INTRO
Talk ซัน
“ซัน ม๊าหาเลขาคนใหม่ให้แกแล้วนะ”
เหตุผลที่ต้องหาเลขาคนใหม่เพราะม๊าดันเข้าไปเห็นผมกับเลขาคนเก่ากำลังจะมีเซ็กซ์กันพอดี ม๊าเลยจัดการไล่เธอออก แล้วสั่งห้ามไม่ให้ผมเลือกเลขาเอง
“โธ่ม๊า เรื่องแค่นี้ผมจัดการเองก็ได้”
“ไม่ได้ ขืนให้แกเลือกเอง คงไปคว้าเอาผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาทำเมียหมดพอดี ระวังเถอะสักวันโรคจะถามหา”
“โธ่ม๊า ผมป้องกันตลอดนะ มาแช่งลูกแบบนี้ได้ยังไง”
“ม๊าเลือกไว้ให้แกแล้ว เป็นหลานของเลขาม๊าเอง”
“แต่...”
“ถ้าแกยังจะดื้อกับม๊า ม๊าจะตัดหุ้นแกออกจากบริษัท!! และม๊าจะไม่เปิดโชว์รูมรถสปอร์ตให้แก”
“….ก็ได้ครับ”
“และแกห้ามไล่คนที่ม๊าหามาเป็นเลขาแกออกเด็ดขาด!!”
“ครับ”
ผมคงต้องจำใจยอมรับ เพราะความฝันที่สูงสุดของผมคือเปิดโชว์รูมขายรถสปอร์ต คอยดูเถอะผมจะบีบให้ยัยเลขาคนใหม่ลาออกให้ได้
ม๊าคงจะหาผู้หญิงแก่ๆ มาเป็นเลขาให้ผมแน่ๆ
Talk เหมย
ฉันคือเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่อยากมาทำงานในเมือง เหตุผลที่ต้องมาไกลจากบ้านขนาดนั้นก็เพราะว่าอกหักจากแฟนเก่า เขาทิ้งฉันไปมีผู้หญิงคนอื่น ฟังดูน้ำเน่ามากเลยใช่ไหมล่ะ
ณ กรุงเทพ
น้าเพ็ญเพื่อนสนิทของแม่พาฉันมาที่โรงแรมหรูระดับห้าดาวใจกลางเมือง
โอ้แม่เจ้า!! โรงแรมใหญ่โตมากเกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นกรุงเทพ น้าเพ็ญบอกว่าฉันต้องมาทำงานที่นี่ คิดแล้วก็ตื่นเต้น รู้สึกประหม่าจังจะทำได้ไหมเนี่ย
ตั้งแต่เรียนจบฉันก็ยังไม่เคยผ่านการทำงานอะไรที่มันจริงจัง นี่เป็นครั้งแรกมันทำให้ฉันตื่นเต้นเอามากๆ
“น้าเพ็ญ เดี๋ยวเหมยไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
“รีบมาล่ะ อย่าให้คุณหญิงรอนาน เสร็จแล้วก็ตามน้าเข้าไปที่ห้องนั้นนะ” น้าเพ็ญชี้ไปที่ห้องผู้บริหาร
“ค่ะ”
ฉันรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำทำธุระ หลังจากทำธุระเสร็จก็รีบดิ่งไปที่ห้องผู้บริหารทันที
ระหว่างทางเดินฉันบังเอิญไปเจอผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเดินสวนทางกัน
“OMG !! ผู้ชายอะไรเนี่ย หล่อมากกกก (คิดในใจ)”
“ออกมาจากป่าหรือไง ?”
ฉันถึงกับขมวดคิ้วเมื่อถูกท้วงแบบนั้น คำถามของผู้ชายตรงหน้าทำให้ฉันงุนงง อะไรคือความหมายของคำว่า ‘ออกมาจากป่าหรือไง’
“…คะ ?”
“มองเหมือนไม่เคยเห็นคน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วทำให้ฉันอยากจะชกไปที่หน้าสักหมัด
คนหล่อ หน้าตาดี เขาพูดกันแบบนี้หรือไง แถมพูดจบก็ยังเดินเก๊กไปเลย เหอะ!! ฉันขอถอนคำพูดที่ว่าเขาหล่อแล้วกัน ไม่หล่อเลยสักนิด!!
ฉันรีบเดินเข้าไปในห้องผู้บริหารเพราะเสียเวลากับคนปากหมาเมื่อกี้ จะได้งานนี้ไหมเนี่ย วันแรกก็ให้เจ้าของบริษัทรอเลย
พอเดินเข้าไปน้าเพ็ญก็ไม่อยู่แล้ว เห็นแค่ผู้หญิงวัยกลางคนนั่งอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นคุณหญิงที่น้าเพ็ญบอก
“สวัสดีค่ะ”
“นั่งลงสิ” คุณหญิงดูมีสง่าเอามากๆ เป็นผู้หญิงที่สวยและวางตัวได้น่าเคารพ ฉันค่อยๆ หย่อนก้นนั่งลงตามที่ท่านบอก
“จริงๆ ฉันไม่รับเลขาที่ไม่มีประสบการณ์”
“……” พอได้ฟังแบบนั้นฉันก็รู้สึกว่าตัวเองคงไม่ได้ทำงานนี้แน่ๆ
“มะ เหมยจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดค่ะ ขอแค่คุณหญิงให้โอกาส” ฉันพยายามพูดถึงรู้ว่าโอกาสมันจะน้อยเอามากๆ แต่ตอนนี้ฉันถอยไม่ได้
ความฝันของฉันคือทำงานส่งเงินให้แม่เยอะๆ
“ถ้าเธอไม่ใช่หลานสาวของเพ็ญเลขาคนสนิทของฉัน ฉันคงไม่สนใจ แต่เพ็ญบอกว่าเธอเป็นเด็กที่ขยันและอดทน ฉันจะลองให้โอกาสดูสักครั้ง”
“ขะ ขอบคุณค่ะ ^_^”
“แต่เธอต้องสัญญากับฉันก่อน”
“เรื่องอะไรคะ”
“ลูกชายของฉันเป็นพวกหมกมุ่นเรื่องเซ็กซ์ ฉันไม่ชอบเลขาที่ใช้เต้าไต่เพื่อหวังจะมาเป็นลูกสะใภ้ของฉัน”
“เหมยไม่เคยคิดเรื่องแบบนั้นเลยค่ะ เหมยอยากทำงานจริงๆ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น และแสดงออกทางสายตาว่าฉันไม่คิดจะทำแบบนั้นจริงๆ
“ในเมื่อเธอไม่สนใจในตัวลูกชายฉันก็ดีแล้ว” ท่าทางของคุณหญิงดูจะเครียดเรื่องลูกชายของตัวเองเอามากๆ
“อีกอย่าง ถ้าเธอทำให้ลูกชายฉันเลิกหมกมุ่นเรื่องผู้หญิงแล้วมาสนใจงานมากขึ้น ฉันจะเพิ่มเงินเดือนให้”
“จะ จริงเหรอคะ” หูตามันลุกวาวเมื่อได้ยินแบบนั้น
“ฉันพูดคำไหนคำนั้น ถ้าเธอทำได้ฉันยินดีจ่าย”
หลังจากนั้นฉันก็คุยกับคุณหญิงเรื่องงาน แล้วฉันก็ต้องมาเริ่มงานพรุ่งนี้