พรึ่บ!
ถุงเสื้อผ้าตัวใหม่กับของใช้ส่วนตัวถูกโยนลงมาที่หน้าตักของเด็กสาว พะพายก้มมองของที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะเงยหน้ามามองเจ้าของการกระทำ
“กระโปรงเธอเปื้อนเลือด ไปจัดการธุระตัวเองให้เรียบร้อยซะ” ภาคภูมิลูกน้องคนสนิทของปรินทร์คือเจ้าของคำพูดนั้น หากว่าเจ้านายสั่งให้เขาดูแลและจัดการเรื่องของเด็กสาว
“คะ..คุณชื่ออะไรคะ หนูจะได้เรียกชื่อถูก” พะพายกัดปากตัวเองเบาๆ อย่างใช้ความคิดก่อนเอ่ยถามชื่อของคนตรงหน้า
“เรียกภูมิหรือพี่ภูมิก็ได้ รู้แล้วก็ไปจัดการธุระของเธอ” ชายหนุ่มตอบกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์
“ค่ะ..เอ่อแล้วคนที่คุณเรียกนาย..ชะ..ชื่ออะไรเหรอคะ” เด็กสาวเอ่ยถามต่อ ก่อนจะก้าวลงจากรถตู้คันหรูหรา
“แค่ทำตามที่ฉันบอกมันยากตรงไหน เรื่องบางเรื่องอย่าอยากรู้อยากเห็นให้มันมาก เพราะมันจะส่งผลต่อสิ่งที่อยู่บนบ่าของเธอ” พะพายขมวดคิ้วพันกันอย่างยุ่งเหยิง หากว่าเธอไม่เข้าใจในสิ่งที่คนตรงหน้าพูดออกมานัก เพียงแค่ถามถึงชื่อของอีกคน ชายหนุ่มกลับแสดงออกราวกับเธอทำอะไรผิดหนักหนา
สิ่งที่อยู่บนบ่า? เขาหมายถึงหัวของเธออาจจะหลุดออกมาได้งั้นเหรอ
เด็กสาวก้มหน้ามามองถุงเสื้อผ้าในมือก่อนจะลงจากรถตู้ไปยังทิศทางของห้องน้ำสาธารณะเพื่อจัดการธุระส่วนตัว
“ไม่คิดว่าคุณปรินทร์จะสนใจสินค้าของผม”
ปาสคาลพูดเปิดเรื่องเจรจา เขารู้จักคนตรงหน้าเป็นอย่างดี ปรินทร์คือมาเฟียที่ทรงอิทธิพล ถึงชายหนุ่มจะมีอายุน้อยกว่าแต่ด้วยอำนาจที่ล้นมือทำให้ใครต่อใครก็ยอมก้มหัวให้
“หึ” เสียงเค้นหัวเราะดังออกมาจากลำคอหนาก่อนจะยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาไขว่ห้างพร้อมไล้สายตาอ่านข้อมูลส่วนตัวของเด็กสาวคร่าวๆ ผ่านแฟ้มข้อมูล
“เด็กคนนี้เป็นที่ต้องการของลูกค้าต่างชาติหลายคน ถ้าคุณปรินทร์สนใจหรืออยากได้ก็คงต้องสู้ในราคาที่สูงหน่อย” เดรกลูกน้องคนสนิทของปาสคาลพูดขึ้น เขาจงใจอัพค่าตัวของเด็กสาวให้สูงขึ้น
“สิบล้าน...พอไหม” ชายหนุ่มพูดออกมาแค่นั้น เขาไม่มีความจำเป็นที่จะพูดเจรจาอะไรกับคนพวกนี้มากนักหรอก
ปาสคาลหันไปส่งสายตามองลูกคนสนิทด้วยรอยยิ้มที่มีเล่ห์เหลี่ยม หากว่าปรินทร์ยอมจ่ายในราคาที่สูงเกินมูลค่าจริงที่พวกเขาได้คาดหวังเอาไว้
“ผมมีสินค้าอีกมากมายให้คุณเลือก เผื่อคุณปรินทร์จะสนใจพิจารณาเลือกดูก่อนตัดสินใจ” ปาสคาลพูดเอาใจคนตรงหน้า ขณะที่เดรกยื่นแฟ้มเอกสารที่เป็นข้อมูลของคนอื่นมาให้ชายหนุ่ม ก่อนจะเก็บแฟ้มข้อมูลไว้กับตัวเองเช่นเดิม เมื่อปรินทร์ตวัดสายตามองอย่างไม่สบอารมณ์ เขาไม่ได้รับเอกสารพวกนั้นจากเดรกเพราะคิดว่าไม่จำเป็น
“คุณคงจะสนใจเด็กคนนี้จริงๆ” ปาสคาลพูดก่อนจะส่งสายตาให้เดรกนำเอกสารส่วนตัวที่เหลือของพะพายมาให้ปรินทร์ หลังจากที่ชายหนุ่มเขียนเช็กให้ ปรินทร์รับเอกสารส่วนตัวที่เหลือของเด็กสาวมาดูผ่านๆ รวมถึงบัตรประจําตัวประชาชนของเธอด้วย ก่อนจะยื่นเอกสารในมือให้ลูกน้องที่ยืนคุมเชิง แล้วหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“หวังว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกนะ” ชายหนุ่มพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั่นก่อนจะเดินจากไปโดยมีลูกน้องอีกสี่คนเดินตามหลัง
“ไม่คิดว่านังเด็กที่สร้างความวุ่นวายมันจะทำเงินให้เราขนาดนี้” ปาสคาลพูดขึ้นหลังจากที่ปรินทร์เดินหายออกไป
“แต่ก็ยังไม่พอกับสิ่งที่เราเสียไป เพราะไอ้คามินมันกัดพวกเราไม่ปล่อย” เดรกพูดต่อ.. ที่ธุรกิจของพวกเขาเกิดปัญหาเพียงเพราะดันพลาดไปจับตัวเด็กสาวที่ชื่อหนูนาซึ่งเป็นคนของคามิน นักธุรกิจรายใหญ่ของเอเชีย
ปาสคาลแสดงสีหน้าโกรธเกรี้ยวและท่าทางอาฆาตแค้น เพราะตอนนี้เขาสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลและถูกตัดหนทางทำมาหากิน
ปรินทร์เดินออกมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และซ่อนความร้ายกาจไว้ภายใต้ใบหน้าที่หล่อเหลา
เงินสิบล้านนี้ ถือว่าคืนให้ก็แล้วกัน
หากว่าสัปดาห์ก่อนพวกมันได้สร้างวีรกรรมให้เพื่อนรักของเขาจนเลือดขึ้นหน้า และที่งานพวกมันมีปัญหาก็เกิดจากฝีมือของเขาเองนั่นแหละ