ครั้นเห็นบัลลังก์เมฆเดินควงสาวสวยในชุดนักศึกษารัดติ้วนางหนึ่งเข้ามาในร้านกาแฟหน้ามหาวิทยาลัยชื่อดังที่เธอกำลังนั่งอยู่ บุปผาสวรรค์ก็แอบเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ที่อีกฝ่ายทำตัวเจ้าชู้ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ก่อนจะทำเป็นเหมือนมองไม่เห็นเขา แต่กระนั้นก็ยังไม่วายใบหน้าแดงแจ๋ เมื่อเผลอไปนึกถึงว่าเขาทำอะไรกับตนบ้างเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว และนั่นก็ทำให้เธอสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ไปเหยียบที่ไร่ของเขาอีกเป็นอันขาด
จากนั้นสาวน้อยก็หันไปคุยกับเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งที่บังเอิญมาสมัครสอบเหมือนกันอย่างออกรส จนมีเสียงหัวเราะคิกคักดังแว่วออกมาเป็นระยะ ส่วนสองแฝดนั้นพากันไปทำธุระให้แม่ที่ร้านถ่ายเอกสารซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหน้ามหาวิทยาลัยมากนัก
บัลลังก์เมฆเห็นบุปผาสวรรค์ตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาในร้านกาแฟแล้ว แถมยังหันไปเจอตอนที่สาวน้อยแอบเบ้ปากใส่เขาพอดี ท่าทางชวนมันเขี้ยวทำให้เขาอดกระตุกยิ้มตรงมุมปากไม่ได้ จากนั้นก็ลอบมองอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ ขณะที่ปากยังเอ่ยสนทนากับสาวสวยข้างกายไปเรื่อย ทันใดนั้นพ่อเลี้ยงหนุ่มมาดเข้มก็ต้องหายใจสะดุดกับการแต่งกายของเธอที่เขาเพิ่งมีโอกาสได้เพ่งมองอย่างถ้วนถี่
พระเจ้า! ยัยตัวแสบใส่ชุดนักเรียนแล้วน่ารักเป็นบ้า เห็นแล้วอยากลากไปเล่นบทครูกับนักเรียนชะมัด เฮ้ย! บ้าไปแล้ว ไปคิดว่ายัยทโมนนั่นน่ารักได้ยังไงกันวะ
แต่แล้วเขาก็ต้องนิ่วหน้าด้วยความไม่ชอบใจเมื่อเจ้าของเสียงใสๆ กำลังหัวเราะคิกคักกับเพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง ท่าทางดี๊ด๊าทำให้บัลลังก์เมฆนึกขัดใจจนเผลอขบกรามแน่นโดยไม่รู้ตัว
บัดซบ! เขาเป็นบ้าอะไรวะ แค่เห็นแม่ตัวดีคุยกับผู้ชายคนอื่นเขาก็เกิดอาการหงุดหงิดงุ่นง่าน จนแทบจะปรี่เข้าไปสั่งสอนไอ้หน้าอ่อนนั่นเสียให้มันรู้แล้วรู้รอด
สบจังหวะที่บุปผาสวรรค์เดินไปเข้าห้องน้ำ เขาก็กล่าวขอตัวกับสาวสวยที่นั่งเบียดกระแซะจนแทบจะสิงร่างอย่างสุภาพ ก่อนจะรีบสาวเท้าตามไป
ทันทีที่สาวน้อยเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ บัลลังก์เมฆก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือกลมกลึง แล้วลากร่างอ้อนแอ้นไปยังมุมลับตาคน ซึ่งถัดจากห้องน้ำชายจะเป็นทางเลี้ยวไปสู่ประตูออกไปยังหลังร้าน ก่อนจะดันเธอไปชิดผนังสีครีมพร้อมเคลื่อนร่างทรงพลังเข้าหาอย่างคุกคาม
คนโดนไล่ต้อนมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าแตกตื่นไม่ไว้ใจ ผลักอกกว้างแรงๆ แล้วตั้งท่าจะหนี ทว่ากลับต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อเขาทาบฝ่ามือกระด้างทั้งสองข้างเข้าที่ผนัง เป็นการตีกรอบล้อมวงเธอไปโดยปริยาย
“ไม่คิดจะทักทายกันบ้างหรือไง” เขาเลิกคิ้วถามด้วยท่าทางกวนๆ
บัลลังก์เมฆก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องอยากตามตอแยอีกฝ่ายนัก ทั้งที่เกลียดพ่อของเธอเข้าไส้ แต่กลับเกลียดยัยเด็กนี่ไม่ลงเสียที แถมพอได้ลิ้มรสเพียงครั้งเขากลับยิ่งเหมือนติดใจ อยากจะหาโอกาสชิมอีกครั้งและอีกครั้ง ความรู้สึกโหยหามันเกิดขึ้นอย่างน่าประหลาดและมิอาจควบคุมได้
“จำเป็นด้วยเหรอ” เธอสวนกลับหน้าซื่อตาใส แต่ทำเอาคนที่รู้ตัวว่าโดนแม่ตัวดีรวนเข้าให้แล้วอยากจับตีก้นเสียเหลือเกิน เด็กอะไรแสบจริงๆ
“จำเป็นสิ คนเคย ‘ดูดปาก’ และเกือบจะได้ ‘ขึ้นขี่’ กัน จะมาทำเมินเฉยเหมือนไม่เห็นได้ยังไง” วาจาขวานผ่าซากที่หลุดออกมาจากปากโอหังทำให้สาวน้อยทั้งอับอายและโมโหระคนกัน
“คุณนี่มัน…” ยังไม่ทันจะด่าเขาก็สวนขึ้นเสียก่อน แถมยังจงใจยื่นใบหน้าหล่อแบบเถื่อนดิบชวนใจละลายมาใกล้จนลมหายใจผ่าวร้อนราดรดพวงแก้มนวล
“ฉันทำไมหือ…”
“ฮึ่ย…” ท่าทางฮึดฮัดเหมือนเด็กถูกขัดใจทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มอมยิ้มด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเอ่ยถามเสียงขรึม
“มากับแฟนเหรอ”
จากนั้นพ่อเจ้าประคุณก็จ้องหน้าเธอเขม็ง กดดันเอาคำตอบประหนึ่งเธอเป็นจำเลยของเขา
“มากับใคร แล้วยุ่งอะไรด้วย” สาวน้อยยังไม่เลิกลอยหน้าทำท่าอวดดี
“เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ควรริอ่านมีแฟนก่อนวัยอันควรนะยัยตัวแสบ”
“อย่ามาสอน คุณไม่ใช่พ่อฉันซักหน่อย” แม่จอมรั้นเอ่ยเสียงแข็งๆ แฝงแววท้าทาย และคนที่ไม่เคยถูกใครขัดใจก็ขบกรามแน่น คำรามฮึ่มฮั่มในลำคอ
“ไม่ใช่พ่อ แต่ก็เกือบจะได้เป็น ‘ผัว’ หรือว่าจำไม่ได้ ป๋าจะได้พาไปรำลึกความหลังในห้องน้ำ” บัลลังก์เมฆเอ่ยพลางบุ้ยปากไปยังห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ
“อย่านะ! คนลามก” เธอกระซิบห้ามปรามเสียงสั่น ไม่กล้าโวยวายเพราะเกรงว่าจะเป็นจุดสนใจของคนที่นั่งอยู่ในร้านกาแฟจนตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน
“ถ้าไม่อยากให้ลากไปฟัดในห้องน้ำ ก็บอกมาซะดีๆ ว่าไอ้หน้าอ่อนนั่นมันเป็นแฟนหนูหรือเปล่า” เขาเอ่ยคาดคั้นแกมข่มขู่จนสาวน้อยทำปากยู่ด้วยความไม่ชอบใจ แต่ก็ยอมตอบในที่สุด
“เขาไม่ใช่แฟนฉัน พอใจหรือยัง”
ทันใดนั้นร่างอ้อนแอ้นก็สะดุ้งสุดตัว ดวงตากลมโตเบิกโพลง เมื่อคนที่ยืนค้ำหัวอยู่ก้มลงมาหา แล้วจรดปลายจมูกคมสันลงบนพวงแก้มนุ่มนิ่มหนักๆ
ฟอด!!!
“เป็นเด็กดีแบบนี้ลากไปให้รางวัลในห้องน้ำซะดีไหมหือ…” วาจากระเซ้าเย้าแหย่พร้อมการลูบไล้แก้มแดงๆ ทำให้คนถูกขโมยหอมแก้มได้สติ ก่อนจะร้องห้ามปรามเสียงหลง
“อย่านะ!”
“โอเค ไม่ทำก็ได้ แต่ถ้าวันไหน ‘อยาก’ ได้รางวัลขึ้นมาไปหาป๋าที่ไร่นะจ๊ะ” คนแก่ยังไม่วายอ่อยเล็กๆ ในตอนท้ายด้วยการขยิบตากรุ้มกริ่มให้
“ตาเฒ่าจอมหื่น! ฝันไปเถอะว่าฉันจะไปเหยียบที่นั่นอีก” เธอเค้นเสียงใส่ด้วยความอับอายปนเดือดดาล ดวงหน้าหวานใสแดงปลั่ง จนคนมองแทบอดใจไม่ไหว หัวใจกระด้างพลันกระชุ่มกระชวยพิลึก ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขารื่นเริงเพียงแค่ได้ต่อปากต่อคำ และไม่เคยมีใครกล้าตะโกนด่าเขาปาวๆ อย่างที่แม่ตัวดีกำลังทำมาก่อน ถึงแม้จะสำเหนียกดีว่าเธอเป็นลูกสาวของศัตรูที่เขาเกลียดเข้าไส้ แต่บุปผาสวรรค์ก็เป็นความท้าทายที่กระตุ้นเร้าสัญชาตญาณการเอาชนะ เธอเป็นเหมือนม้าป่าจอมรั้นที่เขานึกอยากจะปราบพยศให้มาสยบอยู่แทบเท้า
“พนันกันไหมว่าเธอจะต้องไป และเราจะได้ ‘ทำ’ อะไรกันมากกว่าวันนั้นอีก” บัลลังก์เมฆเชยคางมนขึ้นมายิ้มใส่ตา แล้วเอ่ยอย่างมั่นอกมั่นใจจนน่าหมั่นไส้
“เอ๊ะ…ไอ้คนบ้านี่! ก็บอกแล้วไงว่าฉันจะไม่มีวันไปเหยียบที่นั่นอีก ได้ยินไหมว่าไม่มีวัน!” หลังจากปัดมือกระด้างออกอย่างฉุนๆ คนตัวเล็กก็เงยหน้าเถียงคอเป็นเอ็น
ฮึ่ย…วันนั้นเธอไม่น่าพลาดให้เขาจับทำบ้าๆ เลย
“อย่าโผล่หน้าไปก็แล้วกัน ไม่งั้นโดนจับฟัดจนครางเป็นลูกหมาแน่” พ่อเลี้ยงมาดเถื่อนทิ้งท้ายพร้อมขยิบตาให้ ก่อนจะหัวเราะกลั้วลำคอเมื่อเห็นแม่ตัวดีทำท่าแยกเขี้ยวพร้อมยกกำปั้นใส่
จากนั้นบุปผาสวรรค์ก็เดินปั้นปึ่งมาทรุดตัวลงนั่งอย่างกระแทกกระทั้น ตอนนี้ที่โต๊ะปราศจากเพื่อนผู้ชายอีกคน เดาว่าอีกฝ่ายคงไปแล้ว วินาทีถัดมาเธอก็ถูกแฝดนรกแซวอย่างสนุกปาก
“ฮั่นแน่…เมื่อกี้แอบไปจู๋จี๋กับพ่อเลี้ยงเมฆมาใช่ไหมลูกพี่”
“นั่นดิ เราไปเข้าห้องน้ำเห็นเข้าพอดี หูยยยย…นึกว่าพ่อเลี้ยงเมฆจู๋จี๋กับใคร ที่ไหนได้ลูกพี่เรานี่เอง”
“จู๋จี๋บ้านแกน่ะสิ พูดแบบนี้เดี๋ยวแม่ก็ซัดปากแตกซะเลยนี่” บุปผาสวรรค์ขึ้นเสียงใส่แต่ยังไม่วายหน้าร้อนฉ่า เพราะกิริยาที่บัลลังก์เมฆทำกับเธอเมื่อกี้ใครเห็นก็คงคิดไม่ต่างจากไอ้ตัวแสบทั้งคู่นี่นักหรอก
“หูยยยย...ผู้หญิงอะไรโหดสัดรัสเซีย ถึงว่าไม่มีผัวซักที” มะดันแสร้งห่อปากล้อเลียนเสียงดัง ดวงตาไหวระริกคู่นั้นทำให้บุปผาสวรรค์คันมือยิบๆ
“ระดับลูกพี่ไม่คิดจะมีผัวหรอกเว้ย ซื้อผัวเทพมาฟินดีกว่า ไม่เรื่องมาก อยากได้ท่าไหนจัดให้ ยาวใหญ่เลือกได้ตามใจชอบ แถมยังสามารถนั่งบัลลังก์บัญชา อยากขย่มถึงสวรรค์ชั้นฟ้าหรือเล่นบทรักร้อนฉ่าอู้อ้าก็จัดโลด” มะเดี่ยวเอ่ยผสมโรงด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
“ไอ้มะเดี่ยว! พูดมาก อยากมีปากไว้กินข้าวหรือเปล่าวะ” เธอหันขวับไปเข่นเขี้ยวใส่แฝดผู้พี่ตัวแสบ ก่อนจะชี้หน้าขู่เสียงกร้าวในท้ายประโยค แต่แทนที่จะหวาดกลัวสองพี่น้องกลับหัวเราะลั่น จากนั้นมะดันก็ยกแขนขึ้นกอดอก แล้วเอ่ยถึงลูกพี่ของตนด้วยเสียงขรึมๆ ทว่านัยน์ตากลับเต้นระริก
“นี่แหละ…บุปผาสวรรค์ นฤบดินทร์ ชื่อก็งามนามก็เพราะ แต่ดันฉีกทุกกฎของการเป็นกุลสตรี ม้าดีดกะโหลก ดีเดือด บ้าเลือด แถมหื่นเยี่ยงนี้จะไปหาสามีหื่นเสมอกันได้จากที่ไหน”
“ก็คงหายากหน่อยแหละ หน้าโหด มีเครา เร้าใจที่สุด” มะเดี่ยวเองก็ไม่น้อยหน้า เมื่อน้องชายชงมาซะดิบดีขนาดนี้เขาจึงร่วมผสมโรงด้วยการเอาสเปกของลูกพี่มาเอ่ยล้อเลียน
“ฉันหาได้ก็แล้วกันล่ะน่า” คนโดนปรามาสเอ่ยเสียงแข็งๆ
“เฮ้ย! มะเดี่ยวเมื่อกี้แกยังบอกคุณสมบัติสามีในอนาคตของลูกพี่ไม่ครบว่ะ มันต้องหล่อวัวตายควายล้ม โคตรหื่นและบ้าระห่ำด้วย” แฝดน้องกล่าวเสริมด้วยท่าทางขบขันสุดๆ
“โวะ...ฉันว่าแบบนั้นไม่ต้องไปหาหรอกว่ะ ตีหัวพระเอกหนังโป๊แล้วลากมาสังเวยลูกพี่โลด” มะเดี่ยวเอ่ยอย่างครื้นเครง ขาดคำสองหนุ่มก็พากันหัวเราะลั่น
“ฮ่าๆๆ”
“ถ้าพวกแกยังไม่หยุด อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” สาวแสบเอ่ยปรามเสียงเข้มพร้อมทำท่าขึงขัง
“หยุดก็ได้จ้ะ แหม…พูดแค่นี้ทำเป็นงอน” มะดันเย้าอย่างยิ้มๆ
“ไม่ได้งอน แต่โมโหโว้ย” เธอสวนกลับเสียงขุ่นคลั่กขณะมองอีกฝ่ายตาขวาง
“แล้วถ้าซื้อซีดีหนังโป๊มาง้อจะหายโมโหไหมจ๊ะ” มะดันยังไม่วายเย้าด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม ก่อนที่เธอจะถลึงตาใส่ แล้วเอ่ยตัดบทเสียงแข็งๆ
“หยุดไร้สาระ แล้วรีบเลือกสักทีว่าจะไปสมัครสอบคณะอะไร”
“เราสองคนเอาคณะเกษตรจ้ะ แล้วลูกพี่ล่ะเอาคณะอะไร” คราวนี้แฝดผู้พี่เป็นคนตอบคำถามด้วยท่าทางจริงจัง ก่อนจะถามอีกฝ่ายกลับไป
“ฉันก็เอาวิศวะเหมือนเดิมนั่นแหละ” บุปผาสวรรค์ตอบอย่างหนักแน่นมั่นคง
“แล้วพ่อเลี้ยงไม่ว่าเหรอจ๊ะ” มะเดี่ยวเอ่ยถามด้วยท่าทางแปลกใจ เพราะจำได้ดีว่าก่อนหน้านี้พ่อเลี้ยงบัญชาห้ามไม่ให้บุปผาสวรรค์เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นอันขาด
“ไม่ว่า คุณป๋าอนุมัติแล้ว”
“งั้นเราก็ไปสมัครกันเถอะ เสร็จแล้วจะได้รีบกลับบ้าน” มะเดี่ยวเอ่ยชักชวน ก่อนที่ทั้งสามจะยืนขึ้น เดินไปจ่ายเงินค่าน้ำและขนมที่เคาน์เตอร์ แล้วมุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อยื่นใบสมัครสอบ