“ยุ่ง” คำเดียวสั้นๆ ของเธอทำเอาคนฟังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ร่ำๆ จะเดินไปขย้ำคอเธอที่บังอาจมาขึ้นเสียงใส่เขาให้ได้
“กลับมาขึ้นรถเดี๋ยวนี้พริมรตา” เขาลดเสียงต่ำพยายามประคองอารมณ์ไม่ให้ฉุนเฉียวไปกว่าที่เป็น แต่ความพยายามก็ดูจะสูญเปล่า เมื่อเธอทำหูทวนลม ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองด้วยซ้ำ ทำเอาขีดความอดทนที่มีอยู่อย่างจำกัดขาดผึงลงทันที
“ว้าย! ไอ้บ้าปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” เธอโวยลั่น เมื่อจู่ๆ ก็ถูกอุ้มตัวลอยโดยไม่ทันตั้งตัว กระทั่งถูกโยนเข้าไปในรถที่ถูกเปิดค้างเอาไว้
“โอ๊ะ!” คนถูกโยนประหนึ่งสิ่งของร้องอุทานด้วยความเจ็บจุก ก่อนจะหันขวับไปมองคนโยนนัยน์ตาเขียวปั๊ด แต่อีกฝ่ายกลับไม่แยแส มิหนำซ้ำยังขยับตัวเข้ามาใกล้เพื่อรัดเข็มขัดให้อีก
“ถอยไปสิ อย่าเข้ามาใกล้ ฉันทำเองได้ ก็บอกให้ถอยไปไงเล่า” เธอทั้งผลักทั้งดันเป็นพัลวัน แต่ยิ่งเธอต่อต้านเขากลับยิ่งโน้มลงมาใกล้ราวกับจะแกล้ง
“…” อา…กลิ่นหอมๆ ของเธอริดรอนประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาทและสมองเขาอีกแล้ว ใช่! ระบบประมวลผลของเขาเริ่มรวน ทั้งที่คิดว่ารังเกียจและอยากแกล้ง แต่เขากลับติดอยู่ในภวังค์หลงใหลกลิ่นหอมนั้นจนอยากจะก้มลงไปดอมดมอีกครั้ง กระทั่ง…
“ไม่กลัวถูกฉันจับแล้วรึไง ระวังเถอะ เข้ามาใกล้ฉันมากๆ ฉันจะจับคุณทำผัวตรงนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย” เสียงเธอปลุกเขาให้ตื่นจากภวังค์ได้ชะงัด เขาผงะถอยด้วยทีท่าว่ารังเกียจกันนักหนา ในขณะที่เธอก็กำลังกลอกตาไปมา ใครจะคิดว่าพ่อคุณจะบ้าจี้กลัวการถูกผู้หญิงจับได้ขนาดนี้ แต่จะว่าไปมันก็เป็นข้อดีอยู่เหมือนกัน อย่างน้อยเธอก็กันตัวเองออกจากเขาได้ ที่สำคัญความจริงเรื่องคลิปนั่นก็ไม่ถูกเปิดเผย แล้วแวววิวาห์เพื่อนของเธอก็จะได้ไม่เดือดร้อนไปด้วย และความจริงข้อนี้ก็ทำให้เธอหยักยิ้มมุมปากอย่างเป็นต่อ
“ถึงจะไม่ได้ขอ แต่ก็ขอบคุณที่อุตส่าห์มาส่ง” ทันทีที่รถจอดนิ่งหน้าที่พัก เธอก็หันมาพูดกับเขาแบบขอไปที ก่อนจะรีบลงจากรถไป
“เดี๋ยว” เขาที่เดินตามลงมาตะโกนเสียงดัง ทำเอาคนที่กำลังไขประตูห้องต้องหันขวับมามองอย่างไม่สบอารมณ์
“มีอะไร” เธอถามเสียงห้วน และไอ้สีหน้าท่าทางของคุณเธอที่บอกว่าเอือมระอานักหนา ก็ทำเอาเขาถึงกับกัดฟันกรอด แต่เพราะมียังมีบางอย่างที่อยากพิสูจน์ เขาจึงไม่เอามาใส่ใจ แต่เลือกที่จะขยับเข้าไปใกล้เธอแทน
“คิดจะทำอะไร” เสียงเธอตะกุกตะกักขณะพยายามขยับถอยด้วยท่าทีระแวดระวัง กระทั่งแผ่นหลังชนกับประตูห้อง
“ว้าย!” เธออุทานเสียงหลง ทันทีที่ประตูถูกผลักเข้าไปโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว เธอเสียหลักจนเกือบหงายหลังล้มตึง ความตกใจทำให้เธอคว้าชายเสื้อเขาไว้ โดยไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง
โครม! เขาใช้เท้ายันประตูปิดเสียงดัง ทำเอาคนที่ยังไม่หายตกใจต้องสะดุ้งโหยงอีก แต่นั่นยังไม่น่าตกใจเท่ากับการที่เธอกับเขาอยู่ด้วยกันในที่ลับตาคนแบบนี้
“ออกไป คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาในห้องฉัน” จากมือที่เคยเกาะยึดเขาไว้เป็นที่พึ่ง ก็กลายเป็นทั้งผลักทั้งดันประหนึ่งว่ารังเกียจกันนักหนา
“ทำไมจะเข้าไม่ได้ ในเมื่อคุณเป็นคนดึงผมเข้ามาเอง” นอกจากกำแพงมนุษย์จะไม่ขยับเขยื้อนไปไหนแล้ว มือทั้งสองของเขายังเอื้อมมาจับตรึงเอวคอดเอาไว้อีก
“พูดบ้าอะไร ฉันไปดึงคุณตอนไหน อย่ามาพูดพล่อยๆ แล้วก็เลิกฉวยโอกาสกับฉันสักที” เธอแหวเสียงเขียวพร้อมกับพยายามแกะมือเขาออกจากเอวเป็นพัลวัน
“ก็คุณเป็นคนดึงผมเข้ามา แล้วจะหาว่าผมฉวยโอกาสได้ไง ถ้าจะพูดให้ถูก คุณต่างหากที่กำลังฉวยโอกาสกับผม แล้วก็…ให้ท่าผม” หญิงสาวผงะตาโตเมื่อจู่ๆ ก็ถูกยัดข้อหาโดยไม่ทันตั้งตัว ขณะเดียวกันก็พยายามนึกว่าตัวเองทำอย่างที่เขาว่าตอนไหน อา…! น่าจะเป็นตอนที่เผลอดึงเสื้อเขาตอนที่กำลังจะล้มแน่ๆ และเธอก็แน่ใจว่านั่นไม่ใช่การให้ท่าหรือเชื้อเชิญให้เขาเข้ามาแต่อย่างใด
“ใช่! ฉันให้ท่า เพราะฉันจะจับคุณ จำไม่ได้รึไง” ช่วยไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นเกราะป้องกันเดียวของเธอตอนนี้ เธอจึงต้องเล่นตามน้ำไปก่อน ไว้กำจัดเขาออกไปจากห้องได้เมื่อไหร่ ค่อยว่ากันอีกที แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด
“อืม! ก็ดี” เขาตอบพลางกระชับเอวคอดให้แนบชิดเข้ามาอีก ทำเอาคนที่กระหยิ่มยิ้มย่องอย่างเป็นต่อในคราแรกถึงกับหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“ถ้าไม่อยากถูกจับจนดิ้นไม่หลุด อยู่ให้ห่างฉันจะดีกว่า ไม่งั้นคุณได้เป็นผัวฉันแน่” เธอมองเขาสีหน้าตื่นตระหนก แต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือขู่ฟ่อ
“งั้นก็จับไว้ให้แน่นๆ แล้วกัน งัดไม้เด็ดออกมาให้หมด เผื่อว่าผมจะหลงกลยอมเป็นผัวคุณสักคืนสองคืน” ไม่พูดเปล่า แต่ยังรั้งเอวบางให้ชิดเข้ามาอีก ตอนนี้ตัวเธอเลยเบียดเสียดอยู่กับตัวเขาจนแทบไม่มีช่องว่าง
“ไอ้บ้า! คุณมันหยาบคาย ปากเสีย ปล่อย! อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” เธอทั้งผลักทั้งดันพยายามดิ้นรนขัดขืน พร้อมกันนั้นก็บริภาษเขาด้วยความเดือดดาล
“ก็ไหนบอกจะจับผม อยากได้ผมเป็นผัวจนตัวสั่นไม่ใช่รึไง หรือคิดจะเปลี่ยนใจ” เขาพูดพลางกระชับสองแขนโอบรัดรอบเอวพลางโน้มใบหน้าลงไปใกล้ๆ อย่างคุกคาม
“ใช่! ฉันเปลี่ยนใจ ฉันไม่อยากจับคุณ ฉันไม่อยากได้ผู้ชายหยาบคายอย่างคุณเป็นผัวแล้ว” เธอโวยลั่นพร้อมกับยกมือทั้งผลักทั้งดันหน้าเขาให้ออกห่าง ในขณะที่เขากลับหยักยิ้มอย่างผู้ชนะ
“เสียใจ ผมไม่อนุญาตให้คุณเปลี่ยนใจ เพราะตอนนี้…ผมเต็มใจให้คุณจับด้วยความยินดี อยากจับตรงไหนก่อนดีล่ะ ตรงนี้หรือว่าตรง…” เขาพูดพลางจับมือเธอมาวางที่อกแกร่ง แต่นั่นยังไม่น่าตกใจเท่าการที่มือนั้นถูกจับให้เลื่อนต่ำลงมา เธอมองหน้าเขาตาโต ก่อนจะสะบัดมือสุดแรง
“คุณมันทุเรศ คิดแต่เรื่องอกุศล” เธอตะโกนใส่หน้าพร้อมกับรีบถอยหนี แต่กลับถูกเขาดึงตัวกลับมาแล้วดันจนแผ่นหลังชิดฝา ครั้นจะหนีก็ทำไม่ได้ ด้วยถูกกักเอาไว้จนไปไหนไม่ได้ มิหนำซ้ำพ่อคุณยังโน้มใบหน้าลงมาหาด้วยท่าทีคุกคามอีก
“มันก็ขึ้นอยู่กับคุณว่ามีมุมมองแบบไหน ถ้าใจคุณคิดดี มันก็จะวางอยู่แค่ตรงนี้ แต่ถ้าใจคุณคิดอกุศล มันก็คง…” มือเธอถูกจับมาวางที่เอวเขา และก่อนที่มันจะถูกเลื่อนต่ำลงมา เธอก็ผลักเขาออกพร้อมกับบริภาษออกมาด้วยความโมโหอีกครั้ง
“ไอ้บ้า ไอ้…อื้อ” ถ้อยคำผรุสวาทที่กำลังจะถูกพ่นออกมาถูกดูดกลืนทันทีที่ริมฝีปากหยักประกบลงมาบดขยี้ มีเพียงเสียงครางประท้วงอู้อี้ของเธอที่ไม่ทำให้ห้องนี้เงียบจนเกินไป
เธอพยายามส่ายหน้าหนีหลบหลีกจากจูบเร่าร้อนที่กำลังกัดกินสติสัมปชัญญะทีละน้อย แต่กลับถูกมือของเขาจับตรึงใบหน้าเอาไว้จนขยับไปไหนไม่ได้ หวังพึ่งก็แต่มือทั้งสองข้างที่เหลืออยู่