง ดูเหมือนในจำนวนสามคนนั้น นนหรือกนินทร์ ฉายรัศมีเปล่งประกายมากกว่าเพื่อนคนอื่น ตรงที่แสดงเข้าถึงบทบาท และอารมณ์ จนมีแฟนคลับมากมายและอินกับบทบาทที่ได้รับ มีความเชื่อว่าละครเรื่องนี้จะเสนอชื่อของเขา เข้าไปเป็นนักแสดงดีเด่นดาวรุ่ง เข้มกับ สนุ๊กก็ไม่ได้อิจฉาเพื่อนเพราะเป็นไปตามความสามารถ เมื่อสนุ๊กเพื่อนรักถาม นนจึงตอบ "นายไม่ต้องไปที่นั่น เราเพิ่งชิ่งออกมาเอง พวกนักข่าวแห่กรูกันไปที่ร้านแม่เรา เราไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์" นนหรือกนินทร์ตอบเพื่อน ทำให้นาวายศเข้าใจเหตุผล "อ้าว งั้นจะให้เราไปที่ไหน" "บ้านเราสิ" นนบอกพิกัดบ้านของเขาให้แก่เพื่อน ซึ่งเขาไม่เคยให้ใครมาก่อน ถ้าไม่ใช่เพื่อนที่สนิท เช่นเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกัน และเคยมาที่นี่ "ได้ งั้นเราจะนั่งแท็กซี่ไป เออ จะเล่าให้ฟัง เรากำลังจะย้ายไปอยู่คอนโดแถวห้วยขวาง ใกล้ช่องหน่อย เวลามีงานจะได้ไปมาสะดวก" เป็นข่าวดีที่นนรับฟังเพื่อน "เออ ดีว่ะ วันหลังเราจะแวะไปเยี่ยม" " ยินดีต้อนรับเสมอ นายมาค้างกับเราก็ได้ด้วยนะ" นาวายศตอบแบบใจกว้าง "มาหาเราที่บ้านก่อนก็ได้ จะชวนกินข้าว นายทานอะไรมาแล้วยัง" "ยังว่ะ" "งั้นพอดีเลย กับข้าวแม่แบ่งไว้เยอะเลยเรากินคนเดียวไม่หมดหรอก" "อ้าว แล้วที่ร้านนายล่ะ เอากับข้าวมากินจะพอขายหรือ" "ไม่เป็นไร แม่แบ่งต่างหากให้กับลูก ส่วนที่ร้าน ถ้าหมดแม่ก็ทำใหม่" "ขายดีมากใช่มั๊ย" "แม่บอกว่า หมดตั้งแต่ก่อนเที่ยงทุกวัน จนต้องทำใหม่" "งั้นอีกประมาณไม่ถึง สิบห้านาทีเราคงถึงบ้านนาย" "เหอะน่า มาถึงบ้านเราก่อน ทานข้าวนั่งคุยกันแล้ว สักพักเราจะพาไปเล่นที่ร้าน คิดว่าป่านนั้นพวกนักข่าวคงไม่อยู่กันแล้ว แต่ยังไงดี เราต้องขอโทรไปถามพ่อกับแม่ก่อนเพื่อความปลอดภัย" นักแสดงบางคนไม่ถูกกับนักข่าว เช่นนนนี่ล่ะ ไม่มีเหตุผล เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาอยากให้สัมภาษณ์ ใช่ว่านนจะรังเกียจพี่ๆนักข่าวเขา ทราบดีว่า อาชีพนี้เป็นแบบ น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า แต่นนไม่ชอบการสัมภาษณ์ที่แบบรุกเกินไป จนเสียมารยาทของนักข่าวบางคน เลยกางกั้นตัวเองออกจากคนพวกนี้ แต่เมื่อถึงเวลาก็พร้อมให้การสัมภาษณ์ หลังจากที่นาวายศมาถึงบ้าน นนชวนเพื่อนทานข้าวกันก่อน เสร็จแล้ว คุยกันได้สักชั่วโมงหนึ่ง นนพาเพื่อนไปที่ร้านโดยให้สนุ๊กนั่งรถคันใหม่เอี่ยม เป็นรถได้รับ จากรางวัลการประกวด "รถนี้สมรรถนะดีนะ ขับนิ่มเครื่องแรง" สนุ๊กชวนคุย "ใช่ เราขอบคุณทางกองประกวดและช่อง ที่เมตตาเรา จนได้รถขับ" แม่กับพ่อทราบ เมื่อนนเมาถึง นนจึงแนะนำให้สนุ๊กได้รู้จักท่านทั้งสองก่อน "นุ๊ก นี่พ่อกับแม่เรา" "สวัสดีครับ คุณพ่อคุณแม่" คุณอิสรีรับไหว้ด้วยการพยักหน้า "พวกนักข่าวไปกันนานแล้วลูก เหลือแต่พวกแฟนคลับของลูกทั้งนั้น ที่ไม่ยอมไป จะรอจนพบลูกให้ได้" นนทราบดีครับ ที่กลับมาเพราะแฟนคลับนี่ล่ะ พวกเขาอยากเจอผม และเรานัดกันไว้ด้วยผ่านทางอินสตาแกรม ว่าผมจะเดินทางมาในวันนี้ นนมาตามสัญญาและคลาดเคลื่อนไปก่อนหน้าด้วยขบวนนักข่าวแอบบุกเข้ามาก่อน เขาจึงหลบชิ่งออกมาเพราะไม่ชอบอะไรที่ เอะอะมะเทิ่งโหวกเหวกด้วยเสียงของพวกนักข่าวที่ไม่เป็นการส่วนตัว นนอยากให้บรรยากาศ เป็นกันเองกับเอฟซีสนุกสนานเรียบง่ายมากกว่า ที่พวกเขามาเป็นเพราะรัก และชื่นชอบในผลงาน หรือเรียกได้ว่าเป็นแม่ยก ที่จะดูแลปกป้อง และสนับสนุนนนในวงการนี้ตลอดไป เมื่อแฟนคลับรับทราบ นนจึงชวนเพื่อนรักอย่างธันวายศมาด้วย เมื่อปรากฏตัวกันสองคน เสียงกรี๊ดกร๊าดใหญ่เลย กับแฟนคลับรุ่นพี่รุ่นน้องน้าอาป้าลุง แต่ทุกคนก็ทำตามมารยาทกติกา วันนี้นนใจดี สั่งขนมจากทางร้านแม่ที่เป็นเบเกอรี่กับกาแฟถ้วย ให้แฟนคลับทุกคนฟรีในวันนี้ ที่มากันกว่าสิบชีวิต จากนั้นก็พาแฟนคลับมาดูอาชีพ คือ ร้านคาร์แคร์ ร้านขายข้าวแกงของคุณแม่ กับร้านกาแฟและเบเกอรี่ แฟนคลับยกมือไหว้พ่อกับแม่ของนนกันทุกคน ท่านทั้งสองนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยรอยยิ้มส่งมาให้ จากนั้นก็มาถ่ายเซลฟี่ร่วมกันเช่นเดียวกับเพื่อนรักที่แฟนคลับก็มาแย่งขอตัวไปถ่ายเซลฟี่ด้วย แฟนคลับวันนี้ถือว่าคุ้มทีเดียว ที่ได้มางานเดียว เจอพระเอกสองคน "เสียดายนะเข้มไม่ได้มาด้วยไม่งั้นครบสาม ชวนแฟนคลับปาร์ตี้กันไปเลย" นนพูดอย่างสนุก หลังจากถ่ายเซลฟี่จนเหนื่อยแล้ว ขอนั่งพักผ่อน ส่วนแฟนคลับที่ นั่งอยู่ใกล้ๆห่างออกไป พวกเขายังไม่กลับ หากว่านนไม่กลับ พร้อมที่จะอยู่เฝ้าดาราหนุ่มไปจนถึงเย็นแล้วร้านเลิก ดาราหนุ่มได้แต่ยิ้มๆ ไม่อยากขัดใจ อีกทั้งอยากให้พวกเขากลับบ้านไปพักผ่อน "พี่ๆน้องๆลุงป้าน้าอาครับ นนไม่อยากให้พวกพี่อยู่กับนนนานขนาดนั้น สงสาร แต่ละคนมาไกลๆทั้งนั้น" "ถึงมาไกลแต่พวกเราก็รักและชื่นชมในตัวน้องนนค่ะ ไกลแค่ไหนก็จะมา" เสียงแฟนคลับสุดแสนน่ารักตอบมา คนฟังชื่นหัวใจทีเดียว นั่นคือเหตุผลที่เขาทิ้งแฟนคลับไม่ได้แม้แต่ความคิดเพราะมีความผูกพันกันมา และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD