“เอาเป็นว่าไม่มีอะไรแล้ว คุณก็กลับไปที่บ้านเถอะ แล้วที่เหลือก็ระวังอย่างที่ผมบอกแล้วกัน จะกินเหล้ายาปลาปิ้งอะไร ผมก็ไม่มีสิทธิ์ไปห้ามคุณหรอกนะ แต่ผมขอแค่อย่างเดียว”
“อะหยังเจ้า”
“อย่าเมามาปีนรั้วบ้านผมอีกก็พอ”
ฟังแล้วนกยูงก็อดอายจนหน้าม้านไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ตรงไหนดี ได้แต่คว้าผ้าห่มขึ้นมาปิดบังใบหน้าครึ่งล่างเอาไว้
“สุมาเน้อเจ้า”
เตมินทร์พยักหน้ารับ เขาไม่ได้ถือสาหาความอะไร เว้นเสียแต่บุคคลภายนอกที่กำลังพูดคุยเอะอะเสียงดังมาให้ได้ยิน
“ประตูมันล็อคจากทางด้านนอกนี่หว่า เมื่อคืนนี้อีป้ามันกลับบ้านหรือเปล่าวะ”
“กลับบ้านบ้าอะไรล่ะ เมื่อคืนนั่งกินที่นี่ ไม่ได้ออกไปไหนสักหน่อย”
“ป้ามันคงจะออกไปซื้อของหรือเปล่า”
“ไม่น่าใช่นะ มันขับรถเป็นซะที่ไหน แล้วอีกอย่าง เมาซะขนาดนั้นจะมีแรงตื่นเช้าไปซื้อของมาเหรอ ปกติต้องโทรหากู ไม่ก็โทรหามึง ใช้ให้ไปซื้อของแทนแล้ว”
“แบบนี้มันผิดปกติว่ะ”
“ใช่ไหม หรือว่า…จะเกิดเรื่องไม่ดีกับอีกป้าขึ้นวะ”
“ไม่ใช่ว่าเมาแล้วเดินออกจากบ้านจนโดนฉุดไปปู้ยี่ปู้ยำแล้วเหรอวะ”
“ปากมึงเหรอไอ้เต่า เดี๋ยวกูก็ทุบซะหรอก”
พูดคุยกันล้งเล้ง เตมินทร์เขาจะจับใจความได้ เราคิดว่าถ้ายังให้นกยูงนั่งอยู่ในบ้านเขาอย่างนี้ พวกหนุ่มๆ คงจะใจคอไม่ดีกันยกใหญ่ที่ไม่เห็นมีสาวเจ้าของบ้านอยู่ในบ้านอย่างที่ควรจะเป็น
“ผมว่าเราออกไปข้างนอกเถอะ พวกเพื่อนคุณมาตามหากันใหญ่แล้ว ไป เดี๋ยวผมไปส่ง”
นกยูงเห็นดีเห็นงามด้วย เธอลุกขึ้นยืน เดินออกไปที่ประตูรั้วบ้านโดยมีชายหนุ่มเดินตามหลังมาติดๆ
“มาโวยวายอะไรกันหน้าบ้านคนอื่นเขา กูอยู่นี่”
น้ำเสียงแจ๋วๆ ของเธอเรียกให้ทั้งสองหนุ่มหันมามองเป็นตาเดียว ก่อนจะพากันโล่งใจเป็นทิวแถว ขณะที่เตมินทร์ไขกุญแจเปิดประตูรั้วบ้านออกให้
“อ้าวป้า นึกว่าโดนฉุดไปทำอะไรซะแล้ว ที่แท้ก็อยู่ที่นี่นี่เอง”
ไอ้เต่าเลยทักเป็นคนแรก สีหน้าท่าทางของมันดูโล่งใจไม่ใช่น้อย
“ปากมึงเนี่ยนะ ใช่ซะที่ไหนล่ะ”
นกยูงสวนกลับ ชูกำปั้นขึ้นในอากาศ ทำท่าเหมือนกับว่าจะทุบกบาลคนตรงหน้าให้หายหมั่นไส้สักทีสองที
“แล้วไปทำอีท่าไหนถึงได้เข้ามาอยู่ในบ้านของคุณเขา”
คราวนี้โรเบิร์ตเป็นคนถาม
“ก็…”
นกยูงอึกอักไปในฉับพลัน ไม่กล้าตอบว่าเมื่อคืนนี้เธอก็เป็นรั้วบ้านของเตมินทร์อีกแล้ว โดยไม่ทันคิดเลยว่าท่าทางของเธอที่มองไปยังผู้ชายคนข้างๆ ด้วยสายตาหลุกหลิกอย่างคนมีพิรุธจะทำให้เพื่อนพี่น้องทั้งสองสังเกตเห็นถึงความผิดปกตินี้ได้อย่างง่ายดาย
“ก็อะไรวะ”
ในที่สุด พี่ใหญ่อย่างโรเบิร์ตก็เป็นคนทำลายความเงียบขึ้นมา
“ก็…”
นกยูงยังคงอึกๆ อักๆ อยู่ ก้มหน้างุดลงไปเหมือนคนมีความผิด
“ก็อะไร รีบๆ พูดมาดิ”
ไอ้เต่าชักทนไม่ไหว เร่งรัดมาด้วยอีกคน
นกยูงเหลือบไปมองหน้าชายหนุ่มข้างๆ ขณะที่เขาพยักหน้ารับน้อยๆ เป็นเชิงบอกให้เธอพูดความจริงไป
“แน่ใจนะเจ้า?”
อยู่ดีๆ ก็เอ่ยออกมา สร้างความฉงนสนเท่ห์ให้กับหนุ่มๆ อีกสองคนเป็นอย่างมาก จะมีก็แต่เตมินทร์เท่านั้นละที่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร ได้แต่พยักหน้าตอบรับไปเป็นเชิงให้เธอบอกไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก
นกยูงสูดหายใจเข้าปอดลึก ตัดสินใจพูดออกมาในที่สุด
“คือเมื่อคืนกูเมาใช่ปะ”
“เออ แล้ว?”
“แล้วก็…” เหลือบมองหน้าเตมินทร์อีกครั้ง ก่อนจะยอมบอกความจริง “จำอะไรไม่ได้อีกเลย รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เห็นปี้คนนี้…ในบ้านของเขา”
…แต่ไม่หมด
“หา!?”
และการที่พูดไม่หมด ลงรายละเอียดไม่เต็มที่นี่ละที่สร้างความเข้าใจผิดให้กับคนฟังเต็มเปา ส่วนเตมินทร์พอได้ยินชายหนุ่มทั้งสองพากันร้องลั่นด้วยความตกใจ สัญชาตญาณก็บอกเขาทันทีว่างานกำลังเข้าเขาให้แล้ว
พูดแบบนั้น ใครๆ ก็ต้องเข้าใจว่าพาเธอเข้ามาทำมิดีมิร้ายในบ้านเขาน่ะสิวะ!
“เดี๋ยว ไม่ใช่อย่างที่พวกคุณเข้าใจนะครับ”
ปากรีบแย้ง หาข้อแก้ตัวให้ตัวเองออกไปทันที มือทั้งสองข้างยกขึ้นในอากาศเป็นการบอกโดยนัยว่าให้หนุ่มๆ ใจเย็นก่อน แต่ดูเหมือนจะไม่ทันการณ์เสียแล้ว เพราะไอ้เต่าซึ่งเป็นตัวแทนหมู่บ้านเข้าใจผิดไม่พอ ของขึ้นนำชาวบ้านไปก่อนแล้ว เพียงเท่านั้น เขาก็โพล่งออกมาเสียงดัง
“มึงทำป้ากูเหรอ!?”
พลั่ก!
“เฮ้ย! ไอ้เชี่ยเต่า!”
กำปั้นหลุนๆ พุ่งเข้ามาปะทะที่ข้างแก้มของเตมินทร์เข้าอย่างจังจนเขาทรุดตัวล้มลงไปกับพื้น ความมึนงงปะทะเข้ามาจนตาลายไปหมด ตอนนี้เขาไม่รู้เสียงใครต่อใครบ้างดังขึ้นรอบกาย รู้แต่ว่าทุกคนล้วนพูดประโยคเดียวกัน ซึ่งเป็นประโยคสบถด่าไอ้เต่าเป็นพัลวัน ตามมาด้วยเสียงของนกยูงที่หวีดร้องลั่น พลันเข้ามาประคองเขาขึ้นมานอนหนุนตัก
“ทำกูบ้าอะไรล่ะ เดี๋ยวก็พากันติดคุกหัวโตหรอก เป็นบ้าเหรอ!?”
“อ้าว ก็ป้าบอกว่าไอ้นี่มันปู้ยี่ปู้ยำป้าอะ”
“ทำเชี่ยอะไรล่ะ กูแค่บอกว่ากูจำอะไรไม่ได้ รู้ตัวอีกทีก็มาตื่นในบ้านปี้เขาแล้วเฉยๆ เว้ย!”
“งั้นก็…แสดงว่าป้า…”
“ไม่ได้โดนทำอะไรเว้ย!”
“เฮ้ย!”
จากนั้นความชุลมุนพลันบังเกิด เตมินทร์แทบจะไม่รับรู้อะไรแล้ว ในหูดังวิ้งๆ ไปหมด มิหนำซ้ำ ภาพดวงหน้าจิ้มลิ้มของหญิงสาวที่กำลังประคองหัวเขาอยู่ก็เลือนรางเต็มที ก่อนจะดับไปโดยมีเสียงของเจ้าหล่อนดังมาเขย่าประสาทเป็นการส่งท้าย
“ตายห่าแล้ว! ติดคุกหัวโตแล้วกู!”