“ ทำไมคุณสายชลถึงรู้ว่าคุณสงครามแพ้กุ้ง เขาสนิทกันเหรอ ” พนักงานประชาสัมพันธ์สาวสวยที่เล็งสงครามตั้งแต่วันนั้นถามขึ้นด้วยความสงสัยทันทีที่สายชลเดินลับตาไป เป็นสาวใหญ่สวมแว่นหนา หัวหน้าฝ่ายการตลาดที่เป็นผู้ตอบ
“ ไม่น่าจะสนิทนะ วันนั้นพี่ก็เข้าประชุมด้วย วันที่ประชุมโครงการรีโนเวทครั้งแรก เออ นึกได้ละ ตอนที่เจอหน้ากันครั้งแรก คุณสงครามเรียกชื่อเล่นคุณสายชลเหมือนสนิทกันเลยนะ แต่คุณสายชลบอกว่าคุณสงครามเป็นแค่คนรู้จัก ดูท่าทางไม่ได้สนิทอะไรเลย ”
“ ถ้าไม่ได้สนิท ทำไมถึงรู้ว่าคุณสงครามแพ้กุ้งล่ะคะพี่เล็ก ” อีกคนตั้งข้อสงสัย ยังไม่ทันที่คนถูกถามจะได้ตอบ ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ธิเบตเดินเข้ามาพอดี
“ อะไร ใครแพ้กุ้งเหรอครับ ผมว่าเป็นเรื่องโชคร้ายที่สุดในสามโลก เพราะผมเนี่ยชอบทานกุ้งมากที่สุดในโลก ”
เขาพูดจาเล่นหัวกับพนักงานอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่พนักงานจะเอ่ยตอบ
“ คุณสงครามน่ะค่ะ เธอแพ้กุ้ง ”
“ อ้าว คุณสงครามมาถึงแล้วเหรอ เห็นคุยกับเลขาบอกว่าติดงาน จะมาถึงราวหกโมงเย็น ”
“ เปล่าค่ะ ”
“ แล้วรู้กันได้ยังไงว่าคุณสงครามแพ้กุ้ง ”
“ คุณสายชลเธอเป็นคนบอกเองค่ะ ”
“ ชลเนี่ยนะ ? ”
“ ใช่ค่ะ คือดิฉันก็ยังบอกน้อง ๆ เลยนะคะว่าวันนั้นในห้องประชุม คุณสายชลเธอก็พูดเองว่าเป็นแค่คนรู้จัก ต่างจากคุณสงครามที่เรียกคุณสายชลด้วยชื่อเล่นราวกับสนิทสนมกันมาก่อน ” คำตอบนั้นเล่นเอาธิเบตอึ้งไปเช่นกัน เขาหันไปมองหน้าหัวหน้าการตลาดคนนั้นแล้วไม่พูดไม่จา ทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองนั้นพูดมากไปเสียแล้ว
“ ดิฉันขอโทษคุณธิเบตด้วยนะคะที่พูดจาอะไรไม่ระวังปาก ” เขาส่ายศีรษะ
“ ไม่เป็นไรหรอกครับ แล้วนี่ชลไปไหน ”
“ เห็นมีสายเข้าแล้วก็เดินออกไปรับโทรศัพท์ทางด้านโน้นน่ะค่ะ ”
“ ขอบคุณมากนะครับ เดี๋ยวทานของว่าง ของรองท้องกันไปก่อนตามสบายนะครับ สักพักคุณพ่อก็คงลงมา ผมขอตัวเดินไปหาชลก่อน ” แล้วก็หมุนตัวสาวเท้าไปยังทิศทางที่พนักงานบอกว่า สายชลเดินไปทางนั้น พร้อมทั้งสมองหมุนครุ่นคิดติ้ว ๆ กับสิ่งที่ได้รับรู้เมื่อครู่
เขาก็แปลกใจแต่ไม่ได้นึกสงสัย ว่าทำไมสงครามแสดงท่าทีว่าสนิทสนมกับสายชล แต่เธอกลับจงใจแสดงให้รู้ว่าห่างเหิน เป็นแค่คนรู้จักเพียงเท่านั้น คนเรามันต้องรู้จักกันในระดับหนึ่งหรือเปล่า จึงจะสามารถเรียกชื่อเล่นกันได้อย่างสนิทใจ แต่ก็คงไม่หรอกน่าคนไม่สนิทก็เรียกชื่อเล่นกันได้ทั้งนั้นแหละ
...ธิเบตคิดอย่างปลอบใจตัวเอง
แต่คนไม่สนิทประเภทไหน จะรู้ถึงขนาดว่าอีกฝ่ายแพ้กุ้ง มันต้องสนิทกันในระดับหนึ่งถึงจะรู้ลึกไปยันเรื่องอาหารการกิน
ความกังวลหลั่งไหลเข้ามา หากสนิทสนมกันจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกคนย่อมเคยมีเพื่อน มีอดีต แต่ทำไมสายชลจะต้องจงใจปิดบัง
แล้วหัวใจเขาก็กระตุกวาบ เมื่อนึกได้ถึงบางสิ่ง
ตัวหนังสือ SS ที่เขาเคยแอบเห็นบนไดอารี่ส่วนตัวของสายชล และพยายามครุ่นคิดอยู่เสมอว่าเธอเขียนถึงใครกันหนอ
SS…
สงคราม สายชล... หรือเปล่า !
ไม่จริง ขอให้มันไม่จริงด้วยเถิด...
***
สงครามมาถึงราวหกโมงครึ่ง อาหารเย็นพึ่งเริ่มไปได้นิดหน่อย ท่านอลังการนั้นเดินไปต้อนรับเขาด้วยตนเองด้วยความนิยมชมชอบชายหนุ่มเป็นพิเศษในความสามารถ
“ เอาล่ะ ๆ ผมขอบกวนเวลาแห่งความสุขกับมื้ออาหารเย็นของพนักงานที่รักของผมทุกท่านนะครับ พนักงานทุกคนถือได้ว่าเป็นผู้มีพระคุณกับบริษัทของผม เป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนให้มีอลังการเรียลเอสเตทจนถึงทุกวันนี้ ผมซาบซึ้งและขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง และสำหรับวันนี้ ผมมีความยินดีที่จะแจ้งให้ทุกคนทราบว่า โครงการรีโนเวทตึกเก่าล่าสุดที่ยังไม่ได้โปรโมททางการตลาดใด ๆ นั้น มีลูกค้าจองจนหมดเรียบร้อยแล้ว ” เสียงปรบมือยินดีเกรียวกราวดังขึ้นจากพนักงานทั่วทั้งริมชายหาด บริษัทประสบผลสำเร็จ ยอดขายดี นั่นหมายถึงโบนัสปลายปีก้อนโตที่จะตามมาด้วย
“ และเบื้องหลังแห่งความสำเร็จสำคัญของโครงการนี้นั้นนอกจากพนักงานของบริษัทผมทุกท่าน ยังมีสองท่านที่ช่วยให้ความสำเร็จนี้มาถึงไวขึ้น นั่นก็คือสถาปนิกและอินทีเรียดีไซน์ผู้มีความสามารถ คุณสงคราม และคุณสายชล ”
เสียงปรบมือเกรียวกราวดังขึ้นอีกรอบ ทั้งคู่ลุกขึ้นโค้งคำนับเพื่อเป็นการขอบคุณ แต่นั่นก็ยังไม่พอ ท่านอลังการเชิญทั้งคู่มาที่ด้านหน้า
“ เป็นเพราะคุณทั้งคู่ประสานงานกันได้ดีมาก จึงทำให้โครงการของเราบรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ผมจึงขอมอบของขวัญเป็นขวัญถุงเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ทั้งคู่ด้วยนะครับ ” ทั้งคู่รับขวัญถุงที่ท่านอลังการมอบให้ ซึ่งทุกคนแน่ใจว่าไอ้เล็ก ๆ น้อย ๆ ของท่านนั้นไม่ต่ำกว่าหกหลักแน่ ๆ
“ ขอเชิญทั้งคู่กล่าวอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แก่ท่านประธานและแขกผู้มีเกียรติทุกท่านด้วยนะครับ ” เนวิน หัวหน้าฝ่ายบัญชีซึ่งควบตำแหน่งพิธีกรให้วันนี้ยื่นไมค์ให้กับสายชลก่อน หญิงสาวรับมาแล้วกล่าวขอบคุณสั้น ๆ
“ ขอบพระคุณท่านอลังการมากที่ให้เกียรติอินทีเรียดีไซน์หน้าใหม่อย่างชลได้มีโอกาสร่วมงาน นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากในการทำงานครั้งนี้ ประทับใจมากค่ะ ”
“ บอกเล่าความประทับใจต่อบริษัทของเรานิดนึงสิครับ เนื้องาน เจ้าพนักงาน หรือลูกชายเจ้าของบริษัท ”
คุณเนวินกล้าเอ่ยแซวเพราะความที่เจ้าของนั้นให้ความเป็นกันเองกับพนักงานเสมอ อีกทั้งทุกคนก็ทราบดีว่าคุณธิเบตบุตรชายคนเดียวของท่านนั้น ถึงจะเจอกันนาน ๆ ครั้ง ก็ทราบกันดีว่าตลอดหลายปีมานี้ไม่เคยมีข่าวกับผู้หญิงคนไหนเลย นอกจากคุณสายชลคนเดียวที่ท่านอลังการพูดถึงอยู่บ่อย ๆ
ทุกคนยิ้มออกมาทันทีที่สิ้นคำของพิธีกร โดยเฉพาะธิเบตนั้นยิ้มจนแก้มแทบฉีก ส่วนเจ้าตัวที่ถูกถามนั้นทำเพียงยิ้มและไม่ตอบอะไรเช่นเคย กระนั้นคนอื่น ๆ ก็คาดเดากันไปว่าเธอคงจะเขินอาย
มีเพียงคนเดียวที่ไม่รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งและยืนหน้าตูมอยู่ข้าง ๆ นั่นก็คือสงคราม