ตอนที่ 4 เจ้าของฟาร์มกับการเปิดเผย

2017 Words
"อาอินของพวกนี้มันคืออะไร" ตอนแรกตงไห่กับภรรยาหลังเก็บล้างจานชามเสร็จแล้ว และกำลังเตรียมตัวจะเข้านอนแต่กลับได้ยินเสียงของบุตรสาวดังมาจากห้องด้านข้าง คิดว่าอีกฝ่ายอาจจะต้องการอะไรจึงเปิดประตูห้องเข้ามา พอมองเข้ามาก็เห็นข้าวของมีทั้งที่เขารู้จักและไม่รู้จักวางกองอยู่ข้างตัวบุตรสาวเต็มไปหมดจึงให้รู้สึกทั้งตกใจและแปลกใจ "เอ่อ..ลูกก็ไม่รู้เหมือนกันพอท่านแม่ออกไปแล้วลูกก็เตรียมตัวจะเข้านอน แต่อยู่ๆ ก็เห็นแสงดวงเล็กๆ รอดเข้ามาในห้อง ลูกนึกว่าเป็นหิ้งห้อยที่บินเข้ามา แต่แล้วมันก็กลายเป็นแสงสว่างลอยมาอยู่ตรงหน้าลูก พอมองดูก็เห็นว่ามันเป็นภาพๆ หนึ่ง และในภาพนั้นก็มีสิ่งของอยู่มากมาย ของบางอย่างลูกก็ไม่รู้จัก เลยสงสัยและคิดว่าอยากจะเอาพวกมันออกมาดู พวกมันก็ออกมาอยู่ตรงหน้าลูกเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ" ลี่อินที่ตอนแรกก็ตกใจที่พ่อและแม่เปิดประตูเข้ามาเห็นข้าวของพวกนี้ แต่มาคิดดูอีกทีก็ดีเหมือนกันบอกให้พวกเขารับรู้ไปเลย เวลาที่นางนำของอะไรออกมาอีกจะได้ไม่ต้องมาคอยหลบซ่อนหรือปิดบัง ส่วนเรื่องความปลอดภัยนางไม่กังวลหรอก พ่อและแม่ของร่างนี้รักบุตรสาวมากไม่มีทางจะเอาเรื่องเหล่านี้ไปพูดจนอาจทำให้นางต้องเดือดร้อนหรือตกอยู่ในอันตรายแน่นอน "จริงหรือลูก" ท่านแม่เอ่ยถามเสียงเบาแต่สายตาก็ยังคงมองสำรวจไปทั่วห้องและทั่วตัวบุตรสาว ด้วยกังวลว่าอาจจะเกิดอันตรายต่อบุตรสาวของตน "จริงเจ้าค่ะ ถ้าพวกท่านไม่เชื่อรอสักประเดี๋ยวนะเจ้าคะ" ลี่อินเอ่ยตอบพร้อมกับมองไปในคลังเก็บของว่ามีอะไรที่น่าจะนำออกมาอีก ก็นึกได้ว่าครอบครัวนี้ต้องได้รับสารอาหารอย่างเร่งด่วนจึงเรียกของออกมาทันที "ไข่ไก่ 30 ฟอง เนื้อหมู 5 ชิ้น ข้าวสาร 5 ถุง น้ำมันถั่วลิสง 1 โถ ซีอิ๊วขาว 1 ขวด น้ำตาลอ้อย 1 ถุง ออกมา" สิ้นเสียงคำสั่งข้าวของที่ถูกเอ่ยก็ออกมาวางกองกันไว้อย่างเป็นระเบียบ ไข่ไก่มาในตะกร้าอย่างดี เนื้อหมูสามชั้นก็ห่อใบไม้มา ข้าวอยู่ในถุงกระสอบน้ำหนักถุงละสิบชั่งหรือเท่ากับห้ากิโลกรัม น้ำมันมาในโถเคลือบมีฝาปิด น้ำตาลก็มาในถุงกระดาษ ลี่อินเห็นรูปลักษณ์สิ่งของทั้งหมดก็รู้สึกพอใจ ปรกติในเกมนางจะเห็นเป็นเพียงแค่รูปภาพเท่านั้น แต่พอเรียกออกมาบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ทั้งหมดน่าจะสามารถหาได้ในยุคนี้ หรือก็คงไม่ได้แต่งต่างกันมากนัก "นะ..นี่..ท่านพี่ข้าฝันไปหรือไม่เจ้าคะ" ลี่ถิงหลังจากเห็นข้าวของต่างๆ ที่อยู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาจากอากาศ และของทั้งหมดยังตรงตามที่บุตรสาวเอ่ยออกมาอีกด้วย ก็ให้รู้สึกทั้งตกใจทั้งมึนงงกับความสามารถของบุตรสาว และข้าวของพวกนี้มันยังมีประโยชน์กับครอบครัวของนางอีกด้วย แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าทั้งหมดมันคือเรื่องจริง "ไม่ๆ พี่ก็เห็นเหมือนกับเจ้า อาอินลูกทำได้อย่างไร" ตงไห่ก็รู้สึกไม่ต่างกับภรรยาแต่เขาก็ยังอดสงสัยไม่ได้ "อืม..นี่เจ้าค่ะท่านพ่อ แสงนั่นมันกลายเป็นภาพขนาดเท่านี้ลอยอยู่ตรงนี้ ในภาพนั้นมันจะมีรูปข้าวของพวกนี้อยู่ และยังมีของที่ลูกไม่ได้เรียกออกมาอีกหลายอย่างมากมายเลยเจ้าค่ะ มีผัก มีผลไม้ หรือแม้แต่อาหารแปลกๆ ที่ลูกไม่รู้จักก็มีเจ้าค่ะ" ลี่อินทำมือประกอบให้พ่อและแม่ดู และยังเอ่ยบอกถึงสิ่งของที่นางมีอีกด้วย บอกไปให้หมดเวลาเอาอะไรออกมาจะได้ไม่ต้องมาอธิบายกันอีก มีตัวช่วยโกงให้มาแบบนี้ชาตินี้นางก็สบายแล้ว และทุกคนในครอบครัวนี้นางจะรักษาเอาไว้อย่างดี ไม่ให้ตัวเองต้องกลับไปใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวลำพังอีก "ถ้าอย่างนั้นลูกรู้ได้อย่างไรว่าพวกมันคืออะไร" ตงไห่ถึงแม้จะได้ฟังคำอธิบายจากบุตรสาวแต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้เรื่องพวกนี้มันเหนือความเข้าใจของเขาไปมากทีเดียว "มันมีเขียนบอกเอาไว้เจ้าค่ะ" เพราะลี่อินมีร่างกายอ่อนแอต้องอยู่แต่ในห้องเกือบตลอด พอมีเวลาว่างบิดากับพี่ชายจึงมาสอนอ่านเขียนเพื่อให้นางได้เอาไว้ใช้อ่านหนังสือแก้เหงา "แล้วลูกเอาของพวกนี้ออกมาต้องแลกกับอะไรอย่างนั้นรึ" คราวนี้ลี่ถิงเป็นคนเอ่ยถามขึ้นบ้าง แม้นางจะดีใจที่เห็นของพวกนี้ แต่ถ้ามันจะทำให้บุตรสาวต้องอยู่ในอันตรายหรือต้องแลกกับอะไรที่อาจจะทำให้บุตรสาวเดือดร้อน นางก็ไม่ขอรับมันเอาไว้เพราะบุตรสาวของนางสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด "อืม..ไม่นะเจ้าคะ มันไม่ได้เรียกร้องอะไรแลกเปลี่ยน และลูกยังสามารถเอาพวกมันออกมาได้ไม่จำกัดอีกด้วย อ่อ..แม้แต่ทองแท่งก็มีนะเจ้าคะ ทองคำสองแท่งออกมา" ลี่อินคิดทบทวนว่าตอนที่เรียกของออกมานางต้องจ่ายอะไรเป็นการแลกเปลี่ยนหรือไม่ ก็คิดได้ว่าไม่มีและตัวเลขบอกจำนวนของก็ไม่ได้ลดลงเลย แม้แต่เพชรและเหรียญทองก็ยังอยู่เท่าเดิม และลี่อินก็นึกได้ว่าก่อนจะตายเมื่อชาติก่อนนางขุดเหมืองได้แต่แร่ทองและยังสั่งผลิตเอาไว้จำนวนมากจึงเรียกออกมาให้พ่อกับแม่ดู ทองคำสองแท่งใหญ่วางสะท้อนแสงเทียนเรียกความตกตะลึงให้แก่ตงไห่และภรรยายิ่งนัก ข้าวของที่บุตรสาวนำออกมาตัวเขาก็ตกใจมากพออยู่แล้ว แต่นี่นางทำได้แม้กระทั่งเรียกทองคำแท่งออกมา จากขนาดของมันแล้วคิดว่าคงนำไปแลกเป็นตำลึงทองได้เกือบร้อยตำลึงเลยทีเดียว "ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านเก็บข้าวของพวกนี้ออกไปก่อนเถอะเจ้าค่ะ ข้าเริ่มง่วงแล้วเหลือหมอนผ้าห่ม กับนมไว้ให้ข้าอย่างละหนึ่งก็พอ อ่อ..นมกับขนมปังพวกนี้ท่านต้องกินเลยนะเจ้าคะ ถ้าเก็บเอาไว้มันจะเสียได้" ลี่อินที่ตอนนี้รู้สึกง่วงมากแล้วเอ่ยบอกบิดามารดาให้นำข้าวของออกไปเพื่อจัดการ และยังมิลืมบอกเรื่องนมกับขนมปังเพราะไม่แน่ใจว่าทั้งสองคนรู้จักหรือไม่ "นม? น้ำนมวัวอย่างงั้นรึ ส่วนขนมปังนี่เหมือนอาหารของพวกตาฟ้าเลย" ตงไห่ที่เห็นก้อนกลมสีน้ำตาลก็ให้รู้สึกคุ้นตา พอนึกไปนึกมาก็จำได้ว่าเคยเห็นลูกค้าตาฟ้าที่มากินอาหารนำออกมากินกัน "หืม ที่นี่มีพวกตาฟ้าด้วยรึเจ้าคะ" ลี่อินที่ฝืนความง่วงงุนเอ่ยถามบิดา "เอาไว้คุยกันพรุ่งนี้เถอะ เอาละลูกบอกว่านมนี่เก็บไม่ได้ งั้นก็ดื่มเสียประเดี๋ยวแม่จะเปลี่ยนหมอนกับผ้าห่มให้" ลี่ถิงเห็นอาการตาปรอยจะหลับมิหลับแหล่ของบุตรสาวก็ให้รู้สึกสงสาร จึงเอ่ยตัดบทและจัดการเปลี่ยนผ้าห่มและหมอนให้ ดูบุตรสาวดื่มนมจนหมดขวดก็พยุงร่างเล็กให้นอนจัดการห่มผ้าให้ รอไม่นานลมหายใจของบุตรสาวก็สม่ำเสมอหลับสนิทจึงพาสามีออกมาจากห้อง เมื่อออกมาสองสามีภรรยาต่างก็มองข้าวของที่กองอยู่ด้านนอก ตอนที่ลี่ถิงดูแลบุตรสาวให้นอน ตงไห่ก็ขนย้ายของอื่นๆ ออกมากองเอาไว้ที่ห้องโถงของบ้าน บ้านหลังนี้เป็นบ้านขนาดสามห้องนอน หนึ่งห้องโถง มีห้องครัว ห้องน้ำ และห้องเก็บของอยู่ด้านหลัง บ้านนี้เป็นบ้านเก่าของพ่อแม่ของตงไห่ ส่วนพวกท่านก็เสียไปสิบกว่าปีแล้ว และตัวเขาก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีก ส่วนภรรยายังมีบ้านเดิมแต่อยู่คนละอำเภอหลังแต่งงานก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย สองสามีภรรยามองข้าวของที่กองอยู่ด้วยใจเต้นแรง ของพวกนี้มันช่วยให้พวกเขามีกินอิ่มท้องไปได้อีกหลายมื้อเลยทีเดียว "ข้าจะเอานมกับขนมไปให้ลูกๆ ท่านก็นำของพวกนี้ไปเก็บไว้ในครัวเถอะ วันนี้ก็กินนมกับขนมนี้ไปก่อนพรุ่งนี้ค่อยใช้ของพวกนี้ทำอาหาร" ลี่ถิงเห็นว่าตอนนี้ใกล้ได้เวลานอนแล้วจึงอยากรีบเอาของไปให้บุตรชายทั้งสาม พวกเขาจะต้องดีใจมากแน่ๆ "แล้วเจ้าจะบอกพวกลูกๆ ว่าอย่างไร" ตงไห่เองก็เห็นด้วยกับภรรยาแต่ยังไม่รู้ว่าจะบอกกับบุตรชายทั้งสามว่าอย่างไร "ข้าคิดว่าเอาไว้พรุ่งนี้ตอนเช้าค่อยบอกพวกเขาเถอะ วันนี้ให้รีบกินรีบนอนพรุ่งนี้ครอบครัวเราอาจจะต้องพูดคุยทำความเข้าใจเรื่องความสามารถของลี่อินกันอีกมาก" ลี่ถิงเอ่ยบอกสามีและคิดถึงเรื่องของบุตรสาว "อืมพี่จะเอาของไปเก็บให้เรียบร้อยเจ้าไปหาลูกๆ เถอะ" ตงไห่เห็นด้วยกับภรรยาอีกครั้ง ภรรยาของเขานางฉลาดและรอบคอบ และการเชื่อฟังคำพูดภรรยามันก็จะมีแต่เรื่องดีๆ "ท่านแม่มีอะไรหรือขอรับ แล้วนั่นข้าวของอะไรเยอะแยะเลย" ลี่คังแฝดคนน้องเอ่ยถามมารดาที่หอบข้าวของมากมายเดินเข้ามาในห้องนอนของพวกเขา "นี่หมอนกับผ้าห่มใหม่พวกลูกเอาไปเปลี่ยนกับของเก่าเสีย ส่วนนี้คือนมกับขนมของพวกตาฟ้าพวกเจ้ารีบกินแล้วรีบเข้านอนสงสัยอะไรไว้พวกเราค่อยคุยกันพรุ่งนี้เช้า" ลี่ถิงเอ่ยบอกบุตรชายทั้งสามที่นอนรวมอยู่ในห้องเดียวกัน ส่งข้าวของทั้งหมดให้บุตรชายคนโตและกำชับให้ดูแลน้องๆ ดื่มนมและกินขนมกันให้เรียบร้อย หวังว่าคืนนี้พวกเขาจะอิ่มท้องและนอนหลับสบายกัน ลี่ตงไม่เอ่ยถามอะไรมารดาตนแต่รับของทั้งหมดมาและทำการเปลี่ยนของเก่าออกตามที่มารดาบอก เมื่อเรียบร้อยก็เอาขวดนมกับขนมแบ่งให้น้องๆ และส่วนของตนเองแล้วลงมือกินทันที อาหารเย็นที่เขากินไปมันไม่ทำให้อิ่มเลย "อืม..ขนมอันนี้อร่อยจัง ทั้งนุ่มทั้งหอมก้อนก็ใหญ่อีกด้วย" ลี่คุนแฝดคนพี่กินขนมก้อนใหญ่ที่มารดานำมาให้ ก็เอ่ยชมทันทีเขาไม่เคยกินขนมแบบนี้มาก่อน จะว่าไปครอบครัวเขาไม่เคยกินขนมอะไรเลยนอกจากที่บิดานำกลับมาซึ่งมันก็เป็นเพียงแค่เศษขนมเหลือๆ แล้วเท่านั้นแต่เขาก็ยังดีใจที่ได้กิน เพราะฉะนั้นขนมอันนี้เรียกได้ว่าเป็นขนมชิ้นแรกที่เขาได้กินเป็นชิ้นใหญ่เต็มๆ และมันยังอร่อยมากอีกด้วย ยิ่งดื่มน้ำสีขาวที่มารดาเรียกว่านมตามลงไป มันยิ่งอร่อยและทำให้รู้สึกอิ่มมากด้วย ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีให้กินอีกไหมนะ สิ่งที่คนในครอบครัวคิดลี่อินไม่ได้รับรู้ และตอนนี้หน้าจอของฟาร์มก็ยังคงส่องแสงสว่างอยู่ในห้องที่มืดมิด แต่ไม่มีใครมองเห็น ส่วนคนที่มองเห็นตอนนี้ก็หลับสนิทไปแล้ว ************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD