ตอนที่ 5 จุดเริ่มต้นของหน้าที่ผู้จัดการ
ฉันขับรถมาตามถนนมุ่งหน้าไปบ้านหลังใหญ่เพื่อไปรับคุณเพชรกล้าอย่างทุกที ทีแรกก็ตั้งใจว่าจะโทรไปปลุกเขาก่อน แต่โทรไปเท่าไหร่ก็ไม่รับ พอกดดูสถานที่ที่เขาไปมาตั้งแต่เมื่อคืนก็ทำเอาต้องถอนหายใจรัว ๆ GPS บอกว่าเขาไปที่คอนโดแห่งหนึ่งและใช้เวลาอยู่ที่นั่นเกือบสองชั่วโมง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคงไปทำอะไรกับอีหนูคนไหนแน่ ๆ จะไปไหนมันก็ไม่สำคัญหรอกถ้าเขาไม่ทำให้ฉันต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นแบบนี้
ตามคาด เมื่อเข้ามาในห้องนอนใหญ่สไตล์ยุโรปที่ถูกประดับประดาไว้ด้วยสิ่งของราคาแพง เจ้าของตำแหน่งพระเอกเบอร์หนึ่งก็ยังนอนมุดอยู่ใต้ผ้าห่มเช่นเคย
"ลุกขึ้นแล้วรีบไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้ค่ะคุณเพชรกล้า สายแล้ว"
ฉันดึงผ้าห่มที่คลุมตัวเขาออก ท่อนบนเปลือยเปล่า ส่วนท่อนล่างนั้นใส่เพียงกางเกงนอนขายาวตัวบางไว้ ผิวขาวเนียนเต็มไปด้วยร่องรอยจ้ำแดงที่บ่งบอกว่าเขาไปทำอะไรมาบ้างเมื่อคืน
"เป็นรอยดูดเต็มตัวขนาดนี้ แล้ววันนี้จะไปถ่ายแบบได้ยังไงคะคุณเพชรกล้า จะทำอะไรทำไมไม่รู้จักห้ามอารมณ์กันบ้าง"
คนที่โดนบ่นไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรสักนิด เขายันตัวลุกขึ้นมาจ้องหน้าฉันด้วยท่าทางยียวน
"กลัวจะถ่ายแบบไม่ได้ หรือว่าเจ้าขาหึงเฮียกันแน่คะ"
"ไปอาบน้ำค่ะ สายแล้ว"
ฉันเร่งคนที่ยังอยู่บนเตียงโดยที่ไม่สนใจคำพูดของเขาก่อนหน้า ระหว่างที่รอคุณเพชรกล้าอาบน้ำอยู่ก็ทำเอาคิดถึงวันที่ทำให้ชะตาชีิวิตของฉันต้องมาอยู่จุดที่หน้าปวดหัวแบบนี้
/////////
1 ปีที่แล้ว
ตึงตึงตึง ฉันได้ยินเสียงวิ่งตึงตังดังมาจากทางด้านหลัง เมื่อหันไปดูก็เห็นว่าเป็นพระเอกของละครเรื่องที่ฉันมาแสดงเป็นสแตนอิน
"เป็นทีมงานใช่มั้ย หาที่หลบให้หน่อย"
เขาละล่ำละลักพูดกับฉันพลางก้มมองป้ายชื่อทีมงานที่ห้อยอยู่ที่คอ ท่าทางก็เหนื่อยเหมือนกับวิ่งหนีอะไรมา พอมองเลยไปทางด้านหลังก็เห็นกลุ่มผู้หญิงหลายคนกำลังวิ่งมาทางนี้พร้อมเสียงกรี๊ดกร๊าด อ้อ วิ่งหนีแฟนคลับที่จะมามะรุมมะตุ้มนี่เอง ไอ้ฉันก็เห็นว่าเป็นพระเอกของเรื่องก็เลยช่วยอย่างไม่คิดอะไร
"ตามมาทางนี้ค่ะคุณเพชรกล้า"
ฉันพูดขึ้นพลางดึงมือคนตัวโตให้ตามเข้ามาที่ห้องเก็บอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ ๆ เราสองคนอยู่ข้างในนั้นสักพักจนแน่ใจแล้วว่าสาว ๆ พวกนั้นออกไปจากบริเวณนี้จนหมดแล้ว
"ชื่ออะไร"
จู่ ๆ เขาก็ถามขึ้นแล้วก็จ้องหน้าฉันอย่างไม่กระพริบตา เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าเขาใกล้ขนาดนี้ เขาหล่อยิ่งกว่าในทีวีซะอีก
"ชื่อจันทร์เจ้าขาค่ะ เรียกเจ้าขาก็ได้ค่ะ"
"เจ้าขาเหรอ ชื่อเพราะดี เหมาะที่จะเป็นแม่ของลูก"
ขณะที่ฉันกำลังยืนอึ้งกับคำพูดเขาอยู่นั้น มือใหญ่ก็ถือวิสาสะเอื้อมมาจับมือให้เดินตามเขาไป ส่วนฉันก็ได้แต่เดินตามไปเงียบ ๆ
"คุณเนตร คุณเนตรนภา อยู่ไหน!"
คุณเพชรกล้าตะโกนโหวกเหวกโวยวายเรียกหาผู้จัดการส่วนตัวของตัวเองทั้งที่ยังไม่ปล่อยมือจากการเกาะกุม ครู่เดียวคุณเนตรนภาผู้จัดการก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามาหา
"คะ คุณเพชรกล้า เรียกหาเนตรทำไมคะ"
"นับจากนี้ไปคุณพ้นจากตำแหน่งผู้จัดการของผม ส่วนเรื่องเงินค่าชดเชยเดี๋ยวจะให้คนโอนเข้าบัญชีให้ ส่วนตอนนี้คุณกลับไปได้แล้ว"
ไม่ใช่แค่คุณเนตรนภาที่นิ่งงันอย่างกับถูกสาปเพราะคำพูดของเขา คนอื่น ๆ ที่อยู่บริเวณนั้นรวมทั้งฉันด้วยก็อยู่ในอาการเดียวกัน แต่ก็ไม่มีคำโต้เถียงอะไรออกมา เธอได้แต่เก็บของแล้วออกไปจากกองถ่ายทันที
"มาเป็นผู้จัดการให้ฉัน"
ฉันหันมองไปมา ดูว่าคุณเพชรกล้าพูดกับใคร เพราะที่ยืนอยู่ตรงนี้ตอนนี้ ก็มีแค่ฉันกับเขาแค่นั้น
"เธอนั่นแหละ ไม่ต้องมองหาคนอื่น"
นิ้วชี้งอเข้าหาตัวเองช้า ๆ เมื่อเขาบอกว่าหมายถึงฉัน
"ฉันเหรอคะ"
ถามย้ำออกไปเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
"ใช่ เธอนั่นแหละ หรือว่าเห็นคนอื่นอยู่แถวนี้รึไง"
เขาตอบกลับมาพร้อมทำสีหน้าจริงจัง
"เอ่อ คุณเพชรกล้าคะ ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน"
ฉันรีบปฏิเสธออกไปทันที คนอย่างฉันถนัดแค่ใช่กำลัง ไม่ถนัดเรื่องจัดการอะไรแบบนั้นหรอก
"เงินรายปี ปีละ 5 ล้าน สัญญา 3 ปี และส่วนแบ่ง 20 เปอร์เซ็นต์ของค่าตัวฉันจากทุกงานที่ฉันรับ ถ้าเธอตกลง ฉันจะโอนเงินรายปีให้เธอล่วงหน้าทันทีทั้งหมด 3 ปี"
คุณเพชรกล้าเสนอรายได้ที่ฉันจะได้รับถ้าตกลงเป็นผู้จัดการให้เขา แล้วเงินมากขนาดนี้ แถมโอนให้ล่วงหน้าอีก 15 ล้านเชียวนะ สาวโสดสนิทไร้พันธะผูกพันใด ๆ อย่างฉันได้ยินแบบนั้นมีหรือที่จะไม่ตกลง ฉันมีแม่ แต่แม่แต่งงานใหม่ไปอยู่ที่อังกฤษ และฉันก็อยากจะใช้ชีวิตที่เมืองไทยเองคนเดียว ส่วนพ่อนั้นทิ้งฉันกับแม่ไปกับอิหนูเมื่อหลายปีก่อน เงินจำนวนนี้มันมากพอให้ฉันอยู่ได้อย่างสบาย ๆ แล้วมีเหตุผลอะไรที่ฉันจะไม่รับข้อเสนอล่ะ
"ตกลงค่ะ ฉันตกลงทำงานนี้"
เมื่อได้ยินคำตอบ คนตรงหน้าก็ฉีกยิ้มกว้างทันที
//////////
นั่นแหละที่มาที่ไป เฮ้อ...คิด ๆ ดูแล้ว ใครจะรู้ว่าการที่ต้องมาเป็นผู้จัดการของคุณเพชรกล้ามันจะเหนื่อยขนาดนี้ นี่แค่ผ่านไปเกือบปีเองนะ ชีวิตฉันอย่างกับไปออกรบทุกวัน แต่ก็รับเงินเขามาแล้ว แถมไอ้ส่วนแบ่งจากค่าตัวนั่นก็ทำให้ฉันอยู่ได้สบาย ๆ แบบไม่ต้องไปรบกวนเงินรายปีที่เขาโอนมาให้ล่วงหน้าแม้แต่บาทเดียว ทน ๆ ไปก่อนละกัน อีกสองปีนิด ๆ ฉันก็จะได้โบยบินไปใช้ชีวิตได้อย่างอิสระแล้ว
"คิดถึงเฮียอยู่รึเปล่าคะ เห็นนั่งยิ้มอยู่คนเดียว"
เสียงของเขาทำเอาฉันตื่นจากภาพฝันสวย ๆ หมด
"รีบแต่งตัวเถอะค่ะคุณเพชรกล้า แล้วก็ปิดรอยพวกนั้นให้มิดด้วยนะคะ"
ฉันพูดออกไปพลางปรายตาไปมองร่องรอยแห่งความหฤหรรษ์ที่อยู่บนตัวของเขาพร้อมกับส่่ายหัวให้อย่างเอือมระอา
"เจ้าขาไม่ชอบเหรอคะ ถ้าเจ้าขาไม่ชอบ ทีหลังเฮียจะไม่ให้ใครทำอีก จะเก็บไว้รอเจ้าขามาทำให้คนเดียว"
สายตากะลิ้มกะเหลี่ยพร้อมกับเดินมาใกล้ ๆ ทั้งที่ตัวเองนุ่งแค่ผ้าขนหนูผืนเดียว
"หยุดอยู่แค่ตรงนั้นแหละค่ะไม่ต้องเข้ามาใกล้กว่านี้ แล้วอีกอย่างนะคะคุณเพชรกล้า ก่อนที่จะห้ามไม่ให้ใครทำอะไร ช่่วยห้ามไอ้ส่วนล่างของตัวเองก่อนเถอะค่ะ"
นอกจากจะไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของฉันแล้ว เขายังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจอีก พุทโธ ธัมโม สังโฆ ในใจฉันตอนนี้ได้แต่ท่องให้ตัวเองเย็นไว้ ๆ
//////////