ตอนที่ 7

1692 Words
บทประพันธ์ดีๆ เนื้อหาดีๆมักจะถูกจับจองเป็นอย่างมาก โดยนักประพันธ์ชื่อดัง และมีชื่อเสียง อีกทั้งเนื้องานเป็นที่สนใจของประชาชน ประการหนึ่งพลอตจะต้องแปลก มีทุกรสชาติ ทั้งดรามา โรแมนติก คอมมาดี้ หรือสายลุยอย่างบู๊ สะบั้นหั่นแหลก แนวสะท้อนสังคมจิตวิทยา แฟนตาซี ภูติวิญญาณ วิทยาศาสตร์เหนือจริง ซึ่งมีหมด ทางช่องมีนักแสดงเก่าประจำช่องอยู่แล้วเพียงแต่จะเสริมหรือดันดารารุ่นใหม่ของช่องที่กำลังปั้น หากดาวรุ่งคนนี้ จะถูกยื่นบทสำคัญแทรกเข้าไป เพื่อดูความเหมาะสม ในบทบาทแต่ละบท ทั้งนี้ต้องดูความสามารถของนักแสดงหน้าใหม่ของแต่ละคนที่เข้าตากรรมการ และคนที่ช่องจะดันมากที่สุด คือ คนที่ได้รับตำแหน่งทางการประกวดของช่อง อันดับหนึ่ง ถือว่าจับตามองเป็นพิเศษ เพราะทางช่องนั้นให้ความไว้วางใจจะถือว่าเป็นลูกรักเบอร์หนึ่งก็ได้ แม้ลูกรักจะมีหลายคน แต่ลูกใหม่นั้นจะน่าโปรดปรานกว่า เพราะใหม่ทุกอย่าง ฝึกง่าย มากกว่าคนเก่าที่รู้เรื่องเยอะรู้เรื่องมาก อีกอย่างนักแสดงใหม่ก็เริ่มต้นจากศูนย์ไปจนพัฒนาการตัวเองขึ้นไปสู่ระดับแถวหน้า ดูจากแวว และความสนใจในการแสดง ซึ่งนักแสดงเหล่านี้อยู่ในหัวของผู้จัดแล้ว ว่าควรจะเป็นใคร นักแสดงบางคนอาจจะใช้ความสามารถพิเศษ ด้วยการที่มักคุ้นรู้จักกันเป็นส่วนตัว ผ่านเครือญาติดาราเหล่านั้น เช่นแม่หรือพ่อ หรือเป็นหลานของเพื่อน ก็มีสิทธิ์เข้ามาในวงการได้ ถ้าคนนั้นนั้นเป็นแมวมองเพื่อปั้นดาราเข้าสู่ช่อง และสามารถเข้าถึงตัวของผู้ใหญ่ในช่องได้ง่าย อย่างนักแสดงใหม่คนหนึ่งชาวิทย์ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการประกวดใดๆ เพียงแต่แมวมองท่านนั้นชอบ และถูกใจเป็นพิเศษ ด้วยเบ้าหน้าเป็นลูกครึ่งผสมไทย เมื่อส่งรูปภาพไปให้ผู้จัดละครและผู้กำกับ ก็ตอบตกลงรับทันที พร้อมกับให้มาแคสติ้งงาน แต่ไม่ใช่กลุ่มเดียวกับนักแสดงใหม่ที่ทางช่องกำลังปั้น แต่คนนี้ ชาวิทย์ ทางช่องเจอมาก่อนประมาณสามเดือน แต่เนื่องนักแสดงหนุ่มยังติดเรียนอยู่ที่มหาลัยเอกชนชื่อดัง ทำให้ยังไม่ได้คุยงานสะดวก แต่ทางช่องมีงานป้อนให้แล้ว คือวันหยุดเสาร์อาทิตย์ คือการถ่ายทำ ดาราหนุ่มหน้าใหม่อีกคนคนนั้น พีท พิธาน จึงจัดระเบียบกับตัวเอง และตารางการทำงาน เพื่องานบันเทิงอย่างเดียวตามที่ผู้จัดการส่วนตัว เป็นคนคัดเลือก และดูตารางการทำงานให้ ส่วนพวกเขาทั้งหก ผ่านการฝึกซ้อมอย่างคร่ำเคร่งเหมือนเดิมและเคี่ยวกรำ มีผ่อนคลายในยามที่พวกเราเครียดด้วยการแสดงตลกหรือเรื่องเล่าตลกจากโค้ชแอคติ้ง ไม่งั้นก็มีจัดกิจกรรมสนุกให้พวกเราเล่น เช่นเก้าอี้ดนตรี เกมวิบาก เพื่อความสัมพันธ์กลมเกลียวกันของพี่น้อง ที่อยู่ค่ายเดียวกัน ให้เกิดความผูกพัน สนิทสนมกันมากกว่าเดิม ซึ่งเวลาเข้าฉากด้วยกันจะได้ไม่เกร็ง ซึ่งเป็นเหตุผลนี้ ที่ต้องสร้างความคุ้นเคยรู้จักกันให้มาก เปรียบดั่งเหมือนพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน กนินทร์ ครบสามเดือนแล้วที่ต้องมาอยู่ค่ายการแสดงเหมือนกับเพื่อนๆ เวลาที่คิดถึงพ่อกับแม่ นนได้ส่งไลน์ไปหา อีกทั้งโทรคอลวีดีโอคุยกัน เพื่อให้ท่านรู้ว่าอยู่ที่นี่กับเพื่อนสบายดี มีเรื่องสุขสนุกสนานมากมายเล่าให้ฟังจากเพื่อน แม้แต่เรื่องหลุด เรื่องโบ๊ะ เรื่องรั่วของเพื่อนดาราก็มีให้ขำกระจายทุกวัน จนรู้สึกว่า ยิ่งเข้ามาที่นี่ ยิ่งสนุกมากกว่าเดิม เพราะเริ่มชิน และคบกับทุกคนจนรู้จักทั่วกันหมดแล้ว ไม่ว่าเพื่อนดาราชายหรือดาราหญิง เวลานั้นได้หล่อหลอมพฤติกรรมของพวกเราให้อยู่ในจุดเดียวกันคือ มุ่งไปสู่การเป็นนักแสดงมืออาชีพที่มีฝีมือ แม้ว่าทุกคนยังไม่ถึงขั้นนั้น อีกทั้งได้เรียนรู้แบบครูพักลักจำ และอยู่ที่สกิลการเรียนรู้ของแต่ละคน ที่จะนำมาปรับใช้กับตัวเอง รวมทั้งเทคนิคต่างๆ การส่งหรือรับอารมณ์จากตัวละครด้วยกัน พวกเราฝึกกันเข้าเดือนที่สาม จวนจะเข้าเดือนที่สี่แล้ว แม้จะเหงาเพราะห่างไกลบ้านและพ่อแม่ แต่ก็อบอุ่นจากน้ำใจและการดูแลของรุ่นพี่ในวงการบันเทิงที่ได้มอบความรู้ ตำราพิเศษจากประสบการณ์ของพวกเธอและเขาโดยตรง ในการเป็นนักแสดงแถวหน้าของช่อง ที่กลายเป็นดาวค้างฟ้าแล้วในปัจจุบัน นั่นคือสิ่งที่ดี ที่ทำให้พวกเราเข้าถึงบทบาทได้ง่าย มีเทคนิคเรียนรู้แบบลัดๆ ไม่ต้องงงมาก ใช้ได้เลย เมื่อฝึกปฏิบัติจริง ทุกคนทำได้หมด จนกระทั่งทางช่องอนุมัติบอกว่า ผ่านทุกคน พร้อมกับเตรียมที่จะบรรจุนักแสดงหน้าใหม่ลงในละครของช่องตามที่เตรียมการไว้ และจะมีพิธีบวงสรวงละครที่ด้านหน้าอาคารที่เป็นศาลพระพรหม ซึ่งในวันนั้นจะมีนักข่าวมาติดตามและนำเสนอข่าวให้รับทราบทั่วประเทศผ่านช่องทีวี ไม่ต้องบอกว่าเหนื่อยแค่ไหน แต่ในความเหนื่อยก็มีทั้งความสุข มิตรภาพ และเฮฮาสนุกสนานร่วมกัน ทำให้มีสีสันไม่เครียดมาก บางครั้งนนเคยคิดท้อว่า ทำไมงานแสดงในวงการบันเทิง มันยากอย่างนี้ การจะต้องส่งอารมณ์ ทำอารมณ์ ตั้งแต่สีหน้าท่าทางเพื่อให้เข้ากับบริบทเรื่องราวและสถานการณ์ มันยากขนาดนั้น กว่าจะดึงตัวตนของตัวเองออก แล้วสวมตัวใหม่เป็นตัวละครคนนั้น นนถือว่าคุ้มเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว แอคติ้งโค้ชสอนพวกเราแบบไม่หวงตำรา งัดมาใช้หมดทุกอย่าง ทุกกลวิธี ดาราอาวุโสอีกท่านที่สอนพวกเราก็เช่นกัน พวกเราเรียกท่านว่า แม่โบ ทัศนีย์ นั่นเองทำให้พวกเราครื้นเครง และสนุกกับการฟังการทำงานการฝึก จนผ่านลุล่วงด้วยกันแบบนี้ เป็นเวลาสามเดือนกว่า ที่นนยังไม่ได้กลับไปบ้านเลย ต้องรอทางช่องปล่อยก่อน ทุกคนถึงจะกลับบ้านได้ แต่นั่นหมายถึงว่า เสร็จจากด่านหินในการฝึกตัวเองเป็นนักแสดง และโผละครออกมาแล้วพร้อมกับการบวงสรวงแล้วก็ได้บทมา ดูบทละครทั้งการซ้อมและท่องจำ ก็ถือว่าเป็นภาคปฏิบัติที่ได้เรียนรู้มาอีกครั้ง ในสนามจริงที่ต้องมาลงเป็นตัวแสดงเองแล้ว จากที่แค่ฝึกซ้อม ทุกคนได้บททั้งหมด แม้แต่คาแรคเตอร์ก็ชัดเจน ส่วนมากเราเป็นนักแสดงคู่รองของพระนางรุ่นเก่า ที่พวกรุ่นพี่จะเป็นป๋าดันกับซ้อดันให้พวกเรา เป็นการชิมลางงานก่อน ยังไม่ปล่อยให้เป็นพระเอกเดี่ยว เพราะฝีมือยังไม่ถึงขั้นนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ทางช่องปฏิบัติกันมาแบบนี้ ส่วนมากบทที่จะได้รับ เป็นนักแสดงสมทบบ้าง รับเชิญ และบทของน้องสาวพระเอกหรือหลานสาวหลานชายพระเอก ซึ่งถือว่าเป็นตัวเมน ที่ชูโรงของเรื่องราว เหมือนกับว่านักแสดงหน้าใหม่ยังไม่ปีกกล้าขาแข็งพอที่ช่องจะส่งบทดีๆหรือแรงๆให้ เพราะกลัวแป๊กหรือ ตกม้าตาย ถ้าเล่นไม่ถึง เคยมีตัวอย่างมาแล้ว ทางช่องจึงต้องทำการฝึกเคี่ยวกรำให้วิทยายุทธแก่เหล่านักแสดงหน้าใหม่จนเต็มที่ เต็มเวลาเหมือนสุกงอมของผลไม้และตกผลึกฝีมือทางการแสดง จึงจะทำการปล่อยออกไป เพื่อกระจายงานและกระจายบทบาทต่างๆให้เหล่านักแสดงหน้าใหม่ได้เล่นกันอย่างเต็มที่ นี่คือการเรียนรู้ในระยะเวลาเกือบสามเดือนกว่า ในค่ายพักของทีมงานการแสดงของช่องละครแห่งนี้ ที่ให้พวกเราอยู่ฟรีกินฟรี มีอาหารมีขนมเลี้ยงของว่างทุกวัน มันได้ประสบการณ์และความรู้ อีกทั้งมิตรภาพของเพื่อน ที่จับมือกันและเป็นเพื่อนกันอย่างเต็มภาคภูมิ โดยไม่อายเขินกัน เหมือนครั้งแรกที่เจอกัน เพราะเมื่อสนิทกันแล้วก็เมาส์มอยกันได้ทุกเรื่อง เวลาว่างของนนในวันนี้ที่ทางช่อง ให้หยุดพัก เพื่อรอการเข้ารายการสด ในอีกสามวันเป็นการแถลงข่าวของงานละครลอตใหญ่ของปีนี้ทุกเรื่อง ที่มีทั้งนักแสดงหน้าเก่าและหน้าใหม่อย่างเรา เข้าไปแจมด้วยและเป็นการแสดงตัวเปิดตัวศิลปินหน้าใหม่ของช่อง ดังนั้นในวันนี้นนจึงโทร.ไปหาคนที่บ้านเพื่อบอกเรื่องราวให้ท่านทราบ "พ่อกับแม่ครับ นนคิดถึงนะครับ แต่ยังไปหาไม่ได้พร้อมกับเพื่อนๆ พวกเราทำการฝึกการแสดงจนผ่านกันทุกคนแล้ว เหนื่อยครับ สามเดือนกว่า นนอยากกินขนมจีนน้ำยาเขียวหวานของแม่จัง กับไข่เจียวด้วย กลับไปนนจะกินให้เต็มที่เลยแม่" ทั้งคุณกัมปนาทและคุณอิสรีได้ยินเสียงของลูกชายที่คอลวีดีโอผ่านมือถือมาก็ยิ้มให้ "อดทนนะลูก อย่างนี้ละในวงการ มันต้องฝึกปรือกันฝึกฝนถึงจะเก่งเป็นนักแสดงที่ทำให้ประชาชนยอมรับได้" พ่อของนน ในฐานะนักแสดงเก่า ในยุคกางเกงขาบานและบทของพ่อ ที่ได้รับเป็นดาวร้ายจิตใจโหดเหี้ยมภาพยนตร์บู๊เป็นส่วนมากแบบระเบิดภูเขาเผากระท่อม ห้ำห่ำต่อสู้กับพระเอก ด้วยการเตะต่อยชกตีวัดดวงกัน สุดท้ายพระเอกชนะ นี่คือสูตรสำเร็จของหนังไทย ในอดีตที่คนดูชื่นชอบ จนมาถึงทุกวันนี้ก็เช่นกัน แต่ก็มีความทันสมัยของเนื้อเรื่อง และฉาก อาคาร สถานที่โดยตรง "ครับ พ่อกับแม่" "แล้วเพื่อนๆของลูกว่าไง" พ่อถามอีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD