ตอนที่ 5
เมรัยจะเอาคนนี้
เช้าตรู่ที่ค่อนไปทางสายๆ สิงห์ที่ถูกฝากฝังโดยนายหัวนักรบว่าให้มาส่งยัยขี้เมากลับบ้าน เพราะอาการของเธอดูไม่สู้ดีนัก แม้จะเป็นคอเหล้าแต่การดวลเหล้ากับนักรบเมื่อคืนก็ทำเอาสาวเจ้าเมาหนักและเกิดอาการเมาค้างปวดหัวตุบๆ เสียดื้อๆ สิงห์จึงโดนไหว้วานโดยเจ้านายให้พาเธอมาส่งแถมให้ลูกน้องอีกคนขับรถเธอกลับมาด้วย เมื่อมาถึง
คนน้องอย่างเมรัยที่วันๆ ไม่ค่อยได้ใส่ใจความเป็นอยู่ของพี่สาวนักกลับต้องตาเบิกโพลงเมื่อเห็นเป็นรถจากค่ายมวยไกรสรสีห์มาส่งพี่สาว เธอวิ่งหน้าตั้งออกไปรับพี่สาว ใช่ว่าเป็นห่วงแต่อยากรู้เรื่องราวทั้งหมดต่างหาก
เมื่อร่ำลาและขอบคุณสิงห์เรียบร้อย เมรีที่กำลังเดินเซจะเข้าบ้านก็ถูกน้องสาวกระชากตัวเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว เธอพาพี่สาวมานั่งที่ปลายเตียงมือสองข้างก็เท้าเอวเชิงเจ้ากี้เจ้าการถาม
"นี่พี่ เมื่อคืนไม่กลับบ้านทั้งคืน แล้วเช้านี้รถจากค่ายมวยมาส่งอีก นี่ไม่ใช่ว่าเมาจนต้องนอนค้างค่ายมวยเลยรึ"
"โอ๊ย เมรัย แกจะแหกปากทำไมวะ หนวกหู" คนพี่พูดด้วยท่าทีรำคาญพลางมือก็คว้าหมอนเพื่อจะทิ้งตัวลงนอนแต่คนน้องรั้งเธอไว้ก่อนจะถามขึ้นอีกครั้ง
"อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนพี่ไปนอนกับพวกนักมวยอ่ะ โถ่พี่ก็พอรู้นะว่าเป็นยัยขี้เมาแต่ก็ไม่น่าถึงกับปล่อยตัวให้ไอ้พวกนั้นมั้ย ไม่ใช่ว่าโดนเอาจน..."
"โอ๊ยเมรัย แกเป็นน้องหรือเป็นแม่กันแน่ว่ะ ฉันไม่ได้ไปนอนกับพวกนักมวยโว้ย เออถ้าเจ้าของค่ายมวยก็ว่าไปอย่าง" คนพี่พูดออกมาแบบไม่ได้คิดอะไรแต่นั่นกลับยิ่งทำให้เมรัยของขึ้น เธอเขย่าตัวพี่สาวพลางปากก็ถามอย่างอยากรู้
"นี่ เจ้าของค่าย อย่าบอกนะว่าพี่ไปนอนกับนายหัวมา" คนน้องตาเบิกโพลงใจเต้นกระตุกกับสิ่งที่กำลังคาดเดา
"เออ ไปนอนกับเขามา แต่ไม่ได้เอากัน"
"ห๊ะ ยังไงกันแน่เล่ามาซิ"
หลังจากนั้นเธอก็เล่าทุกอย่างให้น้องสาวคนสวยฟัง เมรัยฟังแล้วยังโล่งใจที่นักรบยังไม่ถูกจับทำผัวจริงๆอย่างที่พี่สาวเธอตั้งใจ
"เฮ้อโล่งอก นายหัวของหนู" คนน้องพูดขึ้นมาอย่างโล่งใจ
"อะไรวะแทนที่จะห่วงชั้น ยัยน้องคนนี้" คนพี่พูดพลางกอดอกแน่น
"ห่วงพี่ทำไม ต้องห่วงเขาสิ กลัวว่าพี่จะไปปู้ยี่ปู้ยำเขา"
"เหอะ น้อยๆ หน่อย คนอย่างพี่อ่ะ...แต่เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่าแกก็เล็งตาหนวดนั่นอยู่" คนพี่ขมวดคิ้วเข้าหากันพลางเค้นหาความจริงจากดวงตาคู่สวยนั่นอย่างเอาเป็นเอาตาย
"เออ หนูชอบเขา เขาคือชายในฝัน สามีแห่งชาติ พระเอกที่หลุดมาจากซีรีส์ เขาคือ..."
"พอ...พอเลยเมรัย คนนี้พี่จอง แกไปหาคนอื่นเลย"
"ได้ไง เป็นพี่ต้องเสียสละให้น้องมั้ย" คนงามแง่งอนแก้มป่องใส่พี่สาวตัวเอง เพราะเธอก็ปลื้มนักรบมากและไม่อยากถอย
"เมรัย พี่เห็นแกไม่เคยจริงจังกับใครสักที วันๆ บ้าแต่ดาราซีรีส์ นิยาย เดี๋ยวแกก็เบื่อ เพราะงั้นตาหนวดนี่พี่ขอ" คนพี่ไม่มีท่าทีว่าจะยอมทำเอาคนน้องต้องเค้นเสียงดุใส่
"ไม่เอา หนูจะจีบเขาทำผัวเหมือนกัน พี่อย่ามาแย่งนะ สามีแห่งชาติของหนู"
พูดด้วยดวงตาหยาดเยิ้มชวนฝันเพราะนึกถึงหน้าของนักรบชายที่ทั้งสองกำลังเอ่ยถึงอยู่
"โอ๊ยไอ้นี่ ถ้าแกไม่ยอม งั้นก็จีบเขาทั้งสองคนนี่แหละ มาดูกันว่าเขาจะเลือกใคร"
สองสาวหน้าตาดีที่ไม่ได้ดีเพียงหน้าตาแต่หุ่นของพวกเธอเต็มไม้เต็มมือจนผู้ชายต้องเหลียวหลังกลับต้องมาตกลงกันว่าจะจีบผู้ชายคนเดียวกัน ช่างพิลึกพิลั่นแต่มันก็เป็นไปแล้ว สองคนพี่น้องต่างตกลงกันว่าจะเข้าหาเขาโดยจะไม่ขัดขากันเอง
และไม่ว่าเขาจะเลือกใครอีกฝ่ายต้องยอมรับให้ได้ นั่นคือการประกาศสงครามขนาดย่อม
ฝั่งคนพี่ที่เมาค้างทิ้งตัวลงนอน ส่วนคนน้องคิดว่าเมรีก้าวหน้าขนาดไปนอนกับเขาได้ งั้นเธอก็ต้องรีบทำคะแนน
และอีกเรื่องที่หญิงสาวถนัดคือการทำอาหาร
"หึ แม่ศรีเรือนอย่างหนู จะเอาชนะยัยขี้เมาใส่ผ้าถุงแบบพี่ให้ดู"
คิดแล้วก็สะบัดตูดเดินเข้าครัวไปทันที ก่อนที่สิงห์จะกลับไป เมรัยได้แลกเบอร์กับเขาไว้ สิงห์เป็นเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ และมองดูแล้วไม่มีพิษมีภัยอะไรทั้งคู่จึงเข้ากันง่าย เมรัยเรียบๆ เคียงๆ ถามหานายหัวนักรบ ซึ่งสิงห์ก็ตอบว่าดวลเหล้ากับเมรีจนเมาแฮงค์ไม่ต่างอะไรกับพี่สาวเธอ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจจะเข้าครัวไปทำอาหารแก้แฮงค์ให้นักรบนั่นเอง
เมรัยเข้าครัวทำอาหารเตรียมใส่กล่องอย่างดี โดยเธอเลือกอาหารที่จะช่วยลดการเมาค้าง เพราะอยากเอาชนะใจนักรบ จากนั้นก็รีบแต่งหน้าแต่งตัวซะสวยและยกกับข้าวไปที่ค่ายมวยทันที
นับรบที่กำลังเมาค้างอยู่หน้าคอมเห็นสาวทรงโตเดินเข้ามาในค่ายใจก็นึกไปว่าเป็นยัยเมรีขี้เมานั่นก็ถึงกับส่ายหัวไปมาและคิดในใจว่าเธอมาตามตื๊อเขาอีกแล้วสินะ แม่จะคิดแบบนั้นแต่หัวใจกลับเริ่มเต้นขึ้นมาเสียดื้อๆ เมื่อนึกถึงใบหน้าตอนหลับกับรูปร่างแสนยั่วเย้าของเธอ ความเป็นชายที่มันมักปึ๋งปั๋งเกินหน้าเกินตาตามประสาชายวัยกำหนัดก็เริ่มทำหน้าที่แข็งตัวขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะฝ่อลงเมื่อดวงตาคู่คมจ้องมองไปยังหญิงสาว ที่เกือบเหมือนเมรีทุกประการแต่ก็แตกต่างจนรู้สึกได้ ยัยนี่ไม่ใส่ผ้าถุงแต่ใส่เสื้อเชิ้ดตัวโคร่งและบราตัวบางเผยให้เห็นหน้าอกที่มันแทบทะลักออกมาจากชั้นใน
"นายหัวคะ นายหัว...เอ่อ" เมรัยคนน้องพยายามเรียกสติคนที่กำลังจ้องมองเธอราวกับเห็นตัวประหลาดทำเอาหญิงสาวแอบหมดความมั่นใจแต่ก็ยังใจดีสู้เสือเอ่ยเสียงน่ารัก
"คือหนูชื่อเมรัยเป็นน้องพี่เมรีค่ะ อยากจะมาขอโทษที่พี่สาวสร้างความเดือดร้อนให้ หนูทำอาหารแก้เมาค้างมาฝากด้วย"
น้ำเสียงใสของหญิงสาวดึงนักรบออกมาจากห้วงความคิด ใบหน้านวลงามและดวงตากลมโตที่ขับให้มันสวยด้วยสีดำทำเอาชายหนุ่มถึงกับตะลึงงันแถมหุ่นของเธอ
ถ้าเดาไม่ผิด...ก็คงไม่ห่างไกลจากคนพี่นักแค่มองก็ยั่วน้ำลายจนทำเอาหนุ่มใหญ่ต้องแอบกลืนลงคอ
'ไม่ได้ดิวะ ช่วงนี้ต้องห่างผู้หญิง ยัยขี้เมานั่นคนหนึ่งแล้ว ต้องมารับมือน้องยัยขี้เมาอีกรึ'
คิดแล้วก็ขยาด จริงอยู่ที่ว่าเขากลัวผู้หญิงตามความเชื่อ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือสองพี่น้องนี่น่ากินจนเขากลัวตัวเองเผลอใจไปต่างหาก
แล้วก็ต้องหยุดไว้ก่อน ดูท่าว่าเธอจะมาด้วยจุดประสงค์เดียวกับพี่สาวแน่ๆ เพราะดูจากแววตาที่อยากกระโจนเข้าหาเขาอย่างปิดไม่มิดนั่นเหมือนกันยังกับแกะ
"ครับ ลูกสาวลุงมงคล เอ่อไม่ทราบว่า..."
"หูย เรียกกันห่างเหินจังคะ เรียกหนูเมรัยก็พอ"
หญิงสาวเห็นท่าทีกระอักกระอ่วนของเขาก็ไม่รอช้า ไม่อยากให้เขาปฏิเสธ เธอรีบจัดแจงปิ่นโตที่ถือติดมามาโดยการเปิดมันออกและวางเรียงรายไว้หน้าโต๊ะทำงานของนายหัวนักรบอย่างกระตือรือร้น
ของที่สาวน้อยนำมามีแซนด์วิชไข่ต้ม ซุปมักกะโรนีไก่ และสมูทตี้ผลไม้รวม วางเรียงรายหน้าตาของอาหารบ่งบอกถึงความเอาใจใส่เล่นเอาคนมีเคราถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคอกับความหน้าตาดีของอาหาร แต่ก็ยังไม่ไว้ใจหญิงสาวอยู่ดี
"ของพวกนี้ช่วยลดอาการเมาค้างได้ นายหัว รีบทานสิคะได้รู้สึกดีขึ้น"
เมื่อเห็นว่านักรบกำลังงุนงงเธอก็รีบคะยั้นคะยอโดยการตักอาหารหมายจะป้อนเขา แต่มือใหญ่ก็รีบคว้าช้อนจากมือเธอก่อนและยัดมันเข้าปากขัดจังหวะนั่นเสียจนหญิงสาวหน้ามุ่ยลงพร้อมกับพรูลมหายใจออกมาอย่างขัดใจ
"ผมทานเองได้ ขอบคุณครับ" นักรบเอ่ยเสียงเรียบแต่ทันทีที่อาหารเข้าปากตาของเขาก็เป็นประกายทันที
เมรัยมีฝีมือในการทำอาหารมากเนื่องจากเธอดูคลิปสอนทำอาหารบ่อยๆ และนี่ก็เป็นข้อดีของเธอ เมื่อเห็นชายหนุ่มตักอาหารเข้าปากไม่หยุดรอยยิ้มก็ผุดขึ้นที่มุมปากของเธอทันที
"อร่อยใช่มั้ยคะ นี่สูตรจากเชฟกระทะหลุด เอ๊ย เชฟกระทะเหล็กเชียวน่า" หญิงสาวหัวเราะร่วนกับมุกฮาๆ ฝืดๆ ของตัวเองทำเอาใบหน้าโหดๆ ของชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นมาตามอย่างเสียไม่ได้ แต่ก็ต้องรีบหุบยิ้มเมื่อคนน้องมองมาอย่างจับผิด
"กะ ก็อร่อยดีครับ ขอบคุณมากนะ"
"จ๊ะ ไม่เป็นไรเลยค่ะ ยังไงหนูขอฝากตัวด้วยนะคะ"
พูดจบก็เดินออกจากห้องทำงานของเขาไปอย่างอารมณ์ดีทิ้งชายหนุ่มกับ ซุปมักกะโรนีไก่ ไว้เบื้องหลัง นักรบยิ้มออกมาแบบไม่รู้ตัวและตักมันเข้าปากคำแล้วคำเล่าอย่างเอร็ดอร่อย
ก่อนจะต้องสะดุ้งเฮือกเมื่ออีกฝ่ายหันมาส่งยิ้มหวานให้ก่อนกลับ ประจวบเหมาะกับใครบางคนที่เดินเข้ามาชนเธอพอดี เมื่อหญิงสาวหันไปดูก็พบว่าเป็น พลอยใส แม่ค้าส้มตำเจ้าดังในหมู่บ้านที่มีร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามค่ายมวย
พลอยใสชนแล้วแต่กลับมีท่าทีเรียบเฉยไม่เอ่ยแม้แต่คำขอโทษ แถมตะโกนเสียงเจื้อยแจ้วว่า "ส้มตำแซ่บ ๆ มาส่งจ้า"
"พลอยใสเอาไก่ย่างทั้งตัวมาให้นายหัวด้วยนะคะ กินทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าได้เลย"
เหอะยัยแม่ค้านี่ก็เล็งเขาอยู่สินะ ให้ตายเถอะไหนจะพี่สาวตัวเองที่แม้จะขี้เมาแต่ก็กระตือรือร้นและขยันทำงาน เรื่องหน้าตาก็สะสวยเกินเบอร์ไปมาก แล้วยังมียัยแม่ค้าหน้าสวยนี่อีก ให้ตายเหอะ คู่แข่งเยอะเป็นบ้า
"แต่คนอย่างเมรัยนะหรือจะยอมแพ้ ไม่มีทาง!!!"
คนงามหมายมั่นปั้นมือ แล้วสะบัดตูดเดินออกมาทันที