ตอนที่ 3
มธุรสหวานล้ำ 50%
เช้าวันถัดมา...
“จะมัวรีรออะไร รีบสวมแหวนเสียสิ!”
“เอ่อ...” เมื่อเห็นลูกชายจะคัดค้าน คุณหญิงเดือนแขรีบเอ่ยสั่งอีกครั้ง “สวมเร็วเข้าตาธีร์!” พูดจบมือหนาคว้ามือเล็กข้างซ้ายมา แล้วบรรจงสวมแหวนเพชรเม็ดงามเข้ากับนิ้วนางจนสุดความยาว กระนั้นใบหน้าของหนุ่มสาวทั้งสองยังคงเรียบนิ่ง จะมีก็แต่คุณหญิงที่แอบยกมุมปากคลี่ยิ้มบางๆ
เพราะอย่างน้อยๆ ทั้งสองคนก็ได้หมั้นหมายกันเอาไว้แล้ว จะคิดทำอะไรก็จะมิได้ตกเป็นขี้ปากคนอื่น
ด้านคามินทร์มิได้ว่าอะไร ชายหนุ่มออกจะดีใจเสียด้วยซ้ำเพราะไม่ต้องมารอลุ้นว่าต้องมารับหน้าที่เจ้าบ่าวป้ายแดงแทนพี่ชาย
พิธีหมั้นหมายเป็นไปอย่างเรียบง่ายมีเพียงคุณหญิงเดือนแขที่ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อเสร็จสรรพแล้วนิลรดาจึงเอ่ยขอตัว
“นิลไปสอบก่อนนะคะ”
เนื่องจากวันนี้เธอมีสอบวิชาเอก และเป็นวิชาสุดท้าย สอบเสร็จก็หมายความว่าสำเร็จการศึกษา เนื่องจากงานทุกชิ้นเธอส่งครบเรียบร้อย เหลือแค่รอลุ้นผลการเรียนว่าจะได้เกียรตินิยมกับเขาหรือเปล่า
“ตาธีร์ไปส่งน้องด้วยสิ!” เป็นคุณหญิงที่ออกคำสั่ง และสรรพนามที่ใช้เรียกนิลรดาก็เปลี่ยนไป ในเมื่อตอนนี้นิลรดาเป็นคู่หมั้นลูกชายเธอแล้วนี่ จะเรียกนิลรดาเหมือนเดิมก็คงใช่!
“ผมไม่ว่างครับ” แม้นไม่ว่างก็แวบไปส่งได้ ถ้าเขาจะไป นั่นเพราะวันนี้ต้องเข้าตัวเมืองไปเจรจาธุระกับลูกค้า แต่อย่างว่าล่ะนะ
“นิลนั่งรถไปเองได้ค่ะ” พูดจบทำท่าจะเดินออกไป แต่คุณหญิงร้องห้ามเอาไว้ทัน
“งั้นไปพร้อมกับตาครามเขา เพราะอย่างไรตาครามก็ผ่านหน้ามหาวิทยาลัยอยู่แล้ว”
“แต่ว่า”
“เดี๋ยวพี่แวะไปส่ง ไปกินข้าวข้าวก่อนป่ะ เดี๋ยวไม่มีแรงสอบเสียหรอก”
“คะ ค่ะ” ด้านธีร์ธวัช ชายหนุ่มไม่ได้สนใจและไม่แม้นจะนั่งร่วมรับประทานอาหารเช้ากับคู่หมั้นป้ายแดง ชายหนุ่มตรงไปยังรถคันโก้คู่กาย ก่อนจะควบขับออกไปตามเพลิงอารมณ์
“ให้มันได้อย่างนี้สิ! ขนาดตอนกลางวันเห็นแจ้งตะวันแสกกบาล มันก็ยังกล้า!”
“ผมว่าในไร่ของเรามันต้องมีหนอนบ่อนไส้”
“นั่นมันแน่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้เราไม่รู้ว่าเป็นใคร”
“จัดเวรยามเฝ้าโกดังตลอดเวลา และดูความเรียบร้อยรอบๆ ไร่ จับตาดูว่าใครมีพิรุธ”
“ครับนายหัว”
ลับหลังลูกน้องคนสนิท ธีร์ธวัชถอนหายใจยาวพรืดด้วยความเหนื่อยล้า ก็ในวันนี้หลังกลับมาจากธุระในตัวเมือง เขาก็รีบขับรถบึ่งมาไร่เพราะได้รับรายงานว่าโกดังเก็บยางพารามีคนเข้ามาขโมย แผ่นยางพาราที่เก็บไว้หายไปเกือบตัน เท่านั้นยังไม่พอสวนปาล์มที่ท้ายไร่โดนลอบวางเพลิง โชคดีที่คนงานเข้ามาช่วยกันคุมเพลิงเอาไว้ได้ทัน จึงไม่มีอะไรเสียหาย
และตลอดทั้งวันนายหัวหนุ่มนั้นแอบหงุดหงิดอยู่เรื่อย เมื่อสมองเจ้ากรรมดันไปคิดถึงแต่แม่คู่หมั้นป้ายแดง ซ้ำร่างกายก็ยังเรียกร้องหาแต่ ‘ของหวาน’ รสชาติละมุนเมื่อคืนนี้แทบทุกเวลา ครั้นยกนาฬิกาขึ้นมาดู เข็มสั้นก็ชี้เลขสามละ ถ้าจะให้ตีรถไปรอรับแม่คุณที่มหาวิทยาลัยก็คงใช่การ ประเดี๋ยวจะคลาดกันพอดี ธีร์ธวัชจึงตัดสินใจไปดักรอคู่หมั้นสาวที่ ‘ห้อง’ นอนดีกว่า
“คะ คุณธีร์” นิลรดาครางเรียกเขาเสียงแผ่ว ครั้นเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วเจอะเจอคนตัวใหญ่นอนอยู่บนเตียง หนำซ้ำพ่อคุณยังตีหน้ายักษ์ใส่ ทำให้สาวเจ้าอยากจะบ้าตาย!
ส่วนโจรบุกห้องหรือจะสนใจอาการตื่นตระหนกนั่น! ซ้ำยังเด้งกายลุกจากเตียงนอนแล้วเคลื่อนกายมายืนตรงหน้าหญิงสาวแล้วขยับปากเอ่ยถาม
“ตกใจเหรอที่เจอฉันอยู่ในนี้น่ะฮึ!” นัยน์ตาคู่งามหรี่มองเจ้าของแผงคิ้วเข้ม แล้วขยับปากเอ่ยบอก
“เออ นิลว่าคุณธีร์ออกไปข้างนอกก่อนดีไหมคะ” บอกไปด้วยความหวาดกลัว กลัวทั้งคนอื่นมาเห็นและกลัวไปกว่านั้นคือกลัวเขาจะกระทำอุกอาจอย่างเช่นเมื่อคืนที่ผ่านมา แล้วคราวนี้ยังอยู่ในห้องนอนอีก ให้ตาย!
“ไม่มีทาง ฉันมานอนรอเธอเกือบจะครึ่งชั่วโมง ฉันมีธุระจะคุยด้วย” ไม่ใช่แค่นอนรออย่างเดียว หากแต่เขายังนอนสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ติดผ้าปูเตียงนั่นด้วย
นิลรดาเริ่มหวาดหวั่น ไหนจะนัยน์ตาคู่คมวาวของเขานั่น! ให้ตาย! เธอจะรอดไหมเนี่ย! แต่หญิงสาวยังพยายามทำใจดีแล้วเอ่ยขึ้นถาม
“ธุระอะไรหรือคะ”
“ธุระระหว่างเราสองคนนี่ล่ะ” ธีร์ธวัชตอบปัด เพราะแท้จริงแล้ว ธุระน่ะไม่สำคัญคุยตอนไหนก็ได้ แต่ร่างกายของเขานี่สิ! ต้องการคู่หมั้นสาวตรงหน้าสุดๆ ทว่าไม่มีทางหรอกที่เขาจะทำให้เธอจับได้ จะจับกระต่ายสาวกินทั้งที ต้องทำให้แนบเนียนเสียหน่อย
ด้านสาวน้อยนิลรดาถือใจซื่อนึกว่าเขามีธุระกับตนจริงๆ จึงเอ่ยบอกออกไป
“นิลขอเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าสักห้านาทีนะคะ คุณธีร์ออกไปรอข้างนอกเลยค่ะ เดี๋ยวนิลตามออกไป“ พูดจบแล้วขยับท่อนขาเตรียมเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ทว่าธีร์ธวัชกลับไม่หลีกทาง ซ้ำถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากหยักลึกนั่น ทำให้นิลรดาเครียดจวนจะกุมขมับ
“ก็เปลี่ยนไปสิ!”
“แต่ว่า” ไม่ทันจะเอ่ย คนแผนสูงพูดแทรกทันควัน
“หรือจะให้ฉันช่วยเปลี่ยนล่ะ” ไม่รีรอให้เสียเวลา มือหนากระชากร่างบางเข้ามาใกล้ กดกุมหัวไหล่กลมมนเอาไว้มั่น ใบหน้าคมโน้มก้มลงต่ำจนได้กลิ่นหอมกรุ่น พลางไล้ปลายจมูกโด่งแนบพวงแก้มใสทีเล่นทีจริง ทำเอาสาวเจ้าตัวสั่นระริก ทั้งยังผละร่างหนีออกห่าง ครางห้ามเสียงแผ่ว
“อุ๊ย คุณธีร์คะ อย่าค่ะ”
คนตัวใหญ่ไม่รับฟัง ทั้งยังใช้อุ้งมือร้อนกระชากเสื้อนักศึกษาสีขาวสะอาดออกไปให้พ้นทาง แต่ทว่าธีร์ธวัชต้องครางบางอย่างในลำคอเมื่อเสื้อนักศึกษาพ้นกายแต่ทว่าแม่คุณกลับมีซับในตัวบางอีกชั้น ไม่รู้จะใส่อะไรนักหนา ทว่ามันไม่สามารถปกปิดความอวบอิ่มคู่แฝดนั้นได้
มือใหญ่ลากซับในตัวบางออกไปแล้วไซ้ปลายจมูกโด่งคลอเคลียร่องอวบอัด ปลายลิ้นร้อนชื้นตวัดเลียอย่างชอบพอ พร้อมเอ่ยเสียงกระเส่าตอบโต้
“หย่าไม่ได้ เพราะยังไม่ทันแต่ง อา...หวานเหลือเกิน...” พูดจบตะขอบราเซียร์หลุดล่องออกจากกัน นิลรดาห่อกายด้วยความหวาดกลัวระคนตกตื่น แต่ธีร์ธวัชไม่สนใจ กระชากผ้าชิ้นเล็กโยนไปยังมุมห้อง ก่อนจะฝังหน้าลงสัมผัสละเลงปลายลิ้นร้อนชื้นชิมทรวงอวบหยุ่น สลับสับเปลี่ยนกับมือร้อนกอบกุมบีบเคล้นอย่างเมามันส์
“อูยยย...ซี้ดส์...” นิลรดาครางซี๊ดด้วยความซ่านเสียว กระนั้นคนตัวเล็กพยายามผละเขาออกห่าง แต่มือใหญ่กลับล็อกเอวกิ่วบางไม่ให้หนีห่างไปไหน
“ชอบหรือเปล่าหือ...”
“มะ ไม่ ชอบ...” นอกจากจะซุ่มซ่ามแล้วแม่คุณยังปากแข็งอีก แบบนี้น่าลงโทษให้เข็ด ธีร์ธวัชไม่รอช้าอ้าปากร้อนดูดกลืนเม็ดยอดเต่งที่ดีดเด้งขึ้นสู้ พร้อมลากเสียงพร่าเอ่ยถาม
“ชอบหรือไม่ชอบ”
“มะ ไม่ อ๊ะ!” บิดกายด้วยความซ่านเสียวสุดๆ ทั้งยังรู้สึกร้อนวูบวาบในกายแปลกๆ ธีร์ธวัชเห็นอาการแม่คุณแล้วพึงพอใจ พลันเอ่ยกระซาบ “ร้องดังๆ เลยนิลรดาฉันชอบฟังเสียงเธอ” พูดจบมือร้อนอีกข้างบีบตามสีข้าง วนเวียนบริเวณไม่ห่างซิปกระโปรงทรงเอด้านหลัง ขณะเดียวกันกลีบปากร้อนชื้นดูดกลืนยอดเม็ดอวบเต่งสีหวานจนแก้มตอบเสียงดังจ๊วบๆ
“คุณธีร์ขา...อ๊า...” หลับตาพลางกัดริมฝีปากด้วยความเสียวสยิวสุดกู่ นิลรดาเพิ่งเคยประสบกับความรู้สึกแปลกประหลาดก็คราวนี้ และถ้าเทียบกับเมื่อคืนที่ผ่านมา บอกเลยว่า ตอนนี้โคตรทรมานกว่าเป็นหลายล้านเท่า
มือซุกซนรูดซิปด้านหลังแล้วกระชากทรงเอสีดำให้หลุดพ้นสะโพกอวบ นิลรดาจะอ้าปากร้องห้าม ทว่าคนว่องไวกว่าฉกกลีบปากร้อนทาบทับ ดูดกลืนเสียงหวานให้กลืนหายลงลำคอ พร้อมรั้งร่างบอบบางไปยังเตียงขนาดเล็ก กดสะโพกมนให้หย่อนลงนั่ง แล้วตนเองก็คุกเข่ากับพื้นตรงหน้า นิลรดาไม่เข้าใจว่าเขาจะทำอะไร คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นไม่เข้าใจพลันกระตุกกลีบปากเรียวรูปกระจับเอ่ยถาม
“คุณธีร์ทะ ทำอะไรหรือคะ” ดวงหน้างามอุ่นซ่านและแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีแดงระเรื่อ ครั้นเมื่อสบประสานสายตาคมกริบที่บัดนี้ดูเจ้าเล่ห์เหลือร้ายสุดๆ
“คุยธุระของเราอย่างไรล่ะ นิลรดา” กระซาบข้างเรือนหูผ่อง หญิงสาวได้ยินแล้วขนกายลุกซู่ จะห้ามก็ไม่ทันเสีย เมื่อมือร้อนสัมผัสเนื้อนิ่มจนถ้วนทั่วร่างกาย และเขาเพิ่งสังเกตว่าผิวพรรณแม่คุณนั้นผุดผ่องยองใยชวนสัมผัสเหลือเกิน
“อ๊ะๆ คะ คุณธีร์” ครางกระเส่าครั้นปลายนิ้วแกร่งแวะเย้าหยอกสะดื้อบุ๋มสวย
“ฉันรู้ว่าเธอต้องการให้ฉันทำแบบนี้ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ยั่วฉันหรอก!” ได้ยินเขากล่าวหาเช่นนั้น นิลรดารีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
“นิลเปล่ายั่วนะคะ” เบี่ยงกายหลบพร้อมขยับร่างถอยร่นหนี แต่ธีร์ธวัชไม่ยักจะสนใจ หนำซ้ำยังรุกหน้าต่อด้วยการสอดมือร้อนไล้สัมผัสเข้ามายังโคนขาเสลา
“เปล่ายั่วอะไรฮึ! เสื้อนี่เปียกปอนจนมองเห็นทะลุปรุโปร่ง!” คนตัวเล็กเพิ่งรู้ก็เวลานี้ล่ะ รู้ว่าเขาแอบมองเธอ กระนั้นหญิงสาวมิวายปฏิเสธและเอ่ยบอกความจริงให้เขารับทราบ
“ก็นิลไม่ได้ยั่ว ละ แล้ววันนี้ฝนตกชุดมันเปียก นิลเปล่ายั่วจริงๆ นะคะ ถ้าคุณธีร์จะคุยธุระจริงๆ ขอนิลเปลี่ยนชุดสักประเดี๋ยวค่ะ อ๊ะ!”
“ฉันจะคุยตอนนี้ อยู่ในห้องนี้ และเตียงนี้!”
“แต่นิล อ๊ะ! อื้อ!” เรียวลิ้นร้อนคว้านชิมความหวามหวานจนพอใจ จึงได้ปล่อยให้เรียวปากนุ่มเป็นอิสระ ก่อนจะกระซาบถามด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่
“ทำไมไม่โทรให้ฉันไปรับหือ...” ถามทั้งๆ ที่รู้ว่าถึงอย่างไรนิลรดาก็ไม่มีวันทำ เพราะเธอไม่มีทางโทรหาเขาอยู่แล้ว
“ว่าไงละ เงียบเหมือนคนใบ้อยู่นั่น!”
“กะ ก็”
“ก็อะไรล่ะ ไม่กล้า กลัวฉันดุ หรือว่ากลัวฉันไปเห็นเธออยู่กับหนุ่มๆ ที่มหาวิทยาลัย” ได้ยินคำร่ายยาวของเขาหญิงสาวรีบปฏิเสธทันที
“มะ ไม่ใช่นะคะคุณธีร์” หายใจหอบกระเส่าด้วยความเสียวซ่าน
ขณะอุ้งมือร้อนนั้นบีบเคล้นท่อนขาเกลี้ยงเนียนและเวียนมาจวนจะถึงดินแดนหวงแหน และเมื่อเห็นหญิงสาวทรมานเขายิ่งพอใจ ไม่รั้งรอให้เสียเวลาเบี่ยงกลีบผ้าผืนบางที่ชุ่มกลุ่มน้ำหวานแหวกกองรวมไว้ด้านเดียวกัน แล้วทาบลำนิ้วร้อนผ่าวนั้นสัมผัสกลีบดอกไม้งามสวยสด
“ยะ อย่า อูยยย...” สูดปากครางกระเส่า พลางหนีบเรียวขาเสลาเข้าหากัน ทว่าธีร์ธวัชหาได้ใส่ใจ ซ้ำยังผลักท่อนขาทั้งสองแยกออกจากกัน ครั้นแวบสายตามองเห็นดอกไม้งามชุ่มหยาดสวรรค์ พลันลำคอแห้งผากอยากจะตวัดลิ้นเชยชิมทว่าต้องอดกลั้นกัดฟันเพื่อกลั่นแกล้งแม่คนปากแข็งเสียก่อน
“บอกมาสิ ว่าทำไมไม่โทรหาฉัน ถ้าไม่บอก จะไม่ใช่แค่นิ้วนะแทรกเข้าไปแต่จะเป็น ‘อย่างอื่น’ ที่มัน ‘ใหญ่อลังการ’ กว่านี้” ไม่พูดเปล่า หากแต่กดแทรกลำนิ้วร้อนผ่าวเข้าไปข้างในปล่องทางแคบอ่อนนุ่ม นิลรดาถึงกับกระดกสะโพกถอยหนีด้วยความตกตื่นระคนหวาดกลัว
“มะ ไม่นะคะ”
ครั้นแม่คนปากแข็งไม่ยอมบอก เขาจึงแกล้งถอดลำนิ้วร้อนผ่าวออกมา แล้วจุ่มจ้วงท้วงแทงกลับเข้าไปใหม่จนสุดความยาว นิลรดาหลับตาแล้วสูดปากครางเสียว
“อ๊าซ์...”
ธีร์ธวัชได้ยินแล้วทรมานสุดกู่ อยากจะจับแม่คุณฟัดบนเตียงแบบเร่าร้อนก็ได้แต่อดทนรอ เพราะอีกใจนึกอยากแกล้งให้เธอทรมาน
“ว่าไง” เสียงเข้มห้วนสั่นนิดๆ เพราะชายหนุ่มเองก็ทรมานอยากจะปลดปล่อยเต็มแก่ แต่ติดตรงอยากแกล้งแม่คนปากแข็งนี่ล่ะ!
“กะ ก็คุณธีร์ไม่ว่าง” บอกปัดออกไป ธีร์ธวัชได้ยินแล้วอยากลงโทษแม่คุณยิ่งนัก!
“โกหก”
“ไม่ได้โกหกค่ะ อ๊ะ อ๊า คุณธีร์ขา...” ใช่ว่าจะหมดข้อสงสัยเพียงเท่านั้น “แล้วทำไมเธอต้องใส่ไอ้เสื้อตัวเล็กๆ นี่ไปสอบด้วย”
บอกตามตรงเลยว่าเขาเห็นแล้วไม่ค่อยจะชอบใจเท่าไร ใส่เสื้อบ้าอะไรตัวเล็กชะมัด รัดทุกสัดส่วน ไอ้เกรงว่าจะหายใจออกหรือไม่นี่ไม่เท่าไร แต่สายตาผู้ชายเวลาจ้องมองนี่สิ! ให้ตาย! หน้าอกแม่คุณน้อยซะที่ไหน!
“นิลใส่เป็นปกติของนิลอยู่แล้วนี่คะ มันไม่ได้เล็กอะไรเลย”
“ไม่ได้เล็กหรอก แต่ตอนตากฝนมานี่เห็นหมดทุกซอกทุกมุม!” พูดออกไปตามที่เห็น หากแต่จริงๆ แล้วแม่คุณสวมซับในตัวน้อยเอาไว้อีกชั้น ซึ่งเขาเองก็เพิ่งรู้เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี่ล่ะ!
“มะ ไม่ใช่ อ๊ะ อูยยย... อ๊า...” เสียงหวานครางเสียวสะท้าน เมื่อครั้นเรียวนิ้วแกร่งสัมผัสกลีบดอกไม้ชุ่มหยาดน้ำหวาน และสะกิดเม็ดยอดเกสรสีชมพูสดสวยงาม
นิลรดาอายจนไม่กล้ามองหน้า หญิงสาวหลับตาเม้มปากเงียบเสียงเอาไว้ ทว่ามันก็กัดกลั้นความทรมานไม่ไหวเช่นเดิม
“ไม่ใช่ได้อย่างไร ที่ใส่เสื้อตัวเล็กๆ กระโปรงสั้นๆ นี่! กะจะไปอ่อยไอ้พวกหื่นๆที่มหาวิทยาลัยใช่ไหม คิดจะรับจ๊อบพิเศษเพิ่มล่ะสิ!” ถ้อยวาจาที่พรั่งพ่นออกมาไม่ต่างจากการพูดดูถูกสักนิด! เห็นว่ายอมให้แตะต้องง่ายๆ ก็คิดว่าเธอชอบทำอะไรที่มันง่ายๆ แบบนั้นงั้นเหรอ!