bc

The Lady Next Door คุณผู้หญิงข้างบ้าน

book_age16+
154
FOLLOW
1K
READ
age gap
independent
gxg
lighthearted
city
first love
sassy
love at the first sight
like
intro-logo
Blurb

'สวัสดีค่ะคุณผู้หญิง ขออนุญาตปีนรั้วเข้าไปช่วยข้างในนะคะ'

เป็นเรื่องราวของ สาวสวยดีกรีนางแบบ ที่ย้ายมาอยู่ข้างบ้าน คุณผู้หญิง

และเพราะเป็นรักแรก คุณผู้หญิง จึงถูกรุกอย่างหนัก

ชมธีรา

อาจารย์สุดโหดประจำวิชาประวัติศาสตร์

ชีวิตรักหลายสิบปีต้องมาพังทลาย เพราะสามีนอกใจ

สุดท้ายก็ต้องแยกกันอยู่ แต่ยังคงมีทะเบียนสมรสค้ำคอ

จนกระทั่งมีสาวสวยข้างบ้านเข้ามาในชีวิต ซึ่งมันก็ทำให้เธอต้องหวั่นไหว

กีรดา

นางแบบสาวสวย ที่เพิ่งย้ายมาอยู่ข้างบ้าน

ลงทุนทำขนาดนี้คุณคงจะรักกี้บ้างนะคะ

คุณผู้หญิง

รักแรกของฉัน

กี้จะรุก

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1-2-3
ตอนที่ 1 "ออกไป! ฉันไม่อยากเจอหน้าคุณอีก" น้ำเสียงสั่นคลอตะโกนลั่นเอ่ยออกมาอย่างเหลืออด มันทั้งโกรธ แค้น และเสียใจ จนต้องมาลงที่จานอาหารหลายใบในมือที่ ชมธีรา เขวี้ยงลงอ่างล้างจานจนแตกไม่มีชิ้นดี "คุณต้องฟังผมนะ มันแค่ความผิดพลาดครั้งเดียว" "งั้นถ้าฉันทำบ้าง คุณก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นมั้ย" "โธ่ ชม เราคบกันมาเกือบยี่สิบปี มันก็แค่ความผิดครั้งเดียว คุณจะไม่ให้โอกาสผมเลยเหรอ" ภาพปกรณ์กับสาวสวยทรงโต เลขาหน้าห้องที่เธอเคยพบเจอและรู้จักมาเนิ่นนาน กลับมามีสัมพันธ์สวาทกับสามีตัวเองลับหลังเธอ "มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป ไปซะ! ถ้าอยากได้โอกาสก็ไปซะ" ชมธีราหันไปจ้องเขาเขม็งพร้อมกับน้ำตาที่ไหลเป็นสาย  ใบหน้าจริงจังแบบนี้แหละที่พร้อมหยุดทุกอย่างรอบตัว ปกรณ์จำต้องเดินห่างออกมา ด้วยใบหน้าเจื่อนๆ และกลัว  ภาพความทรงจำวันนั้นย้อนกลับมาในหัวของชมธีราอีกครั้ง ผ่านมาแล้วเก้าเดือน ที่เธอไล่สามีตัวเองออกจากบ้าน เขาคือผู้ชายคนแรกที่คบหากับชมธีราตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ทั้งคู่อยู่ด้วยกันตลอดเวลาแทบจะตัวติดกัน ในทุกช่วงของชีวิต จนสุดท้าย เราก็ตกลงปลงใจแต่งงานกัน  ชมธีราไม่เคยนอนหลับได้สนิทเลยเมื่อไม่มีเขาอยู่ในบ้านหลังนี้  "เห้อ.." และทำได้เพียงถอนหายใจออกมา  เพื่อข่มอารมณ์และข่มจิตใจให้หลงลืมเรื่องราวที่ทำให้เสียใจ ชมธีราจึงเลือกวิธีอ่านหนังสือก่อนนอน มันคงทำให้หนังตาหย่อนได้บ้างซึ่งมันก็ได้ผล  หนังสือเล่มหนาในมือถูกวางลงที่โต๊ะข้างเตียง พร้อมกับแว่นสายตาที่เพิ่งจะถอดออกวางไปตามกัน หนังสือก็เปรียบเหมือนยานอนหลับ และมันก็ออกฤทธิ์แล้ว ~~ตื้ด ตื้อ ตื้อ ตื้อ เห้ เห้ เห้~~ ชมธีราสะดุ้งตื่นจากการหลับใหล พร้อมกับหันมองรอบตัว ก็ต้องหาต้นเสียงที่ทำให้ตัวเองตื่น และก็รับรู้ได้จากความรู้สึกว่ามันมาจากข้างบ้านเพราะการขยับตัวไปจ้องสำรวจมองที่หน้าต่าง "อะไรกัน! นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว" นั่นเพราะเวลาบนฝาผนังบอกว่าข้ามเข้าวันใหม่แล้ว เธอคว้าเสื้อคลุมตัวยาว และเปิดประตูออกจากห้องนอนทันที ก้าวลงบันได เดินออกจากรั้วบ้านตัวเองด้วยความโมโห ก็กว่าจะข่มตาหลับได้ ก็ดันต้องมาสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะพวกเด็กไร้มารยาทข้างบ้านที่มาเปิดเพลงรบกวนกัน ชมธีราเดินมาหยุดอยู่หลังรถหกล้อที่เปิดอยู่ อะไรกันเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่มาขนย้ายข้าวของเข้าบ้านมั้ย "ขอโทษนะคะ ช่วยปิดเพลงได้มั้ยคะ" เป็นคำพูดที่ซอฟท์ที่สุดแล้ว แม้อยากจะต่อว่าที่มาสร้างความอึกทึกในตอนนี้ แต่ปฏิกิริยาที่ได้รับกลับมาคือความนิ่งเฉย นั่นเพราะเสียงของเธอคงจะสู้เสียงเพลงไม่ได้ แถมผู้ชายสามสี่คนตรงหน้ายังพากันสวมหูฟังอันโตอีก แล้วตกลงจะเปิดเพลงเสียงดังให้ใครฟังกันแน่ "ขอโทษค่ะ!" ชมธีราจึงเปลี่ยนจากโทนเสียงดุดันมาเป็นตะโกนแข่งกับทุกเสียงแทน "ช่วย ปิด เพลง หน่อยค่ะ!"  "ครับ อะไรนะครับคุณป้า" ยังดีหน่อย ที่มีหนึ่งคนในนั้นหยุดเดินและหันมาสนใจ "ปิดเพลงค่ะ" กอดอกพร้อมส่งเสียงกดต่ำบอกออกไป  "อ้อ ได้ครับ" เขาพยักหน้าให้หงึกหงักก่อนจะหันไปทางด้านหน้า "เห้ย! ก็อต เบาเสียงเพลงหน่อย" "ปิดค่ะ! ไม่ใช่แค่เบา เพราะไม่ใช่เวลามาฟังเพลง แถมไม่ควรย้ายของเข้าบ้านเวลานี้ด้วย"  "เอ่อ คือเราเพิ่งจะมาถึงครับ และต้องรีบกลับ ให้รอย้ายตอนเช้าไม่ได้หรอก" "เมื่อกี้ ว่ายังไงนะครับคุณป้า" "ปิดเพลงและหยุดขนของซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งความ" ชมธีราบอกออกไปอย่างกล้าๆ กลัว ก็มีเธอคนเดียวที่เป็นผู้หญิง เรียกได้ว่าหนึ่งต่อสี่ ไม่ทันที่ชมธีราจะโวยวายมากกว่านี้ ก็มีเด็กสาวคนหนึ่งในชุดตัวโคล่ง ดูกระแซะกระเซิง แว่นหนาเตอะ วิ่งตรงมาทางวงสนทนา "ขอโทษค่ะ ขอโทษ" หล่อนตรงเข้ามาแทรกกลางระหว่างเหล่าเด็กผู้ชาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษขอโพย "ขอโทษที่รกวนนะคะคุณผู้หญิง พอดีเรามาจากต่างจังหวัด กี้จะรีบบอกให้เพื่อนปิดเพลงและจะขนของเข้าบ้านแบบเงียบๆ ไม่ให้รบกวนคุณผู้หญิงอีกค่ะ" "จริงๆ ฉันก็ไม่ได้แล้งน้ำใจหรอกนะ แต่เพื่อนๆ ของเธอ.." "ต้องขอโทษแทนเพื่อนๆ ด้วยนะคะที่เสียมารยาท" พูดออกมาก่อนจะหันไปหาเพื่อนๆ และพยัดพะเยิดให้ผงกหัวขอโทษ ซึ่งทุกคนก็ทำตามอย่างว่าง่าย และมันก็ทำให้อารมณ์ของชมธีราคลายโมโหลงได้บ้าง "แค่อยากจะให้นึกถึงเพื่อนบ้านบ้าง นี่มันยามวิกาล ถ้าจะย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านที่รั้วติดกันแบบนี้ก็ควรจะเกรงใจ" "ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ กี้จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกแล้วค่ะ คุณผู้หญิง"  "อือ" ชมธีราตอบออกไปแบบนั้น และสะบัดหน้าเดินกลับเข้ารั้วบ้านตัวเอง ก็อยากจะแสดงออกให้ทุกคนรู้ว่าฉันไม่พอใจ ชมธีราเดินกลับขึ้นห้องนอนตัวเอง ถอดเสื้อคลุมออกและพาดมันไว้ที่เก้าอี้ข้างเตียง  เสียงเพลงที่ดังแว่วจากข้างบ้านตอนนี้เงียบสนิท เธอระบายยิ้มออกมาเพียงนิด อย่างน้อยเด็กแว่นหนาเตอะนั่นก็ทำอย่างที่พูดจริง หมู่บ้านนี้ที่ชมธีราอาศัยอยู่ค่อนข้างจะเป็นส่วนตัว ไม่แออัด และระบบความรักษาปลอดภัยก็ดีเยี่ยม เธอไม่เคยมีปัญหาเรื่องเพื่อนบ้าน มันจึงเป็นเหตุผลที่เธอและสามีเสียเงินหลายล้านเพื่อซื้อบ้านราคาแพงเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี แต่หลังจากนี้ ก็ไม่อาจจะคาดเดาได้เลย ในเมื่อเพื่อนบ้านคนใหม่ที่เพิ่งขนของย้ายเข้าบ้าน นั้นเป็นเด็กมหาลัยฯ สังเกตจากใบหน้าอ่อนเยาว์ของแต่ละคน และจากนี้คงจะวุ่นวายน่าดู เพราะขนาดวันแรก ยังทำให้เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาในยามวิกาล ตอนที่ 2 ชมธีราละจากงานตรงหน้า เพราะเสียงกดกริ่งหน้าบ้าน พร้อมชะเง้อมองออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนจะรีบลุกออกจากที่นั่งเมื่อเห็นว่าใครที่ยืนอยู่ "สวัสดีค่ะคุณยาย มีอะไรให้ฉันช่วยเหรอคะ" ถามออกไปอย่างสุภาพ  "ยายเอาขนมอบมาฝากค่ะอาจารย์" บอกก่อนจะยื่นจานขนมผ่านรั้วบ้านให้ "อุ้ย! น่ารับประทานจังเลยค่ะ" เอ่ยออกมาตามตรง "ลองชิมสิคะอาจารย์ว่ารสชาติเป็นยังไง ยายเพิ่งทำครั้งแรกน่ะ" "ช ชิมตอนนี้น่ะเหรอคะ" ก็ปกติเธอมักจะเคร่งครัดเรื่องมารยาท ให้มายืนเคี้ยวอาหารตุ้ยๆ ข้างรั้วก็แปลกๆ อยู่  "ใช่ค่ะอาจารย์"  เธอจึงจำต้องหยิบคุ้กกี้สีเข้มเข้าปากอย่างจำยอม เพราะเห็นว่าคนสูงอายุเป็นผู้มีพระคุณและเป็นที่นับถือ "อื้อ ฉันว่ามันแข็งไปนิดนะคะ" บอกตามตรงเพราะตัวเองค่อนข้างชำนาญและถนัดกับการทำอาหารและขนมทุกประเภท "ยายก็ว่าแบบนั้นเหมือนกัน ดีจังเลยนะมีอาจารย์เป็นเพื่อนบ้าน พูดตรงดี"  "ค่ะ เพราะเป็นอาจารย์ ไม่โกหกอยู่แล้วค่ะ" เธอบอกออกไปตามที่ใจคิด แถมด้วยความภูมิใจ ภูมิใจกับอาชีพของตนเอง "ไม่เหมือนแม่หนูคนสวยข้างบ้านอาจารย์นะ บอกว่าอร่อย สงสัยอยากจะประจบคนแก่"  "แม่หนูคนสวยข้างบ้านฉันเหรอคะ?" "อ้าว เจอกันแล้วไม่ใช่เหรอ ที่เพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อวานน่ะ" "เมื่อวานเหรอ อ๋อ.." เธอพยักหน้าให้ เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ แต่เมื่อวานที่ไหนเล่า เด็กพวกนั้นมาทำเสียงเอะอะตอนตีสองต่างหาก  "เจอกันแล้วใช่มั้ย แม่หนูคนนั้นน่ะ" "ค่ะ เจอกันแล้ว" "สนิทกันไว้สิ ทำงานที่เดียวกับอาจารย์ด้วยนะ" "ที่เดียวกันเหรอคะ?"  ก็แบบนี้ ชมธีราไม่ค่อยยุ่งเรื่องของใคร จะมีก็แต่คุณยายข้างบ้านที่คอยสอดส่องและส่งข่าวให้ฉันแทบทุกวัน เรียกได้ว่าเห็นเธออยู่บ้านไม่ได้เลย และที่ต้องทนฟังและเกรงใจเพราะหล่อนเป็นแม่ของผู้อำนวยการ หรือเรียกได้ว่าเป็นแม่ของเจ้านายนั่นเอง "แม่หนูนั่นน่ะ.." "สวัสดีค่ะ คุณยาย เจอกันอีกแล้วนะคะ"  ชมธีราหันตามเสียงทักนั่นทันที เห็นเป็นสาวสวยแข้งขายาวในชุดกระโปรงแสนสั้น หน้าตาสวยจนละสายตาไม่ได้เลย "อ้าว หนูนั่นเอง นี่ยายกำลังคุยเรื่องหนูให้อาจารย์เค้าฟังพอดี"  และเพราะคำทักทายแบบนั้น จึงทำให้เธอแปลกใจ "นินทากันเหรอคะ" สาวสวยตรงหน้าเอ่ยออกมาทีเล่นทีจริง พร้อมเดินเข้ามาใกล้และหยุดอยู่นอกรั้วบ้านข้างคนสูงอายุ เบื้องหน้าชมธีรา "ไม่ได้นินทา แต่อยากจะให้รู้จักกันไว้ เพราะเราเป็นเพื่อนบ้านกัน" "อ๋อ.. ความจริงเมื่อคืนกี้ก็ได้คุยกับคุณผู้หญิงเค้าแล้วล่ะค่ะ" บอกกับคนสูงอายุ ก่อนจะหันไปหาเจ้าของบ้าน "ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ ที่รบกวนเวลานอนของคุณ"  ชมธีราได้แต่ไล่เรียงเหตุการณ์และคิดตาม เด็กสาวชุดโคล่ง แว่นหนาเตอะเมื่อคืน ก็คือสาวสวยตรงหน้านี่เอง ช่างแตกต่างกันราวกับคนละคน "ไม่เป็นไร คราวหลังก็อย่าให้มีแบบนี้อีกล่ะ" บอกออกมาด้วยน้ำเสียงดุๆ ก่อนจะหันไปหาผู้หญิงสูงอายุ "ฉันตัวเข้าบ้านก่อนนะคะ โรงเรียนใกล้จะเปิดเทอมแล้ว ต้องเตรียมงานอีกเยอะเลยค่ะ" ต้องตัดบท เพราะตอนนี้ ไม่มีเวลาเหลือมาคุยหรือทำความรู้จักคนข้างบ้าน จู่ๆ ก็รู้สึกขัดหูขัดตากับเพื่อนบ้านคนใหม่เสียอย่างงั้น ไม่รู้ว่าเพราะเรื่องเมื่อคืน หรือชุดที่หล่อนสวมใส่ตอนนี้ จนยอมเสียมารยาทต่อหน้าทุกคน ชมธีราเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครอง ดังนั้นเวลาที่เห็นใครแต่งกายไม่เรียบร้อยจึงรู้สึกไม่ชอบใจนัก แถมยังคงฝังใจมาจากเลขาสาวของสามีที่แอบไปได้เสียกัน หล่อนตัวเล็กน่าทะนุถนอม แถมชอบใส่กระโปรงสั้น บ้างก็ชุดรัดรูปโชว์สัดส่วน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยแตะต้อง ช่างเหมือนคนข้างบ้านไม่ปาน จะแตกต่างกันก็สาวสวยคนนั้นหน้าตาสะสวยและน่ามองกว่าไหนๆ โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นของเพื่อนบ้านคนใหม่ เธอรู้สึกคุ้นเคย เหมือนเคยสบตากันที่ไหนสักแห่ง เพราะมันแตกต่าง จึงจำได้ดี ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้น เวลาที่เจอกับแสงแดดมันจะแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวหม่นแต่ช่างสดสว่าง  ชมธีราได้แต่เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ เฝ้านึกถึงคนคนนั้นที่หลงลืมไปแล้ว แต่เธอก็นึกไม่ออก ว่าคนคนนั้นคือใคร ชมธีราวางปากกาลงบนโต๊ะทำงานก่อนจะถอนหายใจออกมา นั่นเพราะวันทั้งวันเอาแต่ทำงาน กว่าจะจบจะสิ้นก็เกือบบ่าย คงต้องลุกจากที่นั่งเสียที แต่ก่อนจะลุกไปทำธุระอื่น สายตาของเธอก็เหลือบไปมองข้างบ้าน  "แปลกแฮะ" ที่ต้องเอ่ยออกมาแบบนั้น เพราะสายตาดันแอบสำรวจบ้านที่เคยร้างลาไร้ผู้คน ตอนนี้ดูเหมือนใหม่ หญ้าที่ขึ้นจนรกก็ถูกตัดออกจนสะอาดตา สีรั้วที่ซีดสนิทตอนนี้สดใสขึ้น แถมยังสังเกตเห็นใครบางคนกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำบางอย่างข้างรั้ว ตอนนี้เพื่อนบ้านเองก็เปลี่ยนไปด้วยรูปลักษณ์ หล่อนกลับมาใส่เสื้อผ้ารัดกุมทั้งท่อนบนท่อนล่าง และมีหมวกสานใบจิ๋วที่ศีรษะ ก็แหงล่ะ แดดเมืองไทยใครจะทนได้ ซึ่งมันก็ช่างน่ามองและน่าลุ้นเสียจริงว่าบ้านหลังเก่าจะออกมาดูดีได้แค่ไหน "เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเชียวเหรอ" เพราะใช้เวลาเพียงไม่นานทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป คิดแค่นั้นก็เดินเข้าครัว การคิดสงสัยหรือยุ่งย่ามเรื่องของชาวบ้านมากไปคงไม่ดีนัก แต่อย่างน้อยก็ดีอย่างที่ไม่ต้องอยู่ติดกับบ้านร้าง สาวสวยละจากอุปกรณ์ทำสวน และเงยหน้าหันไปทางบ้านอีกหลังที่รั้วติดกัน เพราะรอให้คนที่แอบดูเดินห่างออกจากหน้าต่าง ชื่อของเธอคือกีรดา กว่าจะได้เจอกับชมธีรา คุณผู้หญิงของฉันอีกครั้งต้องใช้เวลานานตั้งเจ็ดปีเชียว ซึ่งแน่นอนว่าการที่เธอได้มาอยู่ข้างบ้านหล่อนนั้น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ  ตอนนี้มือของสาวสวยกำลังขุดทรายข้างรั้วตัวเองเพื่อจะลงดอกไม้ที่เพิ่งจะเหมามาเมื่อเช้า ที่ต้องทำตอนนี้เพราะไม่อยากจะเสียเวลา ทุกวินาทีมีค่า แถมเธอยังตื่นเต้นจนอดใจไม่ไหวที่ได้เข้ามาบูรณะบ้านหลังนี้ อยากเห็นมันตอนเสร็จสมบูรณ์แทบจะขาดใจ แต่ก็ต้องหยุดมือแบบจริงจังอีกครั้ง นั่นเพราะเสียงกดกริ่งหน้าบ้าน เธอรีบทิ้งทุกอย่างในมือและวิ่งตรงไปหน้ารั้ว และเปิดให้แขกสำคัญเข้ามาทันที "ย้ายมาไม่เห็นบอกกันเลยนะ" ทันทีที่เพื่อนของฉันเดินเข้ามาถึงในบ้านก็เริ่มบ่น นั่นคือ แครล์ เพื่อนสาวหน้าฝรั่ง "ไม่เห็นจะสำคัญเลยนี่ แล้วอีกอย่างบ้านกี้ก็ยังไม่เสร็จด้วย เลยไม่อยากบอก" บอกไปตามตรง ก็เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่ต้องมาเลี้ยงฉลอง "เห้ย! ฉันเป็นผู้จัดการส่วนตัวแกนะ ฉันต้องรู้สิ"  ใช่สิ เกือบลืมไปเลย ว่าเพื่อนสนิทคนเดียวคนนี้คือคนที่ช่วยให้เธอมีอาชีพ รวมถึงช่วยเหลือแทบทุกเรื่องด้วย แล้วจะปกปิดไปเพื่ออะไร "ขอโทษแล้วกัน"  เหมือนคำขอโทษของกีรดาจะทำให้อารมณ์หงุดหงิดของเพื่อนลดลงได้ หล่อนเดินไปที่ริมหน้าต่างกระจกบานยาวภายในห้องรับแขก และชะเง้อมองออกไปมองบ้านข้างๆ  "ได้เจอรึยังล่ะ รักแรกของแกน่ะ" และเอ่ยถามออกมาอย่างรู้ทัน "อืม เจอแล้ว" บอกตามตรงพร้อมกับยิ้มปริ่ม "งั้นก็สบายใจแล้วใช่มั้ย คงจะเริ่มงานได้เลย"  "ยัง กี้จะขอพักงานน่ะ หนังสือส่งตัวฝึกสอนเพิ่งจะมาถึงด้วย" "อะไรนะ! นี่แกจะเอาจริงเหรอ"  "ก็ที่ทำทุกอย่างก็เพื่อคุณผู้หญิง ขอเวลาอีกนิดนะแครล์ แค่ปีเดียวเอง" "แกกำลังจะดังนะ ถ้าหายไปปีนึง มีหวังคนคงลืมแกไปหมดพอดี"  "กี้ไม่ได้อยากดังซะหน่อย"  "ไหนว่าอยากรวย อย่าลืมสิ แกต้องหาเงินมาใช้หนี้ฉันนะ"  "รู้แล้วน่า ทวงเก่งจริงนะ"  "รู้ก็ดี" บอกออกมาอย่างอ่อนใจ ก่อนจะหันไปสนใจกับม่านบางๆ ที่หน้าต่างอีก "ถ้ำมองใช่มั้ยเนี่ย" "อะไรนะ.." กีรดาถามออกไปกับคำกล่าวหานี้ "ก็อยากจะเห็นหน้าคุณผู้หยงคุณผู้หญิงอะไรนั่น จนต้องไปหาซื้อผ้าม่านบางเฉียบมาติดเลยล่ะสิ ไอ้ถ้ำมอง" "บ้า! ใครจะคิดแบบนั้น กี้ยังรอม่านชุดใหญ่มาติดอยู่น่ะ" แม้จะจริงครึ่งนึงที่เธอชอบแอบมองคนข้างบ้าน แต่ไม่ได้มีเจตนาจะเป็นถ้ำมอง "อ้อ ฉันเห็นเหมือนข้างบ้านแกมีสระว่ายน้ำ อยากให้คุณเค้าสนใจ ก็ลงไปอวดหุ่นกับนมตู้มซะหน่อยสิ ทำมาแพงนี่" "บ้า! คุณผู้หญิงคงไม่ใช่คนแบบนั้น" กีรดาตาโตบอกทันที พร้อมใบหน้าที่แดงกร่ำ กลายเป็นเธอเองที่เขินอายกับคำแนะนำของเพื่อน "เข้าใจคำว่าอ่อยมั้ยยะ อยากได้คุณเค้าจนตัวสั่น ถึงขนาดย้ายข้าวของมาอยู่ข้างบ้านเค้า ทิ้งอนาคตทางวงการนางแบบเพื่อไปทำงานที่เดียวกับเค้า ก็ต้องรีบรุกย่ะ ถ้าช้าเดี๋ยวตาแกนั่นจะกลับมาคาบเค้ากลับไปกินไม่รู้ด้วยนะ"  "คุณเค้าไม่ใช่คนใจอ่อนนะ ไม่กลับไปคบกับผู้ชายที่นอกใจหรอก" กีรดาเถียงหัวชนฝาด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง "เค้าคบกับมาเป็นสิบๆ ปี ถ้าุณเค้าเลิกรักง่ายๆ คงหย่าไปแล้วล่ะ" จริงสิ คำพูดของเพื่อนทำให้กีรดาคิดหนัก หรือเธออาจจะต้องใช้วิธีที่เพื่อนแนะนำ นั่นคืออ่อย ตอนที่ 3 เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้คนที่นอนคุดคู้อยู่บนโซฟาต้องสะดุ้งตื่น พร้อมกับรีบคว้าอุปกรณ์สื่อสารมาไว้ในมือ "ฮัลโหล" ชมธีราส่งเสียงทักปลายสาย พร้อมกับพยุงตัวให้ลุกขึ้นนั่ง ก็เผลอพักสายตานานไปหน่อย "ถึงหน้าบ้านแล้ว ออกมาเปิดประตูให้ทีจ้ะยาหยี" เสียงปลายสายทำให้เจ้าของบ้านต้องชะเง้อมองไปนอกรั้ว ก่อนจะกดตัดสาย และเดินไปหน้ารั้วบ้าน "พึ่งตื่นรึไง" คำทักแรกที่เพื่อนสนิททัก "อื้ม ปวดหัวน่ะ เลยนอนพัก" "ก็บอกว่าแล้วว่าอย่าโหมงานหนักไว้คนเดียว แบ่งให้คนอื่นทำบ้างสิ" พูดก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตัวยาวกลางบ้าน "ถ้าทุกคนทำงานเหมือนฉัน ฉันคงวางใจ" ก็เด็กสมัยใหม่ที่มาเป็นอาจารย์ทำงานไม่ทุ่มเทเท่าเธอสักคน คงจะเป็นการเสี่ยงถ้ามอบหมายงานสำคัญให้คนพวกนั้นทำ "เธอมันพวกยึดติดไม่ปล่อยวางต่างหาก" บอกออกมาก่อนจะเหลือบมองที่นิ้วนางข้างซ้ายของชมธีรา "รวมถึงเรื่องผู้ชายด้วย" หล่อนบอกออกมาอีกด้วยสายตาจับผิด "หมายความว่าไง" "เก้าเดือนแล้วนะ ที่เธอกับกรณ์แยกกันอยู่ ตกลงจะหย่าหรือจะคืนดีกัน" ชมธีรานิ่งงันทันทีกับคำถามนั้น นั่นสิ ที่ไม่ตัดสินใจเด็ดขาด เพราะเธอกำลังรอคอยต่างหาก รอคอยให้เขากลับมาง้อ "ฉันให้โอกาสกรณ์ได้ทบทวนความผิดของตัวเอง" "แล้วไงอีก" ถามออกมาด้วยสีหน้าคาดคั้น "ยี่สิบปีเลยนะที่ฉันกับกรณ์คบกัน" "เสียดายเวลาหรือไง" "อืม" "แล้วไล่เค้าไปทำไมตั้งแต่ทีแรกล่ะ" "กรณ์ไม่เคยทำผิด ไม่เคยนอกใจ นั่นน่ะครั้งแรก ฉันเลยทำอะไรไม่ถูก" "โธ่ งั้นก็ไปง้อเค้าสิ" "จะบ้าเหรอ กรณ์เป็นคนผิด แล้วทำไมฉันต้องเป็นคนง้อด้วย" "แค่นี้เธอน่าจะคิดได้นะ ถ้าเค้าอยากจะคบกับเธอต่อ คงจะกลับมาง้อแล้วล่ะ และคงไม่รอให้เวลาผ่านเลยมาเก้าเดือน" คนฟังเริ่มคิดตามสิ่งที่เพื่อนพูด "บางทีผู้ชายอาจจะเบื่อของเก่า พอได้เจออะไรใหม่ๆ เช่น เลขาสาว สุดเซ็กซี่ ลีลาร้อนแรง เลยทำให้ลืมมนุษย์ป้าอย่างเธอก็ได้นะ" "นี่กาน! เลิกพูดเรื่องนี้สักที ถ้าเธอเป็นเพื่อนฉัน ก็อย่าตอกย้ำเรื่องนี้ได้มั้ย ไม่ใช่ว่าฉันไม่เจ็บนะ รู้มั้ยที่ฉันทนอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะฉันอดทน ขอร้องล่ะ อย่าพูดถึงผู้หญิงคนนั้นอีก" ไม่เคยอดทนได้เลย ทุกครั้งที่ใครต่อใครก็พูดถึงเรื่องที่สามีมีชู้ แถมชู้คนนั้นก็เป็นคนที่เธอรู้จักดี และแถมยังสาวและสวยกว่า วิกานดา คือ เพื่อนสนิท พวกเธอเรียนมาด้วยกันและทำงานที่เดียวกัน หล่อนเป็นรองผู้อำนวยการ ส่วนชมธีราเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ พ่วงด้วยอาจารย์ฝ่ายปกครอง วิกานดาช่วยเหลือเธอทุกเรื่องทั้งยังคอยผลักดันเรื่องงาน "เอามาซิ จะตรวจให้" หล่อนเปรียบเหมือนพี่เลี้ยง มักหยิบยื่นโอกาสทางหน้าที่การงานให้ปัญจพร "ไว้ค่อยทำก็ได้ ฉันอยากจะทำแผนการสอนให้เสร็จก่อน" "เป็นแค่อาจารย์ไปวันๆ ไม่ได้หรอกนะ เธอต้องทำผลงานด้วย" ซึ่งใช่ ชมธีราเป็นคนแบบนั้น เธออยากจะโฟกัสเรื่องการสอนและดูแลเด็กนักเรียนมากกว่าการมานั่งทำผลงาน แม้มันจะไม่ทำให้เธอก้าวหน้าทางตำแหน่งและเงินเดือนก็ตาม "เห้อ นี่ก็จะค่ำแล้วนะ เธอกลับบ้านไปเถอะ" "อะไรเนี่ย มาเพราะเป็นห่วงแท้ๆ " วิกานดาเอ่ยออกมาอย่างงอนๆ พร้อมกับลุกขึ้นยืน พวกเธอเพิ่งจะรับประทานมื้อค่ำ และนั่งพูดคุยจิปาถะ แต่พอเข้าเรื่องงานทีไรก็จะถูกไล่แบบนี้ แถมเจ้าของบ้านยังจริงจังถึงขั้นเดินไปเปิดประตูให้ วิกานดาจำต้องเดินจ้ำๆ ออกจากบ้าน พร้อมกับเข้าไปนั่งในรถประจำที่คนขับ ซึ่งเจ้าของบ้านก็ไม่ทันที่จะเดินเข้าบ้านเสียทีเดียว เธอยืนรอดูเพื่อนจนกว่าจะเคลื่อนออกจากหน้าบ้าน แต่สักพักเพื่อนก็ก้าวลงจากรถ "รถสตาร์ทไม่ติด" นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมรถคันนี้จึงจอดสนิทไม่ขยับ

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ทาสเรือนพระยา

read
1.2K
bc

Spicy Short Story Set 3 รวมเรื่องสั้นเผ็ดซี้ด ชุดที่ 3

read
1.1K
bc

マイBLノーベル เขียนนิยายให้กลายเป็นรัก

read
1K
bc

The Night with the Beast ราตรีอสูร

read
1K
bc

Change you!!! เปลี่ยนจากนายให้กลายเป็นสาว

read
1.9K
bc

เริ่มแรกจากงานวิวาห์

read
2.8K
bc

My Doctor อกเคยหักเพราะรักหมอ

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook