เหตุบาดหมาง (30%)

2307 Words
พื้นที่ของไร่แดนสรวงจะแบ่งเป็นโซนอย่างชัดเจน ฟาร์มม้าขนาดใหญ่จะถูกจัดไว้ทางทิศเหนือ ถัดจากนั้นไกลพอสมควรก็จะเป็นพื้นที่เพาะปลูกทางการเกษตร ที่มีพืชหลากหลายชนิดที่ทางไร่ปลูกส่งออก ซึ่งหลักๆ จะเป็นแก้วมังกรและสตรอว์เบอร์รี่ปลอดสารพิษ โดยจะมีโซนที่จัดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเซลฟี่เก็บความประทับใจ ซึ่งอยู่ติดกับในส่วนของรีสอร์ตที่ล้อมรอบไปด้วยมวลดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ อาทิเช่นดอกทิวลิป ดอกเดซี่ ดอกเยอบีร่า และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยเหตุทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้บรรพบุรุษจึงตั้งชื่อเป็นไร่แทนที่จะตั้งชื่อเป็นฟาร์มม้า นั่นก็เพราะว่ามีการผสมผสานหลากหลายกิจการเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งกิจการทั้งหมดที่กล่าวมานั้นทำกำไรให้ปีละไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันล้าน และบัลลังก์เมฆคงจะดูแลคนเดียวไม่ไหว หากไม่ได้ผู้จัดการในแต่ละส่วนเข้ามาช่วย ผู้จัดการที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญมีทั้งหมดห้าคน ซึ่งแต่ละคนล้วนมีฝีมือและไว้ใจได้  ส่วนบ้านพักคนงานจะถูกจัดสรรในพื้นที่ห่างไกลจากส่วนที่กล่าวมาดังข้างต้น เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย และนำมาซึ่งปัญหาที่อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวไม่ประทับใจ ห่างออกมาเกือบสามกิโลเมตรก็จะเป็นพื้นที่ของบ้านไม้สักทองหลังใหญ่ บัลลังก์เมฆไม่ได้อยู่บ้านที่ตนอาศัยมาตั้งแต่เล็กจนโต นับตั้งแต่น้าสาวผูกคอฆ่าตัวตายเมื่อหลายปีก่อน บ้านที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคนจึงค่อนข้างเงียบเหงา เพราะพ่อเลี้ยงหนุ่มได้ย้ายไปอยู่ที่กระท่อมท้ายไร่ นานๆ ทีถึงจะกลับไปนอนที่นั่น ส่วนมากจะเป็นเนื่องในโอกาสที่มีแขกมาเยือนกันหลายคน แต่ถ้าเป็นเพื่อนสนิทมาเยี่ยมเขาจะเปิดกระท่อมท้ายไร่สุดหรูซึ่งออกแบบในรูปแบบของบ้านพักตากอากาศต้อนรับ เพราะที่นั่นมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน มีการจัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัวท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ซึ่งเบื้องหน้าเป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผ้าสูงชัน และที่สำคัญคือกว้างขวางพอที่จะให้คนมาเข้าพักได้ไม่ต่ำกว่าห้าคน หลังจากส่งมอบลูกม้าให้เศรษฐีชาวอาหรับรายหนึ่งในเวลาบ่ายแก่ บัลลังก์เมฆก็มานั่งตรวจงานอยู่ที่ห้องทำงานในบ้านใหญ่จนมืดค่ำ เพื่อรอคุยเรื่องสำคัญกับคนที่มอบหมายให้ไปทำงานบางอย่าง ถึงแม้โดยส่วนมากเขาจะไม่ได้ใช้ชีวิตกินนอนอยู่ที่บ้านไม้สักทองหลังงามแห่งนี้ตั้งแต่น้าสาวจบชีวิตลง แต่ก็จัดให้คนดูแลและมีเวรยามคอยตรวจตรารอบๆ บริเวณอย่างแน่นหนา เพราะเอกสารสำคัญจะถูกเก็บไว้ที่บ้านใหญ่ทั้งหมด ส่วนที่กระท่อมท้ายไร่ซึ่งถือเป็นพื้นที่ส่วนตัวนั้นเขาไม่อนุญาตให้คนนอกล่วงล้ำกล้ำกราย จะมีเพียงแม่บ้านเข้าไปจัดการเรื่องอาหารให้ในแต่ละวัน ทำความสะอาดอาทิตย์ละสามครั้ง แต่ยกเว้นบุปผาสวรรค์ซึ่งมักจะลักลอบเข้าไปที่นั่นอย่างไม่กริ่งเกรง   วันนี้พ่อเลี้ยงหนุ่มไม่มีสมาธิทำงานเท่าที่ควร เพราะขยับไปทางไหนก็เห็นแต่ภาพของยัยตัวแสบที่กรีดร้องลั่นระงมเมื่อถูกเขาส่งไปถึงสวรรค์ ทำเอาสัดส่วนที่สมองควบคุมไม่ได้เกเรดันเป้ากางเกงทั้งวัน ครั้นจะเรียกคู่ขาสาวสวยหุ่นสะบึมมาระบายความกระหายใคร่อยาก แค่คิดถึงหน้าแม่พวกนั้นเขาก็หมดอารมณ์อย่างน่าประหลาด เจ้าของร่างทรงพลังนั่งทำงานไปเรื่อยๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นแล้วสตาร์ตรถขับกลับกระท่อมท้ายไร่ทั้งที่จวนจะถึงเวลาอาหารเย็นเข้าไปทุกที นั่นก็เพราะว่าเขามีนัดสำคัญ และกำลังเฝ้ารอการมาของคนที่เขามอบหมายให้ไปทำงานสำคัญให้อย่างใจจดใจจ่อ และแล้วการรอคอยของเขาก็สิ้นสุดลง  ก๊อก…ก๊อก…ก๊อก… “เข้ามา” ทันทีที่เสียงเคาะประตูดังขึ้นพ่อเลี้ยงหนุ่มก็เอ่ยอนุญาตเสียงขรึม ปิดแฟ้มงานที่กำลังตรวจเช็กลง แล้วขยับนั่งตัวตรงขณะเพ่งสายตาสีน้ำตาลทองไปยังประตู   “สวัสดีครับนาย” ผู้มาใหม่ทำความเคารพเจ้านายอย่างนอบน้อม  “อืม…นั่งสิดำ” บัลลังก์เมฆเอ่ยสั้นๆ แล้วเข้าประเด็นสำคัญทันที “หวังว่าที่นัดกับฉันวันนี้คงจะได้เรื่องนะ” “ผมได้ตัวคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนที่คุณปิ่นมุกจะฆ่าตัวตายแล้วครับ”  ปิ่นมุกที่ถูกกล่าวถึงคืออดีตสาวสวยผู้เลื่องชื่อที่ล่วงลับไปแล้วเมื่อเจ็ดปีก่อน หากแต่เพราะการตายยังคลุมเครือ ที่สำคัญยังจับฆาตกรไม่ได้ การดำเนินงานของตำรวจในการสืบคดีและค้นหาตัวประจักษ์พยานไม่คืบหน้า บัลลังก์เมฆจึงต้องลงมือสืบหาเสียเอง   ปิ่นมุกเปรียบเสมือนแม่คนที่สองของบัลลังก์เมฆและน้องสาว เพราะตั้งแต่บิดาและมารดาได้จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ปิ่นมุกก็คอยเลี้ยงดูอุ้มชูเขากับน้องสาวมาตั้งแต่เด็กๆ นับจากวันที่เสียน้าสาวอันเป็นที่รักไปด้วยการผูกคอฆ่าตัวตายอย่างน่าอนาถ ซึ่งสาเหตุมาจากที่เธอท้องแล้วพ่อของเด็กไม่รับผิดชอบ เป็นระยะเวลาเจ็ดปีที่เขาพยายามหาหลักฐานมามัดตัวคนผิดแต่ก็คว้าน้ำเหลว ฉะนั้นสิ่งที่ลูกน้องมาบอกในวันนี้จึงถือว่าเป็นข่าวดีในรอบหลายปี เพราะมันอาจจะทำให้สาวไปถึงตัวผู้ต้องสงสัยในการตายของปิ่นมุกรายสำคัญเช่นบุรี นฤบดินทร์ ลูกชายคนเล็กของไร่หวานใจ น้องชายของพ่อเลี้ยงบัญชา ซึ่งบังลังก์เมฆปักใจเชื่อว่าบุรีคือคนที่ทำให้น้าสาวจบชีวิตลง แต่ทางตำรวจก็ยังไม่ได้ฟันธงว่าเธอผูกคอตายเอง หรือเป็นการฆาตกรรม เนื่องจากไม่มีพยานอยู่ในเหตุการณ์  ซึ่งหลังจากนั้นบุรีก็หายสาบสูญไป โดยที่ทางไร่หวานใจเองก็ไม่รู้ว่าบุรีหายไปไหน ซึ่งนั่นมันเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น ไร่นั้นจงใจที่จะช่วยการหลบหนีคดีของคนผิดทั้งที่มันสมควรจะได้รับโทษอย่างสาสม แถมมันยังน่าโมโหที่พ่อเลี้ยงบัญชาออกมาปกป้องน้องชายด้วยการให้ปากคำกับตำรวจว่านายบุรีไม่มีทางชอบปิ่นมุกเพราะเขาเป็นเกย์ หนำซ้ำยังใส่ร้ายคนตายว่าเธอน่าจะท้องกับผู้ชายคนอื่น แต่ขอร้องให้บุรีรับเป็นพ่อของเด็ก พอบุรีปฏิเสธความรับผิดชอบที่ตนไม่ได้กระทำ ปิ่นมุกจึงตัดสินใจจบชีวิตลงด้วยการฆ่าตัวตายเพื่อหนีอายจากคำครหาว่าท้องไม่มีพ่อ นั่นมันเป็นการให้การที่บัดซบสิ้นดี จากที่สมัยบรรพบุรุษเป็นศัตรูกันในทางธุรกิจอยู่แล้ว พอมีเรื่องนี้เข้ามาอีกก็ทำให้บัลลังก์เมฆเกลียดพ่อเลี้ยงบัญชาอย่างเข้าไส้ ชนิดที่ไม่มีวันญาติดี แม้ตายก็ไม่ไปเผาผี   “นายครับ” นายดำเอ่ยเรียกเบาๆ เมื่อเห็นผู้เป็นนายไม่เอ่ยว่ากระไร  “อืม…เมื่อกี้แกบอกว่าแกได้ตัวไอ้ชัยมาแล้วใช่ไหม” คนที่เพิ่งหลุดออกจากภวังค์เอ่ยถามเสียงขรึม ก่อนจะกระตุกยิ้มตรงมุมปากด้วยความสมใจ   “ใช่ครับ นายจะให้เอาตัวมันเข้ามาเลยไหมครับ หรือว่านายจะเค้นคอมันทีหลัง”  “เอาตัวมันเข้ามาเลย รีบเค้นคอให้มันจบๆ จะได้มีเบาะแสไปตามล่าไอ้บุรีเสียที” พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยเสียงกระด้างเจือดุดัน แค่คิดถึงหน้าคนที่มันทำให้น้าสาวของเขาต้องตายเขาก็แทบอยากจะฆ่ามันให้ตายตกไปตามกัน   ขาดคำนายดำก็ตะโกนสั่งลูกน้องที่รอท่าอยู่ด้านนอกทันควัน “เฮ้ย! เอาตัวมันเข้ามา” อึดใจต่อมาชายร่างยักษ์ก็นำตัวคนที่บัลลังก์เมฆสั่งให้คนออกตามหาตลอดเจ็ดปีมาคุกเข่าลงตรงหน้า ก่อนจะดึงถุงดำที่คลุมศีรษะมันออก   “นาย!” วินาทีแรกที่คนถูกจับตัวมาเห็นเจ้าของใบหน้าเรียบสนิทก็ถึงกับอุทานลั่น อดีตนายจ้างที่เขาไม่ได้เจอมาเจ็ดปีเต็มๆ เนื่องจากหนีหัวซุกหัวซุนเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะตามฆ่าล้างแค้น   “ไงไอ้ชัย ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยเสียงเนิบนิ่งทว่าชวนขนหัวลุก “นายปล่อยผมไปเถอะครับ ผมไม่ได้เป็นคนฆ่าคุณปิ่นมุกจริงๆ นะครับ” ชัยยกมือขึ้นไหว้พร้อมละล่ำละลักวิงวอนเนื้อตัวสั่นเทา เพราะรู้ดีแก่ใจว่าบัลลังก์เมฆโหดเหี้ยมมากแค่ไหน “ฉันก็ไม่ได้ว่าแกเป็นคนฆ่าน้าของฉัน แต่ฉันต้องการรู้ว่าแกเห็นเหตุการณ์อะไรบ้างในวันนั้น” บัลลังก์เมฆเอ่ยถามนิ่งๆ แต่ทำเอาอีกฝ่ายรีบเปิดปากทันควัน   “ผมเห็นคุณปิ่นมุกร้องไห้อ้อนวอนให้คุณบุรีรับเป็นพ่อของลูกในท้องเธอ แต่คุณบุรีปฏิเสธ แล้วทั้งสองก็มีปากเสียงกันครับ” หลังจากถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะหลุดพ้นจากข้อหาฆาตกร นายชัยก็เอ่ยเล่าไปตามความเป็นจริง ทั้งที่เหตุการณ์ผ่านมาเจ็ดปีแล้วแต่เขาก็ยังจำมันได้ขึ้นใจ “แล้วนอกจากไอ้บุรี มีใครอยู่ในเหตุการณ์อีกไหม”   บัลลังก์เมฆซักถามทุกข้อข้องใจเท่าที่สมองจะผุดคิดขึ้นมาได้ เพราะการตายของปิ่นมุกทำให้เขาเหมือนคนบ้านแตก เคว้งคว้าง กลายเป็นคนไร้ญาติ ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่ไร่แดนสรวงเพียงลำพัง ส่วนน้องสาวอย่างมณีหยาดฟ้า เดวิดสัน วินตันส์ นั้นก็ทำใจไม่ได้จนต้องย้ายไปอยู่กับปู่ที่อเมริกา ซึ่งปู่ของเขานั้นจากไปด้วยโรคชราเมื่อปีที่แล้ว ส่วนญาติที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวมีก็เหมือนไม่มี เพราะผู้เป็นป้านั้นตัดสินใจออกบวชและสละทางโลกไปนานแล้ว ทำให้มณีหยาดฟ้ากลับมามีสภาวะจิตใจเหมือนเด็กบ้านแตกอีกครั้ง หลายคราที่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว น้องสาวก็มักจะโทรมาร้องห่มร้องไห้ และคร่ำครวญหาอาสาวผู้ที่ล่วงลับไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ จนเขาต้องตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ว่า ต่อให้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่เขาก็จะตามลากตัวคนร้ายมารับโทษทัณฑ์ให้จงได้ เพื่อให้วิญญาณของปิ่นมุกไปสู่สุคติ เพื่อให้จิตใจของมณีหยาดฟ้าเป็นสุข และเพื่อให้ตัวเขาเองใช้ชีวิตต่อไปอย่างสงบสุข   “ก็ไม่เชิงหรอกครับ นายทัชพงษ์เป็นคนขับรถมาส่งคุณปิ่นมุกตรงจุดที่นัดหมายกับนายบุรี แล้วก็ขับรถออกไป” ชื่อของทัชพงษ์ทำให้บัลลังก์เมฆขมวดคิ้วมุ่น เพราะคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเป็นหนึ่งในผู้ที่เขาจะต้องให้ลูกน้องไปตามสืบหลังจากนี้ เนื่องจากพอจะรู้ว่าพ่อเลี้ยงทัชพงษ์เจ้าของฟาร์มม้าที่อยู่ห่างออกไปไม่ชอบสุงสิงกับใคร ผิดกับผู้ต้องสงสัยรายสำคัญอย่างบุรี ซึ่งสนิทสนมกับปิ่นมุกมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ เพราะอายุเท่ากัน เรียนที่เดียวกัน ทำให้ทั้งสองคบหากันเป็นเพื่อน โดยที่ไม่สนใจคำสั่งห้ามของผู้ใหญ่ สุดท้ายก็คงจะคบกันเป็นแฟนและลักลอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ไม่เช่นนั้นแล้วคงไม่เกิดโศกนาฏกรรมอันน่าหดหู่ขึ้น   “แล้วน้าของฉันกับนายทัชพงษ์ได้มีปากเสียงกันหรือเปล่า” “ไม่นะครับ เพราะหลังจากนั้นผมก็ยังเห็นคุณปิ่นมุกเดินเข้ามาหานายบุรีด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า แต่พูดคุยกันได้ไม่นานทั้งสองก็ทะเลาะกันใหญ่โต”   “แล้วแกได้ยินไหมว่าเขามีปากเสียงกันว่ายังไงบ้าง ประมาณว่าใครเป็นพ่อของเด็กอะไรทำนองนั้น” เจ้าของร่างทรงพลังเอ่ยซักไซ้ทันควัน “ไม่นะครับ คุณปิ่นมุกแค่พูดทำนองว่ายังไงนายบุรีก็ต้องยอมรับเป็นพ่อของลูกในท้องของเธอ” นายชัยส่ายหน้า ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยท่าทางมั่นใจ   “แล้วแกมีโอกาสได้เจอไอ้บุรีบ้างไหม”  “ไม่เจอเลยครับนาย แต่ดูเหมือนว่ามันจะส่งคนมาปิดปากผมในฐานะพยานสำคัญ เพราะผมเห็นมันอยู่กับคุณปิ่นมุกเป็นคนสุดท้าย นี่ผมก็หวิดจะโดนฆ่ามาหลายครั้งแล้วครับ”  คนที่แน่ใจว่าตัวเองจะไม่ถูกนายเก่าลงโทษอย่างโหดเหี้ยมเอ่ยบอกทั้งหมด เพราะตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมาเขาต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ทั้งกลัวจะโดนฆ่าปิดปาก ทั้งกลัวว่าคนของบัลลังก์เมฆจะไปตามลากตัวมารับโทษทัณฑ์ที่ตนไม่ได้เป็นคนก่อ แต่วันนี้เขารู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้ติดใจว่าเขาเป็นผู้ร้าย “งั้นต่อไปแกก็อยู่ทำงานเสียที่นี่ ฉันจะคุ้มกะลาหัวให้แกเอง แต่แกต้องเป็นพยานให้ฉันในวันที่ฉันลากคอไอ้บุรีมาเข้าคุก” พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยข้อเสนออย่างสมน้ำสมเนื้อ “ตกลงครับนาย” นายชัยละล่ำละลักด้วยความยินดี เพราะไม่ต้องออกไปอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ต้องคอยหวาดระแวงว่าวันไหนจะมีคนตามมาฆ่าปิดปากตนอีกต่อไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD