EP03 ll ไซโค

1405 Words
Nakin says… หมายความว่าไงเอาผมไปเขียนเป็นพระเอกนิยายตัวเอง แล้วมาว่าผมอย่างนั้นอย่างนี้ ทำตัวเป็นเด็กไปได้ ไม่น่ารักเลยจริงๆ คนเราสมัยนี้ปากไม่ตรงกับใจเอาซะเลย ผมชูแขนซ้ายขึ้นมองนาฬิกาควอตซ์สายหนังสีดำเพื่อดูเวลา วันนี้วันจันทร์ เวลาสิบสองนาฬิกาสิบห้านาทีคือเวลาที่ยัยก๊อยตัวร้ายจะโทรมา เอาล่ะ สาม สอง… Rrr Rrr … โทรศัพท์ของผมสั่นในกระเป๋ากางเกงข้างซ้าย ปรากฏรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก นี่แน่ะ ยัยนักเขียนขี้มโนปากแข็งนั่นต้องคิดอะไรกับผมแน่ๆ รูปใบหน้าตลกๆ ขึ้นมาที่หน้าจอ ผมเล่นตัวอยู่สองสามวินาทีก่อนจะกดรับ “นี่ตั้งเวลาโทรไว้ปะ? เป๊ะตลอด” ผมแหย่ด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ในหัวก็ยังหัวเราะดังหุๆๆๆ เหมือนคนโรคจิต =_=; อ้าวทำไมอ่ะ ผมรู้สึกว่าผมชนะเลิศจะมีความสุขก็คงไม่ผิดปะวะ? [หิว] ปลายสายบ่นด้วยเสียงอิดโรย ให้เดา ยัยก๊อยคงนั่งหน้าจอคอมเหมือนซอมบี้ปั่นต้นฉบับด้วยความเร็วแสงแล้วทำความสะอาดบ้านเมื่อเช้าถึงค่อยออกมามหาลัย “ไปหาไรกินสิ” ผมกวน ผมรู้ว่ายัยก๊อยอยากให้ผมไปรับที่คณะนิติศาสตร์เพราะขี้เกียจเดิน [โครก~ คราก~] =_=^ [ท้องร้องดังมากอ่ะ ได้ยินปะ?] ปลายสายว่าเดาอีกที ยัยนี่ต้องเอามือถือไปจ่อที่พุงแหง นี่เธอลืมความเป็นกุลสตรีไปตั้งแต่ในท้องแม่แล้วใช่มั้ย? เหนื่อยใจชิบ =____=^ “จะให้ฟังเพื่อ?” [โครก~ คราก~] แล้วมันก็มาอีก “โอ๊ย พอเลย อยู่ไหน จะกินไร พูด!” ผมหงุดหงิด จะรอให้ยัยนี่พูดก่อนเส้นประสาทผมคงขดพันกันเป็นเงื่อนขัดสมาธิสี่ร้อยรอบจนอุดตันตายแน่ๆ [อยู่ซุ้มนิติ พี่เป็ดกับพี่จ๋อก็อยู่เนี่ย] ยัยนั่นว่า พี่เป็ดคือเพื่อนของไอ้จ๋อ ผมก็ไม่เข้าใจว่ายัยนั่นจะเรียกพี่ทำไม ทั้งที่พวกเราก็รุ่นเดียวกัน สองมาตรฐานชัดๆ “งั้นก็ไปกินกับพวกมันสิ” ผมเบะปาก [โครก~ คราก~] ผมเกลียดผู้หญิงคนนี้ =_=^ [แว๊นมาเร็วๆ กระเพาะจะเป็นรูแล้ว] ยัยนั่นเร่งทำให้ผมปวดประสาท กระเพาะก็กระเพาะยัยนั่น เกี่ยวอะไรกับข้าพเจ้าวะครับผม เพื่อนกินข้าวด้วยก็มี จะมากวนผมทำไม เว้นแต่ว่ายัยนั่นจะอยากกินข้าวกับผม เฮ้อ เบื่อจัง พวกปากไม่ตรงกับใจ “สั่งจังวะ เมียก็ไม่ใช่” [ฝากซื้อนมร้อนที่สหกรณ์มาด้วยดิ อยากกิน] เอาเข้าไป นี่ขนาดผมบ่นขนาดนี้ยังไม่วายจะสั่งอีก ทำยังกับเป็นเบ๊เจเนอรัล ผมถอนหายใจก่อนจะกระแทกเสียงว่า ‘เออ’ สั้นๆ แล้วตัดสายทิ้งแม่งซะเลย ไอ้วินมองหน้าผมอย่างหมิ่นเหม่ “คบกันอยู่?” “ตลกละ มึงดูหน้ากูด้วย” ผมปฏิเสธเสียงแข็ง “ก๊อยแม่งเยอะจะตาย ใช้นู่นใช้นี่ยังกับกูเป็นขี้ข้า อะไรๆ ก็กู น่าเบื่อ เมื่อวานก็หาเรื่องมาว่ากูอีก ทั้งที่พยายามคุยดีด้วยแล้วนะ รู้ตัวอีกทีก็จะตีกันอีกละ” ผมสาธยายเป็นฉากๆ อย่างเก็บกด ไอ้วินยกยิ้มที่มุมปากและพยักหน้ากวนๆ “ตอบว่าไม่ก็พอแล้วมั้ง พูดเยอะแยะเหมือนคนกำลังแก้ตัว” “ไม่ตลก ไอ้วิน =_=” ผมย่นจมูก “พลอยอาจจะชอบมึงก็ได้นะ” ไอ้วินยิ้มกวนแหย่ผมให้ไขว้เขว นี่เลยงานอดิเรกมัน ไม่รู้นิสัยนี้ไปได้มาจากใคร ดูไม่ออกด้วยว่าจริงหรือเล่น “อย่ามาไซโคกูขอร้อง =_=” ผมตีหน้าตาย “จริงๆ กูว่าพลอยชอบมึง” นัยน์ตาเจ้าเล่ห์ฉายประกายแพรวพราว “อย่าๆ ไอ้เวร!” “คิดดิ ในบ้านพลอยก็สนิทกับมึงที่สุด” มันแตะมือที่ไหล่ผมพร้อมใบหน้าจริงจัง แต่ไม่จริงใจ ไอ้วินชอบเล่นอะไรประหลาดๆ แถมชอบแกล้ง ผมก็เลยไม่เชื่อใจมันสักเท่าไหร่ มันต้องชักแม่น้ำทั้งห้ามาหว่านล้อมผมแน่ๆ “เมื่อกี้ก็โทรหามึง ไม่เห็นโทรหากูเลย” “…” ก็จริงนะ เอ๊ะ น่าคิด “เพราะมึงมีแฟนแล้วรึเปล่า?” “แฟนกูไม่ได้งี่เง่าขนาดที่จะแยกเพื่อนกับแฟนไม่ออก” “พอเลยๆ ไม่ต้องมาไซโคกู” ผมยกมือห้ามทัพก่อนที่มันจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ แต่ความดื้อและเอาแต่ใจของมันน่ะมากเกินกว่าที่ผมจะห้ามได้ ไอ้วินขยับตัวเข้าหาผมพร้อมกับวางมือทั้งสองข้างที่บ่าและบีบแน่นๆ “ความจริงพลอยก็น่ารักดีนะมึง” “ไอ้วิน กูบอกว่าให้หยุด =_=” “ถ้ากูไม่ได้คบกับฟ้ามาก่อน กูอาจจะจีบ” “ไอ้เหี้ยวิน” ผมยกเขี้ยวขู่ฟ่อๆ จนมันหัวเราะขำๆ “ก็ลองเอาไปคิดดู… กูเคยพูดผิดเหรอ?” มันเหยียดยิ้มติดเลศนัยน์แล้วโบกมือบ๊ายบาย ทิ้งผมไว้กับความรู้สึกหนักหน่วง เป็นบ้าอะไรของมันอยู่ๆ มาพูดงี้ได้ไง ผมลำบากใจนะโว้ย ไม่รู้เหรอว่ามันวางตัวลำบาก โอ๊ย ไม่รู้แล้ว ช่างแม่ง! ‘กูว่าพลอยชอบมึง’ ถึงจะพูดอย่างงั้นก็เหอะแต่ไอ้ประโยคในหัวมันก็วนเวียนในมันสมองผมอยู่ดี… ตึก… ตึก ตัก… โอ๊ย หงุดหงิดจริงโว้ยยยย! Asawin says… “วิน มาทำไมแถวนี้?” เสียงฟ้าที่เดินตามหาผมบ่นอุบที่อยู่ๆ ผมก็นัดเธอมาที่นี่ ผมก็แค่คิดว่าบรรยากาศลานคณะวิทยาศาสตร์มันฟินๆ ดี อีกอย่างพ่อผมเคยเรียนที่นี่มาก่อนด้วย ก็แค่อยากจะเดินมาดู “อยู่ดีๆ ก็อยากมาอ่ะฟ้า ^O^” ผมยิ้มอ้อนก่อนจะมองโทรศัพท์ที่กำลังสั่นในมือ สายเรียกเข้าจากใครน่ะเหรอ… น้ำพลอย is calling… ทุกวันจันทร์เวลาสิบสองนาฬิกายี่สิบห้านาที โทรศัพท์ผมจะสั่นและดังจากเธอเสมอ แต่ผมไม่เคยรับ ก็แค่ขี้เกียจ ไหนๆ วันนี้ก็เอาซะหน่อยแล้วกัน… ผมมองหน้าฟ้าก่อนจะส่งสายตาขอเวลาห้านาทีเพื่อรับโทรศัพท์ “ฮัลโหล ว่าไง” [หิว] ผมหัวเราะเพราะคำพูดแม่งก๊อบมาจากบทสนทนาที่ผมได้ยินตอนเธอคุยกับไอ้คินเป๊ะๆ “แล้วไงต่อ?” [โครก~ คราก~] ตามมาด้วยเสียงเอฟเฟคประกอบความหิว เอาเข้าไป คนดูแลบ้านที่ผมอยู่ แม่งดูแลตัวได้รึยังวะ ชักไม่มั่นใจ [มากินข้าวกัน อยู่ซุ้มนิติกับพี่จ๋อพี่เป็ด] เธอเอ่ยปากชวน ผมเหล่สายตามองฟ้านิดหน่อย “อยู่กับฟ้าอ่ะ เออ ก๊อยบอกไอ้จ๋อกับไอ้เป็ดให้หน่อยดิ” ผมเริ่มประโยคพลางคิดเรื่องชั่วๆ ในใจ อะไรน่าสนุกนี่งานถนัดนะครับ บอกเลย [บอกอะไรอ่ะ?] “บอกมันว่าวินมีเรื่องด่วนอยากคุยด้วย ตอนนี้เลย เจอหอสมุด โอเคนะ” [อ่า…] เสียงของปลายสายดูลังเล เพราะเธอชอบกินข้าวด้วยกันเยอะๆ แต่สุดท้ายก็ตอบตกลงจนได้ ฟ้าหรี่สายตามองผมอย่างจับผิด เพราะเวลาที่ผมคิดเรื่องชั่วๆ ทีไร ผมชอบเผลอยิ้มเกินไปทุกที “จะแกล้งอะไรใครอีกล่ะ” ฝ่ามือเล็กนั่นพุ่งเข้ามาทางผมแต่ด้วยความไวยิ่งกว่าลิงลม ผมจึงหลบไปอีกทางและหัวเราะร่วน “เปล่าซะหน่อย เออ ฟ้า วินถามอะไรหน่อย” ผมพูดขึ้นมาเพราะนึกได้แล้วหันไปมองแฟนสาวที่ยังคงมองผมอย่างจับผิดอยู่ “ฟ้าเคยอ่านนิยายพลอยใช่ปะ?” “ใช่ ทำไม?” “พระเอกนิสัยเป็นไง?” “ก็เถื่อนๆ เท่ๆ ขรึมๆ นะ เย็นชานิดๆ เพอร์เฟคเลยแหละ” แฟนของผมบรรยายลักษณะทำเอาผมหุบยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงใบหน้าฟินๆ ของไอ้แว๊นเมื่อกี้ ทั้งที่ความจริงแม่งตรงข้ามแทบทุกอย่าง จะบอกอะไรให้ ผมไม่เคยอ่านนิยายก๊อยหรอก แต่ที่บอกๆ มันไปอ่ะโม้ทั้งนั้น จะมาเอาอะไรกับคนอย่างอัศวิน ความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏ วันๆ ทำแต่เรื่องที่คิดว่าสนุก และหนึ่งในนั้นก็คือมันเนี่ยแหละ ‘พลอยอาจจะชอบมึงก็ได้นะ’ ‘อย่ามาไซโคกูขอร้อง’ เฮ้อ หลอกควาย สบายใจจัง~ ^O^
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD