ห้องเรียนวิทยาศาสตร์
"เดี๋ยวนะ...มันยังไงวะ กูงงนะ" ยัยแนนซี่ผู้สาวกระซิบขึ้นมาเพื่อเปิดเรื่องเด่นประเด็นร้อนในตอนที่พวกเราทั้งหกกำลังเข้าเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ โดยที่นิ้วชี้สวยๆ ของมันก็สะกิดเข้าตรงสีข้างของฉันถี่ๆ จนเนื้อหนังมังสาของฉันมันแทบที่จะติดมากับนิ้วของมัน
"เออ...อะไร? มันยังไงวะ? กูเอบก็ยังงงไม่ต่างไปจากมึงเลยอีแนน" ยันน้ำหวานกระซิบกลับด้วยเสียงแผ่วกระซิบเช่นเดียวกันกับยัยแนนซี่ ซึ่งฉันที่เป็นบ่อเกิดความสงสันของพวกมันสองตัวก็ยังคงทำทรงนิ่งและไม่คิดที่จะให้คำตอบในสิ่งที่พวกมันกำลังสงสัย (เสือก!)
"กูด้วย,กูก็ด้วย" ฟ้าใสกับซันนี่เอ่ยกระซิบพร้อมกันอย่างจงใจที่จะคาดคั้นให้ฉันพูดออกมา
"โอ๊ย! มึงก็ช่วยหุบปากกันหน่อยจะได้ปะวะเดี๋ยวก็ได้ตามคนอื่นเขาไม่ทันพอดี" ยัยกระเจี๊ยบหันมาถลึงตาใส่พวกเราทุกคนอย่างเหนื่อยใจก่อนจะขนของย้ายไปนั่งคนเดียว
แต่! อีสี่สาวแสนเสือกที่เหลือก็ยังหันมาจ้องเขม็งเพื่อกดดันให้ฉันพูดออกมาอยู่ดี!
"พวกมึงเป็นห่าอะไรกัน..." ฉันกล่าวเนือยๆอย่างเริ่มรำคาญ กะอีแค่ฉัน...ที่มันไม่เคยคิดที่จะจริงจังกับผู้ชายหน้าไหนกำลังมีความคิดจะแฟนเป็นตัวเป็นตนกับชาวบ้ารเขาแค่เนี้ยะ! ละพวกมันจะทำไมกับฉันกันนักกันหนาก็ไม่รู้!
"ก็น้องคนนั้นอะ" สี่สาวแสนเสือกเพื่อนรักของอีเหน่กระซิบขึ้นมาพร้อมกับสีหน้าที่เหมือนกับน้องหมาสงสัยไม่มีผิด ฮ่าๆ
"อ๋อ...ถูกใจก็จีบเลยงงอะไรวะ" ฉันตอบก่อนจะไหวไหล่เบาๆ
มันก็จริงอยู่ที่ฉันชอบที่จะล้อเล่นกับหัวใจของคนอื่นไปเรื่อย แต่มันก็ไม่ใช่กับคนๆ นี้ ความรู้สึกบางอย่างมันทำให้ฉันคิดแบบนั้น...
"อย่าหลอกเด็กอีกนะมึง" แนนซี่ว่าอย่างอ่อนอกอ่อนใจเพราะมันรู้ดีเสียยิ่งกว่าใครว่าน้องเสน่ห์คนนี้นั้นเจ้าเล่ห์เพทุบายมากแค่ไหน ฮี่ๆ
"แล้วเฟิส์ตอะ" ยัยซันนี่ว่าอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างอีน้องเหน่นั้นมันจะตัดใจจากความผิดหวังในความรักครั้งแรกของมันได้ในระยะเวลาอันสั้นได้จริงๆ
ปัง!!!
และแล้วเสียงของแปรงลบกระดานที่หล่นกระทบลงกลางโต๊ะก็ได้หยุดในทุกๆ ประโยคการสนทนาของฉันและผองเพื่อนไว้ตรงที่คำว่า "เฟิส์ต"
หลังจากสามวิชาช่วงเช้าผ่านไปได้ด้วยดี ฉันคนนี้ที่เคยมีความมั่นใจสูงก็ถึงกับนั่งเหม่อเมื่อคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อหลายเดือนก่อน
อันที่จริงแล้วตัวฉันเองนั้นจะเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองระดับหนึ่ง จะรัก...จะชอบใครฉันก็สมหวังมาโดยตลอดและพอเขาหลงมาตกหลุมฉันก็ทิ้งเขาไปแบบไม่แยแส
รู้แหละว่าเลวแต่อย่าด่าเยอะ หัวใจฉันมันไม่ได้หน้าเหมือนหน้าหรอกนะ กระซิกๆ
และมันก็คงจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ยัยแนนซี่เอ่ยปากต่อว่าฉันมาก่อนหน้านี้ มันก็...คงจะกลัวว่าฉันจะไปเที่ยวหลอกน้องเขาอย่างที่เคยทำๆ มานะแหละค่ะทุกคน
ส่วน 'เฟิสต์' ที่ยัยซันนี่พูดถึง เขาเป็นรุ่นพี่คนหนึ่งที่ฉันมีโอกาสได้เจอในตอนที่หนีแม่ไปเที่ยวคลับกับเพื่อนๆ คิดๆ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บหัวใจ! เพราะในตอนนั้นไม่ว่าฉันจะพยายามหยอดมุกไปสักเท่าไร แต่ก็ไม่วายที่โดนตาคนนี้ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยใดๆ ทั้งสิ้น!
อันเป็นเหตุให้อีเหน่คนนี้มันฝังใจฉิบหายกับการผิดหวังในความรักครั้งแรกในชีวิตของมัน
ล่อซะกูร้องไห้อยู่นานเป็นเดือนกันเลยทีเดียว เจ็บใจใจฉิบหาย!
แต่จะว่าไป...บางทีมันอาขจะเป็นเพราะวีรกรรมฉันมันคงเยอะมากถึงมากที่สุดด้วยแหละมั้ง... มันก็เลยไม่ใช่แปลกหรอกที่เขาคนนั้นจะได้บังเอิญไปได้ยินเรื่องราวของฉันผ่านหูเข้ามาบ้าง แต่ถึงจะยังไงก็เถอะพอคิดๆ แล้วฉันเองก็ยังรู้สึกปวดหนึบข้างในหัวใจอยู่ดีแหละ!
แต่ตอนนี้เอาแบบสัตย์จริงเลยนะ... ในครั้งนี้ที่ฉันตัดสินใจจีบน้องคนนั้นไปฉันนึกที่จะอยากจริงจังขึ้นมาจริงๆ นะคะ
"กินข้าวกันครับ" ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ๆ ก็มีเสียงปริศนาดังอยู่ตรงข้างหู ก่อนจะพบว่าเจ้าของเสียงปริศนานั้นก็คือแฟนหุ่นหมีป้ายแดงของน้องเสน่ห์คนสวยนั่นเอง~
"ไปดิ" ฉันตอบสั้นๆ และตัดสินใจที่จะเลื่อนไปจับมืออวบๆ ของเขาที่ยื่นมารออยู่ก่อนหน้าและใช้มืออีกข้างที่ว่างจะโบกลาเพื่อนเก่าเพื่อนแก่อีกห้าคนที่พร้อมใจกันปฏิเสธการเชิญชวนของน้องอั๋นเนื่องด้วยว่าพวกมันไม่อยากที่จะไปเป็นก้างขวางคอของฉันนั่นเอง ฮ่าๆ
"อ้าวเฮ้ยอั๋น! ป่ะกินข้าวกัน" เสียงทุ้มคุ้นหูที่ดับมาแต่ไกลๆ เรียกความสนใจให้กลับมามอง ก่อนจะเห็นว่าเป็น 'เฟิส์ต' ที่หักอกฉันไปเมื่อหลายเดือนก่อน...
แต่...เขาก็คงไม่ทันที่จะสังเกตุเห็นฉันหรอกนะเพราะน้องอั๋นยืนบังตัวฉันอยู่น่ะ
"เฮ้ย! ไม่เป็นไรว่ะกูจะไปกินข้าวกับแฟนว่ะ ไว้วันหลังนะ" อั๋นตอบพลางยิ้มกว้างอย่างอวดๆ และฉันก็ใจฟูอยู่ไม่น้อยเมื่อพอที่จะสัมผัสได้ว่าเขายินดีแค่ไหนกับการมีอยู่ของฉัน
รักแฟนนะ~
"ร้ายว่ะ... ว่าแต่ใครวะ" สิ้นคำถามเฟิส์ตก็ชะเง้อคอยาวๆ ด้วยความสงสัย
"คิดจะหลอกไปทุกคนรึไงครับคุณพี่" และพอหมอนั่นเมื่อหันมาเห็นฉันที่ยืนนิ่งไม่พูดจาอยู่ มันก็เบะปากและพูดกระแทกแดกดันใส่หน้าฉันที่ได้แต่ยืนนิ่งและกำหมัดเอาไว้แน่น
"อย่าไปสนใจมันเลย ปากมันหมางี้แหละ เอาจริงๆ เราก็รู้จักเธอเหมือนกันแหละ เธอจีบมันในอีเว้นท์ก่อนจะเปิดเทอมไม่กี่วันก่อนฉันจำได้..."
"เธอรู้..." ฉันเงยหน้ามองเขาอย่างรู้สึกตื่นตะลึงนิดหน่อย ก่อนจะตัดสินใจถามอะไรบางอย่างออกไป...."รู้แล้ว... ทำไมเธอถึงยังอยากที่จะจะตกลงคบกับเราอะ ไม่เข้าใจ..."
"ก็ชอบเธออะ" เขายักไหล่ "แล้วเรื่องที่เธอเคยจีบมันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเรื่องที่เราคบกันเลยนี่ จริงไหมละ!"
เขาจับมือที่ฉันกำลังจะปล่อยออกเอาไว้แน่นกว่าเดิม และสิ่งนั้นมันทำให้ฉันเขินจนตัวม้วนเป็นเลขหนึ่งไทยไปเลยทีเดียวเชียว~
"คิดมาก ป่ะกินข้าวกันครับที่รักของไอ้อั๋น..."
ดราม่ากรุบกริบ นุบนิบๆ น่ารักๆ ค่ะเรื่องนี้ เพราะสมัยนั้นเหยินผูกปมยังไม่เก่งจ้ะ