งานใหม่
877 Words
“ หนูไปทำงานแล้วนะป้า ”
นารา ตะโกนบอกป้านิ่ม ป้าแท้ ๆ ผู้เป็นพี่สาวของแม่ที่รับเธอมาเลี้ยงตั้งแต่จำความได้ เพราะแม่ของเธอหนีหายไปกับผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ใช้พ่อของเธอ แล้วไม่กลับมาดูดำดูดีเลยตั้งแต่บัดนั้น
ป้านิ่มเป็นแม่หม้ายผัวทิ้งมาหลายปีเพราะเป็นหมัน ไม่สามารถมีลูกได้ และนางก็ไม่มีใครอีกเลยตั้งแต่บัดนั้น ใช้ชีวิตตั้งหน้าตั้งตาขายขนมกล้วยแขก มันทอด เผือกทอด เลี้ยงหลานสาวคนเดียวมาจนเติบใหญ่ตามอัตภาพ และเธอก็ตั้งใจเรียน ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง สร้างความภูมิใจให้กับป้าโดยการสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในคณะศิลปศาสตร์ได้ และขณะนี้กำลังเรียนอยู่ปีสอง
แต่ชีวิตที่กำลังเหมือนจะดำเนินไปได้ด้วยดีก็กลับหักเห เมื่อป้านิ่มถูกตรวจพบว่าเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้ไม่สามารถเดินเหินไปมาได้อย่างปกติ การขายของซึ่งเป็นรายได้หลักก็ต้องหยุดไปโดยปริยาย
แต่หลานสาวก็ยังยืนยันว่านั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะเดิมทีเธอเองก็ทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งอยู่แล้ว จากเวลาห้าโมงเย็นไปถึงราว ๆ เที่ยงคืน และเป็นตัวแทนขายสิ่งของสารพัดจิปาถะในออนไลน์เท่าที่เธอจะทำได้ เรียกได้ว่าอะไรได้เงิน มากน้อยไม่ว่า สิบบาทยี่สิบบาท นาราทำหมดไม่เกี่ยง เดือนหนึ่งเธอหาเงินได้ไม่ต่ำกว่าสองหมื่น ซึ่งก็พอจุนเจือเธอกับป้าให้อยู่อย่างสบาย แม้เธอจะเหนื่อยสักแค่ไหนก็ตาม
นาราเป็นคนสวย และอาชีพในฝันของเธอคืออยากเป็นแอร์โฮสเตส เพราะชีวิตไม่เคยได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย เธอคิดว่าอยากจะทำอาชีพนี้หรือไม่ก็ทำงานบนเรือสำราญอะไรพวกนั้น เพราะจะได้ทำงานไปด้วย เที่ยวไปด้วย อีกทั้งรายได้ก็จัดว่าดีกว่าอาชีพอื่น ๆ อีกหลายอาชีพ
จากสวยเป็นทุนเดิม นาราเริ่มหันมาดูแลตัวเองให้มากขึ้นเพื่อเป็นการเตรียมพร้อม เพราะอาชีพเหล่านี้ต้องใช้หน้าตาในการทำงาน เธอทั้งออกกำลังกาย ดูแลผิวพรรณตามวิธีธรรมชาติ และเมื่อพบว่าตัวเองฟันไม่ค่อยสวย จึงคิดว่าควรจะจัดฟันเสียตั้งแต่ตอนนี้ เธอเก็บออมเงินที่ได้จากการทำงานไปพบทันตแพทย์เพื่อปรึกษาเรื่องการจัดฟัน และก็เริ่มดำเนินการเคลียร์ช่องปากมาเรื่อย ๆ ตามเวลาที่หมอนัดเป็นเวลาสามเดือนแล้ว
และก็ได้พบกับคุณหมอคนนั้น คนที่ทำให้หัวใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำ...
แต่เนื่องจากผู้เป็นป้าที่มาป่วยกะทันหันในเดือนที่แล้ว และคุณหมอผู้ทำการรักษาก็แจ้งกับเธอว่าป้าจะต้องทำการผ่าตัดด่วน ไม่เช่นนั้นจะไม่หาย ทำให้นาราต้องหาหนทางที่จะทำให้ได้เงินมามากขึ้น
เหมือนโชคชะตาฟ้าจะเห็นใจ เมื่อนาราลองถามเพื่อนที่มหาวิทยาลัยดูว่ามีงานอะไรให้ทำบ้าง เพื่อนคนหนึ่งจึงแนะนำว่ามีรุ่นพี่ในคณะของพวกเธอที่จบไปแล้วชื่อพี่เพลิน ทำงานอยู่ในเลาจน์มีระดับแห่งหนึ่ง เมื่อทำการติดต่อไปจึงได้ทราบว่ารายได้ดีกว่าที่เธอทำอยู่มาก
‘ คืนละห้าร้อย แต่รายได้หลักไม่ใช่ที่ร้านจ่าย มันอยู่ที่ทิปจากลูกค้านะหนูนา เพราะแขกที่นี่ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ พวกนักการเมือง เงินหนา ไม่ไก่กา บริการถูกใจจ่ายทีเป็นฟ่อน ๆ คืนหนึ่งสองหมื่น พี่ยังเคยได้มาแล้วเลยแก ’
นั่นคือคำยืนยันของพี่เพลินทางโทรศัพท์มือถือที่ทำให้หนูนาหูผึ่ง
“ ไหวไหมวะหนูนา ปกติงานเอ็งก็เลิกหกทุ่ม เอ็งยังได้พักได้ผ่อน ยังไปเรียนไหว แต่นี่มันตีสองเลยนะโว้ย แล้วเอ็งจะเอาเวลาที่ไหนไปนอน จะเอาสมองที่ไหนไปเรียนวะ ป้าไม่อยากผ่าตัดแล้ว ” เสียงป้านิ่มบ่นพลางมองหลานสาวที่กำลังนั่งสวมรองเท้าที่บันไดบ้านเตรียมตัวออกไปทำงาน แต่เธอก็ยังนั่งนิ่ง ไม่ไหวติง ไม่พูดไม่จาอยู่เช่นนั้น จนป้าต้องเรียกชื่อดัง ๆ
“ ไอ้หนูนา ! ”
หญิงสาวสะดุ้งโหยงสุดตัวก่อนหันมาหาผู้เป็นป้า
“ อะไรล่ะป้า เสียงดังตกใจหมดเลย ”
“ แหม ขวัญอ่อนใจลอยไปถึงไหน ป้าพูดกับเอ็งอยู่เป็นนานสองนานไม่เห็นหืออือ ”
“ พูดอะไรล่ะจ๊ะ พอดีหนูมัวแต่คิดถึงเรื่องงานน่ะ ”
“ ก็พูดเรื่องไม่อยากให้เอ็งไปทำงานที่ใหม่ ที่ภัตตาคารอาหารโรงแรมอะไรของเอ็งนี่แหละ ไม่อยากให้อดหลับอดนอน ป้าก็ยังไม่ได้เป็นเยอะขนาดนั้น ไม่ต้องผ่าตัดก็ยังได้ ”
คำพูดของป้า ทำให้นารานั่งนิ่งด้วยความมึนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกออกมาได้
...ว่าตัวเองโกหกป้าเรื่องที่ทำงานใหม่ !
- Writer
