ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงรองเท้าส้นสูงดังตามจังหวะของน้ำหนักเท้าที่ทิ้งลงพื้นอย่างสม่ำเสมอ พะพายเดินบิดสะโพกไปมาท่ามกลางวงล้อมของผู้ชายร่างกำยำถึงสี่คนที่เฝ้าควบคุมเธออยู่ห่างๆ
ไม่รู้ว่าโชคชะตาหรือฟ้าลิขิตที่อยู่ๆงานของพวกมันก็ดันเกิดปัญหา พวกมันจึงยังไม่สามารถข่นพวกเธอออกนอกประเทศได้ แต่ความซวยก็ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะเธอกำลังจะถูกส่งตัวไปให้ลูกค้าวีไอพีของพวกมัน ผู้รวมชะตากรรมคนอื่นก็ถูกจับแยกกันไปคนละทิศละทาง
ชุดที่เด็กสาวสวมใส่มันวาบหวิวจนเป็นที่จ้องมองแก่สายตาหื่นกามของผู้ชายทั้งสี่คนอย่างไม่ปิดบัง พะพายซ่อนความรู้สึกรังเกียจและขยะแขยงสายตากะลิ้มกะเหลี่ยของพวกเขาภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉย เพราะหากเธอแสดงออกมาตรงๆมันคงจะไม่ดีต่อตัวเธอนัก
“ทำหน้าที่ของเธอ..อย่าคิดตุกติก” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น ในตอนที่ทุกคนหยุดอยู่ที่หน้าห้องๆหนึ่ง พะพายไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป สายตาคู่สวยจ้องมองประตูห้องก่อนจะข่มดวงตาหลับลงช้าๆอย่างจำใจ
“รู้ใช่ไหมว่าคนที่คิดหนีจุดจบมันจะเป็นยังไง เธอก็น่าจะได้เห็นตัวอย่างมาแล้ว”
ชายร่างใหญ่อีกคนกระซิบขู่เด็กสาวเพื่อกดดันเธอทุกทาง พะพายค่อยๆลืมตาขึ้นมาพร้อมบิดริมฝีปากให้กลายรอยยิ้มบางๆ แม้ในใจเธอจะคอยสาปแช่งให้พวกมันชิบหาย
“หนูเข้าไปได้แล้วใช่ไหมคะ” พะพายหันมาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ปกติที่สุด เธอซ่อนความเกลียดชังเอาไว้ภายใต้รอยยิ้มบางๆ
“คงจะอยากเหมือนกันสินะ ดูท่าทางจะร่านใช่ย่อย” ที่พวกมันพูดออกมาอย่างนั้นเพราะเธอคือคนเดียวที่ไม่ขัดขืนการกระทำ ไม่ว่าพวกมันจะสั่งให้ทำอะไรเธอก็ปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย
ประโยคพูดดูถูกเมื่อครู่ทำให้พะพายกำมือตัวเองแน่น เธอไม่ต่อปากต่อคำกับพวกมันให้เสียเวลาหรอก ในหัวของเธอมีแต่เรื่องคิดหนี เธอจะไม่แสดงอะไรออกมาให้พวกมันรู้ตัวหรอก เด็กสาวยังคงโปรยรอยยิ้มอย่างฝืนทน ก่อนที่พวกมันจะยอมปล่อยให้เธอเดินเข้าไปภายในห้องเพียงคนเดียว
“เห้อ...” พะพายถอดหายใจพรืดใหญ่อยู่หน้ากระจกของห้องน้ำ เพราะแขกของเธอยังไม่เข้ามา เธอจึงมีเวลาในการเตรียมตัวเตรียมใจ
..ยังไงก็ต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้..
เด็กสาวมองหาของมีคมเพื่อเอาไว้ป้องกันตัว ก่อนจะคิดอะไรบางอย่างในหัวออก
แอดดดด...
เสียงประตูที่ถูกเปิดออกบ่งบอกว่าแขกของเธอได้เข้ามาภายในห้องแล้ว ใจดวงน้อยกระตุกวูบ เธอแสดงอาการออกมาอย่างลนลาน ก่อนจะตัดสินใจทำตามสิ่งที่คิดเมื่อครู่
พะพายฝืนกัดฟันแล้วใช้ของมีคมที่หาได้มากรีดปลายนิ้วของตัวเองให้เลือดออก หยาดน้ำตาพรั่งพรูออกมาด้วยความเจ็บแสบ หยดเลือดหลายหยดไหลลงกลางแพนตี้สีขาวจนกลายเป็นสีแดงสด
หลังมือน้อยยกขึ้นมาปาดน้ำตาตัวเองลวกๆหลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เด็กสาวถอดหายใจเข้าออกลึกๆก่อนจะตัดสินใจเดินออกมาจากห้องน้ำ
“มานั่งบนตักป๋า” ชายวัยสี่สิบปลายๆพูดพร้อมตบตักตัวเอง เขาพึงพอใจในรูปร่างและหน้าตาของพะพายไม่น้อย เด็กสาวกุมท้องตัวเองพร้อมเดินไปหาเขาอย่างจำใจ
“อ๊ะส์” พะพายเผลออุทานออกมาเสียงหลงเมื่อถูกดึงแขนจนตัวล้มไปนั่งบนตักแกร่ง
“อื่มส์..สาวน้อย” เขาสูดดมเส้นผมของเธออย่างหื่นกามพร้อมลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของเธอ
“นะ..หนูปวดท้องค่ะ มะ..เมนส์หนูเพิ่งมา” พะพายตัดสินใจเสี่ยงตายพูดประโยคนั้นออกมา ก่อนที่ชายวัยสี่สิบจะหยุดชะงักกับคำพูดของเธอ เขาพลักตัวของเธอออกจากตักอย่างนึกรังเกียจเมื่อเห็นเลือดสีแดงสดเปื้อนที่หน้าตักของเขา
“โสโครก!” แม้จะรู้สึกเจ็บตัวกับการกระทำของคนตรงหน้าแต่ก็แอบโล่งใจที่เขาผลักไสเธอแทนการร่วมรักหลับนอน ชายวัยสี่สิบปลายๆเดินออกไปอย่างหัวเสียและหมดอารมณ์ ขณะที่พะพายจ้องหาทางหนี เธอเดินตามออกไปอย่างใจเย็น ก่อนจะค่อยๆย่องเบาและแอบวิ่งหนีออกไปในตอนที่คนดูแลควบคุมเธอกำลังถูกลูกค้าต่อว่าจนไม่สังเกตเห็น
“เห้ยหยุด!” พะพายเร่งฝีเท้าอย่างสุดชีวิตเมื่อได้ยินเสียงของพวกมันดังตามหลังมาติดๆ พวกมันรู้ตัวเร็วกว่าที่คิด
..ตายแน่!ถ้าถูกพวกมันจับได้ต้องตายแน่ๆ..
ทั้งกลัวทั้งอยากรอด เธอวิ่งหนีลงบันไดหนีไฟไป เพราะตอนที่เดินเข้ามาที่นี่เธอได้มองหาทางออกเอาไว้แล้ว จึงวิ่งออกไปตามเส้นทางอย่างไม่คิดชีวิต
พรึ่บ!
“อ่ะส์”
หากว่ามัวแต่มองคนที่วิ่งตามหลังมาจนไม่ได้มองทางข้างหน้า ทำให้ร่างของเธอวิ่งชนกับใครบางคนจนเผลอร้องออกมาเสียงหลง “ชะ..ช่วยด้วยค่ะ”
เด็กสาวร้องขอความช่วยเหลือกับชายแปลกหน้าที่เธอวิ่งชนเมื่อครู่ด้วยความเหนื่อยหอบ
“ชะ..ช่วยหนูด้วย” พะพายร้องขอความช่วยเหลือจากชายหนุ่มอีกครั้ง ก่อนที่จะวิ่งไปหลบอยู่ที่หลังของเขาด้วยความหวาดกลัว
“ปล่อยให้เป็นเรื่องของผัวเมียดีกว่านะ” ชายร่างกำยำที่วิ่งตามเธอมาตะโกนพูด สายตาของพวกมันมองเธออย่างคาดโทษ
“หนูไม่ได้เป็นเมียมันนะคะ พวกมันหลอกหนูมาขายตัว” เด็กสาวส่ายหน้าพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ใบหน้าหล่อเหลาเหลือบหางตามามองเธอนิ่งๆ ขณะที่เด็กสาวส่งสายตามองเขาอย่างวิงวอน
“หึ” ชายหนุ่มเค้นเสียงหัวเราะในลำคอหนาก่อนจะหันไปส่งสายตาราวกับออกคำสั่งกับชายฉกรรจ์ซึ่งอยู่ในชุดสูทสีดำที่ดูเหมือนเป็นลูกน้องมากกว่าเพื่อนของเขา
“นายบอกว่าเรื่องแบบนี้เราคุยกันได้นะ”