ตอนที่ 8
ปวดหัวล่าง
สายวันถัดมาที่ค่ายมวยของนักรบ แลเห็นรถคันคุ้นเคยแล่นเข้ามาจอดอย่างเร็วรี่ โดยมีสายตาของเจ้าบ้านที่มองมาแล้วส่ายหน้าเบาๆ
"อ้าว ทำไมเธอถึงมาส่งเองล่ะ หรือว่ายัยนั่นเมาจนมาไม่ได้" เสียงค่อนขอดของนักรบดังมาแต่ไกลก่อนเจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก
"พี่เมรีไม่ว่างค่ะ ไปกับผู้ แต่เดี๋ยวเสร็จแล้วก็คงตามาแหละ"
สาวน้อยเอ่ยน้ำเสียงสดใสอย่างไม่ได้คิดจะตั้งใจยั่วยุสักนิด เพราะคนที่เธอหมายถึงนั่นไม่ใช่ใครอื่นเลย นอกจากครูภัทรเจ้าเดิมนั่นเอง ทว่าประโยคไม่ได้มีความหมายแอบแฝงของเธอแอบทำนักรบสะดุดไปเล็กน้อย ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นเรียบขรึมเหมือนเคย
"แล้วนี่ผมไม่ได้สั่งเหล้าเยอะขนาดนี้นะ พี่สาวคุณมัวสนใจเรื่องอื่นจนเช็กออเดอร์พลาดรึเปล่า"
"เปล่าค่ะ พวกเราตั้งใจเอามาให้เพิ่ม ถือว่าคืนกำไรให้ลูกค้าแล้วก็ฉลองให้เพื่อนของหนูด้วย" สาวเจ้าว่าพร้อมกับหันไปยักคิ้วให้คนที่เพิ่งเดินมาสมทบ เพื่อช่วยสาวเจ้ายกลังใส่สุราท้ายรถนั่น
"ทั้งสองคนรู้จักกันด้วยเหรอ"
"รู้สิคะ เราสองคนสนิทกันจะตาย เนอะ"
เมื่อคนงามโยนมุกมามีหรือสิงห์จะไม่ตอบรับ ตามประสาคนอยากเอาใจ
ยิ่งเห็นรอยยิ้มหวานที่สาวเจ้าส่งมาให้หัวใจนักมวยหนุ่มก็คล้ายกับว่าจะละลายลงทุกที หากแต่ก็เพียงประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น เมื่อเธอเหมือนจะหมดความสนใจในตัวเขาลง แล้วหันไปส่งยิ้มหวานให้ผู้เป็นนายแทน เขาจึงทำได้เพียงแค่ก้มหน้ายกลังเครื่องดื่มเดินเลี่ยงไปอย่างรู้งานเท่านั้น
"แล้วนั่น อะไรอีกล่ะ เต็มไม้เต็มมือเชียว" นักรบเอ่ยปากถามขึ้นพลางพยักพเยิดไปทางถุงของสดที่ถูกวางปะปนกันมากับกล่องลังสีน้ำตาลอ่อน
"แหม กินเหล้าแล้วขาดกับแกล้มมันจะไปอร่อยได้ไงคะ หนูเลยอาสาจะมาให้คุณกิน อุ๊ย! อาสามาทำให้คุณทานไงคะ"
"ผมว่าไม่สะดวกหรอกครับเดี๋ยวคุณจะเหนื่อยเปล่าๆ ผมไปซื้อเองดีกว่า คุณเอาเวลาไปตามดูพี่สาวคุณนั่นเถอะ เดี๋ยวก็ได้ไปเมาให้คนอื่นมาส่งอีกหรอก"
"แล้วทำไมคุณต้องทำเสียงเหมือนกำลังไม่พอใจอยู่ด้วยละคะ อีกอย่างคุณเอาแต่พูดถึงพี่สาวหนูตลอดเลยนะ ทั้งๆ ที่หนูก็อุตส่าห์หวังดีแท้ๆ"
สาวน้อยเมรัยเอ่ยเสียงเบาคล้ายน้อยใจเล็กๆ ที่เห็นว่าคนตัวโตเหมือนจะสนใจพี่สาวมากกว่าเธอ จนนักรบชะงักไปนิดหนึ่งราวกับเหมือนเพิ่งรู้ตัวยิ่งเห็นสาวน้อยก้มหน้าด้วยท่าทีหงอยเหมือนไก่ใกล้ตายก็ยิ่งรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กๆ
"ผมก็ไม่ได้สนใจใครทั้งนั้นแหละ เอ้า! เลิกตีบทนางเอกได้แล้วครับ ถ้าอยากทำก็ตามมาเดี๋ยวผมพาไปครัวเอง"
เขาว่าแค่นั้นแล้วฉวยเอาของในมือเธอมาถือไว้ก่อนจะเดินนำหน้าไปเลย
โดยไม่รู้สักนิดว่าสาวน้อยช่างฝันผู้เพิ่งจะเล่นบทเศร้ากำลังยกยิ้มขึ้นมาอย่างชอบใจที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างใจคิด มันก็จริงอยู่ที่ว่าเธออดอิจฉาเล็กๆ ไม่ได้ ที่คนพี่เหมือนทำคะแนนนำหน้าจนสามารถทำให้ชายตัวโตออกอาการเหมือนแคร์อีกฝ่ายได้ หากแต่ก็แค่อิจฉาเท่านั้นไม่ได้มีความริษยาใดๆ เพราะอีกฝ่ายก็คือพี่สาวของเธอ ที่พร้อมจะลงให้นั่นเอง
นักรบนั้นเดิมที่ตั้งใจว่าจะแค่ถือของแล้วก็พาเธอเข้ามาที่ห้องครัวเท่านั้นก็จะแยกออกไป ด้วยว่าไม่ค่อยไว้ใจในความคิดของพี่น้องคู่นี้นัก เพราะดูท่าแล้วคงจะแสบพอๆ กัน
ทว่าความตั้งใจของเขาก็ถูกลูกอ้อนของเธอพังทลายลง เมื่อสาวเจ้าใช้สายตาและน้ำเสียงออดอ้อนให้ชายหนุ่มอยู่ทำอาหารด้วยกัน แถมยังร้องขอมือถือของเขาเพื่ออ้างว่าจะมาเปิดดูเมนูอาหารในวิดีโอที่สอนตามสื่อออนไลน์
"ถ้ามันวุ่นวายขนาดนั้นก็เปลี่ยนเมนูเถอะ ผมจะได้ไม่ต้องวุ่นวายไปด้วย"
เจ้าบ้านหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายอย่างเห็นได้ชัด ทว่าคนหมายมั่นปั้นมือแล้ว มีหรือจะเลิกล้มความตั้งใจลงง่ายๆ
การได้ดูมือถือเรื่องเดียวกัน ทั้งยังได้ช่วยกันทำอาหารแบบนี้ความใกล้ชิดย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา แล้วหลังจากนั้นทั้งคู่ก็จะมีโอกาสได้สบตากับเธอในระยะประชิด จากนั้นก็เกิดอาการตกหลุมรักไม่รู้ตัว เหมือนกับฉากรักในละครที่เธอดูประจำและนำมาใช้
"นี่! ฟังอยู่รึเปล่า แล้วยิ้มอะไรล่ะนั่น อากาศร้อนรึไง" สาวน้อยไหวกายขึ้นมาจากการหลุดจากภวังค์ เพราะเขาร้องเรียกด้วยเสียงค่อนข้างดัง เมื่อเห็นสาวน้อยเอาแต่ยิ้มกริ่มและหัวเราะในลำคอราวกับตัวร้ายในทีวี
"ทำหน้าแบบนี้ ไม่ได้ฟังใช่ไหม ที่เมื่อกี้ผมบอกว่าทำไมไม่เปลี่ยนเมนูเป็นอย่างอื่น จะได้ไม่ต้องมาลำบากผมแบบนี้"
"ได้ไงกันคะ เมนูพวกนี้ถึงจะมองว่าเป็นกับแกล้ม แต่มันแฝงไปด้วยประโยชน์นะ มันดีต่อสุขภาพของนักมวยในค่ายคุณด้วย อย่าทำให้หนูเสียความตั้งใจสิคะ ถ้าคุณไม่เต็มใจช่วยก็ออกไปเลยสิ นี่ถ้าหนูไม่ลืมเอามือถือของตัวเองมา คงไม่รบกวนหรอกค่ะ"
คนตัวโตถอนหายใจออกมาให้กับความหวังดีอันพ่วงมาด้วยคำประชดนั่น ก่อนจะยื่นมือถือส่วนตัวในเธอไปอย่างจำยอม แล้วเอ่ยถามหน้าที่ของเขาถึงการเป็นลูกมือของเธอ
"เอาผักไปล้างรอเลยค่ะ เดี๋ยวหนูขอดูขั้นตอนอื่นก่อน" คนตัวโตพยักหน้ารับแกนๆ พลางทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย แม้ในใจจะกำลังก่นด่าตัวเองที่ชอบยอมตามใจสองสาวพี่น้องนี่นัก
ฝ่ายสาวน้อยเจ้าแผนการนั้นยกยิ้มกรุ้มกริ่มออกมาคนเดียวเมื่อเห็นอีกฝ่ายพ่ายแพ้แก่ความดึงดราม่าของเธอ
ทว่าในขณะที่แผนทำตามซีรีส์เกาหลีเหมือนจะไปได้สวย หัวสมองเจ้าแผนการของเธอก็พลันนึกอยากเปลี่ยนแผนขึ้นมาอย่างฉับพลัน เมื่อสายตาพบเจอเข้ากับกล่องข้อความของสิ่งแปลกใหม่บางอย่างที่เธอไม่เคยเห็น ทว่าเป็นสิ่งปกติมากสำหรับผู้ชายวัยยังมีความกำหนัดเต็มเปี่ยมแบบเขา
'เอาว่ะ อยากลองดูเหมือนกัน ไอ้อะไรแบบนี้ เผื่อฟลุ๊คได้เขาเป็นสามีในฝันก่อนพี่เมรี' คนงามคิดแบบนั้นแล้วสัมผัสปลายนิ้วไปยังกล่องข้อความแจ้งเตือนทันที โดยไม่ลืมเพิ่มเสียงมือถือให้ดังสุด
เสียงครางรัญจวนใจของสาวต่างชาติผสานกับจังหวะของเนื้อกระทบกันดังลอยเข้าหูของคนตัวโตทันที เขารีบถลาเข้ามาหาสาวเจ้า พลางคว้าเอามือถือไปกดปิด 'หนังรักเร่าร้อน' ในมือถือของตนด้วยอาการลุกลี้ลุกลนผิดปกติ
"อะไรกันคะ ขอหนูดูต่อไม่ได้เหรอคะ"
"ไม่ได้! อยากดูก็ไปดูของตัวเอง เอ่อ หมายถึงในมือถือของตัวเองสิ!"
"ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวพี่เมรีจับได้ก็มาขอดูด้วยสิ เดี๋ยวพี่เมรีมาเจอก็ใจแตกกันพอดี" คนงามพูดพร้อมส่ายหน้าไปมา โดยไม่รับรู้สักนิดว่าในสายตาของนักรบนั้นทั้งสองคนพี่น้องมันเลยคำนั้นไปแล้ว
"งั้นก็เอาไปดูในห้องน้ำคนเดียวไป"
"ไม่เอา หนูอยากให้คุณดูเป็นเพื่อนนี่"
"บ๊ะ! คุณนี่ ก็ถ้าเป็นการ์ตูนผมจะไม่ว่าหรอก แต่นี่มันหนังโป๊นะ หนังโป๊อ่ะเข้าใจไหม"
สาวน้อยแอบอมยิ้มออกมาเพราะเข้าใจดีกับความหมายนั่น แต่ก็ยังคงตีหน้าใสเหมือนเคย
"ก็ได้! งั้นหนูไปชวนเจ้าสิงห์ดูก็ได้ ฮึ บันเทิงแน่งานนี้" คนงามว่าแล้วก็สะบัดหน้าหมายจะเดินออกไปจริงๆ จนเขาต้องร้องเรียก
"ไม่ได้นะคุณ แบบนั้นมันก็กวนเวลาเจ้าสิงห์กันพอดี ผมยิ่งจะปั้นเขาอยู่"
"ก็ช่างสิ เขาเป็นคนสนิทหนูนี่ ให้ดูหนังเป็นเพื่อนแค่นี้ไม่เป็นไรหรอกมั้ง"
คนดื้อรั้นยังคงแสดงความต้องการต่อไป จนในที่สุดนักรบก็ต้องยอมเธออีกครั้ง
"นี่นายหัวคะ เขาร้องแบบนั้นนี่ เจ็บมากรึไงคะ ดูท่าทางจะเจ็บหน้าดูเลยดูเขาทำหน้าเข้าสิ"
สาวน้อยร้องถามเหมือนกับว่าเอ่ยเรื่องปกติ ทั้งที่สายตากำลังจับจ้องคนในจอกำลังเล่นบทรักกันอย่างถึงพริกถึงขิงอยู่ และนักรบที่ถูกเธอบังคับให้มาดูหนังอย่างว่านี่ด้วยเลือกจะไม่ตอบอะไร เพราะพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ไม่ให้ส่วนล่างนั้นตื่นตัวขึ้นมา
"ผู้หญิงคนนี้นมสวยจัง แต่ไม่เท่าของหนูหรอก เพราะของหนูน่ะทั้งขาว ทั้งใหญ่กว่า แถมข้างล่างก็แดงระเรื่อกว่านี้อีก"
นักรบที่นั่งฟังเธอวิจารณ์สาวในจอแบบนั้นอย่างกับนั่งบรรยายชีวประวัติ ถึงกับลอบกลืนน้ำลายลง เมื่อจินตนาการตามคำพูดของเธอ ลำพังแค่ดูหนังแบบนี้ก็มีอารมณ์จะแย่แล้ว แต่นี่เล่นมีสาวสวยผู้โฆษณาตัวเองว่าดีกว่าอย่างไรบ้าง พลันแกนกายของเขาก็ยิ่งพองโตจนปวดหนึบไปหมดแล้ว
"อุ๊ย! ว้าว ของคุณนี่ท่าจะใหญ่กว่าผู้ชายคนนี้อีกนะคะ หูย"
สาวน้อยผู้ซุกซนร้องบอกพลางจู๋ปากทำเสียงจิจ๊ะเมื่อสายตามองไปยังเป้ากางเกงของเขาที่เริ่มขึ้นรูปอย่างเห็นได้ชัด เมรัยเองก็รู้สึกไม่ต่างจากเขานักหรอก การได้มาเปิดโลกใหม่แบบนี้บวกกับเอ็น 'ของจริง' ภายใต้กางเกงนั่นก็เริ่มรู้สึกร้อนผ่าวจนอยากลองขึ้นมาเสียอย่างนั้น
"งั้นเพื่อให้ครบสูตร เรามา....เอ้า! นายหัว จะไปไหนคะ จะออกไปทั้งอย่างนั้นเลยรึไง นายหัว!"
เมรัยที่กำลังจะชวนเขาแสดงบทรักเอง กับต้องร้องลั่นออกมาอย่างขัดใจปนงุนงงเมื่อฝ่ายชายกุมเป้า เดินเร็วรี่หนีเธอไปเสียดื้อๆ
"อะไรวะ! แล้วจะทำไงล่ะทีนี้" สาวเจ้าพึมพำกับตัวเองแบบนั้นอย่างนึกเซ็ง
ฝ่ายนักรบที่เกินแกมวิ่งนั้น ถึงกับเป่าปากออกมาเมื่อพ้นจากอาการวิกฤตจากการต้องตกไปอยู่ในภาวะดวงตกเพราะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิงเสียแล้ว
"เฮ้อ! ยัยบ้าเอ๊ย เกือบอดใจไม่ไหวแล้วไหมล่ะ บ้าบอทั้งพี่ทั้งน้องเลย! ซีดส์ ไอ้เจ้านี่ก็ไม่ยอมอ่อนเลยนะ จะบ้าตาย ต้องไปจัดการที่ห้องอีกแล้วสินะ ช่วงนี้นางทั้งห้าทำงานหนัก ตั้งแต่ยัยสองพี่น้องนี่เข้ามาในชีวิต...อึก"
แม้จะพูดเหมือนง่าย ทว่ากว่าจะถึงห้องของตัวเอง ความปวดหนึบก็เล่นงานชายหนุ่มจนเขาแทบแย่ แล้วยิ่งต้องเดินผ่านเหล่าเด็กในค่ายแล้วด้วย คงได้อายกว่าเดิมแน่ที่อยู่ๆ นายหัวของค่ายมาพาน้องชายส่วนล่างเดินผงาดชี้หน้าลูกค่ายแบบนี้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงต้องจำยอมทนเดินหนีบขากระดกก้นไปอย่างช้าๆ
ทว่านั่น กลับยิ่งสร้างความแปลกใจให้ลูกน้องมากกว่าเก่าเสียอีก
"นายหัวเป็นอะไรครับ ปวดท้องเหรอ เดินประหลาดเชียว" นักรบไม่ได้ตอบอะไรออกมานอกจากเร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าเดิม ทั้งที่ในใจอยากร้องตอบออกไปว่า....
"ไม่ได้ปวดท้อง แต่ปวดหัวล่างโว๊ย!"