บทที่ 4

1366 Words
บทที่ 4 “งู!” เธอโพล่งออกมาพลางหันขวับไปมอง “เอ้า! มันไปแล้วนี่” เธอครางเบาๆ ด้วยความแปลกใจ ทันทีที่เห็นว่าไอ้งูที่เธอกลัว ตอนนี้มันไม่อยู่แล้ว ครั้นพอหันกลับมาก็พบว่าถูกเขามองอยู่อีกแล้ว “เอ่อ…มันไปแล้วค่ะ” เธอย้ำอีกครั้งราวกับกลัวว่าเขาไม่รู้ แต่เพราะสายตาคมกล้าของเขาที่กำลังมองมา มันทำให้เธอต้องรีบหลบตาอย่างช่วยไม่ได้ กระทั่งเมื่อเขาก้าวขาเดินต่อ เธอจึงมีเวลาได้ลอบมองใบหน้าคมเข้มของเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ อย่างหนึ่งที่เธอปฏิเสธไม่ได้เลยคือ ผู้ชายคนนี้ดูดีมาก มากจนเธอเผลอจ้องอย่างลืมตัว ‘เป็นบ้าอะไรวะเนี่ย อยู่ๆ ก็ใจสั่นกับเกย์ เลิกคิดแล้วก็เลิกมองได้แล้วพริมรตา มองให้ตายเขาก็ไม่มองผู้หญิงอย่างเธอหรอก’ “หน้าผมมีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ” น้ำเสียงห้วนๆ ของเขาดึงเอาสติที่กำลังหลุดลอยไปไกลของเธอให้กลับมา “อะเอ่อ…ปะเปล่าค่ะ” เธอปฏิเสธด้วยสีหน้าเลิกลั่ก ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง “เอ้า! ถึงแล้วเหรอคะ” เธอพยายามขืนตัวให้เขาปล่อย ในขณะที่เขาเองก็ย่อมปล่อยแต่โดยดี “คุณจะเล่นน้ำทั้งชุดนั้น?” เขาเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ทำเอาคนที่เดินลิ่วๆ ไปทางน้ำตกถึงกับชะงักเหมือนเพิ่งนึกขึ้นมาได้ “เออจริงด้วย ไอ้วาสั่งให้มายั่วนี่หว่าไม่ได้ให้มาเล่นน้ำ เอาไงดีวะ หรือเราจะเริ่มตรงนี้เลย” เธอหันหลังงึมงำกับตัวเอง ก่อนจะหันยิ้มร่า “นั่นสิคะ เล่นน้ำก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าสิเนอะ” เธอหันมายิ้มแหย แต่นั่นยังไม่น่าตกใจเท่ากับการที่จู่ๆ แม่คุณก็ทำท่าจะแก้ผ้าตรงนั้น “เฮ้ย! จะทำอะไรน่ะ อย่าบอกนะว่าจะแก้ผ้าตรงนี้” เขาโวยวายเสียงหลง ขณะมองคนที่กำลังปลดกระดุมเสื้อจนตาแทบถลน “ค่ะ ก็ที่นี่ไม่มีห้องน้ำ” เธอหันมาบอกเขาหน้าซื่อตาใส ทั้งที่ในใจกำลังอยากร้องไห้ ถ้าไม่ติดว่าอยากช่วยเพื่อน เธอไม่มีวันทำอะไรแบบนี้เด็ดขาด “แต่ที่นี่มีผม” เสียงพูดเขาแทบเป็นเสียงตะโกน “ค่ะ เพราะมีคุณฉันก็เลยรู้สึกปลอดภัย ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันใส่เสื้อผ้าเล่นน้ำไว้ข้างในแล้ว” ว่าแล้วเสื้อตัวสวยก็ถูกถอดออก ก่อนที่เจ้าตัวจะนำมันไปแขวนไว้กิ่งไม้ ‘โอ๊ย! คิดถูกคิดผิดวะเนี่ย ไม่น่าไปรับปากไอ้วาเลย’ เธอพึมพำพลางก้มมองเสื้อรัดรูปแนบเนื้อที่ตัวเองใส่อยู่ด้วยความรันทดใจ ครั้นจะให้ล้มเลิกทุกอย่างตอนนี้ชีวิตเพื่อนเธอคงไม่มีวันสงบสุขอีกเป็นแน่ ถ้าต้องแต่งงานไปกับเกย์ “เอาวะ! มาถึงขนาดนี้แล้ว ยังไงก็ต้องสู้ ฉันจะทำเพื่อแกไอ้วา” หลังจากปลุกใจตัวเองเสร็จ เธอก็รีบวางกระเป๋าใบเล็กที่เพื่อนให้ไว้ลง แล้วหันมาถอดกางเกงต่อ ในขณะเดียวกันก็เหลือบไปสังเกตท่าทีของเขาด้วย อา…ดูเหมือนเขาจะไม่ตกใจกับสิ่งที่เธอทำแล้ว แต่ก็ยังเบือนหน้าไปอีกทาง เธอจึงฉวยโอกาสนี้หยิบกล้องตัวเล็กออกมาจากกระเป๋า แล้วเอามันไปติดกับเสื้อที่ถูกแขวนเอาไว้ก่อนหน้า เมื่อมั่นใจแล้วว่ามุมนี้จะสามารถเก็บทุกภาพเคลื่อนไหวที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ได้ เธอจึงดำเนินการตามแผนต่อ “ฉันพร้อมแล้วค่ะ” เสียงหวานๆ ของเธอทำให้เขาหันมา ก่อนจะชะงักอีกครั้งกับภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า เสื้อผ้ารัดรูปแนบเนื้อที่เผยให้เห็นสัดส่วนชัดเจนของเธอทำเขาสะอึก “อะแฮ่ม!” ใช่! มันคือการกระแอมเรียกสติตัวเองก่อนพูดต่อ “ลงไปเล่นสิ ผมจะรออยู่แถวนี้ แต่เดินระวังด้วยล่ะ ก้อนหินด้านล่างอาจบาดเท้าคุณ” “เอ้า! แล้วคุณไม่ลงมาเล่นด้วยกันเหรอคะ” เธอทำหน้าเหลอ เพราะถ้าเขาไม่ลงมาเล่นน้ำกับเธอ แผนเธอก็คงดำเนินต่อไปไม่ได้ “งะงั้นคุณมานั่งใกล้ๆ ฉันได้ไหมคะ คือฉันกลัวอะค่ะ” เธอชี้ไปตรงโขดหินที่ใกล้กับธารน้ำตก ซึ่งเป็นจุดที่กล้องจับภาพได้ชัดเจนที่สุด ขณะเดียวกันก็ค่อยๆ เดินลงไปในน้ำเย็นๆ นั่น “แม่เจ้า! น้ำเย็นมาก อะไรดลใจให้แกคิดแผนแบบนี้เนี่ยไอ้วา ฉันจะเป็นปอดบวมตายก่อนที่แผนแกจะสำเร็จไหมเนี่ย” เธอยืนหันหลังบ่นพึมพำ ให้ตายสิ! อากาศเย็นๆ แบบนี้มันไม่เหมาะกับการมาเล่นน้ำเลยสักนิด “มะๆ ไม่มาเล่นด้วยกันเหรอคะ นะน้ำกำลังเย็นสบายเลยค่ะ” เสียงเธอเริ่มสั่นเครือบวกกับตัวที่เริ่มสั่นเทา แต่ก็ยังพยายามเก็บอาการเอาไว้อย่างยิ่งยวด ถึงแม้ว่ามันหนาวจนฟันเริ่มกระทบกันก็ตาม “ก็ถ้าสบายก็เล่นให้นานๆ วันนี้ผมว่างอยู่รอคุณทั้งวันได้” เขาบอกพลางยิ้มมุมปาก เฮ้ย! ทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่าเขากำลังยิ้มเยาะเธอเลยล่ะ “เอาไงดีวะ ขืนอยู่แบบนี้ แกได้ป่วยตายก่อนแผนสำเร็จแน่ เอาวะไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว มุกสิ้นคิดก็ยอมเว้ย” เธอหันไปงึมงำอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมาตะโกนเสียงดัง “โอ๊ย! พ่อเลี้ยงคะช่วยด้วยค่ะ มีอะไรไม่รู้อยู่ที่เท้าฉันค่ะ” ถ้านี่เป็นฉากเรียกร้องความสนใจ เธอคงเป็นตัวละครที่เล่นแข็งที่สุดกระมัง ทั้งสีหน้าท่าทางมันช่างสวนทางกับทุกคำพูดของเธอ ‘ฮือ…! ไม่เนียน! ไม่เนียนเลยจริงๆ แล้วผู้ชายฉลาดๆ ที่ไหนเขาจะสนใจวะเนี่ย’ เธอโอดครวญในใจ ก่อนจะต้องผงะตาโตเมื่อคนที่คิดว่าไม่สนใจ จู่ๆ เขาก็เดินลงมาหา ‘เฮ้ย! หรือว่าเขาไม่ฉลาดวะ’ เธออดคิดไม่ได้ กระทั่งเขาเดินมาถึงตัว “อุ๊ย!” เธอหน้าเหลอด้วยความตกใจ หลังถูกอีกฝ่ายอุ้มโดยไม่ทันตั้งตัว กระทั่งเธอถูกวางให้นั่งลงบนโขดหินที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา ‘เฮ้ย! วันนี้เขาอุ้มเรากี่ครั้งแล้วเนี่ย ทำเหมือนเราเป็นสิ่งของเหมือนเราเป็นหมากระเป๋าที่จะหิ้วไปไหนก็ได้ หืม! หรือเราจะเป็นหมากระเป๋าเหมือนที่ไอ้วามันว่าจริงๆ’ ขณะที่เธอคิดไปถึงคำพูดของเพื่อน จู่ๆ ก็ต้องสะดุ้งเพราะเสียงเขาอีก “ยกเท้าขึ้นมาสิ” “คะ?” เธอมองหน้าเขาราวกับไม่เข้าใจที่พูด “ก็คุณบอกว่ามีอะไรอยู่ในน้ำ ผมก็จะช่วยดูให้ว่าเท้าคุณมีแผลรึเปล่า เผื่อว่าคุณจะโดนหินบาด ยกเท้าขึ้นมาสิ ผมดูให้” เธอทำหน้าเลิกลั่กอย่างพยายามหาทางหนีทีไล่ แต่ในขณะที่กำลังใช้ความคิด จู่ๆ ก็มีเหตุให้ต้องสะดุ้งจนตัวโยน “หรือว่าจะเป็นงูน้ำ” แค่ได้ยินว่างู เท้าทั้งคู่ก็ยกพรึ่บขึ้นด้วยความตกใจ “ไหนงูๆ กรี๊ด…! งู” เธอโวยลั่นหน้าตาแตกตื่น “ผมบอกเหรอว่ามี ผมแค่พูดว่า…หรือว่า” เธอหันขวับมามองคนพูดตาขวางทันที “ก็ไม่มีอะไรนี่ ไม่บวมไม่แดง แล้วก็ไม่มีแผล” เธอทำหน้างง กระทั่งเห็นสายตาที่กำลังจับจ้องมองสองเท้าที่กำลังยกชู เธอจึงรีบลดเท้าลงพร้อมกับพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด แต่แล้วก็ต้องหน้าเหลอเพราะเขาอีก “เอ้า! แล้วนั่นคุณจะไปไหนคะ” “ก็ไปนั่งรอคุณที่เดิม ไม่ต้องห่วง วันนี้ผมมีเวลาทั้งวัน คุณอยากเล่นนานแค่ไหนผมก็รอได้ เล่นให้สนุกนะ” เขาหันมายิ้มมุมปากอีก ในขณะที่เธอก็ลนลานจนเก็บอาการไม่อยู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD