จุดเริ่มต้น

1347 Words
ปัง! ปัง! ปัง!                                                                                                  เสียงปืนดังขึ้น ซึ่งเป็นเหมือนระเบิดเวลา ที่พร้อมจะพิพากษา ให้อิสรภาพของพลอยชมพูสิ้นสุดลง ใครจะรู้ว่าลูกคุณหนูอย่างเธอ จะต้องมาเผชิญชะตากรรมที่ไม่คาดฝันมาก่อน เธอเป็นบุตรสาวของนักธุรกิจหนุ่ม กำพร้าแม่มาตั้งแต่เด็ก หญิงสาวเพิ่งจะเรียนจบมัธยมปลาย เธอมีอายุยี่สิบปีบริบูรณ์เท่านั้น เนื่องจากย้ายโรงเรียนบ่อย และป่วยออดๆ แอดๆ จึงทำให้พลอยชมพูนั้น ได้เลื่อนชั้นช้ากว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน      "ฉันจะเอาลูกสาวมาแลกกับหนี้ทั้งหมด" นายชัยชนะยืนตัวแข็งทื่อ จนแทบจะควบคุมสติไม่ได้ เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นด้วยความหวาดกลัว เมื่อเอเดนเหนี่ยวไก ชายหนุ่มยิงปืนขึ้นฟ้าหลายนัด เพื่อทำการขู่นายชัยชนะ                                                                                                            "เลว! คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าเป็นพ่อที่มีความคิดชั่วช้าสามานย์ แม้แต่หมามันยังรักลูกของมันเลย" แม้ว่าภายในใจของเอเดนจะรู้สึกดี ที่ชัยชนะยื่นข้อเสนอแบบนี้มาให้ แต่เขาก็ยังคงรู้สึกโกรธเคืองอยู่ข้างใน เพราะถ้าหากผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เขา แต่เป็นคนอื่น พลอยชมพูก็คงจะกลายเป็นผู้หญิงที่ผ่านมือชายมานับครั้งไม่ถ้วน "ฉันไม่มีทางเลือก แต่รับรองว่าคุณภาพคุ้มค่ากับเงินสิบล้านอย่างแน่นอน" เมื่อผีพนันเข้าสิง ความคิดชั่วร้ายก็ได้ครอบงำ จนทำให้ชัยชนะไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ทั้งที่พลอยชมพูคือลูกสาวแท้ ๆ แทนที่เขาควรจะปกป้องและดูแลเธอ แต่กลับยัดเยียดแลกเปลี่ยนลูกสาวกับหนี้สิน ที่ตัวเองก่อขึ้น ซึ่งสาเหตุมาจากผีพนันเข้าสิง จนทำให้เขากลายเป็นอสุรกายร้าย ที่สิงอยู่ในร่างของคน ที่เรียกตัวเองว่าบิดา                                                                "ได้! นับจากวินาทีนี้พลอยชมพูเป็นของฉัน พวกแกลากมันออกไป แล้วจัดการพาลูกสาวมันกลับมา ฉันจะรออยู่ที่บ้าน ดูสิว่าเธอจะคุ้มค่ากับเงินที่ฉันจ่ายไปหรือเปล่า"                                                              ชายหนุ่มใบหน้านิ่งมาดขรึม วัยสี่สิบแปดปี พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว จนทำให้คนรอบข้างรู้สึกเกรงขามได้ไม่ยาก                   "ครับนาย" ลูกน้องคนสนิทโค้งคำนับพร้อมกับรับปาก พร้อมกับลากนายชัยชนะเดินออกไป ~บ้านเอเดน~                                                                                    บริเวณของบ้านที่มีเนื้อที่หลายสิบไร่ ตั้งอยู่ชานเมือง ซึ่งห่างไกลจากความวุ่นวาย ด้วยนิสัยของชายหนุ่มที่ชอบความเงียบสงบ แต่มันช่างสวนทางกับงานและอาชีพที่เขาทำโดยสิ้นเชิง เอเดนเป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าคมเข้มดูเคร่งขรึมตลอดเวลา ใครเห็นต่างก็เกรงขาม เมื่อเขาเป็นหนุ่มใหญ่ที่มากด้วยอิทธิพลและบารมี ทำธุรกิจหลายอย่าง ทั้งสุจริตและสีเทา                                                                                                                                  ชายหนุ่มยืนอยู่ริมหน้าต่าง ซึ่งเขาเปิดไฟเอาไว้ แค่พอเพียงสลัว เอเดนทอดสายตามองออกไปอย่างไร้จุดหมายปลายทาง เมื่อเขามีอายุปูนนี้แล้ว แต่กลับยังคงใช้ชีวิตไปวัน ๆ ไม่คิดจริงจังกับใคร ถ้าเขาแก่ตัวไปไม่รู้เลยว่าบรรดาลูกน้องข้าทาสบริวาร จะยังคงเทิดทูนให้ความยำเกรงเขาเหมือนกับในเวลานี้หรือเปล่า ในมือของเอเดนถือแก้วที่มีน้ำอำพันค่อนแก้ว เขายกมันกระดกรวดเดียวหมด ก่อนจะรินลงไปใหม่ แล้วดื่มเพียว ๆ แบบนี้ติดต่อกัน แต่ก็ยังคงไม่รู้สึกเมาเลยสักนิด                                                                                   เสียงรถยนต์แล่นเข้ามาภายในบ้าน ก่อนจะมีหญิงสาวร่างเล็ก หุ่นเพรียวบอบบางเดินตามชายร่างสูงใหญ่เข้ามา โดยมีชายอีกคนคอยประกบทางด้านหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้หญิงสาวหาทางหลบหนีไปได้ ซึ่งความจริงพลอยชมพูก็ไม่คิดที่จะหลบหนีไปไหนอยู่แล้ว เพราะเธอตั้งใจที่จะมาที่นี่ เพื่อใช้หนี้ให้กับบิดา ถึงยังไงเธอก็คงต้องทำหน้าที่นางบำเรอ ตามที่มีการแจ้งเอาไว้ โดยที่ไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ เมื่อหญิงสาวคิดว่ามันคือหนทางเดียว ที่จะทำให้เธอทดแทนบุญคุณอันท่วมท้นต่อบิดาได้                                      ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงคนเคาะประตูดังขึ้น และตามด้วยเสียงคนเปิดประตูเดินเข้ามา แต่เอเดนยังคงยืนทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างอยู่เหมือนเดิม                                                                                                        "ผมได้พาลูกสาวนายชัยชนะมาให้แล้วครับนาย" น้ำเสียงของเก่ง ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของเอเดนได้เอ่ยขึ้น                                                          "........" ไม่มีเสียงตอบกลับจากเอเดน เขาได้ยกมือขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ เพื่อบอกปัดให้ทุกคนออกไปจากห้อง ซึ่งแน่นอนลูกน้องของเขารู้ดี ทุกคนจึงเดินออกไปพร้อมกัน และไม่ลืมที่จะล็อกประตูให้เจ้านายหนุ่ม พลอยชมพูยืนอยู่กลางห้องด้วยหัวใจที่เคว้งคว้าง บางครั้งเธอก็พยายามคิดว่านี่มันคือความฝัน แต่ทว่าเมื่อหญิงสาวพยายามหลับตาแล้วลืมขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ว่าเธอจะทำแบบนั้นสักกี่หน มันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม เมื่อทุกอย่างรอบตัวของเธอมันคือความจริง ที่หญิงสาวกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ ผู้ชายที่ยืนหันหลังให้ ร่างกายของเขาสูงใหญ่ เสียจนเธอนั้นรู้สึกหวั่นใจ                                                                                            "ดูซิว่าเธอจะคุ้มค่ากับเงินที่ฉันจ่ายไปหรือเปล่า เธอคิดว่ามันจะคุ้มไหม ดูท่าทางจะไม่เป็นงานด้วยซ้ำ!"ชายหนุ่มพ่นคำพูดออกมาด้วยวาจาที่แข็งกระด้าง ก่อนจะหมุนตัวหันมามองหญิงสาวร่างอรชร ในเวลานี้ใบหน้าและแววตาของเอเดนที่มองมายังพลอยชมพูนั้น ช่างดูเจ้าเล่ห์และหื่นกระหายในกามารมณ์ตลอดเวลา เขาเป็นดั่งเสือที่พร้อมจะขย้ำกระต่ายน้อยอย่างเธอได้ทุกเมื่อ เพียงแค่รอเวลาและโอกาส ซึ่งมันคงจะมาถึงในไม่ช้า     หญิงสาวรู้สึกหวาดกลัวเสียจนตัวสั่นเทา เมื่อพลอยชมพูสัมผัสได้ถึงความป่าเถื่อนของเขา ซึ่งชายตรงหน้าดูมีอายุ น่าจะไล่เลี่ยกับบิดาของเธอด้วยซ้ำ แต่ภายใต้แสงไฟที่สลัว เขาก็ยังคงมีความหล่อเหลา แม้ว่าใบหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยหนวดเครารุงรังก็ตามที ถ้าหากวันนี้เธอต้องเสียเวอร์จิ้นให้กับผู้ชายคนนี้ อย่างน้อยพลอยชมพูก็รู้สึกว่า หน้าตาของเอเดนก็พอที่จะสะกดใจเธอ ให้รู้สึกเสน่หาและปรารถนาให้ตัวเขาได้อยู่บ้าง "ทำไม...กลัวฉันเหรอ"                                                                                   เสียงทุ้มของเขาไม่ต่างจากเสือคำราม ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ เขาผูกเนกไทสีน้ำตาลตัดกับเสื้อเชิ้ตด้านใน ซึ่งเป็นสีฟ้าอ่อน ๆ แม้ว่าแสงไฟจะไม่จ้า แต่ก็ทำให้พลอยชมพูพอจะสังเกตได้ เมื่อเขาค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ ในมือของชายหนุ่มยังคงถือแก้วที่มีน้ำเมา ซึ่งเอเดนเพิ่งรินมันลงไปใหม่อีกครั้ง เขาดื่มราวกับว่ามันคือน้ำเพื่อสุขภาพ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว โทษของมันมีมากกว่าสรรพคุณที่จะได้รับด้วยซ้ำ                       เวลานี้ใบหน้าและแววตาของเอเดน ดูน่ากลัวกว่าเดิมหลายเท่า เขามีท่าทางที่กระหยิ่มยิ้มย่อง เวลาที่จับจ้องมองมาที่ใบหน้าของพลอยชมพู เมื่อหญิงสาวกำลังจะกลายเป็นนกน้อยในกรงทอง ซึ่งหน้าที่ของเธอต้องคอยบำเรอปรนเปรอเขา จนกว่าจะหนำใจ และคงไม่มีใครมาช่วยทำให้เธอหลุดพ้นจากบ่วงบำเรอนี้ไปได้ ตราบจนชีวาวาย หรือคงต้องตายกันไปคนละข้าง ซึ่งไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนต้องใช้เวลากี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี แต่ที่แน่ ๆ วันนี้ เธอคงต้องทำหน้าที่นางบำเรอให้สมบูรณ์แบบ เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่เขาจ่ายให้บิดาของเธอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD