ตามใจเธอ

1261 Words
"เย็นนี้อยากกินไอติมจัง" ผมที่กำลังนั่งเขียนการบ้าน! ใช่ครับ! เขียนการบ้านเด็กมอสี่ในวัยสามสิบปี! หันขวับกลับไปมองเจ้าของประโยคที่อยากกินไอศกรีมนั้นด้วยความรู้สึกอยากขัดใจแต่ก็ไม่กล้า~ วิถีคนมีแฟนเด็ก อะไรยอมได้ก็ยอมเด้อ เพราะผมเคยบอกไปแล้วว่าอกหักตอนอายุสามสิบปีไม่ใช่เรื่องตลกเด้อพี่น้อง! "ไอซ์ สวีทตี้เหมือนเดิมใช่ไหมครับที่รัก" "จะมีใครที่รู้ใจฉันเท่านาย น่ารักจริงจริ๊ง" ผมแอบเบ้หน้าเพราะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในตอนที่อุ้งมือเล็กๆ นั้นขย้ำมาตรงสองแก้ม เจ็บแหละแต่รักไง...ก็เลยยอมเธอได้ Ice Sweety หลังจากที่ผมจัดการเรื่องการบ้านที่อาจารย์สั่งเสร็จแล้วเป็นที่เรียบร้อย เราสองคนก็พากันซ้อนมอเตอร์ไซค์ของเธอ ใช่ครับ! ระยะหลังๆ มานี้เราสองคนจะไปไหนมาไหนด้วยกันด้วยรถมอเตอร์ไซค์ของเธอเท่านั้น เพราะผมไม่อยากที่จะว่าจ้างก้างขวางคออย่างไอ้คีตะมาขับรถให้อีกแล้วนั่นเอง จุ๊บแฟนที ไอ้ห่าคีตะเล่นวิ่งแจ้นไปฟ้องลุงของแฟนที อันเป็นเหตุให้ไอ้จอร์แดนเขกหัวผมจนสมองจะบวมตายไปแล้วเนี่ยดูเอาเถอะ! "นายเอาไอติมวนิลาไม่เพิ่มท็อปปิ้งเหมือนเดิมใช่ไหม" "ครับ" ผมตอบรับสั้นๆ ก่อนพิงตัวลงกับพนักพิงเก้าอี้เพื่อรอคอยเวลาให้ไอศกรีมที่สั่งไปถูกยกมาเสิร์ฟให้โดยบริกรของทางร้าน "อันนี้ไอศกรีมมะนาวถ้วยใหญ่ของคุณผู้หญิงได้แล้วค่ะ ส่วนอันนี้ไอศกรีมวนิลาถ้วยเล็กของคุณผู้ชายค่ะ" "เลอะหมดแล้ว" ผมที่จัดการไอศกรีมในส่วนของตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว กำลังนั่งมองเด็กดื้อบางคนที่ในตอนนี้มีคราบไอศกรีมติดเลอะอยู่ทั้งสองมุมปาก "เช็ดให้หน่อย" ใบหน้าเล็กๆ น่ารักๆ นั้นยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม ก่อนที่ดวงตาคู่กลมจะปิดพริ้มลงอย่างรอคอยให้ผมเช็ดทำความสะอาดมุมปากให้ จ๊วบ! ก็ไม่ได้จะตั้งใจจะจูจุ๊บกันในที่สาธารณะหรอกนะแต่ขอหน่อยเถอะ ก็แฟนผมน่ารักขนาดนี้แล้วจะให้อดใจยังไงไหวก่อน! จ๊วบ! ก่อนที่นาทีต่อมาจะมีเด็กดื้อบางคนที่สู้ผมโดยการดูดขอบปากล่างผมกลับ ส่งผลให้ไอ้อั๋นน้อยถึงกับแข็งตึงขึ้นมาเลยทีเดียว "จุ๊บมาจุ๊บกลับไม่โกงนะคะ" ดูน้ำเสียงที่มีลูกเล่นแพรวพราวแอบแฝงอยู่ของเธอสิครับทุกคน! มันช่างเซ็กซี่เอาซะจนคนแก่อย่างผมต้องตั้งจิตภาวนาว่าแฟนที่อยู่ตรงหน้านั้นพึ่งจะมีอายุสิบเจ็ดปีบริบูรณ์เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา! "นายร้อนเหรอ?" "ฮะ?" ผมขานรับในสิ่งที่เธอถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก ก่อนที่นาทีต่อมาเม็ดเหงื่อจากตัวผมจะหยดติ๋งลงบนโต๊ะ จึงทำให้ผมได้รู้ว่าตอนนี้ต่อมเหงื่อของตัวเองมันกำลังทำงานหนักซะจนเครื่องปรับอากาศระดับความเย็นยี่สิบองศาของร้านก็ห้ามเอาไว้ไม่อยู่! "อ๋อ...ใช่แหละ ร้อนแหละ" ร้อนมาก ร้อนฉิบหาย! โดยเฉพาะไอ้ตัวที่อยู่ตรงหว่างขากูเนี่ย แม่งตึงจนกูร้อนไปหมดทั้งตัวแล้วไอ้ห่า! "อะไร" ผมยื่นมือออกไปรับอะไรบางอย่างที่คล้ายกบเหลาดินสอแบบหมุน แต่อันนี้ไม่มีที่หมุนอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก "มันคืออะไร?" "พัดลมไง" เธอไขข้อข้องใจให้ผมได้กระจ่าง "พัดลมพกพา ก็เห็นว่าร้อนหนิ" "อ๋อ...ตอนแรกคิดว่ากบเหลาดินสอเอาซะอีก" ขอโทษด้วยนะครับทุกคนที่ไอ้อั๋นนั้นมันทั้งแก่ทั้งเชย ฮ่าๆ "กดเปิดตรงนี้" ลมอ่อนๆ ค่อยๆ ระบายออกมาจากเจ้าพัดลมพกพาตัวจิ๋ว ส่งผลให้ผมที่เคยมีความคิดลามกจกเปรตต่อแฟนรู้สึกผ่อนคลายและขับไล่ความคิดจัญไรนั้นออกไปให้พ้นจากหัวสมองได้ในที่สุด ค่อยยังชั่ว... เกือบได้นอนตะรางแล้วไหมละกู "ชอบละสิ อันนั้นนายเอาไปเถอะฉันให้ ที่บ้านฉันยังมีอีกอันนึง" เธอที่เห็นว่าผมมีสภาพที่ดีขึ้นจึงไม่รอช้าที่จะออกปากบอกให้พัดลมพกพาตัวจิ๋วนี้กับผม และยื่นสายสีขาวสำหรับชาร์ทแบตเตอรี่ของมันมาให้ผมในนาทีต่อมา "ขอบคุณครับ" เกือบสองชั่วโมงต่อมาเราก็พากันมาถึงบ้านของเธอในที่สุด โดยที่ในมือของคนซ้อนท้ายอย่างเธอนั้นเต็มไปด้วยของกินของใช้ที่เราสองคนช่วยกันเลือกเมื่อก่อนหน้านี้ "คุณแม่ใส่เสื้อตัวนี้แล้วสวยมากเลยครับ" เคยบอกไปหรือยังนะว่าคุณแม่โสนของเสน่ห์ในวัยสามสิบเก้าปีนั้นยังคงสวยไม่สร่างครับ ถ้าหากใครที่ไหนสงสัยว่าแฟนของผมเธอสวยได้ใคร ผมก็จะขอบอกเลยว่าเธอสวยได้แม่ของเธอนั่นเองครับทุกคน "ขอบคุณจ้ะ" จริงๆ แล้วผมกับแม่ของเธอมีโอกาสได้เจอกันมาหลายครั้งแล้วแหละครับเพราะทางบ้านของเราทำธุรกิจหลายอย่างร่วมกัน และแน่นอนครับว่าน้าโสนแกรับรู้ถึงอายุที่แท้จริงของผมครับแต่เป็นผมเองที่ร้องขอน้าเขากับป๊าเอาไว้ว่าอย่าพึ่งบอกเสน่ห์ในตอนนี้ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้มีใครรู้จักผมที่เป็นลูกชายคนเดียวของท่านเจ้าสัวมากจนถึงขนาดนั้นหรอกครับ เพราะผมเองพึ่งจะย้ายกลับมาอยู่กับพ่อในช่วงสิบห้าปีหลัง ส่วนสิบห้าปีแรกผมอาศัยอยู่กับแม่ที่แยกทางกันกับป๊าไปตั้งแต่ตอนที่ผมยังไม่ลืมตาดูโลกนู่นแหนะ มีเหตุผลบางอย่างที่ทั้งคู่ไม่สามารถที่จะร่วมใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันได้นะครับทุก แต่อย่าไปพูดถึงเลยเดี๋ยวจะได้เห็นคนแก่อย่างไอ้อั๋นร้องไห้ขี้มูกโป่งเอาซะเปล่าๆ ฮ่าๆ "อั๋น!" "ฮะ...อะไร เสียงดังทำไม" "ก็เรียกหลายครั้งแล้วนายไม่ขาน" ผมที่ได้ยินแบบนั้นจึงหันไปส่งสายตากับน้าโสนว่าเธอพูดเรื่องจริงหรือเปล่า และเมื่อได้เห็นว่าอีกฝ่ายกดหน้าลงเบาๆ ผมจึงเข้าใจได้ในทันทีว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นความจริง "อ๋อ...ขอโทษครับคิดอะไรเพลินๆ ว่าแต่คุณแฟนที่น่ารักของไอ้อั๋นมีอะไรครับ" ใครจะเป็นเสือก็เป็นไปเถอะ ส่วนไอ้อั๋นคนนี้ขอเป็นน้องหมาที่อยู่ในกำมือของแฟนมันคนนี้ตลอดไปเลย~ "จะถามว่ากินข้าวไหม?" "กินครับกิน งั้น...คุณแฟนกับคุณแม่นั่งรอได้เลยเดี๋ยวไอ้อั๋นคนนี้จะรับหน้าที่เป็นคนจัดโต๊ะจัดจานเองคร้าบ!" ผมว่าด้วยน้ำเสียงติดทะเล้นและผมก็รู้สึกใจฟูอยู่ไม่น้อยที่การกระทำนี้ของผมมันสามารถที่จะเรียกรอยยิ้มมาจากเธอและคุณแม่ได้ "มาแล้วคร้าบ! ทานข้าวกันครับคุณแม่ คุณแฟนคนสวยของไอ้อั๋น~" ไอ้อั๋นน่ารักนะ จะมาเสียก็ตรงทีขี้หวงเมียจนเกินเหตุไปหน่อย ฮ่าๆๆ 🤣🤣🤣
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD