บทที่ 1
“วา! แกหลอกฉัน ไหนบอกจะพามาเที่ยว ฉันอุตส่าห์ใช้วันลาทั้งหมดเพื่อมาเที่ยวกับแก แต่นอกจากจะไม่ได้เที่ยว แกยังให้ฉันมาทำอะไรพิเรนๆ อะไรก็ไม่รู้ วา! ฉันจะฆ่าแก” พริมรตาทำแสร้งจะเข้ามาบีบคอเพื่อนรักอย่างแววิวาห์ หลังถูกเพื่อนหลอกให้ลางานมาทำเรื่องบางอย่าง
“โธ่! พรีม แกก็ต้องเห็นใจฉันหน่อยสิ ฉันกำลังจะถูกบังคับให้แต่งงานนะ แกไม่คิดจะช่วยฉันหน่อยเหรอ” แวววิวาห์เข้ามากอดออดอ้อน(จากเรื่อง “ท่านประธานขา พาหนูลงจากเตียง เอ๊ย! คานที)
“ช่วย? ด้วยการให้ฉันเข้าไปยั่วเกย์เนี่ยนะ แกใช้สมองส่วนไหนคิดเนี่ยวา เขาเป็นเกย์ เขาจะสนใจผู้หญิงอย่างฉันได้ยังไง ถ้าเป็นยั่วโมโหก็ว่าไปอย่าง” พริมรตาส่ายหน้าหวือ แค่คิดว่าตัวเองจะต้องยั่วเกย์ตามที่เพื่อนขอ เธอก็แทบนึกภาพไม่ออก
“นั่นแหละที่ฉันต้องการ ยั่วให้เขาโมโหแล้วก็เผยธาตุแท้ออกมา ฉันเชื่อว่าแกทำได้ เพื่อนฉันเก่งอยู่แล้ว” แวววิวาห์ชมพลางหยิกแก้มเพื่อนรักอย่างหยอกเอิน
“นี่แกชมฉันใช่ไหม” พริมรตาหรี่ตามองเพื่อน
“ชมสิ แกนี่”
“ชมว่าฉันยั่วประสาทคนเก่งเนี่ยนะ” พริมรตากลอกตาไปมา
“มันเป็นศิลปะขั้นสูงเลยนะแก ฮ่าๆๆ” ทั้งคู่หัวเราะออกมาพร้อมกัน
“ฉันสงสัยอย่างนึง ทำไมแกไม่ทำเอง แกเองก็ยั่วประสาทเก่งไม่ต่างจากฉันหรอก” พริมรตาถามพร้อมกับแอบเหน็บเพื่อนไปด้วย
“ก็ถ้าฉันทำเอง เขาก็จะยิ่งระวังตัวแจ เพราะกลัวฉันจับได้น่ะสิ อีกอย่างถ้าแม่กับยายเห็นฉันไปวอแวกับเขามากๆ คิดว่าฉันชอบเขา แล้วหันมาเร่งวันแต่งให้เร็วขึ้นจะทำยังไง” พริมรตาได้ฟังก็พยักหน้าเออออเห็นตามเพื่อน แต่บางอย่างก็ย้อนแย้งอยู่ในความรู้สึกจนต้องพูดออกมาอีก
“แต่จากที่ดู ฉันไม่เห็นว่าเขาจะเหมือนเกย์ตรงไหนเลยนะแก ออกจะแข็งๆ ทื่อๆ ด้วยซ้ำไป ไม่เห็นเหมือนเกย์ที่ฉันเคยเจอเลย”
“ก็เพราะเขาแสดงเก่งไง แกไม่รู้อะไร คนเขาลือกันทั้งบางว่ามีผู้ชายชอบเข้าไปหาเขาที่ปางไม้ตอนดึกๆ แล้วรู้ไหมว่าผู้ชายพวกนั้นเป็นใคร ก็คู่ขาเขาไง โอ๊ย! แกลองคิดสภาพดู ถ้าฉันต้องแต่งงานไปกับเขา แล้วเขาพาผู้ชายคนอื่นมานอนด้วย แก…ฉันคงเหมือนตกนรกทั้งเป็นเลยนะแก” ฟังเพื่อนพูดแล้ว เธอก็อดนึกภาพตามไม่ได้
“เออๆๆ ช่วยก็ช่วย แต่ไม่เอาแบบเมื่อวานแล้วนะ ไอ้แกล้งชนแกล้งล้มให้เขามาช่วยเนี่ย ดูจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าปลอมมาก” พริมรตาเบ้หน้ากลอกตากับแผนที่เพื่อนให้ตนลองเมื่อวานนี้
ย้อนกลับไปเมื่อวาน ที่พริมรตาได้เจอกับผู้ชายที่เพื่อนบอกว่าเป็นเกย์ เขาคือพ่อเลี้ยงพิมาย เจ้าของไร่ชื่อดังและใหญ่ที่สุดอย่างไร่พิมายรังสรรค์ ทีแรกที่แวววิวาห์พูดให้ฟังก็คิดว่าจะแก่แล้วซะอีก แต่ที่ไหนได้ นอกจะจะห่างไกลจากคำว่าแก่แล้ว หน้าตาท่าทางภูมิฐานของเขายังทำให้เธอเผลอมองซะเพลิน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คนถูกมองเดินตรงเข้ามา
“สวัสดีครับแม่อุ้ย น้าสาย ผมเอาผลไม้มาจ้วยงาน หื้อคนเอาไปไว้ตี้ใดดีครับ” พ่อเลี้ยงเข้ามาไหว้ทักทายแม่และยายของแวววิาห์ ในขณะที่สองสาวก็ยืนกระซิบกระซาบกันอยู่ด้านหลัง
“คนนี้เนี่ยนะที่แกบอกว่าเขาเป็นเกย์” พริมรตากระซิบถามเพื่อนด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
“ใช่! นี่แหละ ร้อยใช่ พันใช่ ยังไงๆ ก็ใช่” แวววิวาห์ยืนยันหนักแน่น ในขณะที่เธอกลับยังคงรู้สึกคลางแคลง