สี่เท้าปริศนาพุ่งเข้าใส่ไอ้ยักษ์สองคนที่กอดรัดเราสองคนอยู่อย่างแรง จนฉันและแนนซี่เกือบที่ตั้งหลักไม่ทันเพราะจู่ๆ ก็หลุดจากวงแขนนั้นแบบไม่ทันตั้งตัว
"มึงควรเช็คคนที่เข้ามาในผับบ้างนะไอ้ซัน" เป็นเฟิส์ตที่กำลังหันไปสบถอยู่กับเฮียซันที่กำลังเตะไอ้หื่นกามสองตัวนั้นให้ออกไปให้ห่างจากเราสองคน
"โทษทีว่ะไอ้เฟิส์ตวันแรกมันก็วุ่นวายนิดหน่อย" พี่ซันก้มหน้าก้มตาอย่างยอมจำนนต่อความผิดพลาด
"ขอโทษน้องแนนกับน้องเหน่ด้วยจริง ๆครับ"
"อ๊ะๆ เฮียซันไม่ต้องก้มหัวขนาดนั้น หนูสิต้องขอบคุณพี่ไม่ได้พี่พวกหนูแย่แน่เลย" ฉันเดินเขาไปจับไหล่พี่ซันอย่างวิสาสะเพราะพี่กำลังก้มหัวลกๆให้ฉันกับแนนซี่
หมับ
"อั๋น..." ฉันสะดุ้งเล็กน้อยในตอนที่มีคนดึงรั้งข้อมือมาจากด้านหลัง ก่อนที่จะพบว่าคนๆ นั้นคือแฟนของฉันเอง ใดๆ เลยก็คือในตอนนี้ฉันกลับรู้สึกอบอุ่นใจมากเลยที่เห็นว่ากำลังยืนอยู่ตรงนี้ข้างๆ กัน...
"ฉันว่าเราสองคนมีเรื่องต้องคุยกันหน่อยนะ เธอว่าไหม?" เขาว่าจ้องเขม็งมาที่ฉันอย่างคาดโทษ ยอมรับเลยว่าวินาทีนี้ยอมหมดแล้วค่ะทูนหัวเพราะครั้งนี้อีเหน่คนนี้มันได้กระทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงไปแล้วจริงๆ
"เดี๋ยวยังไงแนนกลับกับการ์ดของเฮียซันนะ ครับ ส่วนรถไม่ต้องห่วงเราจะให้บอดี้การ์ดของเราขับตามไปด้วยทันที"
"ขอบคุณมากนะอั๋น" ยัยแนนซี่ที่ยังผวากับเหตุการณ์ก่อนหน้าไม่ต่างไปจากฉัน เอ่ยขอบคุณแฟนของฉันก่อนจะเดินออกไปขึ้นรถตามที่เขาสั่งอย่างคนที่กำลังสับสนและมึนงงอยู่
"น่าตีนะว่ามั้ย" เขาเปิดประเด็นหลังจากที่เรานั่งออกรถมาโดยมีคนของเขาเป็นพลขับมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว
"ก็แค่อยากเปิดหูเปิดตาบ้าง" ถึงจะรู้อยู่เต็มอกว่าในครั้งนี้ตัวเองได้กระทำผิดและพลาดมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่เถียงก็คงจะเรียกว่าเสน่ห์ไม่ได้อีกนะแหละ ฮ่าๆ
"แล้วไปอีเว้นท์ไม่ได้รึไงครับ?" เขาที่นั่งอยู่ข้างกันหันหน้ากลับมาถามฉันครู่หนึ่งด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแทนที่จะเป็นหยาบกระด้างถ้าหากจับได้ว่าฉันกำลังผิดคำพูด
"การ์ดเฝ้าขนาดนั้นฉันเกร็งจนฉี่จะแตกอยู่แล้วนะ" ฉันพูดติดตลกและหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างไม่ค่อยซีเรียสนัก จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก ครั้งนี้ฉันดื้อเอง...รั้นด้วย ทุกอย่างมันก็เลยเกือบจะจบลงไปแบบไม่สวยอย่างนี้
"เธอเบื่อหรือเปล่า? เบื่อที่ฉันคอยหวงเธอแบบนี้หรือเปล่า" เสียงทุ้มนั้นเอ่ยขึ้นคล้ายว่าจะน้อยใจฉันขึ้นมาจริงๆ เฮ้อ!
"เธอคงอยากจะเลิกกับฉันมากเลยสินะ ฉันคนที่โคตรจะงี่เง่า..."
"รักขนาดนี้แล้วจะเลิกได้ยังไงก่อน" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงติดทะเล้นและแอบหอมแก้มนุ่มๆ นั้นไปหนึ่งฟอดด้วยความหมั่นไส้แฟนของตัวเอง
"ยัยซันนี่มันชวนมาจ้ะ แล้ว...อั๋นรู้ได้ไงว่าเหน่อยู่นี่"
"ไอ้เฮียซัน...ผัวของซันนี่คือเพื่อนร่วมธุรกิจของป๊าฉันนะครับทูนหัว" ฉันเกลียดอีซันนี่ได้ปะทุกคนถามจริง? คือมันคิดจะชวนฉันเที่ยวแต่แผนการณ์เสือกหละหลวมไปหมดซะจนแฟนของฉันจับได้อยู่อย่างในตอนนี้เนี่ย!
"ยังไงก็ขอบคุณจริงๆ นะคะที่...ที่ยังตามมาช่วยฉันกับยัยแนนมันได้ทันเวลาพอดี"
"ก็เล่นใส่ชุดล่อเสือล่อตะเข้ซะขนาดนั้นนี่นะ" เขายู่ปากอย่างไม่พอใจ ส่วนฉันก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนเพราะชุดฉันในวันนี้นั้นโป๊มากจริงๆ ถ้าใครอยากจะรู้ว่าแก่แดดมันมีความหมายว่าอะไรก็เชิญมองมาที่นังเสน่ห์คนนี้ได้เลยค่ะ! ถามว่ารู้ตัวแล้วคิดจะปรับปรุงไหม บอกเลยว่าไม่ค่ะ ไม่มีสลด!
"ก็ปกติป่าวพ่อหนุ่ม ไปเที่ยวผับนะคะไม่ได้ไปนั่งวิปัสสนาสักหน่อยน้า~" และฉันก็ยังอดที่จะเถียงเขาแบบข้างๆ คูๆ อยู่ดีนั่นแหละ ฮ่าๆ
"ก็หวง" เขาเอ่ยอย่างอ่อนใจและฉันก็รู้ตัวว่าตัวเองก็ชอบทำตัวให้เขาเป็นห่วงจริงๆ นะแหละ
"ก็รู้..." ฉันว่าเชิงขอร้องอยู่กลายๆและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะรับฟัง "แต่...ถ้าน้อยลงกว่านี้จะดีมากเลยนะ"
"ขอโทษที่ทำให้รำคาญ" เขาพูดเสียงอ่อนใส่ฉันอย่างน้อยอกน้อยใจ ซึ่งนั่นมันทำให้ฉันรู้สึกเอ็นดูเขาขึ้นมา...
"เปล่าซะหน่อยนะ" ฉันเลยรีบปฏิเสธแทบจะทันทีเพราะขืนปล่อยให้เขาคิดเอาไปเองนานกว่านี้เห็นทีว่าจะยาว
"หรือไม่อยากให้ฉันแสดงตัวเพราะกลัวเขารู้ว่ามีฉัน"
"ว่าไปนั่น! ฉันมีแค่เธอคนเดียวค่ะ" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและแน่นอนว่ามันคือเรื่องจริง
"เชื่อได้?" เขาว่าด้วยน้ำเสียงติดล้อเลียนแต่ฉันก็ไม่ได้โกรธอะไร เพราะเข้าใจว่าประวัติของตัวเองมันก็ใช่ว่าจะใสสะอาดซะเมื่อไหร่ละ...
"แน่นอน เธอเป็นคนแรกที่ฉันพาไปเจอแม่เลยนะ คนแรกและคนเดียว"
"เขินนะเนี่ย" เขายื่นมือมาขยี้หัวฉันเบาๆ แต่ไอ้คำว่าเขินเนี่ยให้ฉันพูดมันคงจะเหมาะกว่ามาก~
"เขินเหมือนกัน อ๊ะ! จะไปไหนน่ะ" ฉันออกปากท้วงเมื่อเห็นว่าคนของเขากำลังขับรถเลียบออกไปทางถนนนอกตัวเมือง
"ทะเล"
"ตอนตีสี่นี่นะ" ถึงจะรู้สึกดีใจเพรนะฉันเองนั้นชอบทะเลยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก แต่! คนสติดีๆ ที่ไหนเขาจะทำกันละพ่อเอ๊ย น้องเหน่หัวจะปวดนะ!
"ไปถึงดวงอาทิตย์ก็ขึ้นพอดีแหละ" เขาไหวเบาๆ ราวกับว่าการมาทะเลตอนตีสี่คือเรื่องปกติที่ใครเขาก็ทำกัน
ปกติ? ปกติกี่โมง?
"ฉันชอบทะเล" ถึงจะว่าเขาบ้าแต่ลึกๆ แล้วก็รู้สึกดีใจอยู่ที่ในวันนี้เขากำลังจะพาฉันไปในสถานที่ที่ฉันชอบ
"ฉันรู้...แม่บอกมา" เข้าทางแม่อีกตามเคยสินะ เขาเรียกกันว่าอะไรนะ อ้อ! อยู่เป็น!
"ขอบคุณที่พามานะ"
"อยากพามานานแล้วแต่ตัวเองเอาแต่เข้าผับ" อ้าว! วนมาเหน็บกันเองเฉยเลย ฮ่าๆๆ
"ฉันชอบเที่ยวมันผิดหรือไง" ฉันว่าด้วยน้ำเสียงติดทะเล้นก่อนที่จะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ "แต่เดี๋ยวก่อนนะ!"
"ว่า" เขาตอบรับอย่างไม่ปล่อยให้ฉันคอยนาน ขณะที่หัวหยักศกหอมนุ่มนั้นก็พิงเข้าตรงไหล่ของฉัน ฉันก็เลยจัดการขโมยหอมหัวเจ้าเด็กขี้อ้อนไปฟอดหนึ่ง
"ทำไมถึงเรียกเฮียซันว่าไอ้? เฮียเขาแก่กว่าตั้งหลายปีนะ" คือจริงๆ แล้วเฮียซันแฟนยัยซันนี่อะแกอายุสามสิบปีแล้วแหละทุกคน และเฮียแกกับอีซันก็คบหาดูใจกันมาตั้งแต่อีซันกับพวกเรามันเรียนอยู่ชั้นประถมหกนู่นแหนะ ก็เลยเป็นเหตุผลให้พวกเราเรียกเฮียแกว่าเฮียซัน
อีซันแนะนำฉันว่าคนแก่น่ะตังค์ถึง อ้อนเก่ง แต่ฉันกลับรู้สึกจั๊กจี้นิดหน่อยถ้าจะต้องควงแขนแฟนที่มีอายุมากกว่าตัวเองเป็นสิบๆ ปีขึ้นมาจริงๆ
"ก็เปล่า...แค่สนิทกันเฉยๆไม่ได้มีอะไร" เขารีบพูดเร็วๆ และมันก็ทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะสงสัย
"นายดูลกๆ นะ" ก็เลยชะโงกหน้าไปใกล้ๆ เขาเพื่อหวังที่จะจับผิด
"อย่าเปลี่ยนเรื่องหน่อยเลยน่า... เธอยังติดคดีเรื่องหนีฉันเที่ยวอยู่นะ"
ฉันที่ได้ยินแบบนั้นก็เลยได้หุบปากโดยอัตโนมัติเพราะทุกสิ่งอย่างที่ต้องเจอเมื่อคืนนี้มันล้วนเกิดจากตัวฉันทั้งนั้นจริงๆ
อั๋น แกดูน่าสงสัยนะฉันว่า 🫢😂🤣