ไม่ต้องรอให้ยัยดรีมพูดจบฉันก็ออกมาจากห้องเพื่อไปตามหาไอ้พี่เธียทันที ยัยนั่นหลุดปากมาว่าห้องเอเพราะฉะนั้นคงหาไม่ยากนักหรอก ถึงโรงเรียนนี้จะมีนักเรียนหลายพันคนแต่การแบ่งห้องเรียนเป็นตัวอักษรทำให้จำได้ง่าย
เขาเรียนอยู่ชั้นมอฯหก
ชั่วโมงแรกของแต่ละวันทุกห้องจะต้องเป็นชั่วโมงโฮมรูมแปลว่าตอนนี้เขาจะต้องอยู่ห้องประจำของครูที่ประจำชั้น
นักเรียนชั้นมอฯหกจะอยู่กันที่ตึกรูปตัวแอล พวกห้องเอจะอยู่ชั้นสาม ตัวอักษรเอคือสายการเรียน ส่วนตัวเลขด้านหลังตัวอักษรนั้นจะแบ่งนักเรียนตามผลการเรียนในแต่ละปี
ฉันเริ่มจากห้องท้ายสุดคือห้องเอห้า ในขณะที่มองหาเขาคนนั้นฉันเองก็ถูกสายตาของนักเรียนึนอื่นจ้องมองมาราวกับเป็นตัวประหลาดเช่นเดิม บางคนก็มองกันแบบไม่ชอบใจ บางสายตาก็มองแบบเย้ยหยัน
เพิ่งรู้ว่าโรงเรียนนี้มันไม่ได้น่าเรียนอย่างที่ใครหลายคนคิดอยากจะมาเรียนเลย ค่าเทอมก็แพงติดอันดับต้นๆ สังคมในโรงเรียนก็ไม่น่าอยู่อย่างที่ใครพูดไว้ หรือมันเสียเพราะใครบางคนฉันเองก็ไม่รู้
"ว่าไงเด็กใหม่" พี่เชนที่ยืนคุยกับเพื่อนอีกคนอยู่ตรงระเบียงเดินออกมาขวางทางฉันที่กำลังจะไปตามหาตัวพี่เธีย ถ้าเขาอยู่ตรงนี้แสดงว่าหมอนั่นก็คงอยู่แถวนี้แหละเพราะเขาเป็นเพื่อนกันนี่
"หนูมาหาพี่เธีย เขาอยู่ไหนคะ" ฉันเอ่ยปากถามผู้ชายหน้าตาดีตรงหน้าที่ฉันมองว่าเขาดูเป็นมิตรและนสัยดีมากกว่าเพื่อนเขาหลายเท่า จนแอบสงสัยว่าพวกเขาคบกันไปได้ยังไง
"หืม มาหามันถึงนี่เลย มีไรเหรอ" พี่เชนทำสีหน้าแปลกใจไม่น้อยแต่สุดท้ายกลับกลายเป็นยิ้มขำๆ
"หนูมีเรื่องต้องคุยกับเขาหน่อย" ขณะพูดฉันก็ใช้สายตากวาดมองไปบริเวณนั้นแต่ก็ไม่เห็นคนที่อยากจะคุยด้วย กลับเจอแต่สายตาแปลกๆจากพวกรุ่นพี่แทนโดยเฉพาะกับพวกผู้หญิงที่ยืนคุยกันเป็นกลุ่ม
"มันอยู่ห้องไอทีชั้นห้า" ขณะพูดพี่เชนก็ยังยิ้มเช่นเดิม ถึงแม้มันจะดูเจ้าเล่ห์แต่ฉันก็รู้สึกว่ารอยยิ้มของเขามันน่ามองจริงๆ นั่นเพราะเขาหน้าตาดีล่ะมั้ง
พอได้คำตอบที่ต้องการฉันก็รีบไปห้องที่ว่านั้นทันที ถ้าจำไม่ผิดห้องนั้นฉันเคยไปส่งยัยดรีมครั้งหนึ่ง ตอนที่มันโดนครูเรียกไปช่วยหอบเอกสาร
"ยัยพราว!" ตอนที่หันหลังกลับมาเพื่อจะขึ้นไปชั้นบนก็เจอเข้ากับยัยเพื่อนสองคนที่คงวิ่งตามฉันมา เหนื่อยแทนพวกมันนะที่ดันมาคบกับเด็กใหม่อย่างฉันที่เหมือนจะสร้างแต่เหตุการณ์น่าเป็นห่วง
"ตามมาทำไมกัน"
"ยังจะมีหน้ามาถามอีก นี่แกคิดจะทำอะไรหา!" ดรีมทำตวาดใส่เหมือนอยากให้ฉันยอมฟัง แต่ฉันดูออกตั้งแต่วันแรกที่เจอกันว่ายัยนี่ใจดีกว่าใคร
"ไปคุยเรื่องบี๋"
"หยุดเลยนะ เชื่อฉันเถอะ อย่าไปยุ่งกับคนอย่างพี่เธียเลย" ฉันไม่ได้หยุดอย่างที่เพื่อนต้องการแถมยังรีบเดินขึ้นบันไดไปอีกชั้นโดยมียัยดรีมกับธัญญ่าเดินตามมาบ่นติดๆ
"ฉันไม่ได้อยากยุ่ง แต่เขาไม่ควรทำให้ใครต้องเป็นแบบนี้"
ฉันไม่ฟังคำเตือนของเพื่อนรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องที่เปิดแอรเย็นเฉียบ ภายในห้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์เรียงรายกันเต็มไปหมด ต้องใช้สายตากวาดมองหาคนที่อยากคุยอยู่นานจึงเห็นว่ามีคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งที่หน้าจอสว่างจ้า จนเห็นใครบางคนนั่งอยู่ตรงนั้น เขาแทบจะไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่ามีใครเข้ามา สายตาเอาแต่จดจ้องอยู่บนหน้าจอเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยสีหน้าจริงจัง
"..."
จนกระทั่งฉันมาหยุดยืนอยู่ด้านข้างเขาถึงหันมามองด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"เมื่อวานพี่ทำอะไรบี๋" ไม่ต้องรอให้เขาถามฉันก็เป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาทันที พี่เธียยังคงนิ่งสายตาของเขามองฉันแบบที่คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ เราสบตากันสู้กันอย่างไม่ยอมแพ้จนเป็นเขาที่เบือนหน้าหนีแล้วหันไปสนใจหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยท่าทีรำคาญฉันเต็มทน "คิดว่าตัวเองใหญ่แล้วจะรังแกใครก็ได้หรือไง"
"ใครกันแน่ที่ทำ"
คิดอยู่แล้วว่าเขาต้องผลักความผิดทั้งหมดมาให้ฉัน
"สาบานได้มั้ยว่าจำหน้าหนูไม่ได้ พี่แค่อยากแกล้งเลยทำเป็นจำไม่ได้แล้วลากคนอื่นมารังแกแทน"
"หึ..." เขาหัวเราะในลำคอแบบกวนๆโดยที่ไม่ได้มองมาที่ฉัน ยัยเพื่อนสองคนยืนมองดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆแถมยังทำหน้าสยดสยองเต็มทน ไม่รู้ว่าทำไมต้องกลัวหมอนี่นักหนา "ยัยนั่นย้ายโรงเรียนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันวะ"
"เพราะพี่ทำให้เขาอับอายไง!"
"..."
"ทำตัวมีปัญหาแบบนี้ทำไมกัน เที่ยวแต่รังแกคนอื่น นิสัยไม่ดี!" ไม่ว่าฉันจะพูดอะไรเขาก็ทำเป็นนิ่งและไม่ตอบโต้แม้แต่คำเดียว
นิ่งเสียจนฉันรู้สึกแปลกๆ
"พ่อแม่ไม่รักหรือยังไงกัน!"
ปึก!
สมองของฉันประมวลผลคิดคำด่าอยู่ไม่กี่วินาทีก็ต้องหยุดลงดื้อๆเมื่อผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าผุดลุกขึ้นมาด้วยความรวดเร็วก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งของเขากระชากคอเสื้อของฉันเข้าไปหาตัวเองจนตัวฉันลอยไปตามแรงของเขา
"ปล่อยนะ!"
"ยัยพราว!" ได้ยินเสียงเพื่อนร้องเรียกชื่อด้านหลังด้วยความเป็นห่วง แต่ตอนนี้ฉันโดนหิ้วอย่างกับลูกหมา
"เธอต้องการอะไร" เขาถามเสียงเรียบแต่ฉันเห็นแววตาคู่นั่นแฝงไปด้วยความดุดัน ถึงเขาจะไม่ได้พูดเสียงดังหรือตะคอกแต่ฉันกลับรู้สึกเสียวหลังวาบเพราะสายตาของเขาดูเลือดเย็นเหลือเกิน รู้ตัวอีกทีฉันก็พูดไม่ออกหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ "ใครสั่งเธอมาปั่นหัวฉันเล่น"
"..."คำพูดที่คิดจะปฏิเสธกลายเป็นน้ำลายเหนียวก้อนหนึ่งที่กลืนลงไปอย่างยากลำบาก มือของฉันที่จับตรงข้อมือของเขาอยู่ ยิ่งออกเท่าไหร่ยิ่งรู้สึกอ่อนแรงลงกว่าเดิมเพราะสู้แรงอีกคนไม่ไหว
"พี่เธียเพื่อนหนูมันไม่ตั้งใจหรอก ไอ้พราวขอโทษพี่เขาดิ" ยัยเพื่อนสองคนโบกไม้โบกมืออยู่ด้านหลังเหมือนกลัวฉันจะโดนผู้ชายตรงหน้าฆ่าตายอย่างนั้นแหละ
"ขอโทษ! ปล่อยได้ยัง" เอาจริงๆมันมีทั้งกลัวทั้งโมโหปะปนกันไปหมด พยายามจะพูดดีแล้วแต่รู้สึกไม่อยากยอมคนแบบนี้เลย
"..." เพราะฉันไปสะกิดโดนจุดหนึ่งจุดใดของเขาที่ไม่ควรแตะต้องล่ะมั้งแต่ไม่เห็นต้องรุนแรงขนาดนี้เลย
"อยากยุ่งกับฉันนักเหรอ" พูดจบเขาก็ค่อยๆคลายมือออกจากคอเสื้อ ใบหน้าหล่อเหลาที่เพิ่งโกรธจัดเมื่อกี้นี้เปลี่ยนเป็นแสยะยิ้ม "ก็หนีตายให้ทันแล้วกัน"