รสหวานติดลิ้น

2338 Words
หลังจากคืนนั้นที่กระท่อม ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปในตัวกานต์ เขารู้สึกหวั่นไหวทุกครั้งที่เห็นธนิน ไม่ว่าจะเป็นแค่ภาพท่อนบนเปลือยเปล่าที่โชว์แผงอกแข็งแรง กล้ามเนื้อที่ขยับเคลื่อนตัวตามจังหวะการหายใจ รอยสักขนาดใหญ่บนผิวสีแทนที่ดูมีเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ สิ่งเหล่านี้ตามหลอกหลอนจิตใจของกานต์อยู่เรื่อยมา แม้เขาจะพยายามหนีความรู้สึกนั้น แต่มันกลับชัดเจนมากขึ้นทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดธนิน วันนี้ก็เช่นกัน ธนินใช้หน้าที่เป็นข้ออ้างบังคับให้กานต์มาด้วย ทั้งสองนั่งอยู่ในรถจี๊บเปิดประทุนที่ขับลัดเลาะไปตามทางป่ากว้าง เสียงเครื่องยนต์ดังกลบความเงียบระหว่างทั้งคู่ แต่กานต์ไม่สามารถหยุดความคิดวุ่นวายในหัวได้ ทุกครั้งที่ธนินหันมา หรือแม้แต่ขยับตัวเพียงเล็กน้อย กานต์ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองแผงอกกว้างที่ดูแข็งแกร่ง อยู่ๆ ธนินก็ตัดสินใจจอดรถกลางป่าโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ กานต์รู้สึกหัวใจเต้นระรัว มือที่จับกันไว้บนตักอยู่นั้นสั่นเล็กน้อย เขาพยายามหาคำถามเพื่อเติมเต็มความเงียบ แต่เสียงของตัวเองกลับแผ่วเบาอย่างน่าตกใจ “ทำไม... ทำไมคุณจอดรถตรงนี้?” กานต์ถามออกไป น้ำเสียงสั่นน้อยๆ ธนินไม่ได้ตอบในทันที เขาหันมามองกานต์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ ริมฝีปากของเขายักยิ้มบางเบา ก่อนที่จะก้าวลงจากรถโดยไม่พูดอะไร เขาเดินอ้อมมาทางฝั่งที่กานต์นั่งอยู่ แล้วเปิดประตูรถช้าๆ สายตาของเขายังคงจับจ้องที่กานต์ ราวกับจะบอกว่าการจอดรถครั้งนี้ไม่ใช่เพราะแค่ต้องการพักผ่อน “ลงมาเถอะ” ธนินพูดสั้นๆ แต่คำพูดนั้นเต็มไปด้วยอำนาจที่กานต์ไม่สามารถปฏิเสธได้ ธนินเดินนำไปข้างหน้าอย่างเคร่งขรึม ท่าทางกอดอกของเขาทำให้กานต์รู้สึกยิ่งอึดอัดไปอีก ลำธารใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลข้างหน้ากลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ธนินมุ่งไป ร่างบางของกานต์ที่ตามหลังอยู่รู้สึกสับสนและหวั่นไหวในใจ ความเงียบระหว่างพวกเขายิ่งทำให้บรรยากาศตึงเครียดขึ้นทุกที ในจังหวะที่กานต์กำลังคิดหาคำพูดบางอย่างจะทำลายความเงียบอยู่นั้น ธนินก็หันกลับมาอย่างฉับพลัน กระชากร่างของกานต์จนไม่ทันตั้งตัว กานต์ถอยหลังไปอย่างไม่มั่นคงจนแผ่นหลังชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ ความตกใจทำให้เขาหัวใจเต้นรัว ขณะที่ธนินเข้าประชิดรวดเร็ว เขาจับข้อมือทั้งสองข้างของกานต์ขึ้นไปตรึงไว้เหนือศีรษะ รวบมือของกานต์ไว้แน่นราวกับจะไม่ให้เขามีโอกาสหนี “นายหัว!” กานต์ร้องออกมา แต่เสียงของเขาแผ่วเบาเมื่อจบลง ธนินไม่ได้ตอบอะไร แววตาของเขามีแต่ความเร่าร้อนที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ก่อนที่กานต์จะทันพูดอะไรอีก ธนินก็ก้มลงกดจูบอย่างรุนแรงและรุกราน ริมฝีปากของเขาเข้าครอบครองโดยไม่ให้กานต์ได้ทันตั้งตัว ลิ้นของธนินสอดเข้ามาอย่างจาบจ้วงและเอาแต่ใจ กานต์ที่พยายามขัดขืนกลับถูกกดร่างไว้กับต้นไม้โดยสิ้นเชิง ร่างบางของกานต์สั่นระริก เขาพยายามดิ้นรนหนีจากการจูบที่ร้อนแรงและดิบเถื่อนนั้น แต่ก็ไม่เป็นผล ธนินใช้ร่างกายใหญ่โตของเขากดทับไว้จนกานต์ไม่อาจขยับไปไหน ลมหายใจที่หนักหน่วงและสัมผัสที่เต็มไปด้วยความต้องการทำให้กานต์แทบหยุดหายใจ “นะ...นายหัว... อย่า...” กานต์พยายามเอ่ย แต่เสียงนั้นกลับขาดหายกลางทาง เมื่อธนินกดริมฝีปากลงบนลำคอขาวเนียนของเขา ธนินกดริมฝีปากลงกับลำคอของกานต์อย่างช้าๆ แต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น จนกานต์ต้องกัดฟันกลั้นความรู้สึกที่พลุ่งพล่านในอก เขารู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ของธนินที่อยู่ใกล้จนเกินไป ร่างของเขาสั่นน้อยๆ ขณะที่พยายามคุมสติให้ได้ แต่ก็ยากเหลือเกิน ท่ามกลางความเงียบที่มีเพียงเสียงสายลมพัดโชยมา ธนินค่อยๆ ก้มลงกระซิบข้างหูเขา เสียงทุ้มต่ำที่แผ่วเบา แต่กลับดังก้องอยู่ในใจ “คิดถึง...” ธนินพูดเสียงแผ่ว แต่ชัดเจนพอที่จะทำให้กานต์หัวใจเต้นแรง “อยากกอด... อยากได้ยินเสียงนาย...ร้อง” กานต์หน้าขึ้นสีแดงจัด ใบหน้าของเขาร้อนผ่าวด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เขาไม่กล้ามองสบตาธนินเลย ความเงียบที่ตามมาเหมือนทำให้ทุกอย่างหนักอึ้งยิ่งขึ้น ความรู้สึกสับสนระหว่างการยอมรับกับการต่อต้านยังคงอยู่เต็มอก ธนินมองใบหน้าแดงๆ ของกานต์อย่างพอใจ ก่อนจะถามต่อด้วยเสียงกระซิบที่ทำให้กานต์รู้สึกหวั่นไหวกว่าเดิม “คิดถึงผมไหม?” กานต์เม้มริมฝีปากแน่น พยายามสะกดกลั้นความรู้สึกที่จุกอยู่ในอก เขาไม่รู้จะตอบยังไงดี เพราะในใจเขายังมีความลังเลอยู่ แต่ลึกๆ แล้ว เขารู้ว่าเขาคิดถึงธนินอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน... โดยเฉพาะกับผู้ชายด้วยกัน ธนินไม่รอให้กานต์ตอบ เขากดจูบรุนแรงอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากของเขาบดเบียดลงบนริมฝีปากของกานต์ด้วยความต้องการที่ไม่สามารถควบคุมได้ ลิ้นของธนินสอดเข้ามาทันที ปะทะกับลิ้นของกานต์อย่างดุดันและเอาแต่ใจ จูบที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนรุนแรงและดิบเถื่อน กานต์ไม่สามารถยับยั้งความรู้สึกที่พลุ่งพล่านในตัวเองได้ พยายามดิ้นรนหนีจากการครอบครองของธนิน แต่การกระทำของธนินกลับทำให้เขารู้สึกเสียวซ่านไปทั่วร่าง ทุกสัมผัสที่ธนินมอบให้เต็มไปด้วยความดิบเถื่อนที่ทำให้กานต์เร่าร้อนขึ้นมา "อาา... นายหัวครับ...” กานต์ครางออกมาด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความต้องการ เขารู้สึกถึงความร้อนที่เกิดขึ้นในตัวเอง จากการจูบที่รุนแรงและการรุกรานของธนิน ทำให้เขาต้องกดตัวเองแนบกับต้นไม้และยอมรับความรู้สึกนั้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ธนินยังคงดึงเอาความพอใจจากการตอบสนองของกานต์ เขาสำรวจทุกซอกทุกมุมของปากกานต์ด้วยความละโมบและไม่ปราณี ใช้ลิ้นของเขาเพื่อกระตุ้นให้กานต์สัมผัสความเสียวซ่านสูงสุดในขณะที่มือของเขายังคงตรึงมือของกานต์ไว้เหนือศีรษะ การจูบที่ร้อนแรงและดิบเถื่อนนั้นทำให้กานต์แทบจะสูญเสียสติไปชั่วขณะ เขารู้สึกถึงความต้องการที่พลุ่งพล่านภายในและรู้ว่าเขาไม่สามารถหนีไปได้อีกแล้ว "ทำไมทำกับผมแบบนี้..." กานต์งอแงเสียงสั่น ขณะที่หน้าแดงจนแทบจะเป็นสีแดงสด เขารู้สึกถึงความร้อนที่เกินความคาดหมายและความต้องการที่พลุ่งพล่านในตัวเอง ร่างกายของเขาสั่นระริกไปกับความรู้สึกที่รุนแรงและไม่เคยสัมผัสมาก่อน ธนินยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก สายตาของเขาเต็มไปด้วยความพอใจและความมั่นใจ ก่อนที่เขาจะกระซิบเสียงกระเส่าข้างหู “ก็นายมันน่ากิน...แล้วนายมันชอบไม่ใช่เหรอ?” พูดจบธนินก็ไม่ปล่อยให้กานต์หลุดพ้นจากการครอบครองอันเร่าร้อนของเขาอีก ลิ้นที่รุกรานและซุกซนของเขายังคงลากไปตามผิวเนื้อขาวละเอียดของกานต์อย่างไม่ปรานี เสียงครางกระเส่าของกานต์ยิ่งทำให้ธนินรู้สึกถึงอำนาจและลำพองใจมากยิ่งขึ้น สองมือใหญ่ยังคงตรึงข้อมือเล็กๆ ของกานต์ไว้เหนือศีรษะ ร่างบางของกานต์สั่นระริกไปกับทุกสัมผัสของธนิน "อา... นายหัวครับ... หยุดเถอะ..." กานต์พยายามร้องออกมา แต่คำพูดของเขากลับไร้ความหมาย เมื่อร่างกายของเขายอมจำนนต่อการรุกรานอย่างไม่อาจต้านทานได้ ธนินก้มลงกระซิบข้างหูเสียงต่ำ ดิบเถื่อน และเต็มไปด้วยความปรารถนา "นายต้องเป็นของฉัน... ตลอดไป" ธนินปลดกระดุมเสื้อของกานต์ออกด้วยปากอย่างชำนาญ มือใหญ่ของเขายังคงตรึงมือเรียวเล็กของกานต์ไว้เหนือศีรษะอย่างมั่นคง ขณะเดียวกันลิ้นของธนินก็เริ่มเลียหัวนมแดงสวยเม็ดเล็กๆ ของกานต์อย่างเอาแต่ใจ ความรู้สึกของลิ้นที่อุ่นและเปียกของธนินทำให้หัวนมของกานต์แข็งขึ้นทันที ร่างกายของกานต์สั่นระริกไปกับความรู้สึกที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ผิวขาวละเอียดของเขาเปล่งประกายจากความรู้สึกที่เกิดขึ้น ความตื่นเต้นและความต้องการพลุ่งพล่านทำให้กานต์ต้องกัดริมฝีปากเพื่อควบคุมเสียงครางที่อาจหลุดออกมา ธนินยังคงสร้างความรู้สึกเสียวซ่านด้วยการใช้ลิ้นของเขาอย่างดุดัน ร่างกายของกานต์เริ่มมีปฏิกิริยาอันร้อนแรงจากความรักที่ดิบเถื่อนและเต็มไปด้วยความปรารถนาที่เขาไม่สามารถหนีไปได้ ดวงตาของกานต์เริ่มพร่ามัว ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถควบคุมได้ เขาหายใจหอบแรง เสียงครางของเขาเบาบางและสั่นสะเทือนไปตามแรงกระทำของธนิน ทุกสัมผัสของธนินทำให้กานต์เหมือนหลุดเข้าไปในห้วงแห่งความร้อนแรงที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน "อา...อาา ..." กานต์พึมพำด้วยเสียงกระเส่า รู้สึกเหมือนทุกอย่างในตัวกำลังจะพังทลายลง ร่างกายของเขายอมจำนนต่อความปรารถนาที่ไม่อาจต้านทานได้ ขณะที่ธนินยังคงเดินหน้าไม่หยุด ความเสียวซ่านทำให้กานต์แทบจะหมดสิ้นเรี่ยวแรง บทรักที่ธนินสอนให้กับกานต์นั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การสัมผัสผิวกาย แต่เป็นการจู่โจมเข้าไปถึงจิตวิญญาณ ทุกครั้งที่เขากดริมฝีปากจูบรุกล้ำไปทั่วทั้งร่าง ความร้อนแรงที่พลุ่งพล่านในตัวธนินทำให้กานต์ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ดวงตาของกานต์พร่ามัว ร่างกายบิดเร่าไปกับสัมผัสที่ธนินมอบให้ สองมือใหญ่บังคับควบคุมทุกท่วงท่าและทุกการเคลื่อนไหว ธนินรู้ดีว่ากานต์กำลังตกอยู่ในความสับสน แต่ยิ่งเขายิ่งดิ้นรนขัดขืน สัมผัสของธนินก็ยิ่งทวีความรุนแรง ริมฝีปากของธนินบดเบียดลงบนผิวเนื้ออ่อนของกานต์ ร่างบางของกานต์สะท้านไปทั้งตัว เขารู้สึกเหมือนถูกเผาไหม้จากภายใน ยิ่งเมื่อธนินลากลิ้นไปตามเนื้อผิวและกัดเบา ๆ ที่แผ่นอก กานต์ก็แทบจะหมดสิ้นแรงต้านทาน ธนินกระชากกานต์เข้ามาชิดกับตัวเขามากขึ้น จูบอย่างรุนแรงและไม่ปราณี ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความต้องการที่ดิบเถื่อน กานต์รู้สึกเหมือนถูกครอบครองจนไม่มีทางหนี แต่เขาไม่สามารถปฏิเสธความรู้สึกที่ซ่านไปทั่วทั้งร่างได้อีกแล้ว ธนินยืนเต็มความสูงใหญ่ เงาร่างของเขาทาบทับร่างบางที่กำลังบิดกายด้วยความเร่าร้อน ขณะที่หนุ่มน้อยในอ้อมกอดของเขาดูสั่นสะท้าน กานต์กัดฟันแน่นด้วยความเสียวซ่าน และกำลังจะระเบิดอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ทันใดนั้น ธนินก็ใช้มือทั้งสองข้างจับขาเรียวยาวของกานต์ ยกขึ้นแล้วให้ขารัดแน่นรอบเอวแข็งแกร่งของเขา แรงบีบจากขานั้นทำให้ธนินยิ้มพอใจ ร่างกายของธนินแนบเข้าหากานต์อย่างไม่มีที่ว่าง สอดกายแกร่งเข้าไปด้วยการเคลื่อนไหวหนักหน่วงและดิบเถื่อน กานต์ครางออกมาเสียงสั่นเครือ ทั้งร่างของเขาสั่นสะท้านเหมือนกับถูกไฟเผาไหม้จากข้างใน ธนินขยับเข้าออกอย่างต่อเนื่อง จังหวะที่รุนแรงและเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ธนินไม่ยอมปล่อยให้ร่างในอ้อมกอดหนีรอด เสียงครางกระเส่าของกานต์ดังขึ้นทุกครั้งที่ธนินดันร่างเข้าไป กานต์ไม่เคยรู้สึกถึงความเสียวซ่านที่เต็มไปด้วยความรุนแรงเช่นนี้มาก่อน ร่างกายของเขาโอบรอบธนินแน่น ขณะที่ธนินยังคงปรนเปรอร่างบางไม่หยุดธนินจับขาเรียวของกานต์ขึ้นมาพาดไว้รอบเอว แขนแข็งแรงของเขารั้งร่างบางเข้ามาใกล้ แนบชิดจนสัมผัสได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ่านจากทั้งสองร่าง ความต้องการที่อัดแน่นอยู่ในตัวธนินทำให้เขายิ่งเพิ่มแรงกดลงไป กานต์เองก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว เสียงหายใจหอบหนักของทั้งคู่กลืนไปกับเสียงฝนที่กระหน่ำลงมาไม่หยุด กานต์รู้สึกถึงแรงที่กดลงมา แผงอกแข็งแรงของธนินที่แนบชิด ทำให้ทุกส่วนในร่างกายของเขาร้อนรุ่ม สัมผัสที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนทำให้เขารู้สึกถึงความสับสนและความตื่นเต้นที่ไม่อาจควบคุมได้ ธนินยังคงเคลื่อนไหวอย่างไม่ยอมให้หนีไปไหน กานต์ครางออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบาและเต็มไปด้วยความหวั่นไหว "นายเป็นของฉัน..." เสียงกระซิบของธนินดังเข้ามาในหูของกานต์ ยิ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง ความร้อนที่ท่วมท้นทำให้ทุกสัมผัสของธนินกลายเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถต้านทานได้ ธนินยังคงครอบครองทุกส่วนในตัวกานต์ มือใหญ่ของเขายังคงควบคุมทุกการเคลื่อนไหว พร้อมกับความเร่าร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ร่างทั้งสองโยกไหวไปพร้อมกับน้ำตกที่สาดซัดลงมา ไม่หลงเหลือพื้นที่ให้หลบหนีจากแรงปรารถนาที่ครอบงำทั้งคู่ กานต์ตัวสั่นเทาจนแทบทรงตัวไม่อยู่ ร่างบอบบางของเขาอ่อนแรงจากความสุขสมที่ธนินมอบให้ ความรู้สึกที่รุนแรงเกินกว่าจะอธิบายได้ ทำให้เขาหายใจหอบถี่ ความร้อนระอุในร่างกายยังคงคุกรุ่นอยู่ในทุกอณูผิว “คุณ...” กานต์พยายามจะเอ่ย แต่เสียงสั่นเครือแทบจะไม่หลุดออกมา ธนินยิ้มมุมปาก สายตาคมกริบมองดูผลงานของตัวเองที่ทำให้กานต์ไร้เรี่ยวแรง มือหนาไล้ปลายนิ้วเบาๆ บนแผ่นหลังของกานต์อย่างแผ่วเบา “ยังไม่จบแค่นี้หรอก” เขากระซิบเสียงต่ำและแหบพร่า กานต์สะท้านไปทั้งร่างจากคำพูดและสัมผัสที่รุนแรงเร่าร้อนนั้น ที่ทำให้ใจของเขาสั่นไหวไม่หยุด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD