ตอนที่ 2 มีแฟนแล้ว
ที่คลินิกพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์ยื่นยานัชชาพร้อมอธิบายการกินยาเสร็จสรรพ เธอรับมาอ่านดูอย่างลวก ๆ ก่อนที่จะก้มลงหยิบกระเป๋าเงินในกระเป๋าเพื่อนำออกมาจ่าย
“เท่าไหร่คะ”
“ไม่ต้อง กูจ่ายเอง” เตชินหยิบใบเสร็จขึ้นมาดู ก่อนนำเงินของเขาขึ้นมาวางเคาน์เตอร์ นัชชาเหล่มองเขาอยู่ชั่วครู่ พลางเบ้ปากมองในความวางมาดอวดรวยของเขา แต่ก็เพราะเขานี่ใช่ไหม ที่ทำให้เธอต้องเจ็บตัวแบบนี้
-ดีอยากจ่ายให้ จ่ายไปเลย- นัชชานึกในใจพลางเบ้ปากแบบหมั่นไส้ ผิดกับเสียงที่เอ่ยออกมาอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
“ขอบคุณ” เธอพูดเบา ๆ ก่อนที่จะต้องเดินกะเผลกตามเตชินออกมาที่นอกคลินิก
“บ้านมึงอยู่ไหน”
“ทำไม”
“เดี๋ยวกูไปส่ง”
“ช่างเถอะ มาส่งทำแผลที่คลินิกแค่นี้ก็พอแล้วล่ะ ไม่จำเป็นต้องไปส่งบ้านหรอก”
“ก็แค่ไปส่งบ้าน บอกมาเหอะน่า อย่าลีลา”
“เอ๊ะ ก็บอกจะไปเอง” นัชชาจ้องหน้าเถียงต่อ แต่พอนึกถึงนิสัยไม่ยอมคนของเตชิน ถ้าเธอไม่ยอมเดี๋ยวเขาก็ลากเธอขึ้นรถจนเจ็บตัวอีก เลยจำใจบอกทางไปบ้านให้กับเขาอย่างไม่เต็มใจ
“หมู่บ้านธาราทอง” นัชชาพูดตัดรำคาญก่อนจะมองค้อนใส่เตชินอีกรอบ
“ก็บอกมาแค่เนี่ย ลีลาอยู่ได้ ไปขึ้นรถ”
นัชชาเบ้ปากใส่ แต่ก็ยอมเดินตามไปที่รถของเขาแต่โดยดี เอาจริงเธอรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าหมอนี่มานานแล้ว เรียกได้ว่าไม่ชอบขี้หน้าเขาตั้งแต่ปีหนึ่งก็ว่าได้ เธอรู้สึกไม่ถูกชะตากับเตชินและกลุ่มเพื่อนของเขา เพราะกลุ่มนี้ขึ้นชื่อเรื่องทั้งกะล่อน ทั้งเสเพล ทั้งเที่ยวเก่ง เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น
-แต่ช่างเถอะ ให้หมอนี่ไปส่งก็ดีประหยัดค่าTaxi-
นัชชายักไหล่ ทำไงได้ช่วงนี้เธอจำต้องรัดเข็มขัดให้มากหน่อย เพราะอีกไม่นานเธอก็ใกล้จะฝึกงาน
เธอรู้สึกสงสารผู้หญิงที่ได้ผู้ชายแบบนี้ไปเป็นแฟน จะว่าไป เขาช่างไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิด ถ้าผู้หญิงคนไหนได้ผู้แบบนี้ไปคงซวยที่สุดในโลก นัชชาได้มองตามแผ่นหลังของเขาที่เดินเข้าไปในรถ
-ขาก็ยาว เดินก็ไว นี่เขาไม่ได้คิดจะรอคนเจ็บที่เดินกะเผลกอยู่ตรงนี้เลยหรือไงนะ ผู้ชายอะไรโคตรใจดำ-
ทันทีที่นัชชา ได้ขึ้นนั่งบนรถ เตชินก็เหยียบคันเร่งรถออกอย่างไว จนเธอที่เพิ่งจะคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ เกือบหัวคะมำ จนต้องรีบจับสายคาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้แน่น
“ไอ้บ้าเตชิน นายขับรถบ้าอะไรเนี่ยะ ขับแบบนี้จะถึงบ้านไหม ห๊า”
“ทำไม ไม่ตื่นเต้นอ่อ” เตชินหัวเราะ แต่สายตายังคงมองตรงไปที่ถนน
“ตื่นเต้นกับผีอะสิ ว้ายยย ไอ้บ้า!! ขับช้า ๆ หน่อย”
ยิ่งรู้ว่านัชชากลัว เตชินก็เหมือนจะยิ่งแกล้ง เร่งเครื่องให้เร็วขึ้น นัชชาได้แต่กัดปากแน่นเพราะโมโห แต่ต้องฝืนตัวเองไม่ให้โวยวายออกมา เพราะยิ่งเธอบ่นเขา เขาก็ยิ่งได้ใจยิ่งแกล้งเธอ
นัชชามองรถบนถนนที่เตชินขับปาดซ้ายทีขวาทีด้วยความหวาดเสียว แต่ไม่วายที่จะหันไปมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ
-หนนี้หนเดียว! สาบาน! ที่จะนั่งรถของไอ้หมอนี่-
ไม่นานนัก รถซุปเปอร์คาร์คันหรูก็เลี้ยวเข้ามาในหมู่บ้านซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์เรียงรายติดกัน ก่อนที่เสียงล้อรถที่เบรกกึก จะหยุดอยู่ที่บ้านเธอ นี่ถ้าไม่ติดว่านัชชาไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย หน้าคงกระแทกคอนโซลรถไปแล้ว
“ขอบคุณ”
นัชชาเอ่ยขอบคุณเสียงห้วนอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก สีหน้ายังคงบึ้งตึงเพราะอารมณ์โกรธ คิดว่าตัวเองเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะการขับรถปาดซ้ายปาดขวาของเขาที่เหมือนจะจงใจแกล้งเธอ เธอรีบเปิดประตูลงจากรถเขาทันดังโครมใหญ่ โดยที่แทบจะไม่มองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ นัชชารีบหันขวับกลับไปมองหน้าเขาอีกครั้ง
“ฉันจะขอบคุณนายทำไม เพราะนายเป็นคนทำฉันเจ็บ เพราะงั้น...ความจริงนายต่างหากควรต้องเป็นคนขอโทษและชดใช้ค่าทำขวัญให้ฉัน”
“ห๊ะ” เตชินอึ้งไม่ทันที่จะอ้าปากโต้ตอบ นัชชาก็สะบัดหน้าพรึดเดินหนีเข้าไปในรั้วบ้านทันที เขาได้แต่มองตามร่างเล็กของนัชชาที่เดินกะเผลกเข้าไปภายในบ้าน ก่อนจะเห็นว่ามีชายหนุ่มหน้าตาดีใส่แค่กางเกงบ็อกเซอร์ออกมาเปิดประตูบ้านให้เธอ
“เหอะ อยู่กับผัวคงรีบกลับมาอ้อนผัวสิท่า”
เตชินแค่นหัวเราะ แต่ทว่าเขากลับไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เขายักไหล่อย่างไม่ยี่ระก่อนเคลื่อนรถออกไปอย่างรวดเร็ว
“ใครวะ ยัยนัช” เสียงพี่ชายของเธอเอ่ยขึ้นทันทีที่นัชชาก้าวขาเข้ามาภายในบ้าน ในมือยังคงยกขวดน้ำขึ้นมาดื่มสภาพราวกับคนเพิ่งตื่นนอน
“เพื่อน! ทำไม! มีไร” เธอตอบห้วน ๆ แต่ไม่ได้หันไปให้ความสนใจกับพี่ชาย
“เปล่า ถามไปงั้น เห็นขับรถหรูดี นึกว่าแฟน”
“โอ๊ย คนอย่างหมอนั่น ใครได้เป็นแฟนก็โคตรซวย นัช ไม่มีทางเอาผู้ชายแบบนั้นเป็นแฟนหรอกหรอก ว่าแต่พี่น๊อตเหอะ อยู่บ้านแต่งตัวให้มันดี ๆ หน่อยได้ปะ อุบาทว์ ถึงฉันเป็นน้องพี่แต่ฉันก็เป็นผู้หญิงนะ”
“เรื่องมากว่ะ แล้วใครใช้ให้แก กลับมาบ้านเวลานี้วะ แล้วแกเหอะกลับมาบ้านทำไมไม่เรียนไง๊ เวลานี้มันเวลาเรียนของแกไม่ใช่เหรอ แล้วนั่นขากับแขนไปโดนอะไรมา”
“หกล้ม”
“หกล้ม ทำยังไงวะหกล้ม โตเป็นควายแล้วยังซุ่มซ่ามอีก แล้วเจ็บแบบนี้คืนนี้ไปทำงานไหวเหรอวะ”
“ไมไหวแล้วทำไง เพิ่งทำได้สามวัน หยุดงานตอนนี้เดี๋ยวก็โดนให้ออก เลือกได้ไหมล่ะ”
นัชชาส่ายหัว มองสภาพพี่ชายที่ไม่ค่อยเอาถ่าน ก่อนจะขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงพี่ชาย แล้วเดินเข้าไปที่ห้องนอนของตัวเอง
นัชชากับพี่ชายทำงานพิเศษอยู่ที่ผับแองเจิล เพราะพ่อของเธอป่วยหนักอยู่โรงพยาบาลทำให้แม่ของเธอต้องลางานไปเฝ้าพ่อของเธอ เธอเลยต้องอยู่กับพี่ชายแค่สองคน เมื่อรู้ว่าฐานะทางบ้านกำลังมีปัญหาเธอเลยขอพี่ชายมาทำงานพิเศษเป็นเด็กเสริฟ์ ที่เดียวกับพี่ชายของเธอที่มีอาชีพเป็นดีเจ
~ที่ผับแองเจิล~
สองพี่น้องมาถึงที่ทำงาน ก่อนจะแยกย้ายกันไปเตรียมทำหน้าที่ของตัวเอง นัชชาเดินลากขากะเผลกไปรับออเดอร์ที่ลูกค้าตามโต๊ะ แม้เธอจะยังเจ็บอยู่บ้างแต่ก็ยังทำฝืนว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ตรงแขนที่มีผ้าพันแผลเธอได้แต่สวมเสื้อสีดำทับเอาไว้
พี่ชายยังคงเปิดเพลงอยู่ด้านข้างเวที มีสาว ๆ มารุมกรี๊ดขนาบข้าง นัชชาได้แต่มองพี่ชายตัวเองอย่างชื่นชมจะว่าไปพี่ชายเธอก็หล่อเอาการ ถ้าไม่ติดการพนันและทำตัวเป็นผู้เป็นคนคงจะดีกว่านี้มาก และนี่ล่ะมั้งเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ชอบผู้ชายกะล่อน เพราะดูไม่มีอนาคตแบบพี่ชายเธอ
“นัชรับออเดอร์โต๊ะ 19 แทนทีสิ พี่ปวดท้องเข้าห้องน้ำ”
“อา ได้ค่ะ” นัชชารีบหันไปรับปากรุ่นพี่ทันทีก่อนจะรีบเดินไปที่โต๊ะ 19