พรึ่บ!
“อ่ะส์”
พะพายร้องเสียงหลงเมื่อถูกชายร่างกำยำสองคนโยนเข้ามาในห้องๆ หนึ่งที่ไร้ซึ่งแสงสว่าง หากว่ามันคือห้องเชือดที่อยู่ชั้นใต้ดินของบ้าน กลิ่นอับชื้นในห้องมืดทำให้เด็กสาวหายใจอย่างไม่ทั่วท้อง
“อึก! นะ..หนูขอโทษที่เมื่อกี้พูดจาไม่ดีกับคุณ”
สองมือน้อยค่อยๆ คืบคลานเข้าไปกอดขาของปรินทร์อย่างทุลักทุเล ต่างจากก่อนหน้านี้ที่ยังพูดจาอวดดีเถียงเขาอยู่ฉอดๆ เธอผิดพลาดมหันต์ที่พูดจาไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีก่อน จึงทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
การแสดงออกที่น่าสงสารไม่ได้ทำให้คนอย่างเขาเวทนาเธอเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังเหยียดยิ้มมุมปากอย่างรู้สึกสมเพช
จริงๆ ชายหนุ่มเพียงแค่จะมาจัดการกับใครบางคนเท่านั้น แต่เด็กสาวดันไปผยองทำตัวอวดเก่งกับเขาเสียก่อน จึงคิดว่าควรจะสั่งสอนเด็กอวดดีซะหน่อย เธอจึงถูกลากเข้ามาในห้องนี้ด้วย
“นะ..หนูขอโทษ หนูไม่ได้ตั้งใจ...อ่ะส์” พะพายร้องเสียงหลงเมื่อถูกมือหนากระชากแขนให้ลุกขึ้นด้วยมือเพียงข้างเดียว
ปรินทร์อุ้มเด็กสาวให้ขึ้นมานั่งบนตักแกร่งของเขาอย่างเอาแต่ใจ เพียงแค่แขนแกร่งกอดรั้งเอวคอดบางไว้หลวมๆ เธอก็รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ก่อนเสียงโหยหวนจะดังเล็ดลอดเข้ามาในห้องมืดเรื่อยๆ พาลทำให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักแกร่งเกิดอาการหวาดกลัวและหวาดระแวงไปหมด พะพายหันไปมองที่มาของเสียงร้องโหยหวนอย่างกล้าๆ กลัวๆ ก่อนที่ใจดวงน้อยมันจะตกวูบไปถึงตาตุ่ม เกิดอาการร้อนหวาบสลับหนาววูบในเวลาเดียวกัน เมื่อได้เห็นภาพของความโหดร้ายตรงหน้า
“...อึก!!” พะพายซบใบหน้าลงบนต้นคอหนาของมาเฟียหนุ่ม เพราะไม่กล้ามองสภาพของชายวัยกลางคนตรงหน้าที่เปียกโชกไปด้วยเลือดสีแดงสดเต็มตัว บ่งบอกว่าเขาถูกทรมานอย่างหนักหน่วงและป่าเถื่อน
“คะ..คุณปรินทร์ครับ ผะ..ผมขอโทษ..วะ..ไว้ชีวิตผมเถอะนะครับ”
สองมือน้อยกำคอเสื้อของชายหนุ่มไว้แน่นพร้อมมุดหน้าเข้าหาแผงหน้าอกแกร่งของปรินทร์ หากว่าทนมองภาพตรงหน้าไม่ไหวจริงๆ
“อื้อ...” เด็กสาวเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวดเมื่อถูกกระชากใบหน้าสวยให้มองดูเหตุการณ์ตรงหน้า เธอส่ายหน้าน้อยๆ ด้วยแววตาที่สั่นระริก ก่อนจะยกมือตัวเองขึ้นมากัดเพื่อกลั้นเสียงร้องเอาไว้
คนโหดเหี้ยมยื่นมือขอบางอย่างจากลูกน้องที่ยืนคุมเชิงอยู่ข้างหลัง ดวงตาคมกริบมองชายวัยกลางคนที่ร้องขอชีวิตจากเขาด้วยสีหน้าที่เยือกเย็นและไร้ความรู้สึก ขณะที่พะพายได้แต่แสดงอาการสั่นเทาอย่างหวาดผวาท่ามกลางเสียงร้องขอชีวิตจากชายวัยกลางคนอย่างไม่ขาดปาก
“ได้โปรด..วะ..ไว้ชีวิตผมเถอะนะครับ” ชายวัยกลางคนร้องขอชีวิตจากปรินทร์ครั้งแล้วครั้งเล่า แม้จะรู้ว่าโอกาสที่จะรอดชีวิตมันช่างริบหรี่
มาเฟียหนุ่มควงปืนในมือเล่นโดยไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าต่างจากพะพายที่นั่งหวาดกลัวจนตัวสั่น ใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมานอกเบ้า
“วะ..ไว้ชีวิตผมเถอะนะครับ ผะ..ผมขอ...”
ปัง!!
กรี๊ดดดดดดด!!
พรึ่บ!
ชายวัยสี่สิบปลายๆ ล้มลงไปกับพื้นจมกองเลือดทันทีที่ลูกตะกั่วฝังเข้าที่บริเวณตรงกลางของกะโหลกศีรษะ ความเหี้ยมโหดของเขาทำให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักออกอาการขวัญเสีย เธอกรีดร้องเสียงดังลั่นด้วยความตกใจและหวาดกลัวอย่างสุดขีด พร้อมยกปลายเท้าทั้งสองข้างหลบเลี่ยงเลือดสีแดงสดที่กระเด็นมาเปื้อน
“นี่คือลูกหนี้ที่ฉันอุตส่าห์ให้โอกาสมากกว่าสองครั้ง แล้วมันยังกล้าคิดที่จะหนี...”
ปรินทร์หันมาพูดกับเด็กสาวที่นั่งร้องไห้จนตัวสั่นเทาอยู่บนตักของเขาด้วยน้ำเสียงดุดัน การกระทำของเขาราวกับกำลังเชือดไก่ให้ลิงดูอย่างไงอย่างงั้น
“...เธออยากมีจุดจบแบบนั้นไหม!?”
“ฮื๊อออออฮือออออ” พะพายส่ายหน้าให้เขาไปมาอย่างพัลวัน เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความหวาดกลัว
“สองอย่างที่จะทำให้เธอหลุดพ้นจากฉันได้ คือใช้หนี้ฉันให้ครบกับอ้าขาให้ฉันเอาจนกว่าฉันจะเบื่อ”
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไม่รู้จะเรียกว่าหนีเสือปะจระเข้หรือหนีจระเข้ปะเสือ
สีหน้าของเด็กสาวแสดงออกมาอย่างพะอืดพะอมเพราะกระอักกระอ่วนกับกลิ่นคาวเลือดที่ลอยคละคลุ้งจนแทบกลั้นอาเจียนของตัวเองไม่ไหว
“ฮื๊อออออย่าทำอะไรหนูเลยนะ...หนูกลัวแล้วฮื๊อออฮือออ” เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมยกมือขึ้นมาประกบกันราวกับกำลังประนมมือร้องขอความเมตตาจากเขาตามสัญชาตญาณ หยาดน้ำตาของเธอพรั่งพรูออกมาอาบแก้มไม่ขาดสาย อาการของเธอที่แสดงออกมาไม่ต่างจากคนที่กำลังสติแตก เขาน่ากลัวกว่าคนที่เธอหนีมาหลายร้อยเท่าพันเท่า
“รู้อะไรไหมว่าฉันเกลียดเสียงร้องไห้แบบเด็กๆ แต่ฉันชอบเสียงร้องครวญครางแบบเจ็บปวดทรมานมากกว่า” ปรินทร์กระซิบเบาๆ ที่ข้างกกหูใบเล็กก่อนจะไล้สายตามองเด็กสาวบนตักอีกครั้ง พลางนึกคิดว่าถ้าเธอร้องครวญครางและดิ้นพล่านอยู่ใต้ร่างของเขามันจะเป็นยังไง
ปรินทร์ส่งปืนที่ถืออยู่ในมือให้กับลูกน้อง ก่อนจะช้อนร่างของพะพายขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาว สองแขนเรียวโอบรัดลำคอหนาไว้อัตโนมัติ ก่อนจะถูกชายหนุ่มอุ้มร่างของเธอเดินออกไปจากที่ตรงนั้น