บทนำ

2478 Words
ณ ฮาเร็มแห่งชีค ซาอิด บิน โมริด อัล คาลิฟาห์ รัฐ ราสอัลไมคาราฟ หนึ่งสี่รัฐแห่งสหรัฐแลตโกเวีย เสียงเอะอะโหวกเหวกโวยวายราวกับฮาเร็มจะแตกนั้นทำให้คนที่รออยู่ด้านนอกห้องแต่งตัวนางสนมคนใหม่ที่จะขึ้นถวายตัวแก่ชีคซาอิด ชีคผู้ครองนครราสอัลไมคาราฟนั้นประหวั่นพรั่นพรึงกันอย่างถ้วนทั่วหน้า... แต่ละคนล้วนเกรงจะโดนท่านชีคผู้ทรงอำนาจและแสนเด็ดขาดบั่นหัวที่ส่งตัวนางสนมผิดประเพณีที่เคยได้ทำสืบต่อกันมาเป็นร้อยๆ ปี เนื่องจากคำสั่งของมารดาแห่งท่านชีคให้ส่งตัวนางสนมด้วยวิธีที่ไม่เคยใช้มาก่อน... นางรับใช้แต่ละคนล้วนลำบากใจที่ต้องทำตามความต้องการท่าน แต่ถึงอย่างไรก็ต้องทำ เพราะขืนขัดคำสั่งท่านชีคคาผู้เป็นมารดาของชีคซาอิดนั้นก็คงได้ต้องโทษหากท่านไม่ได้ดั่งใจ แต่กระนั้นการกระทำเช่นนี้หากท่านชีคซาอิดไม่พอใจ พวกนางก็คงไม่แคล้วต้องโทษเช่นกัน เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเชื่อฟังฝ่ายใดก็มีสิทธิถูกบั่นหัวได้พอกัน ตามประเพณีที่ถูกต้องนั้น สตรีนางใดที่จะถวายตัวนั้นต้องถูกเตรียมความพร้อม สอนวิชาการบริหารเสน่ห์และกามสูตรเพื่อให้นางเหล่านั้นปรนเปรอความสุขแก่ท่านชีคให้ได้พอใจมากที่สุด...แต่ละนางต้องถูกสั่งสอนให้เชื่อฟังและยกยอท่านชีคเหนือหัว ไม่แม้แต่จะเถียงหรือขัดเรื่องใดให้ท่านชีคเคืองอุรา... แต่ผู้หญิงที่มารดาแห่งท่านชีคพามาคนนี้ นอกจากจะเป็นคนต่างชาติต่างภาษาและไม่ได้รับการอบรมใดๆ ก่อนเข้าฮาเร็มแล้ว... นางยังไม่ได้ถูกทดสอบหรือทำลายเยื่อพรหมจรรย์ ไม่ได้เตรียมร่างกายให้พร้อมนอกเหนือไปจากการอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเท่านั้น... ท่านชีคกำลังจะมาที่ฮาเร็ม และพระมารดาสั่งให้พวกนางถวายตัวนางสนมที่เป็นต้นเหตุแห่งเสียงสนั่นราวกับโลกาวินาศนี้แก่ท่านชีค!... พวกนางกำนัลที่ดูแลอยู่นั้นต่างส่ายหน้าแล้วมองหน้ากันอย่างให้กำลังใจ ราวกับว่าพวกตนกำลังจะถูกประหารลงตรงนี้... “นี่ยังไม่หยุดเสียงดังอีกหรือ” เสียงพูดของผู้มาใหม่นั้นทำเอานางกำนัลที่กำลังพากันกลัดกลุ้มอยู่นั้น ต่างกรูกันเข้าไปเกาะที่แข้งขาของชีคคามูนา ผู้เป็นมารดาบังเกิดเกล้าแห่งชีคซาอิด “ท่านชีคคา.. โปรดเถิด ให้พวกเราเปลี่ยนตัวนางสนมที่จะถวายตัวเถิด พวกเราขอรมยาสลบนางม้าดีดกะโหลกนี้แล้วซ่อนตัวนางไว้ก่อน ให้เราได้อบรมนางก่อนที่จะถวายตัวแก่ท่านชีคเถิดนะคะ ไม่อย่างนั้นเกิดนังนั่นทำอะไรไม่ถูกใจท่านชีคขึ้นมา เราได้หัวขาดกันทุกคนแน่” “เอ๊ะ เจ้านี่ ข้าสั่งอย่างไรก็ทำเช่นนั้นสิ เจ้าไม่เชื่อหรืออย่างไรว่าเราคุ้มกะลาหัวเจ้าได้... ถ้าชีคซาอิดไม่พอใจ จะลงโทษพวกเจ้า ข้าห้ามเขาก็ฟัง พวกเจ้าทำตามที่ข้าบอกดีแล้ว ถ้าเขาไม่ชอบคนที่ข้าหามาเขาก็เปลี่ยนตัวนางสนมเองนั่นแหละ แต่ข้าเชื่อมือข้าว่าลูกชายข้าจะต้องชอบแน่” ชีคคามูนามองไปที่ห้องที่เป็นต้นเหตุของเสียงดังนั้นด้วยความหวังเรืองรองเปล่งประกายออกมาทางสายตาอย่างเห็นได้ชัด นางกำนัลอีกคนวิ่งออกมาจากห้อง ด้วยสภาพที่หัวยุ่งเหญิงใบหน้าและร่างกายแดงช้ำเหมือนว่าผ่านการต่อสู้กับทหารมาเป็นกองทัพ... “พวกเจ้า ช่วยกันไปจับนางนั่นที... มันดิ้นจนนางทาสสี่คนก็เอาไม่ไหว โอย ข้าจะตายแล้ว” ชีคคามูนาเห็นแล้วก็หัวเราะ... นึกชื่นชมไปถึงผู้หญิงในห้องนั้น.... นางช่างแสดงได้สมบทบาทเสียจริง... รับรองว่าหากลูกชายนางได้ลิ้มลองสิ่งแปลกใหม่ และได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากผู้หญิงไทยใบหน้างดงาม รูปร่างน่าปรารถนาอย่างคนที่หามาคงได้ลืมเหล่านางในฮาเร็มที่แม้จะสวยหยาดฟ้าแต่ก็แสนเอาใจและดูเจนจัดเรื่องบนเตียง จนอาจทำให้ลูกชายนางที่เบื่อผู้หญิงจนไม่อยากมีครอบครัว ไม่อยากแต่งงานกับใครเปลี่ยนใจก็ได้ใครจะไปรู้ นางเดินเข้าไปในห้องกว้างที่จัดไว้สำหรับการถวายตัว... ห้องที่เคยสวยงามประดับประดาด้วยผ้าไหมแพรพรรณชั้นเลิศ ไม้ประดับตามมุมต่างๆ งามวิจิตรด้วยฝีมือสถาปัตย์ชั้นแนวหน้า ในห้องหอมกลิ่นกำยานที่กระตุ้นกำหนัดเพศชายหอมกระจายทั่วห้อง ห้องที่เคยสวยงามเป็นที่ผ่อนคลายของชีคซาอิดนั้นมีสภาพที่แตกต่างไปจากที่เคยเห็น จนชีคคามูนาอุทานอย่างพอจะเข้าใจอะไรบางอย่างแจ่มชัดขึ้นมา มิน่าเล่านางพวกนี้ถึงได้ตกใจกลัวท่านชีคเคืองนักหนา... ก็แม่หนูที่มาจากเมืองไทยคนนี้ฟาดซะเละหมด แล้วตอนนี้นางทาสรับใช้ในฮาเร็มสามสี่คนก็จับตัวนางเอาไว้ หญิงสาวผู้ใส่ชุดชีฟองสีขาวซีทรูดิ้นรนหนี พร้อมตะโกนโหวกเหวกโวยวายด้วยภาษาที่ไม่มีใครในห้องนี้ฟังเข้าใจ เพราะมันเป็นภาษาไทย ไม่ใช่ภาษาอาหรับอย่างที่ใช้กันเป็นภาษาราชการของชาวแลตโกเวีย “อย่าจับนางแรง เดี๋ยวตัวจะช้ำ” “ให้ยาสลบเลยหรือไม่ท่านชีคคา” นางกำนัลที่เห็นท่าจะไม่ไหวถามชีคคา ผู้บัญชาการและเข้ามาดูแลการถวายตัวครั้งนี้... “เจ้าจะบ้าหรืออย่างไร... ลูกชายข้ากำลังจะเข้ามาอยู่รอมร่อ ถ้ารมยาสลบ แล้วลูกข้าจะพิศมัยคนที่นอนนิ่งเป็นผักเป็นปลาหรือไง” “นี่หนู หยุดดิ้นเถิด อาการพยศเจ้ายังไม่ต้องใช้ยามนี้ก็ได้ เหนื่อยเปล่า... เอาไว้แสดงยามที่ชีคมาดีกว่า” ชีคคามูนาพูดกับหญิงสาวที่สวยโดดเด่นแปลกตา ท่ามกลางหมู่นางทาสผิวดำและนางสนมที่มีอายุแล้ว แต่หญิงสาวกลับไม่เข้าใจ สร้างความแปลกใจให้ชีคคามูนาเป็นอย่างมาก “ไหน เอเย่นต์ที่ติดต่อมาบอกว่านางเป็นอิสลามที่พูดภาษาอาหรับได้อย่างไรเล่า... แต่ทำไมแม่นางผู้นี้ถึงได้ไม่กระดิกหูเลย... หรือว่าจะเป็นคนละคน ไม่อย่างนั้นเอเย่นต์ก็เปลี่ยนตัวคนกะทันหัน แต่ไม่ว่าตอนนี้จะอะไร ก็ไม่มีเวลาคิดไม่มีเวลาสืบสวนอะไร นอกจากต้องทำตามขั้นตอนที่วางไว้อย่างเดียวเท่านั้น... “เอาเชือกมัดมือมัดปากนางไว้ก่อน” ชีคคามูนาตัดสินใจ... “พวกที่เหลือก็จัดห้องให้เรียบร้อยที่สุด อีกไม่กี่นาทีชีคซาอิดจะมาแล้ว เร็วเข้า” ท่านจัดแจง และเหล่านางทาสก็รีบกุลีกุจอทำตาม เหล่านางกำนัลดีใจโล่งใจเหลือเกินที่ยุติเสียงของคนแปลกหน้าได้ และที่สำคัญชีคคามูนาอยู่ด้วยตอนที่ถวายตัว พวกนางจะได้ไม่ต้องรับโทษหากท่านชีคไม่พอใจวิธีแผลงๆ นี่... ไอยวรินทร์เหลือบมองรอบๆ ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ หล่อนจะกรีดร้อง หรือว่าดิ้นรนอะไรไม่ได้อีกต่อไป... ไม่รู้ว่าคนพวกนี้จะทำอะไรหล่อน แต่หล่อนกลัวจนจับจิต ตอนแรกที่หล่อนไม่โวยวายนั้นเป็นเพราะตามคนที่คิดว่าเป็นคนมาพาไปเข้ากรุ๊ปทัวร์แบบวันเดย์ทริปที่หล่อนซื้อตอนมาถึงราสอัลไมคาราฟจึงตามมาโดยไม่มีข้อสงสัยอะไร แต่พอหล่อนถูกพามาที่ห้องหนึ่ง แล้วกลุ่มหญิงสาวผิวดำก็พาหล่อนมาที่สระน้ำขนาดใหญ่และหอมกรุ่น ตอนแรกหล่อนยังงงไม่ว่าอะไร แต่เมื่อมีคนมาพยายามถอดเสื้อผ้าหล่อนเท่านั้นแหละ หล่อนก็รับรู้ถึงความผิดปรกติ เลยกรีดร้องโวยวายและดิ้นหนี คนพวกนั้นก็ไม่ละความพยายาม แต่ก็สู้แรงหล่อนไม่ค่อยจะได้กันเท่าไหร่ แล้วไอยวรินทร์ก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เพราะมีมือดีเอายาสลบมาโปะที่จมูกหล่อน ไอยวรินทร์ไม่ทันตั้งตัวจึงหายใจเข้าไปเต็มรักและหมดสติไป หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งในห้องกว้างขวางแสนสวยงาม แต่ได้กลิ่นกำยานฉุนจมูกไปหมด หล่อนตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพที่น่าอายมาก คือ มีชุดผ้าชีฟองบางเบาเท่านั้นที่คลุมเรือนร่าง ปล่อยให้เห็นสัดส่วนของหล่อนต่อหน้าคนเป็นสิบ แม้ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นผู้หญิง แต่หล่อนก็ยังอายอยู่ดี คนเหล่านั้นพูดภาษาอาหรับที่หล่อนแทบฟังไม่รู้เรื่อง แล้วก็จัดแจงโน่นนี่นั่นรอบตัวหล่อน ไอยวรินทร์ตกใจกรีดร้องจะดิ้นหนีอีกรอบเมื่อมีคนมาพยายามแก้ผ้าหล่อนอีกครั้ง แต่ว่าคนเหล่านั้นก็มาจับตัวหล่อนไว้ พูดกันก็ไม่รู้เรื่อง หล่อนพยายามพูดภาษาที่ได้ร่ำเรียนมาก็ไม่รู้เรื่องกันสักภาษา สุดท้ายก็คิดว่าคงเกิดเรื่องไม่ดีกับตนและพยายามดิ้นหนีสุดแรงเกิด แล้วคนเหล่านั้นก็จับตัวหล่อนมามัดและปิดปากไว้ แล้วให้หล่อนมองหน้าปริบๆ อยู่ ทุกสายตามองหล่อนด้วยสีหน้าท่าทางเหมือนกลุ้มใจ... มันหล่อนไม่ใช่เหรอที่ต้องกลุ้ม... ‘ปล่อยฉันไปสิยะ...’ ไอยวรินทร์กรีดร้องในใจ แต่ก็นั่นแหละ มันไม่ช่วยอะไร คนพวกนั้นยังคงพูดกันด้วยภาษาที่หล่อนไม่เข้าใจ... “ทำให้นางเมาก่อนดีไหมท่านชีคคา... อาจจะละพยศกับท่านชีคลง ไม่อย่างนั้นคงได้เป็นการต่อสู้กันมากกว่า แรงนางเยอะมาก นางทาสสี่ห้าคนยังเอาไม่อยู่เลย” นางกำนัลเสนอ ชีคคามูนาเริ่มลังเล... และเห็นด้วยเพราะเกรงว่าสนามรักจะกลายเป็นสนามรบไปเสียก่อน... “งั้นก็ได้ ไปเอายามาให้นางดม แต่อย่าเอาให้เมามากนักนะ เอาแค่มึนๆ ไม่ลุกมาเอามีดปาดคอลูกชายข้าก็พอ” นางกำนัลปรี่ไปเอาสมุนไพรสูตรพิเศษ ที่มีฤทธิ์ทำให้มึนเมาคล้ายดื่มแอลกอฮอล์ คนที่ได้สูดกลิ่นมันนั้นจะทำให้มึนเมา เชื่องช้าลง แม้สติครบแต่ก็ควบคุมร่างกายได้ไม่เท่าตอนปรกติ แต่ไม่ได้ถึงกับหมดสติไปเลย มันน่าจะเป็นวิธีที่ทำให้นางหมดฤทธิ์ได้บ้าง... เมื่อได้สูดดมสารกลิ่นแปลกไม่เคยคุ้นที่มีคนเอาใส่ผ้ามาโปะจมูก ดวงตาที่เบิกกว้างในคราแรกของไอยวรินทร์ก็ค่อยๆ ปิดปรือ แววตาแข็งกร้าวฉ่ำเยิ้มลง ร่างกายที่ดิ้นเป็นระยะๆ นั้นก็ค่อยๆ อ่อนปวกเปียกลง นางกำนัลแก้เชือกที่มัดมือและแกะผ้ามัดปากหล่อนออก คราวนี้หล่อนไม่ได้ดิ้นรนหนีอะไร ได้แต่นั่งมองพวกนางด้วยความสับสน ไม่มีเรี่ยวแรงต่อต้านใดๆ ท่านชีคคามูนาเดินมาหาหล่อนที่ถูกจับให้นอนอยู่บนเตียงท่ามกลางเหล่านางกำนัลที่เก็บข้าวของกันวุ่นวาย... พร้อมกับลูบหัว หญิงสาวที่มีใบหน้างดงามจับตา พร้อมกระซิบบอกให้หญิงสาวปฏิบัติต่อลูกชายของตนเป็นอย่างดี “ท่านชีคมาแล้ว” เสียงคนคุมฮาเร็มด้านนอกบอก คนที่อยู่ในห้องทั้งหลายก็กรูกันออกมาข้างนอก ชีคหนุ่มผู้มาใหม่แต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายตามสมัยสากลนิยม เพราะเพิ่งเข้าร่วมประชุมสำคัญของรัฐร่วมกับชาวต่างชาติมา เขายังไม่ได้อาบน้ำชำระล้างร่างกายใดๆ แต่แม่คนสนิทของมารดาก็ลากตัวให้มาที่ฮาเร็มก่อน... เขาแสนจะรำคาญที่ต้องมาวุ่นวายกับผู้หญิงนับร้อยที่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันเอาใจเขาจนน่าเบื่อ เขาทิ้งร้างฮาเร็มนี้ไปนาน แต่มารดาของเขานั้นเกรงว่าเขาจะเบื่อผู้หญิงจนกลายเป็นคนวิปริตผิดเพศ จึงได้สรรหาสิ่งใหม่มาให้เขา และขอร้องให้เขามาที่นี่ให้ได้... เขาเห็นว่ามารดานั้นแก่แล้ว และไม่อยากขัดใจอะไรมาก... เลยยอมเข้ามาให้ แต่ถ้าจะให้มามัวเมาแต่กับผู้หญิงจนทิ้งงานบริหารบ้านเมือง เขาก็ไม่เอาเหมือนกัน “ครั้งนี้ผมจะตามใจท่านแม่เท่านั้น แต่ถ้าครั้งหลัง ถ้าผมไม่อยากมา ขอร้องว่าอย่าไปบังคับ หรือว่าเรียกให้มาอีก” เขาบอกก่อนจะเข้าห้องถวายตัวนางสนมคนใหม่เพียงลำพัง ปล่อยให้คนที่ยืนรอลุ้นอยู่ข้างนอกนั้นลุ้นตัวโก่งว่า เขาจะพอใจผู้หญิงคนนี้หรือเปล่า ส่วนชีคคามูนานั้นยิ้มกับตนเองอย่างสุขสม... นางไม่เคยคาดการณ์อะไรผิด นครอื่นที่ท่านชีคหนุ่มๆ ยอมแต่งงานมีครอบครัวล้วนแต่งงานกับสาวไทย ไม่ก็ลูกครึ่งไทย บางคนถูกลักพาตัวมาเพื่อเป็นพระองค์สุลตาน่าหรือไม่ก็เป็นชีคคา นางสืบหาข้อมูลแล้วเลยคิดว่าผู้หญิงไทยต้องมีแรงดึงดูดอะไรสักอย่างที่ทำให้ผู้ชายหลงเสน่ห์ และก็ได้แต่หวังว่าลูกชายจะหลงเสน่ห์สาวไทยสักคน จะได้หายห่วงไปบ้าง... แม้ว่าจะยังไม่หายห่วงทั้งหมดเพราะลูกชายอีกคนก็ยังไม่แต่งงาน แต่ชีคซาอิดคือลูกชายคนแรกที่นางห่วงที่สุด อยากให้เป็นฝั่งเป็นฝาก่อนใคร... เลยเข้ามาจัดการเป็นรายแรก “ถ้าเกิดท่านชีคโปรดนางอย่างที่ท่านชีคคาคาดการณ์ไว้ แล้วเกิดแต่งงานกัน ท่านชีคคายอมรับได้หรือคะ นางสนมคนใหม่นี้เป็นใครมาจากไหนก็ไม่ทราบ แล้วยังเป็นคนต่างชาติต่างศาสนากับเราอีก” นางกำนัลคนสนิทถาม “ฉันยอมรับได้ทั้งนั้นแหละ... อดีตที่ผ่านมาไม่สำคัญ แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่ลูกชายฉันรักและอยากมีครอบครัวด้วยละก็ ฉันยอมรับหมด ประเทศเราก็เปิดสู่โลกเสรี ไม่ได้เคร่งศาสนาอย่างน่ากลัวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว.. เจ้าอย่ากังวลไปเลย” ชีคคามูนาคิดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง... ไม่อยากเดาเหตุการณ์ข้างใน แต่คิดว่ามันคงเร่าร้อนระอุน่าดู เพราะกำยานปลุกกำหนัดและเรือนร่างอันเย้ายวนเกินห้ามใจ และใบหน้าอ่อนหวานงดงามของหญิงไทยนางนั้นเป็นสิ่งเร้า... คืนนี้ไม่ต้องหวังผล เพราะเกิดขึ้นแน่ๆ แค่ต้องลุ้นว่าต่อไป ลูกชายของนางจะยังต้องการผู้หญิงคนนี้อีกเรื่อยๆ หรือเปล่านั่นต่างหากล่ะคือประเด็น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD