@คฤหาสน์หลังใหญ่ของปรินทร์
ดวงตาคมคายไล้สายตามองเด็กสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า พะพายกุมมือพร้อมงุดหน้าลงด้วยความรู้สึกประหม่าเล็กน้อย หากว่าเธอทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่ต่อหน้าชายหนุ่ม และไม่สามารถคาดเดาความคิดของคนตรงหน้าได้
พรึ่บ!
ปรินทร์โยนเอกสารส่วนตัวของพะพายลงบนโต๊ะกระจกพร้อมยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาไขว่ห้าง ขณะที่พะพายนั่งคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมหยิบเอกสารตรงหน้ามาเปิดดู
“สิบล้านที่ฉันเสียไป..ฉันจะได้อะไรเป็นการตอบแทน” พะพายถึงกับชะงักเมื่อได้ยินประโยคพูดเมื่อครู่ ก่อนจะค่อยๆ วางเอกสารส่วนตัวที่อยู่ในมือของเธอลง
“สิบล้าน!!! มะ..หมายความว่าไงคะ” เด็กสาวเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยความตกใจ
“สิบล้านแลกกับอิสระของเธอ” ปรินทร์คลายความสงสัยให้กับเด็กสาว พะพายนิ่งไปพักใหญ่หากว่ากำลังใช้ความคิด
“คุณซื้อตัวหนูมาเหรอ?”
“...” ปรินทร์ตอบคำถามเด็กสาวด้วยการใช้ความเงียบ เพราะคิดว่าคนอย่างเธอคงเดาเองได้ไม่ยาก
“ทำไมคุณจะต้องจ่ายให้หนูตั้งสิบล้าน แล้วหนูจะหาเงินที่ไหนมาคืนคุณ” พะพายนั่งลงขัดสมาธิกับพื้นพร้อมยกมือขึ้นมากุมขมับตัวเอง สิ่งที่เธอเจอมามันทำให้เกิดความเครียดสะสม
อยู่ๆ ก็มีหนี้ตั้งสิบล้านแล้วใครจะไปมีกำลังใจใช้ชีวิต
“...” ปรินทร์มองเด็กสาวที่ทิ้งตัวลงไปนั่งกับพื้นด้วยสีหน้ารำคาญอย่างไม่ปิดบัง ตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะน่าสนใจกว่านี้ แต่การกระทำที่พะพายแสดงออกมามันก็ไม่ต่างจากเด็กสาวทั่วๆ ไปในวัยเดียวกันกับเธอ
“ไม่รู้แหละ มันไม่ใช่ความผิดของหนู หนูจำเป็นต้องรับผิดชอบ หนูขอให้คุณช่วยหนูออกมา มันก็มีตั้งหลายวิธี ทำไมต้องซื้อตัวหนูออกมาด้วย”
“พูดแบบนี้มันไม่ดูเนรคุณไปหน่อยเหรอ” ชายหนุ่มตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“...” เด็กสาวมองใบหน้าคมคายอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็แสดงความกล้าออกมามากกว่าความกลัว สิบล้านสำหรับเขาใช้เวลาไม่กี่นาทีก็หาเข้ากระเป๋าตัวเองคืนได้แล้ว แต่สำหรับเธอทำงานทั้งชีวิตก็ไม่รู้จะชดใช้หมดหรือเปล่า
“ให้ฉันส่งเธอกลับไปหาพวกมันดีไหม”
พะพายส่ายหน้าให้ชายหนุ่มพัลวัน อุตส่าห์ปีนขึ้นมาจากหลุมนรกได้แล้ว ใครจะยอมตกลงไปอีกรอบ
“วิธีของคุณมันไม่ฉลาด”
“...” ปรินทร์ถึงกับชะงักกับประโยคพูดของเด็กสาวเมื่อครู่ เขามองเธอกลับไปนิ่งๆ ขณะที่ภาคภูมิลูกน้องคนสนิทได้แต่ลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พลางคิดในใจว่าจะมีเด็กตายในบ้านไหมนะ เขาส่ายหน้าน้อยๆ พร้อมส่งสายตาบอกเด็กสาวให้หยุดวาจาเหล่านั้นที่กำลังจะเอ่ย
“หนูไม่ได้ติดหนี้พวกมัน..พวกมันไม่มีสิทธิ์ในตัวหนู ไม่มีสิทธิ์ขายหนูให้กับใครทั้งนั้น เพราะฉะนั้นหนูไม่จำเป็นต้องชดใช้เงินให้คุณ”
“...”
“ขอบคุณที่คุณช่วยหนูออกมา บุญคุณของคุณหนูจะตอบแทนให้เมื่อมีโอกาส ส่วนเงินที่คุณเสียไปคุณก็ไปเอาคืนกับพวกมันสิ”
“หึ” ปรินทร์เค้นเสียงหัวเราะในลำคอหนา ก่อนจะเหยียดยิ้มออกมาอย่างรู้สึกสมเพช
พรึ่บ!
“อ๊ะส์” พะพายร้องอุทานเสียงหลงเมื่อถูกกระชากคอเสื้ออย่างเเรง ร่างของเด็กสาวลอยขึ้นมาในท่าคุกเข่าตามแรงกระชากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ร่างกายของพะพายสั่นเทาด้วยความกลัว ใจดวงน้อยสั่นระรัวจนแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า ตอนนี้เธอรู้สึกหวาดกลัวคนตรงหน้ามากกว่าคนพวกนั้นเสียอีก
“เธอจะตอบแทนบุญคุณฉันเมื่อมีโอกาสอย่างนั้นเหรอ”
“...อึก!!” มือหนากอบกำลำคอของเด็กสาวไว้หลวมๆ ก่อนจะค่อยๆ บีบรัดจนแน่น
“เอาอะไรมาตอบแทนดีละ ชีวิตของเธอหรือร่างกายของเธอดี”
เสียงพูดที่แสนเยือกเย็นของคนตรงหน้าทำให้เด็กสาวลอบกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ ใบหน้าที่หล่อเหลาไม่ได้ทำให้เธอหวาดกลัวเขาน้อยลงเลย
“นะ..หนูหายใจไม่ออก” เธอพูดพร้อมกับพยายามแกะนิ้วมือหนาออกจากลำคอของตัวเอง
“จำเอาไว้นะเด็กน้อยว่าเธอติดหนี้ฉันสิบล้าน” ปรินทร์พูดเย้ยหยันความอวดดีของเด็กสาว “ถ้าชดใช้ด้วยเงินไม่ได้ก็เอาอย่างอื่นมาชดใช้แทน”
“...” พะพายกัดฟันตัวเองแน่น หากว่ารู้สึกรังเกียจสายตาที่ชายหนุ่มมองมา เขาไม่ต่างอะไรจากคนพวกนั้นเลย
“แล้วถ้าคิดจะหนีฉันเหมือนกับที่หนีพวกมัน..ก็ลองดู”
“อ๊ะส์” พะพายร้องเสียงหลงขณะที่ร่างกายล้มกลิ้งลงไปกับพื้น หากว่าปรินทร์จงใจผลักเธอออกไปอย่างตั้งใจ ชายหนุ่มหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมหันไปมองภาคภูมิด้วยแววตาเชิงคำสั่งก่อนจะเดินจากไปโดยมีลูกน้องอีกสองคนเดินตามหลัง
“ลากเธอไปที่ห้องใต้ดิน” ภาคภูมิพูดออกคำสั่งกับลูกน้องอีกสองคนที่เหลือ
“อ๊ะส์..ปะ..ปล่อยหนูนะ จะพาหนูไปไหน” พะพายเริ่มสติแตกเมื่อถูกควบคุมตัวให้เดินไปยังห้องๆ หนึ่งของตัวบ้าน