ลิ้นสากๆ ของอู๋เหยากวน ส่งความสุขให้แก่หลิวลั่วอี้ยิ่งนัก พอนางครางดังกว่าเดิม และแสดงให้เห็นว่าเจียนจะพบความสุข ชายหนุ่มก็ยิ้มอย่างคนเจ้าเล่ห์ จากนั้นจึงจับนางพลิกตัว ยกบั้นท้ายสูงขึ้นอีกนิด
“ข้าจะเอาเจ้าเยี่ยงทาสใจร่าน ส่วนเจ้าก็ทำให้นางเสร็จ สักสองสามหนก็แล้วกัน”
ถ้อยคำของเขาฟังแล้วชวนให้ตระหนกอยู่บ้าง แต่ก็เรียกอารมณ์ดิบเถื่อนของหลิวลั่วอี้ได้ดี
เมื่อแกนกายฟาดเบาๆ ที่บั้นท้ายของหลิวลั่วอี้ และอีกมือส่งเข้ามาเปิดทางกลีบเนื้ออวบอูม นางก็ปรารถนาให้เขาส่งความแข็งแกร่งเข้าไป แต่ปากไม่กล้าเอื้อนเอ่ย จึงระบายความเสียวสยิวกับร่างกายของซย่าพ่านเอ๋อร์แทน
อีกฝ่ายนอนอยู่ข้างกัน บีบนวดหน้าอกตน ท่าทางนางยั่วเย้า หลิวลั่วอี้ก็อยากสงเคราะห์จึงใช้นิ้วของตนแทนแท่งหยกผู้ชายแทงเข้าๆ ออกที่ทางคับแน่นของนาง ที่ยามนี้ได้น้ำลายเข้าไปช่วยจึงทำให้ไม่แห้งจนเกินไป
“เจ้าเป็นนางมารชั้นต่ำ...”
ซย่าพ่านเอ๋อร์พ่นคำพูดต่อว่าหลิวลั่วอี้บ้าง
“แต่อย่างน้อย ข้าก็เป็นที่พึงใจต่อฝ่าบาท”
เอ่ยจบหลิวลั่วอี้จึงแทงนิ้วรุนแรงกว่าเดิม พร้อมขบที่หัวไหล่
ซย่าพ่านเอ๋อร์
“อ๊า... คิดหรือว่า ข้าจะยอมตกเป็นของเล่นเจ้า โดยไม่ได้รับใช้ฝ่าบาท”
“เชื่อเถิด เจ้าจะหลั่งออกมา ราวกับน้ำตกเชียวล่ะ มือข้า ลิ้นข้า นี่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก” หลิวลั่วอี้บอกอีกฝ่าย แล้วจึงซุกหน้าลงไปที่หน้าอกซย่าพ่านเอ๋อร์ และเห็นจังหวะเดียวกันที่หลิวลั่วอี้ รับรู้ถึงความจุกที่อัดแน่นเข้ามา
แกนกายของอู๋เหยากวนผ่านช่วงหัวเข้ามาแล้ว !
“เสี่ยวอี้ อดทนสักหน่อย แล้วเราจะร่วมสุขด้วยกัน”
เขาเรียกนางอย่างเอ็นดู แล้วจึงโน้มตัวลงมาจูบที่ปลายคาง ดูดเม้มอย่างสิเน่หา เมื่อนางส่งเสียงครางไม่เป็นภาษา เขาก็ประกบริมฝีปากกับนาง ยามนั้นความเร่าร้อน และแรงสิเน่หาอัดแน่นอยู่ในเรือนกาย เขาตวัดลิ้นเย้าหยอกนางรุนแรงเท่าใด นางยิ่งตอบสนองดูดกลับมากเท่านั้น
ขณะเดียวกันความใหญ่โตนั้นก็แทงลึก ราวกับเขาต้องการประกาศว่า หลิวลั่วอี้ จะเป็นของผู้อื่นไม่ได้อีกแล้ว
“เป็นของข้าเพียงผู้เดียว เสี่ยวอี้... จงกลืนกินทุกหยาดหยดของเรา” เขาบอก หลังจากถอนริมฝีปากออก แล้วเปลี่ยนท่าทางให้หญิงสาว คราวนี้นางเลยอยู่ในท่าลิงอุ้มแตง เมื่อสองขาลอยเนื้อพื้น และต้องถูกผู้อื่นจัดระเบียบร่างกายให้ หลิวลั่วอี้ทั้งเขิน และเสียวซ่าน
ฝ่ายซย่าพ่านเอ๋อร์ก็มาอยู่ด้านหลังหลิวผ่านเอ๋อร์ ในทุกครั้งที่อู๋เหยากวนขยับท่อนแขนแรงๆ ส่วนที่ใหญ่โตนั้นก็แทงเข้าออกถี่รัว และสองมือของซย่าพ่านเอ๋อร์เอื้อมมานวดเฟ้นหน้าอกของหลิวลั่วอี้ ภาพของคนทั้งสามจึงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
“อี้ ฝ่าบาท หม่อมฉัน จะไม่ไหวแล้ว มันทั้งใหญ่ และร้อนวูบวาบไปหมด”
“บีบรัดเราให้มากกว่านี้สิ แล้วเจ้าจะได้รับความสุข อย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน”
หลิวลั่วอี้ยอมทำตาม และนางสั่นผวา กลีบงามๆ นั้น กำลังทำให้ชายหนุ่มสาสมใจ และเขาไม่ยอมลดความแรงลงสักนิด ราวกับม้าศึกที่ห้อตะบึงฝ่ากองทัพของศัตรู
กระทั่งหลิวลั่วอี้ เห็นว่าคิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน สีหน้าดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย ทั้งเหงื่อผุดพราวบนหน้าผากจึงเอ่ยถาม
“ฝ่าบาทจะเสร็จข้างใน หรือ...อยากให้หม่อมฉัน ใช้ปากช่วย!”
หลิวลั่วออี้ยื่นขอเสนอ และมันทำให้อู๋เหยากวนหัวเราะหึๆ
“เราจะเสร็จพร้อมกัน และน้ำที่สองเจ้าต้องกลืนของเราลงท้องให้หมด”
เมื่ออู๋เหยากวนเอ่ยเช่นนั้น หลิวลั่วอี้จึงเสียวซ่านใจ นางทั้งตอดรัดเขา ทั้งร้องครางเสียงหวานจัด ผิดกับซย่าพ่านเอ๋อร์ ที่ยามนี้แม้พยายามเหลือเกินให้อู๋เหยากวนสนใจตน ทว่าฝ่ายนั้นเพียงแค่ให้นางคอยเป็นคนปลุกเร้าหลิวลั่วอี้เท่านั้น
“ฝ่าบาทจะไม่เหลียวแลหม่อมฉันสักเพียงนิดเลยหรือเพคะ”
อู๋เหยากวนรำคาญใจ แต่เขาไม่อยากอารมณ์เสีย จึงเป่าปาก จากนั้นตัวช่วยจึงเผยตัว
“คนของเสี่ยวอี้ย่อมเป็นงาน ให้พวกเขาสนุกอยู่ใกล้ๆ เจ้า เรื่องนี้ถือสาหรือไม่!”
หลิวลั่วอี้ยังจับต้นชนปลายไม่ทัน ทว่าพอเห็นซีเกอ ขันทีซึ่งนางเอ่ยปากไว้ว่าจะให้เขาคอยรับใช้ปรากฏตัว และคราวนี้ส่วนนั้นที่ถูกตัดไปครึ่งหนึ่ง ถูกต่อด้วยปลอกชนิดพิเศษ ซึ่งทำจากยางไม้แหละหนังสัตว์ รูปร่างมันมองเผินๆ เหมือนว่า ขันทีผู้นั้นมีขนาดเครื่องเคราที่ทั้งยาวใหญ่ ชวนให้ตื่นตะลึง
“อ๊ะ... นี่มันคือสิ่งใดกัน”
“เลือกเอา หากอยากมีความสุข เจ้าจงเสพรักกับขันทีผู้นั้นเสีย แต่หากอยากออกจากบ่อน้ำพุร้อน และไม่ต้องกลับมาเมืองหลวงอีกเลย ข้าจะให้องครักษ์ส่งเจ้าออกไปในทันที”
ได้ยินเช่นนั้น ชย่าพ่านเอ๋อร์ย่อมเข้าใจความประสงค์ของอู๋เหยากวน
6
เสี่ยวอี้จงวางใจเถิด
เกือบหนึ่งเดือนแล้วที่หลิวลั่วอี้ ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นพระสนมคนโปรด (ในที่นี่กำหนดให้เป็น หวงกุ้ยเฟย) ซึ่งมีฐานะเป็นรองก็แค่ฮองเฮาหนึ่งขึ้น เรื่องที่เกิดขึ้นเหนือความคาดหมายของผู้คนยิ่งนัก แต่สำหรับหลิวลั่วอี้ ย่อมทราบดีว่า ทุกอย่างก็แค่ฉากหนึ่งในระบบที่นางโผล่เข้ามา เหนืออื่นใด ยามนี้นอกจากจะต้องทำให้ตนกุมหัวใจอู๋เหยากวนให้ได้ โดยที่เขายกนางขึ้งเป็นสตรีที่ควบคุมวังหลัง นอกจากมีตราหงส์ในมือ นางยังต้อง ทำให้ตนเป็นผู้กุมอำนาจอย่างแท้จริง จากนั้นระบบจะส่งตัวนางกลับโลกปัจจุบัน
ทุกอย่างดูเหมือนจะง่าย และยามนี้ผู้อื่นที่อยู่รอบกายนาง ก็เป็นเพียงตัวละครที่สติปัญญาตื้นเขิน บางครานางต้องแปลกใจ เพราะพวกเขาโผล่ไปโผล่มา บ้างก็หายไปเสียดื้อๆ
ส่วนคนที่นางพบหน้ามากที่สุด ย่อมเป็นอู๋เหยากวน และยามนี้ เขามีความเครียด นั่นเป็นเพราะขุนนางฝั่งหนึ่ง ยื่นฎีกาให้ถอดหลิวลั่วอี้จากตำแหน่งหวงกุ้ยเฟย
“หากสิ่งที่พระองค์ไม่สบายใจเกี่ยวกับหม่อมฉัน เรื่องนี้นับว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง”
“เฮ้อ ทุกอย่างล้วนเป็นเราที่ไม่เด็ดขาดกับคนพวกนั้น ทั้งที่เจ้าก็คือคนโปรด เป็นสตรีที่มีจิตใจเมตตา ทุกวันข้าเห็นเจ้าเพียร เข้าครัว และแจกจ่ายยาให้เหล่านางกำนัลที่สุขภาพไม่สู้ดี”
เขาชมนาง และนั่นออกจากเกินจริงสักหน่อย เพราะให้ดีที่สุด ในโลกนี้หลิวลั่วอี้มีเพียงความงาม และการปรนนิบัติบุรุษบนเตียงอย่างยอดเยี่ยม
“แต่พวกเขายังนั่งคุกเข่าที่หน้าตำหนักกลาง และเปล่งเสียงน่ารำคาญไม่หยุด เพื่อรบกวนฝ่าบาท”
“ฮึ ข้าอยากรู้นัก คนพวกนี้จะมีแรงสักเพียงใด อีกอย่างหากไม่มีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ไฉนจะกล้าทำเรื่องบัดซบได้”
แม้ใจหลิวลั่วอี้อยากทำคะแนนให้สูงๆ และได้โบนัสพิเศษ แต่สถานการณ์เช่นนี้ ชวนให้ต้องขบคิดอยู่สักหน่อย นอกจากนั้น นางอยากเอาชีวิตรอดในระบบที่โผล่เข้ามาเท่านั้น แต่เมื่ออยู่ที่นี่ นานเข้าก็เริ่มเห็นใจผู้อื่น ทั้งยังนึกสงสารเหล่านางกำนัล และเหล่าขันทีชั้นผู้น้อย
“อย่างไร ขอให้ฝ่าบาท เมตตาผู้ที่ไร้ปากและเสียงในวังหลวงแห่งนี้ พวกเขามีชีวิตเพื่อรับใช้ผู้อื่น บางคราเมื่อหิว หรือเจ็บป่วย ก็ไม่ได้รับการดูแลที่ดี”
“เสี่ยวอี้วางใจเถิด หากเจ้ารักชอบที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ข้าจะให้เจ้าได้ทำสิ่งเหล่านี้ด้วยความสุข ส่วนหน้าที่ของเราย่อมต้องดูแลเจ้า พร้อมกับมอบอำนาจที่ควรมี เพื่อให้เจ้าได้ทำกุศลอันยิ่งใหญ่สมใจ”
หลิวลั่วอี้ดีใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น ทว่านางรู้ดี ชีวิตในระบบ นางอยู่เพื่อทำให้อู๋เหยากวนคลั่งรักเท่านั้น เมื่อนางกุมหัวใจเขาทั้งสี่ห้องได้ ภารกิจนี้ก็สำเร็จ
“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่วางใจหม่อมฉัน”
“นั่นเพราะเราเห็นว่า เจ้าคือสตรีที่คู่ควรให้บุรุษรักและดูแล”